Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2883 ไม่ทิ้งไว้ให้แม้แต่หนึ่งหยด
ตอนที่ 2883 ไม่ทิ้งไว้ให้แม้แต่หนึ่งหยด!
ทูตโลหิตคนหนึ่งร้องลั่นขึ้นมา “หยุด! เราต้องลงไปหยุดมันเสียตอนนี้! แก่นเลือดกำเนิดในสระโลหิตนั้นมันคือของล้ำค่าที่ต้องใช้เวลาสะสมมากกว่าพันปี! จะให้ไอ้เด็กคนเดียวนี้ดูดกลืนมันไปหมดสิ้นไม่ได้!”
การดูดกลืนเลือดนี้มันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดไปถึงทรวง
ตอนนี้แม้แต่ท่านเจ้าเมืองตรงหน้าพวกเขานั้นก็ยังได้แต่ทำหน้าเหยเก
เพราะแม้ว่าสระโลหิตระดับจักรพรรดิเซียนนั้นมันจะทำได้ง่ายแต่การดูดซึมในระดับนี้มันก็มากจนเกินกว่าที่พวกเขาจะรับได้
หากมันถูกดูดซับไปจนสิ้นแล้วเมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์ก็คงต้องเข้าสู่สภาวะทุกข์ยากไปอีกเป็นร้อยปี
“หยุดก็บ้าแล้ว! ท่านเจ้าเมืองเฉียชิงนั้นคือยอดอัจฉริยะสายเลือดที่ยากจะเจอได้ในรอบล้านปี! พลังเลือดของเขานั้นมันเหนือล้ำกว่าใครๆ ในระดับเดียวกันสิ้นเชิง วันหน้าเขาย่อมจะสามารถก้าวขึ้นสู่ระดับเจ้าโลกได้แน่! เทียบกับเจ้าโลกแล้วแค่สระโลหิตสระเดียวมันจะมีค่ามากเท่าใด?” เสี่ยวเฟยย่อมจะกล่าวขึ้นมาช่วยเย่หยวน
“หึๆ อาณาจักรเจ้าโลกนั้นมันบรรลุได้ง่ายมากมั้ง? ต่อให้เป็นพวกเรานั้นก็ใช่ว่าจะไปถึงระดับเจ้าโลกได้ง่ายๆ ไม่ต้องพูดถึงเลยว่ามันยังเป็นแค่จักรพรรดิเซียนคนหนึ่ง!”
“เฉียชิงนั้นสังหารยอดอัจฉริยะว่าที่ร้อยบุตรนับร้อยคนด้วยพลังแค่อาณาจักรจักรพรรดิเซียนขั้นปลาย! พรสวรรค์ของเขานั้นเหนือล้ำกว่าพวกเราทั้งหลายไปกี่เท่าเจ้าไม่เข้าใจหรือ! เฉียจง นี่เจ้าอิจฉาคนมีพรสวรรค์จึงคิดจะขัดขวางเขาหรืออย่างไร?” เสี่ยวเฟยอดถามขึ้นไม่ได้
…
ตอนนี้เหล่ามหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ทั้งหลายนั้นต่างกำลังถกเถียงเรื่องของเย่หยวนกันไม่หยุด
ฝ่ายหนึ่งนั้นบอกว่าเย่หยวนมากพรสวรรค์และควรจะปล่อยให้เขาได้ใช้สระโลหิตตามใจชอบ
แต่อีกฝ่ายก็บอกว่าสระโลหิตนี้มันคือน้ำพักน้ำแรงกว่าพันปีของเผ่าเลือด จะให้จักรพรรดิเซียนคนเดียวมาใช้จนหมดมันคงไม่เหมาะ
และประธานของที่ประชุมนี้มันก็คือเจ้าเมืองเยียหวู่กวย
เขาคือเจ้าโลกตัวจริงเสียงจริง!
ตอนนี้แม้แต่เขาเองก็ยังต้องลังเล
ในฐานะเจ้าโลกนั้นเขาย่อมจะเข้าใจดีว่าการบรรลุอาณาจักรเจ้าโลกมันยากเย็นแค่ไหน
แต่ก็เพราะเช่นนั้นด้วยที่หากพวกเขาสามารถเลี้ยงดูเจ้าโลกคนใหม่ขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะต้องเสียอะไรไปแค่ไหนมันก็ย่อมคุ้มค่า
เทียบกับเจ้าโลกแล้วสระโลหิตหนึ่งมันจะมีค่าใด?
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียต่อให้จะมีทรัพยากรจากสองทวีปแต่ว่าเผ่าเลือดนั้นก็ยังให้กำเนิดเจ้าโลกได้ไม่ถึงสิบคนในช่วงเวลาหลายพันปีนี้
และพรสวรรค์ของเย่หยวนนั้นก็ทำให้ตาของเขาลุกวาว
ทูตโลหิตคนหนึ่งร้องกล่าวขึ้น “ท่านเจ้าเมือง หากเรายังไม่ตัดสินใจกันอีกไอ้เด็กคนนั้นมันจะสูบสระโลหิตจนแห้งแล้ว!”
เยียหวู่กวยหลับตาลงพักใหญ่ก่อนจะกล่าวขึ้นมาด้วยความหนักแน่น “ให้มันดูดซับไป! ข้าเองก็อยากจะเห็นนักว่ามันจะดูดซับไปได้เท่าไหร่กัน! หากมันสามารถทำให้สระโลหิตแห้งเหือดไปได้จริง ก็ถือว่ามันมากพรสวรรค์พอแล้วกัน!”
เสี่ยวเฟยนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้นมาด้วยความพอใจ
‘ครั้งนี้พ่อเจ้าเอาชนะพวกเจ้าได้แล้ว!’
‘เฉียชิง เจ้ามันทำได้ดีจริงๆ!’
แน่นอนว่าเย่หยวนย่อมจะไม่ทำให้เขาต้องผิดหวัง ตอนนี้เขากำลังดูดกลืนสระโลหิตไปอย่างไม่คิดยั้งมือ
การใช้เต๋าทุกข์บ่มเพาะดาบเต๋านั้นมันเป็นอะไรที่เสี่ยงจนเกินไป มันคือการทำลายและสร้างขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง
แต่ว่าการบ่มเพาะดาบเต๋าด้วยสระโลหิตนี้มันแตกต่างไปสิ้นเชิง เพราะมันเหมือนการบ่มเพาะตามปกติที่สามารถค่อยๆ ทำให้ดาบเต๋าแข็งแกร่งขึ้นได้โดยไม่มีความเสี่ยงใด
ตอนนี้พลังบ่มเพาะของเขานั้นมันพัฒนาไปถึงจักรพรรดิเซียนขั้นสุดแล้วแต่ว่าเขานั้นกลับไม่เรียกให้เกิดเต๋าทุกข์ขึ้น
พลังสายเลือดของเขานั้นเองมันก็พัฒนาขึ้นมากแต่น่าเสียดายที่หลังจากมาถึงจุดหนึ่งแล้วมันก็ไม่อาจจะพัฒนาไปได้อีก
“สระโลหิตนี้ถูกสูบไปเกือบครึ่งแล้วแต่เบื้องบนของเมืองยังไม่ลงมือทำอะไร ดูท่าพวกมันจะยอมรับ ‘อัจฉริยะ’ คนนี้เสียแล้ว แต่ว่าสระโลหิตนี้มันก็แทบไม่ช่วยอะไรข้าแล้ว ข้าว่าต่อจากนี้คงต้องเข้าไปลองสระโลหิตของวิหารโลหิตเทวาเท่านั้น…แต่ข้าก็ควรจะสูบสระโลหิตนี้ให้แห้งก่อนใช่หรือไม่?” เย่หยวนหยุดคิด
วิหารโลหิตเทวานั้นมันเหมือนกับหอสุดแสงของนิกายยาสุดล้ำ มันคือรากฐานที่แท้จริงของเผ่าเลือด
สระโลหิตของที่นั่นมันย่อมจะดีกว่าสระโลหิตในเมืองนี้อย่างมากแน่!
ของดีๆ เช่นนี้เย่หยวนย่อมจะไม่คิดพลาด
แต่แม้ว่าสระโลหิตนี้มันจะไม่ช่วยอะไรเขามากมายแล้วแต่เย่หยวนก็ยังไม่หยุดคิดจะสูบแก่นเลือดกำเนิดทั้งหลาย
เพราะเขานั้นย่อมจะไม่ทิ้งของดีไว้ให้เผ่าเลือดได้ใช้งานต่อ
ต่อให้มันจะไม่มีค่ากับเขา แต่มันก็คงสร้างความสูญเสียให้เผ่าเลือดได้ไม่น้อย
ในวันที่สิบนั้นสระโลหิตมันก็ไม่เหลือโลหิตใดๆ อีกต่อไป
และสิ่งที่ทำให้คนทั้งหลายคับแค้นใจที่สุดมันก็คือสระโลหิตนั้นแห้งเหือดแบบที่ไม่เหลือแก่นเลือดกำเนิดแม้แต่หยด เย่หยวนกวาดมันเรียบจนไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย!
‘จะบ้าตาย เจ้ารู้จักคำว่าเผื่อแผ่บ้างหรือไม่?’
‘เจ้าสูบไปหมดแล้วไม่เหลือให้เราแม้แต่หยด?’
“อ…ไอ้เวร! นี่มันยังคิดจะให้คนอื่นได้บ่มเพาะกันหรือไม่?”
“สระโลหิตที่สะสมมากกว่าพันปีถูกมันดูดจนแห้งในสิบวัน! แต่เจ้าหมอนี่มันกลับยังทำหน้าไม่พอใจอีก! พ่อเจ้าอยากจะฉีกร่างมันเป็นชิ้นๆ แท้!”
“ที่น่าคับแค้นที่สุดมันก็คือเรื่องที่เราเอาชนะมันไม่ได้! เจ้าหมอนี่มันคือยมทูตโดยแท้!”
…
เหล่ายอดอัจฉริยะทั้งหลายนั้นต่างใจสลายไปตามๆ กัน
เพราะสระโลหิตนั้นมันคือของดี มีใครบ้างจะไม่อยากใช้!
แต่เย่หยวนนั้นกลับโหดร้ายไม่เหลือให้พวกเขาแม้แต่หยดเดียว!
เมื่อออกมาจากสระโลหิตและได้เห็นสีหน้าของคนทั้งหลายที่ทำหน้าเหมือนเพิ่งเสียญาติผู้ใหญ่ไปนั้นเย่หยวนก็อดหัวเราะขึ้นในใจไม่ได้
คิดอยากเพิ่มพลัง?
ไปบ่มเพาะเอาสิ!
ของดีๆ เช่นนี้ย่อมจะไม่พ้นมือข้า!
“จะมองหาอะไรกัน? หากไม่พอใจก็มาล้างแค้นข้าได้เสมอในศึกร้อยบุตร ข้าไม่คิดปฏิเสธคำท้าอยู่แล้ว!” เย่หยวนกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
‘ล้างแค้นห่าเหวอะไร!’
‘เจ้าสังหารคนอย่างไม่กะพริบตา!’
‘ข้าดูไม่มีสมองหรือ? ถึงจะได้ไปท้าทายเจ้า?’
แต่ไม่ได้แก้แค้นมันก็ไม่อาจจะระบายออกไปทางอื่นได้เช่นกัน!
ความคับแค้นนั้นพุ่งทะยานขึ้นมาในจิตใจของคนทั้งหลาย
พวกเขานั้นกลับจะโกรธแต่ไม่มีใครกล้าพูด
เพราะเจ้าหมอนี่มันเอาชนะยอดอัจฉริยะเก้าสิบเก้าคนด้วยพลังจักรพรรดิเซียนขั้นปลาย!
ตอนนี้จะมีจักรพรรดิเซียนคนไหนเทียบเคียงมันได้อีก?
ต่อให้จะเป็นคนที่เก่งกาจที่ไม่ได้อยู่ในสระโลหิตเวลานั้น ตอนนี้พวกเขาก็คงไม่กล้าจะลงมือใดๆ แล้ว
“ฮ่าๆๆ…เฉียชิงน้อย ข้าเฉียชิงใหญ่บรรลุมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวแล้ว! ว่าไง? ข้าเก่งไหมเล่า? ศึกร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงคราวนี้ข้าจะเอาที่หนึ่งมาได้แน่!”
เย่หยวนนั้นได้ยินเสียงหยางชิงดังมาแต่ไกล
แน่นอนล่ะว่าสิบวันมานี้เองเขาก็ต้องได้ประโยชน์กลับมาไม่น้อย
สิบวันที่ผ่านมานั้นเขาท้าทายยอดฝีมือเผ่าเลือดทางด้านสระโลหิตจักรพรรดิเที่ยงและยืนในสระหมายเลขหนึ่งมาตลอดสิบวัน
ในสระโลหิตนั้นเขาได้บรรลุขึ้นสู่มหาจักรพรรดิครึ่งก้าว!
นี่มันคือย่างก้าวที่มิใช่จะก้าวได้ง่ายๆ
แต่ว่าสระโลหิตนั้นมันก็มากประโยชน์จริง!
แต่เมื่อเขามาถึงหยางชิงก็ต้องเบิกตามองสระโลหิตแห้งๆ ด้านหลังเย่หยวนและอดถามขึ้นไม่ได้ “เอ๋? ระดับจักรพรรดิเซียนมันไม่มีสระโลหิตให้ใช้หรือ?”
เย่หยวนตอบกลับไปหน้าซื่อ “มันเคยมี แต่ข้าสูบจนมันจนแห้งไปแล้ว”
“ส…สูบจบแห้ง?” หยางชิงแทบจะล้มทั้งยืน
เจ้าบ้านี่มันเป็นคนจริงๆ หรือ?
เย่หยวนพยักหน้ารับตอบกลับไป “คุณภาพของสระโลหิตนี้มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ข้าว่า…สระโลหิตในวิหารโลหิตเทวานั้นน่าจะดีกว่านี้”
ปัง!
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นมารอบด้านทันที
‘ไอ้ฉิบหาย เจ้ายังโม้ไม่พออีกหรือ?’
หยางชิงนั้นได้แต่ต้องยกนิ้วให้เย่หยวนพร้อมกล่าวอย่างชื่นชม “เจ้า…เจ้ามันสุดจริง!”
“ฮ่าๆๆ พวกเจ้าทั้งสองทำได้ดีมาก! ดีมากๆ!” ในเวลานั้นเองที่มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาพร้อมเสียงหัวเราะ
ก่อนที่เสี่ยวเฟยจะค่อยๆ ร่อนตัวลงมา
เสี่ยวเฟยในตอนนี้มันดูเปี่ยมล้นชีวิตชีวา ดูท่าคงสะใจอย่างมาก
เฉียชิงใหญ่และน้อยที่เขาพามาครั้งนี้มันทำให้เขากู้หน้าคืนกลับมาได้หลายเท่าตัว!
สะใจ!
สดชื่น!
เย่หยวนหันไปมองก่อนจะยิ้มกล่าว “นำทางไปเถอะ!”
เสี่ยวเฟยผงะไปเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะลั่นขึ้นอีกครั้ง “ได้ ตามข้ามาๆ!”
…………….