Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2892 ตัดสินชีวิตด้วยคำพูด!
โหยวจินนั้นผงะไปอย่างตกตะลึง!
เขานั้นได้ยินคนพูดกันมาว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์คนนี้สังหารคนอย่างไม่กะพริบตา
และเมื่อได้เจอกันเข้าวันนี้มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ!
‘เฉียเจียนนั้นเป็นถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์แต่เจ้ากลับคิดสังหารเขาด้วยคำพูดเดียว?’
ได้ตำแหน่งใหญ่โตมาถึงคำสั่งแรกนั้นกลับเป็นการสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ลง?
เก่งแท้ๆ!
“เรื่องนั้น…เฉียเจียนนั้นจะอย่างไรเป็นมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์…”
เย่หยวนส่ายหัวสวนกลับไปทันที “เส้นทางสู่เจ้าโลกของมันนั้นได้ปิดลงแล้ว! หากมันตายก็ตายไปจะสนใจทำไม? หรือว่าเผ่าเลือดเรานั้นมันขาดแคลนมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์กันเล่า?”
มันก็จริงที่อาจจะเป็นเช่นนั้นแต่…อย่างไรเขาก็เป็นถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ไม่ใช่หรือ?
การจะเลี้ยงดูมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์นั้นมันต้องใช้ทรัพยากรมากมายปานใด
แต่ท่าทางโอหังของเย่หยวนนี้มันก็ทำให้โหยวจินไม่พอใจอยู่ไม่น้อย
เพราะไม่ว่าจะอย่างไรเขานั้นก็เป็นถึงเจ้าโลกคนหนึ่ง!
จะไม่ไว้หน้ากันเลยหรือ?
เฉียเจียนที่นั่งคุกเข่าอยู่นั้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าซีดขาว “นายท่าน ข้า…ข้าผิดไปแล้ว! ข้าขอร้องท่านเถอะ ไว้ชีวิตข้าด้วย! และศึกใหญ่มันก็ใกล้เข้ามาเต็มที ให้ข้าได้ไปช่วยต่อสู้ล่าหัวยอดฝีมือฝ่ายสวรรค์แรกมันจะไม่ดีหรือท่าน?”
‘สังหารพ่อเจ้าสิ!’
‘ที่ข้าจะฆ่าเจ้าลงนี้ก็เพราะกลัวเจ้าไปเป็นกำลังให้กองทัพเผ่าเลือดนั้น!’
“ไม่ต้อง! ถึงมีหรือไม่มีมันก็ไม่สำคัญหรอก เพราะนี่มันก็ผ่านมาได้กว่ายี่สิบวันแล้ว พวกเจ้ากลับยังบุกมหานครฉีใต้ไม่ได้เสียที เจ้ายังคิดจะทำอะไรกันได้อีก? เฉียนั้วมันเป็นลูกน้องเจ้า เจ้าจัดการเองเถอะ” เย่หยวนหันไปสั่งเฉียนั้ว
แท้จริงในใจของเย่หยวนนั้นอยากจะสังหารเฉียนั้วมากกว่า เพราะว่าเขาคนนี้คือตัวปัญหาที่แท้จริง
ยอดฝีมือทวีปสวรรค์แรกที่ตายลงด้วยมือของเขาคนนี้นั้นมากมายเกินจะนับ
แม้ว่าเฉียนั้วนั้นจะพ่ายให้แก่เฟิงเสี่ยวเถียนครั้งแล้วครั้งเล่าแต่เขานั้นก็เป็นถึงยอดฝีมือพลังคลื่นกำเนิดคนหนึ่ง
หากให้เทียบแล้วเขานั้นคงไม่ได้อ่อนแอกว่าผู้อาวุโสหอสุดแสงแห่งนิกายยาสุดล้ำเลย
ไม่เช่นนั้นแล้วแม่ทัพที่พ่ายแพ้เสียกำลังไปเป็นแสนจะได้กลับมาทำหน้าที่เป็นแม่ทัพใหญ่อีกครั้งหรือ?
ที่เขาทำเช่นนี้ได้มันก็เพราะว่าเผ่าเลือดเห็นว่าเขานั้นมากฝีมือ
เฉียนั้วนั้นมองดูไปทางโหยวจิน
โหยวจินพยักหน้าตอบกลับมาเป็นสัญญาณว่าทำตามนั้น
เจ้าโลกโหยวจินนั้นเองก็ไร้หนทางแก้ไขมันเช่นกัน!
เพราะว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์คนนี้เป็นชายผู้มากชื่อเสียง หากคำสั่งแรกของเขายังโดนขัดแล้วตัวบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์คงได้หันมาหมายหัวเขาแทนแน่
ถึงตอนนั้นท่านหวังจั่วคงเป็นคนออกมาจัดการเรื่องราวแน่
เพราะฉะนั้นตอนนี้เขาจึงต้องตัดใจยอมทิ้งเฉียเจียนไป
ได้เห็นโหยวจินพยักหน้านั้นเฉียเจียนก็ได้แต่นั่งหน้าซีดรู้ตัวแล้วว่าชีวิตของเขาคงจบลงเท่านี้
เฉียนั้วนั้นถอนหายใจยาวออกมา “น้องเฉียเจียน ข้าขอโทษด้วย! นี่มันคือคำสั่งแรกของนายท่าน ข้าไม่อาจจะขัดได้จริงๆ!”
พูดจบเขาก็กระแทกฝ่ามือเข้าที่หัวของเฉียเจียนจนแตกสลายทำลายร่างของเขาไปสิ้นเชิง
ตั้งแต่ต้นจนตายลงนั้นเฉียเจียนไม่กล้าที่จะขัดขืนใดๆ แม้แต่น้อย
หยางชิงที่ยืนมองเรื่องราวอยู่ด้านหลังนั้นแทบจะลุกขึ้นเต้น
นี่มันจะ…สะใจเกินไปแล้ว!
ตัดสินชีวิตของมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ได้ด้วยคำพูดเดียว!
กว่าที่ฝ่ายทวีปสวรรค์แรกจะสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์เผ่าเลือดลงได้แต่ละคนนั้นพวกเขาต้องสูญเสียอะไร ไปบ้าง?
ต่อให้มันจะมีค่ายกลป้องกันมันก็ไม่ได้หมายความว่าจะสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ลงได้ง่ายๆ
ด้วยความเป็นเผ่าเลือดนั้นศึกบุกเขตแดนสวรรค์ของพวกเขามันจะทำให้คนบาดเจ็บมากมายแต่คนตายแทบไม่มี
หลายต่อหลายปีที่ผ่านมานี้มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์เผ่าเลือดที่สวรรค์แรกสังหารได้มันมีน้อยนิด
กลับกัน ฝ่ายสวรรค์แรกนั้นกลับเสียมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ไปมากมายให้แก่เผ่าเลือด
แต่วันนี้เย่หยวนนั้นกลับใช้แค่ลมปากสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ลง!
สุดยอด!
หลังจากที่เผ่าเลือดมันได้รู้ว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองนั้นแท้จริงแล้วเป็นสายลับชาวมนุษย์หยางชิงอยากจะรู้เหลือเกินว่าพวกเขาจะทำหน้าอย่างไร?
แค่คิดมันก็ทำให้ใจเต้นรัวแล้ว!
เฉียนั้วนั้นเองก็ได้แต่ทำหน้าเหยเก เฉียเจียนนั้นเป็นลูกน้องคนสนิทของเขาคนหนึ่ง
แต่วันนี้เขากลับต้องสังหารคนสนิทลง!
“เฉียนั้ว เจ้าดูจะไม่พอใจนะ?” เย่หยวนมองหน้าเฉียนั้วพร้อมด้วยรอยยิ้มที่เย็นเยือก
เฉียนั้วรีบเปลี่ยนสีหน้าตอบกลับไปทันที “ฮ…ฮ่าๆ ทำไมข้าจะไม่พอใจกัน? เฉียเจียนมันคิดทำร้ายท่านมันย่อมจะเป็นคนรนหาที่ตายของมันเอง! ข้าน้อยเป็นเกียรตินักที่ได้ช่วยลงมือแทนท่าน!”
เย่หยวนหัวเราะตอบกลับไป “อย่าเพิ่งมาพูดจาไร้สาระตอนนี้! เฉียนั้วเจ้ามันขยะ! กองทัพสามแสนที่เจ้าควบคุมอยู่นั้นต่างเป็นคนที่เคยเข้าร่วมศึกร้อยบุตรทั้งสิ้น ฝีมือของพวกเขานั้นเหนือล้ำกว่าทหารทั่วๆ ไปเป็นสิบๆ เท่า! แต่เจ้ากลับทำได้แค่นี้ ไม่อาจจะบุกยึดมหานครฉีใต้ลงได้เสียที!”
เฉียนั้วยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “ขอรับ นายท่านกล่าวได้ถูกต้องแล้ว! นายท่านช่วยรอข้าอีกสักสองสามวันด้วยเถอะ!”
ยอดฝีมือคลื่นกำเนิดนั้นกลับถูกด่าว่าเป็นขยะ
แต่เขานั้นกลับไม่กล้าเถียงคำใดออกมาต่อหน้าเย่หยวน
เย่หยวนหันหลังหนีพร้อมร้องสั่ง “ไม่ต้อง! สามวันจากนี้เราจะโจมตีมันอีกครั้ง! มหาจักรพรรดิทั้งหลายนั้นเจ้าเป็นคนควบคุม ส่วนกองทัพที่มีพลังต่ำกว่ามหาจักรพรรดินั้นข้าจะเป็นคนสั่งการเอง! ข้าจะให้เจ้าได้รู้ว่าเจ้ามันไร้ฝีมือแค่ไหน!”
คำพูดเดียวนั้นมันได้ปลดตำแหน่งแม่ทัพของเฉียนั้วลงทันที
ได้ยินเช่นนั้นเฉียนั้วย่อมจะหัวเราะเย้ยหยันขึ้นมาในใจ
ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งของเขานั้น คนอื่นย่อมจะไม่เข้าใจถึงความยากในศึกนี้
ครั้งนี้เขาได้นำกำลังคนเข้าต่อสู้กับเฟิงเสี่ยวเถียนจนต่างฝ่ายต่างเจ็บหนักแต่ก็ไม่มีใครถอย
แต่สุดท้ายมันก็ยังไม่ชนะ
การบุกแต่ละครั้งนั้นพวกเขาจะเห็นแววชนะตลอด แต่กลับไม่เคยชนะได้แม้แต่ครั้งเดียว
คิดว่าแค่เป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์แล้วมนุษย์มันจะสนใจ?
สงครามนั้นมันไม่ใช่การประลองฝีมือ!
แต่เขาย่อมจะไม่กังวลเรื่องการชิงอำนาจกองทัพของเย่หยวนใดๆ
มันถือว่าเป็นเรื่องดีเสียด้วยซ้ำ
เพราะหากแม้แต่บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นั้นยังพ่ายแพ้กลับมาแล้ว ความพ่ายแพ้ของเขามันก็ย่อมจะดูสมเหตุสมผลขึ้นมาทันที
“มีนายท่านคอยดูแลแล้วเผ่าเลือดเราต้องชนะได้แน่! เราจะบุกเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ในสามวัน!” เฉียนั้วกล่าวขึ้นมาตอบ
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เฉียนั้ว เจ้าไม่ต้องทำท่าทางเช่นนั้น! เอาล่ะ นำข้าไปดูหน่อยว่ามหานครฉีใต้นี้มันเป็นอย่างไร!”
ไม่ว่าจะมองอย่างไรเย่หยวนนั้นมันก็เหมือนอัจฉริยะหนุ่มที่หลงใหลอำนาจ
ยอดอัจฉริยะเช่นนี้จะตกต่ำลงอย่างมากเพื่อพ่ายแพ้เข้าสักครั้ง
เฉียนั้วนั้นได้แต่กล่าวดูถูกอยู่ในใจ ‘ไม่ว่าเจ้าจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็เป็นแค่จักรพรรดิเซียนมิใช่หรือ?’
‘คิดว่าจะทำอะไรได้มากมาย?’
แต่คำพูดของเย่หยวนนั้นมันได้ทำให้คนทั้งเมืองข่ายยักษ์เดือดดาลขึ้นมาพร้อมรบเต็มที่
บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ที่มากความมั่นใจไม่กลัวการสังหารนั้นคือแม่ทัพที่พวกเขากำลังรอคอย!
ทุกคนนั้นต่างมองว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์จะเปลี่ยนกระแสสงครามได้
เย่หยวนที่เอาชนะคนระดับเดียวกันได้อย่างสิ้นเชิงนั้นย่อมจะทำให้มีหลายคนที่นับถือเขาในเรื่องฝีมือ
ตอนนี้ตัวตนของเย่หยวนนั้นมันเป็นดั่งเทพเจ้าในสายตาคนเมืองข่ายยักษ์ไปแล้ว
…
ไม่นานจากนั้นเย่หยวนก็ได้พากองทัพร้อยบุตรผ่านเส้นทางมาถึงยังมหานครฉีใต้
ได้เห็นมหานครฉีใต้นั้นเย่หยวนและหยางชิงก็ต้องใจหายวาบไปทันที
เพราะเขานั้นไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าเฟิงเสี่ยวเถียนใช้ลูกไม้ไหนทำไมถึงยังสามารถป้องกันนครที่มีสภาพยับเยิน เช่นนี้อยู่ได้ถึงยี่สิบวัน
นอกเมืองนั้นมันมีแต่ศพนอนเน่าอยู่เต็มไปหมด!
ในเวลาพักเช่นนี้มันย่อมจะไม่มีใครออกมาเก็บศพคนทั้งหลาย
เพราะว่ายอดฝีมือในเมืองนั้นต่างนอนพักรักษาตัวและเก็บแรงเพื่อรอต่อสู้ในศึกครั้งต่อไป ไม่มีใครอยากจะมาเสียเวลาและกำลังกับการเก็บซากศพ!
มหานครฉีใต้นั้นมีสภาพเป็นนรกอย่างแท้จริงแล้ว
ค่ายกลป้องกันเมืองนั้นเองก็แทบจะไม่เหลือพลังงานใดๆ อีกต่อไป
เหล่าจอมเทพค่ายกลสวรรค์ที่เหลือรอดนั้นต่างกำลังมุ่งมั่นใช้ศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยซ่อมแซมค่ายกล อย่างสุดกำลัง
เพียงแค่ว่าต่อให้ศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยจะดีเลิศแค่ไหนมันก็ไม่มีทางจะซ่อมแซมมหาค่ายกลใหญ่ยักษ์ ให้กลับมาสมบูรณ์ได้ในพริบตา
เพราะว่าตอนนี้จอมเทพค่ายกลสวรรค์ส่วนมากได้ตายลงไปแล้วด้วย
ยี่สิบวันที่ผ่านมานี้มันมีแต่ความมืดมนปกคลุมมหานครฉีใต้!
การปรากฏตัวขึ้นของกองทัพเย่หยวนนั้นมันทำให้ทางมหานครฉีใต้ต้องแตกตื่น
เฟิงเสี่ยวเถียนรีบพุ่งตัวขึ้นมายืนมองบนกำแพงเมืองทันทีที่ได้รับรายงาน
แต่เมื่อสายตาของเขาจ้องมองไปเห็นร่างที่เดินนำกองทัพมานั้นเขาก็ต้องผงะไปทันที
ความตกตะลึงในหัวใจของเขานั้นมันมากจนไม่อาจอธิบายได้!