Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2894 โดนหลอกขายแล้วยังช่วยนับเงิน!
เมืองข่ายยักษ์นั้นเปี่ยมล้นไปด้วยความฮึกเหิม!
บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นั้นบุกเข้าไปสังหารถึงมหานครฉีใต้และกลับออกมาได้อย่างไร้บาดแผล!
ความยิ่งใหญ่ของชัยชนะเช่นนี้มันย่อมจะเหนือล้ำจนไม่อาจคาดคิด
ที่สำคัญไปกว่านั้นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นั้นยังมีพลังคลื่นกำเนิดในร่างด้วย!
จักรพรรดิเซียนคนหนึ่งกลับมีพลังคลื่นกำเนิด!
คนส่วนมากนั้นไม่รู้ถึงตัวตนของศิลาโลหิตโกลาหล
แต่มันก็ไม่ส่งผลอะไรมากมายเพราะสิ่งที่พวกเขารู้นั้นคือจักรพรรดิเซียนคนหนึ่งกลับมีพลังคลื่นกำเนิดติดตัว
เรื่องนี้มันทำให้ชื่อเสียงของเย่หยวนยิ่งสูงส่งขึ้นไปอีกขั้น
แม้แต่ตัวโหยวจินที่ได้ยินเรื่องนี้เองก็ยังต้องผงะไป
เขานั้นรู้สึกว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์คนนี้โอหังหลงตัวเองคงไม่ได้มีความสามารถมากมายใด!
ไม่นึกฝันว่าเขากลับจะมองผิดไปอย่างมหันต์
ต่อให้จะมีพลังปกป้องจากคลื่นกำเนิดมันก็ไม่ได้ทำให้การบุกมหานครฉีใต้เป็นเรื่องง่ายดายเลย
ไม่เช่นนั้นแล้วเฉียนั้วผู้ที่เป็นยอดฝีมือพลังคลื่นกำเนิดจะยังต้องลำบากอะไรอีก?
เรื่องราวครั้งนี้มันทำให้เผ่าเลือดนั้นฮึกเหิมขึ้นอย่างมาก
พวกเขานั้นเชื่อว่าเมืองข่ายยักษ์จะตีเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์แตกในวันนี้ด้วยการชี้นำของบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ ผู้เก่งกาจ! และนั่นคือความคิดที่เย่หยวนอยากให้เผ่าเลือดทั้งหลายมี
…
สามวันต่อจากนั้นกองทัพก็ได้เคลื่อนพล!
แม้ว่ามันจะเป็นกองทัพขนาดสองแสนแท้ตอนนี้พวกเขานั้นเหลือกำลังเพียงแค่ราวหนึ่งแสนแปดหมื่นเท่านั้น
หลายวันมานี้ที่โจมตีมหานครอย่างต่อเนื่องมันได้ทำให้เผ่าเลือดเสียทหารไปอีกกว่าสองหมื่น
เย่หยวนนั้นยืนนำหน้ากองทัพใหญ่ด้วยท่าทางที่เหมือนตัวเขานั้นคือเจ้าโลกใบนี้
เขากวาดสายตามองดูคนทั้งกองทัพก่อนจะร้องกล่าวขึ้นมา “พี่น้องทั้งหลาย นี่เป็นศึกครั้งแรกของข้าคนนี้และจะเป็นศึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เผ่าเลือดเรา! ในศึกนี้ข้าจะนำพาพวกเจ้าทั้งหลายบุกยึดมหานครฉีใต้ได้อย่างแน่นอน ศึกในครั้งนี้มันจะไม่มีคำว่าล้มเหลว! พวกเจ้าเชื่อข้าหรือไม่?”
เผ่าเลือดนั้นเคารพต่อพลังและเย่หยวนก็ได้แสดงพลังฝีมือของตัวเองออกมาให้คนทั้งหลายได้เห็นแล้ว
การบุกเดี่ยวเข้าไปเมื่อสามวันก่อนนั้นมันทำให้ชื่อเสียงของเขาพุ่งทะยานจนไม่อาจเอาอะไรมาขัดได้!
“นายท่านจะต้องชนะแน่นอน!”
“เผ่าเลือดจะต้องชนะแน่นอน!”
…
เสียงร้องของคนเกือบสองแสนนั้นมันดังลั่นฟ้าดินจนแผ่นดินสั่นสะเทือน สายตาที่พวกเขาใช้มองดูเย่หยวนนั้นมันเหมือนพวกเขากำลังมองดูเทพที่ตัวเองนับถือศรัทธา
พวกเขามั่นใจมากว่าผู้นำคนนี้จะพาพวกเขาเข้าสู่ชัยชนะ!
เฉียนั้วได้แต่ต้องมองดูภาพนี้ด้วยความขมขื่นในใจ
เพราะเขานั้นนำกองทัพมาหลายปีแต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ทหารจะเชื่อมั่นเขาอย่างสุดใจเช่นนี้
หากฮึกเหิมกันได้ขนาดนี้มีหรือที่มหานครฉีใต้น้อยๆ นั้นมันจะตั้งอยู่ได้จนวันนี้?
ได้เห็นเย่หยวนทำเช่นนี้เฉียนั้วก็ได้แต่ต้องก้มหน้าด้วยความอับอาย
“เดินหน้า!”
คำสั่งนี้มันทำให้ทหารทั้งหลายยกเท้าเดินออกมาพร้อมๆ กันจนแผ่นดินสะเทือน!
เมื่อถูกกองทัพใหญ่เช่นนี้ล้อมไว้อีกครั้งคนในมหานครฉีใต้นั้นก็ต้องรู้สึกเครียดหนักขึ้นมาอีกครั้ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครั้งนี้ที่ดูเผ่าเลือดมันจะมั่นใจว่าจะเอาชัยมาได้อย่างแน่นอน
ก่อนๆ มานั้นเผ่าเลือดเองก็มีความลังเลและหลายคนไม่คิดว่าตัวเองจะชนะได้
นั่นทำให้พวกเขาไม่อาจจะแสดงฝีมือออกมาได้สุดตัว
แต่วันนี้กองทัพมันกลับดูฮึกเหิมจนเหมือนเป็นกองทัพใหม่
พวกเขานั้นเข้าใจดีว่าเรื่องเช่นนี้มันเกิดขึ้นได้เพราะการเปลี่ยนแม่ทัพ!
แม่ทัพใหม่คนนี้เป็นคนที่บุกเข้ามหานครฉีใต้มาได้ด้วยตัวคนเดียว!
นี่มันคือความอับอายต่อทหารฉีใต้อย่างมาก
“พี่เฟิง ดูท่าไม่ดีแล้ว!” มือขวาของเฟิงเสี่ยวเถียน ยอดฝีมือพลังคลื่นกำเนิดอีกคนของมหานครฉีใต้นามว่าเฉินยี่กล่าวขึ้นมาด้วยหน้าเครียด
เฟิงเสี่ยวเถียนเองก็มีสภาพไม่ต่างกัน
เย่หยวนคิดทำอะไรกันแน่?
วันนั้นที่มองหน้ากันมันย่อมจะหมายถึงว่าจะอ่อนข้อให้มิใช่หรือ?
แต่นี่มันกลับทำให้เย่หยวนกลายเป็นแม่ทัพใหญ่ของศัตรูไป
นี่มันช่วยอะไรการสงครามได้กัน?
หรือว่าเขาจะกลายเป็นคนทรยศ?
แผนการใดๆ ของเย่หยวนนั้นตัวเฟิงเสี่ยวเถียนย่อมจะไม่อาจคาดเดาได้เลย
เพราะการจะต่อต้านกองทัพสองแสนของเผ่าเลือดนั้นมันย่อมจะมิใช่เรื่องง่ายๆ
ต่อให้เฟิงเสี่ยวเถียนจะเชื่อมั่นในตัวเย่หยวนแต่เขาก็ไม่อาจจะเข้าใจได้ว่าเย่หยวนจะใช้อะไรช่วยมหานครฉีใต้
“รอดูกันไปก่อนเถอะ!” เฟิงเสี่ยวเถียนกล่าวขึ้นตอบเฉินยี่ไป
ไกลออกไปนั้นเย่หยวนยืนมองดูกองทัพด้วยท่าทางสุดสง่า!
เขานั้นหันไปบอกเฉียนั้ว “เฉียนั้ว เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นมันต้องให้เจ้าจัดการแล้ว! กำลังมหาจักรพรรดิของเรานั้นมากกว่ามันถึงสามเท่า! หากครั้งนี้เจ้ายังไม่ชนะอีกเจ้าก็ตัดหัวตัวเองมาส่งให้ข้าเสียเถอะ!”
เฉียนั้วกัดฟันแน่นตอบกลับมา “นายท่านวางใจเถอะ ข้าจะสังหารเฟิงเสี่ยวเถียนมันลงให้ได้!”
พูดไปเขาก็พาทัพมหาจักรพรรดิทั้งหลายพุ่งตัวเข้าไปยังมหานครฉีใต้
ส่วนทางด้านค่ายสวรรค์แรกนั้นพวกเขาทุกคนต่างขนลุกตั้งเตรียมตัวรับมือศัตรูร้ายที่ใกล้เข้ามา
แต่วินาทีเดียวกันนั้นเย่หยวนก็ได้ชี้ไปที่จักรพรรดิเที่ยงคนหนึ่งและสั่ง “เจ้าพาคนสามพันไปบุกทางนั้น!”
“ขอรับ!”
จักรพรรดิเที่ยงคนนั้นยิ้มรับและพาทหารสามพันบุกไปทิศที่เย่หยวนสั่งทันที
คนทั้งหลาย รวมไปถึงทางทัพสวรรค์แรกต่างรอฟังคำสั่งบุกของเย่หยวน
แต่…มันกลับไม่มี!
จักรพรรดิเที่ยงคนนั้นคิดว่าตัวเองจะเป็นกองทัพแนวหน้าและกองทัพที่เหลือบุกตามมาติดๆ
แต่เขานั้นกลับไม่เห็นใครมาสมทบจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต
“ทำไมเล่า? นายท่าน ทำไมกัน!” ก่อนตายนั้นจักรพรรดิเที่ยงคนนั้นได้แต่ต้องร้องถาม
สามพันปะทะหมื่นห้านั้นมันย่อมจะเป็นอะไรที่มากเกินรับ ไหนจะยังพลังจากค่ายกลป้องกันเมืองอีก
กองทัพสวรรค์แรกนั้นสังหารคนสามพันนั้นลงอย่างง่ายดาย!
ที่สำคัญไปกว่านั้นจุดที่เย่หยวนชี้ไปมันยังเป็นจุดที่ค่ายกลป้องกันรุนแรงที่สุดด้วย
คนทั้งหลายนั้นกลายเป็นแค่เศษฝุ่นไม่อาจจะต่อต้านพลังของมันได้
ทำไม?
เผ่าเลือดทั้งหลายนั้นต่างอยากจะถามขึ้นมา แต่ตอนนี้สีหน้าของเย่หยวนมันไม่คิดรับคำถามใดๆ
แม้ว่าพวกเขาจะเริ่มไม่แน่ใจแต่พวกเขานั้นก็ยังเชื่อมั่นใจเย่หยวนและคิดว่าเย่หยวนจะพาไปสู่ชัยชนะได้!
“เจ้า พาคนสามพันไปบุกทางนั้น!”
เย่หยวนชี้หน้าจักรพรรดิเที่ยงอีกคนพร้อมสั่งคำสั่งเดิมแต่ว่าทิศทางที่เขาชี้ไปนั้นมันมิใช่จุดเดิม
แต่ว่าจุดนี้เองมันก็เป็นจุดที่มีพลังค่ายกลสุดแสนรุนแรงเช่นกัน!
จักรพรรดิเที่ยงคนนั้นลังเลเล็กน้อยก่อนจะพาทหารสามพันบุกไปตามสั่ง
บนสนามรบนั้นคำสั่งคือที่สุด!
ผลลัพธ์มันย่อมจะไม่ต่างจากเดิม
ทัพสวรรค์แรกนั้นกำจัดทหารเผ่าเลือดไปถึงหกพันอย่างง่ายดาย มันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายแตกตื่นดีใจ!
นี่มัน…เรื่องบ้าอะไรกัน?
ส่งมาหาที่ตาย?
ครั้งที่สามนั้นเย่หยวนชี้หน้าจักรพรรดิเที่ยงอีกคนก่อนจะสั่งให้พากำลังสามพันไปอีก
แต่ครั้งนี้มันเริ่มทำให้จิตใจของคนทั้งหลายหวั่นไหวแล้ว
คนทั้งหลายนั้นไม่โง่ พวกเขาย่อมจะไม่ยอมไปตายอย่างไร้เหตุผล
จักรพรรดิเที่ยงคนนั้นถามขึ้น “นายท่าน ขอข้าถามเหตุผลได้หรือไม่?”
เย่หยวนถามกลับไป “เจ้าพร้อมที่จะถวายชีวิตให้เผ่าเลือดหรือไม่?”
จักรพรรดิเที่ยงคนนั้นพยักหน้ารับทันที “เรื่องนั้นมันแน่นอน! แต่ข้าไม่อยากจะตายอย่างไร้เหตุผล!”
เย่หยวนจึงยิ้มตอบกลับไป “มันจะไร้เหตุผลได้อย่างไร? เฉียนั้วมันโง่ไม่รู้เรื่องรู้ราว มันคิดแค่จะบุกเข้ามหานครฉีใต้ไปตรงๆ ผ่านมีกี่พันปีแล้วมันก็ยังไม่รู้ว่าจุดอ่อนของมหานครฉีใต้นั้นอยู่ที่ใด! ใช่แล้ว พวกเจ้านั้นจะเข้าไปตายแน่นอน แต่ความตายของพวกเจ้านั้นมันมีความหมายอย่างมาก! แม้ว่ามหาค่ายกลป้องกันเมืองพวกมันนั้นจะทรงพลังแต่สิ่งใดที่แข็งแกร่ง มันก็ย่อมจะมีจุดอ่อนอยู่สิ้น! ตราบเท่าที่เราหาจุดอ่อนนั้นเจอได้แล้วเราก็คงบุกเข้ามหานครฉีใต้ได้ง่ายๆ ราวกับพลิกฝ่ามือ! เพราะฉะนั้นหากเจ้าเป็นคนที่หาจุดอ่อนนั้นเจอเจ้าก็จะได้รับยกย่องเป็นวีรบุรุษแห่งเผ่าเลือดเรา! แน่นอนว่าตอนนี้มันคงมีคนตายไปเรื่อยๆ แต่สุดท้ายแล้วมันจะลดจำนวนความเสียหายที่จะเกิดขึ้นเมื่อบุกโจมตีจริงๆ!”
โฮ!
เสียงทหารเผ่าเลือดโห่ร้องขึ้นมาพร้อมๆ กัน!
สมชื่อว่าเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ฉลาดล้ำนัก!
คำอธิบายของเย่หยวนนั้นทำให้เผ่าเลือดทั้งหลายเชื่อหมดใจ
แต่เมื่อฝ่ายทัพสวรรค์แรกได้ยินคำของเย่หยวนนั้นพวกเขาก็ต้องเสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันที ความดีใจแห่งชัยชนะใดๆ มันหายไปหมดสิ้น
เพราะอย่างที่เย่หยวนว่า จะค่ายกลใดมันก็ย่อมมีจุดอ่อน
หากจุดอ่อนนั้นเปิดเผยแล้วมันก็คงไม่อาจจะต้านรับใดๆ ได้อีก!
มันไม่ใช่ว่าเฉียนั้วจะโง่คิดไม่ถึงเรื่องนี้ แต่ว่าเผ่าเลือดนั้นไม่มีความเข้าใจต่อเต๋าค่ายกลเลยแม้แต่น้อย
เพราะฉะนั้นเขาจึงได้แต่ต้องใช้กำลัง
ยอดฝีมือสวรรค์แรกทั้งหลายนั้นต่างทำหน้าเหยเกขึ้นมา
บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์คนนี้มันไม่ธรรมดาจริงๆ!
อย่างน้อยๆ มันก็ยังพอเข้าใจเต๋าค่ายกลอยู่บ้าง
นี่มันถือเป็นเรื่องใหญ่!
แน่นอนว่าภายใต้การหลอกลวงของเย่หยวน
จักรพรรดิเที่ยงคนนั้นก็ได้พากำลังสามพันออกไปตายอีกครั้ง!
สงครามยังไม่ทันเริ่มแต่ฝ่ายเผ่าเลือดก็เสียกำลังไปเกือบหมื่นแล้ว!
หยางชิงนั้นทำหน้านิ่งยืนอยู่หลังเย่หยวนแต่ใจของเขานั้นกำลังหัวเราะลั่น
เจ้าบ้านี่มันหลอกคนเก่งเสียจริงๆ!
พวกเผ่าเลือดโง่ โดนมันหลอกขายแล้วยังไปช่วยมันนับเงิน!