Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2910 บรรพบุรุษแห่งนิกายโอสถประเสริฐ!
เมื่อได้ยินคำพูดนั้นคนทั้งหลายก็ตัวสั่นขึ้นมาตามๆ กันทันที
บรรพบุรุษของพวกเขานั้นกลับไปมีศิษย์น้องเป็นเผ่าเลือด?
เชื่อก็บ้าแล้ว!
เจ้านิกายนั้นหัวเราะตอบกลับไป “ท่านผู้นั้นเป็นคนใหญ่โตแค่ไหน? มีหรือที่ท่านจะไปรับเผ่าเลือดอย่างเจ้าเข้าเป็นศิษย์? เจ้าคิดว่าพูดเช่นนี้แล้วจะรอดตัวไปได้หรือ?”
แต่แท้จริงในใจของเจ้านิกายนั้นเขาเชื่อไปกว่าร้อยละสี่สิบถึงห้าสิบแล้ว!
คนอื่นนั้นไม่รู้แต่ว่าเขาเองรู้ว่าที่นี่มันคือจุดที่เชื่อมกำแพงเขตแดนสวรรค์!
คนผู้นี้เดินทางผ่านกำแพงเขตแดนสวรรค์มาพร้อมกระบอกยาสูบแก้วสมบัติในมือมันย่อมจะเป็นเรื่องที่ไม่อาจ เมินเฉยไปได้
เพียงแค่ว่าเรื่องเดียวที่ทำให้เขาไม่อยากเชื่อก็คือคลื่นพลังเผ่าเลือดที่ออกมาจากร่างเย่หยวนนี้
“เจ็ดหมื่นปีก่อนนั้นอาจารย์ท่านได้…”
เย่หยวนเองก็ไม่รอช้าเล่าเรื่องราวที่ได้ยินมาจากปากของเจ้าโลกหยุนซานออกไป
สีหน้าของเจ้านิกายนั้นเปลี่ยนสีไปทันที
เพราะความลับนี้บรรพบุรุษท่านจะบอกต่อแค่ว่าที่เจ้านิกายเท่านั้น!
และคำพูดของเย่หยวนนั้นมันถูกต้องแม่นยำอย่างไม่มีผิดเพี้ยน!
แม้ว่ามันจะเป็นเวลาแค่ห้าวันนั้นแต่บรรพบุรุษหางหยางก็ได้ประโยชน์กลับมามหาศาล
ห้าวันนี้เองที่ได้เปลี่ยนเส้นทางการบ่มเพาะของบรรพบุรุษหางหยางให้กลายเป็นถึงมหาจักรพรรดิล้ำสวรรค์ได้!
นอกจากนั้นมันยังช่วยให้นิกายโอสถประเสริฐน้อยๆ นี้ได้กลายเป็นเจ้าแผ่นดินขึ้นมา!
เจ้านิกายคนนั้นใจสั่นสะท้านขึ้นแต่เขาก็ยังกล่าวขึ้นมาด้วยความสงสัยสุดใจ “ท่านปรมาจารย์นั้นเป็นเผ่ามนุษย์แน่นอน ทำไมท่านถึงได้เอาเจ้าเข้าเป็นศิษย์เล่า? นอกจากนั้นเจ้ายังเป็นแค่จักรพรรดิเที่ยงขั้นต้นด้วย!”
“ข้าไม่ใช่เผ่าเลือด แต่คลื่นพลังจากร่างของข้านี้…”
เย่หยวนนั้นไม่คิดปกปิดอะไรบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาทั้งหมด
เพียงแค่ว่าเมื่อศิษย์ทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องนึกว่าเย่หยวนโม้แล้ว
“ฮ่าๆ ใครมันไม่รู้จักโม้บ้าง? ข้าโม้ว่าตัวเองเคยสังหารเจ้าโลกมาแล้วยังได้!”
“บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเลือด! เจ้าไม่บอกว่าตัวเองเป็นหวังจั่วนั่นเลยเล่า?”
“เจ้าปลอมเป็นเผ่าเลือดและเข้าไปกลายเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของพวกมัน? เผ่าเลือดมันโง่เง่าปานนั้นหรือ? เจ้าคิดว่าเจ้าโลกมันไม่มีสมองกันเลยหรืออย่างไร?”
“ข้าว่าหากเจ้าอยากจะสร้างเรื่องว่าตัวเองเป็นมนุษย์เจ้าก็ควรจะเลือกเรื่องที่มันดีกว่านี้หน่อยไหม? เจ้าคิดว่าพวกเราไม่มีสมอง?”
“เจ้าบอกว่าตัวเองคนเดียวเอาชนะเผ่าเลือดได้สิ้นหรือ? เช่นนั้นพวกเราทั้งหลายเองก็คงไม่อาจต้านทานเจ้าได้เช่นกันสิ? ไหนลองมาฆ่าพวกเราให้เรียบบ้างสิ!”
…
ไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเองแล้วเรื่องที่เย่หยวนทำมันย่อมจะเหมือนเป็นแค่นิทานเพ้อฝัน
ใครได้ยินก็คงไม่มีใครเชื่อ
แต่ดวงตาของเจ้านิกายคนนั้นกลับเบิกกว้างขึ้นอย่างตกตะลึง กลับเชื่อคำของเย่หยวนมากขึ้น
เขานั้นรู้ดีว่าตัวตนของปรมาจารย์เขานั้นต้องยิ่งใหญ่ล้นฟ้า!
ยิ่งบรรพบุรุษของเขาบ่มเพาะไปสูงเท่าไหร่มันก็ยิ่งทำให้สัมผัสได้ถึงความสูงส่งของคนผู้นั้น!
บางทีแล้วมันคงมีแต่ยอดอัจฉริยะที่เหมือนหลุดออกมาจากนิยายเช่นนี้ที่ควรค่าจะเป็นศิษย์ของเขา
บรรพบุรุษหางหยางของพวกเขานั้นแท้จริงไม่ได้กราบอาจารย์ใดๆ เพียงแค่ได้รับการสั่งสอนและอวดอ้างตัวเองเท่านั้น
คนผู้นั้นคงดูถูกหางหยางอย่างสุดใจเช่นกัน!
เย่หยวนตอบกลับไป “เอาสิ! ตราบเท่าที่เจ้านิกายไม่ลงมือข้าก็รับมือได้สิ้น ต่อให้จะมามากกว่านี้สิบเท่าก็ไม่เป็นปัญหา”
คนทั้งหลายผงะไปตามๆ กันเพราะเจ้าบ้านี่กลับยอมรับ!
โอหังอย่างมากล้น!
นิกายโอสถประเสริฐนั้นต่างร้องลั่นขึ้นมาตามๆ กับวิ่งมาขออนุญาตประลองเป็นเสียงเดียว!
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียในโถงใหญ่ตอนนี้มันก็มีมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวอยู่ถึงสามคน
นอกจากนั้นยังมีจักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดอีกถึงเจ็ดคนด้วย!
ส่วนจักรพรรดิเที่ยงทั่วๆ ไปนั้นมันมีอีกเป็นสิบๆ!
เจ้านิกายนั้นผงะไปเล็กน้อยก่อนจะกล่าวขึ้น “ได้ ข้าจะไม่ลงมือใด!”
จากนั้นเหล่าศิษย์นิกายโอสถประเสริฐทั้งหลายต่างก็เข้ามาล้อมเย่หยวนไว้ด้วยใบหน้ากระหายเลือดคิดกำจัดเย่หยวนลงให้สิ้น
ในเมื่อพวกเขาลงมือแล้วจะตายหรือเป็นมันก็คงไม่ต้องถาม
แต่ชั่วโมงต่อมามันกลับมีแต่ความเงียบงัน
เพราะนอกจากสามมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวแล้ว จักรพรรดิเที่ยงคนอื่นๆ ต่างลงไปนอนกองกับพื้นสิ้น!
นี่ยังเป็นเพราะว่าเย่หยวนนั้นออมมือหากไม่เช่นนั้นแล้วคนทั้งหลายคงตายลงสิ้น
พวกเขาได้แต่ต้องหันมามองหน้าเย่หยวนเป็นตาเดียว เจ้าบ้านี่มันช่างทรงพลัง!
ต่ำกว่าขั้นสุดนั้นร่วงลงด้วยหมัดเดียว
ขั้นสุดนั้นร่วงลงในสิบหมัด
ส่วนมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวนั้นก็ไม่อาจจะโจมตีถูกตัวเย่หยวนได้เพราะว่าเย่หยวนนั้นท่องห้วงอวกาศออกมา!
ตอนนี้พลังสายเลือดของเย่หยวนมันถึงระดับวิญญาณศึกขั้นสุดแล้ว
การต่อสู้ในระดับจักรพรรดิเที่ยงด้วยกันนั้นมันไม่ได้ยากเย็นอะไรสำหรับเขาเลย
ครั้งนี้พวกเขาต่างไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเชื่อแล้ว
เพราะว่าตอนที่เย่หยวนสู้นั้นเขายังดูท่าทางสบายๆ ไม่ได้จริงจังใดๆ
คนเช่นนี้ย่อมจะกวาดเผ่าเลือดได้สิ้น!
เมื่อเจ้านิกายนั้นได้เห็นฝีมือของเย่หยวนแล้วเขาก็ใจเต้นรัวขึ้นมาอย่างไม่อาจห้าม
นี่มันคือยอดอัจฉริยะอย่างแท้จริง!
มีแต่ยอดอัจฉริยะเช่นนี้ที่ควรค่าจะกราบคนผู้นั้นเป็นอาจารย์!
เย่หยวนหยิบเอาโอสถเลียนโลหิตออกมาและโยนให้เจ้านิกาย “นี่คือโอสถเลียนโลหิตที่ข้าพูดถึง หลังจากกินมันลงไปแล้วจะสามารถแปลงคลื่นพลังให้เป็นเผ่าเลือดได้”
ตอนนี้เจ้านิกายนั้นเชื่อไปกว่าร้อยละเจ็ดสิบแล้ว!
เขานั้นพบว่าจักรพรรดิเที่ยงที่กินโอสถนี้ลงไปมันสามารถเปลี่ยนคลื่นพลังไปกลับจากมนุษย์เป็นเผ่าเลือดได้จริงๆ
เท่านี้มันก็ไม่มีใครสงสัยอีกแล้ว!
มันกลับยังมีโอสถสวรรค์เช่นนี้อยู่ด้วย!
ในตอนนี้เจ้านิกายสูดหายใจเข้าลึกและคุกเข่าลงทันที “ศิษย์หวังจุนขอกราบคารวะท่านบรรพบุรุษ! พวกเจ้ายังเหม่ออะไรกันอีก? เจ้ากราบบรรพบุรุษท่านทุกวัน! ตอนนี้ท่านมาอยู่ตรงหน้าแล้วทำไมยังไม่รีบก้มลงกราบอีก?”
ศิษย์คนอื่นๆ หันมามองหน้ากันก่อนที่สุดท้ายจะก้มลงกราบตาม
“ขอกราบคารวะบรรพบุรุษ!”
แม้ว่าเย่หยวนจะเตรียมรับภาพนี้มาก่อนแล้วแต่เย่หยวนก็ยังอดถามขึ้นไม่ได้ “พวกเจ้าไม่กลัวว่าข้าจะเป็นสายจากเผ่าเลือดจริงๆ หรือ?”
หวังจุนส่ายหัวออกมา “หลายพันปีมานี้นิกายโอสถประเสริฐของเราได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมหาศาล จากบรรพบุรุษหางหยางมาเป็นมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์แล้วก็เป็นมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์และสุดท้ายคือข้า ศิษย์ผู้ไร้ความสามารถคนนี้ในที่สุด ไม่กี่พันปีมานี้มันได้มีการเปลี่ยนเจ้านิกายไปถึงสามครั้งด้วยกัน! แต่บรรพบุรุษหางหยางท่านได้สั่งเอาไว้ว่าหากวันหนึ่งได้เห็นกระบอกยาสูบแก้วสมบัตินี้เราต้องเคารพเขาเหมือนเป็นทวด ของเรา! การที่นิกายโอสถประเสริฐมีทุกวันนี้ได้มันก็เพราะว่าท่านปรมาจารย์! ในเมื่อท่านปรมาจารย์รับท่านบรรพบุรุษเป็นศิษย์แล้วเราก็ย่อมจะต้องเคารพท่านเหมือนเป็นทวดของเรา!”
เย่หยวนถอนหายใจยาวออกมา “มันคงลำบากศิษย์พี่หางหยางมากแล้ว! พวกเจ้าคงยังไม่รู้นามของอาจารย์ข้าใช่หรือไม่?”
หวังจุนยิ้มขึ้นมาอย่างตื่นเต้น “บรรพบุรุษโปรดชี้แนะ!”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “พวกเจ้าจำไว้ให้ดี อาจารย์ของข้านั้นคือหยุนซาน บรรพบุรุษแห่งนิกายยาสุดล้ำจากสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด!”
หวังจุนนั้นสั่นสะท้านไปทั้งร่าง “ที่…ที่แท้เป็นท่านปรมาจารย์หยุนซาน!”
หยุนซานนั้นมีชื่อเสียงกว้างไกลแน่นอนว่าหวังจุนเองก็เคยได้ยินมาบ้าง
เพียงแค่ว่าเขาไม่นึกฝันว่าบรรพบุรุษของตัวเองนั้นกลับจะเป็นคนใหญ่คนโตระดับนั้น!
เย่หยวนพยักหน้ารับ “พวกเจ้าไม่บ่มเพาะกันมาทำพิธีสักการะเช่นนี้เพื่ออะไรหรือ?”
เขานั้นสงสัยเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น!
เพราะต่อให้หางหยางจะเคารพอาจารย์แค่ไหนมันก็คงไม่ถึงขั้นสั่งให้ศิษย์มากราบไหว้ทุกวันหรอกใช่ไหม?
หรือว่าคนทั้งหลายนี้จะว่างมากไม่ต้องบ่มเพาะกัน?
หวังจุนยิ้มแห้งๆ ตอบกลับมา “การได้รับคำสอนจากปรมาจารย์ท่านนั้นช่วยให้นิกายโอสถประเสริฐของเราผงาดขึ้นฟ้าและกลายเป็นนิกายอันดับต้นๆ ของทวีปวิญญาณตื่น ศิษย์นั้นอยู่ในนิกายมานับหมื่นปีสมัยนั้นมียอดฝีมือมากมายเกินนับ! น่าเสียดายแค่ว่าหลายพันปีก่อนนั้นเผ่าเลือดมันได้บุกเข้ามาทำให้นิกายโอสถประเสริฐเสียยอดฝีมือไปมาก ตอนนี้…นอกจากข้าแล้วมันก็ไม่มีมหาจักรพรรดิคนอื่นในนิกายอีกเลย!”
พูดไปหวังจุนก็อดหลั่งน้ำตาออกมาไม่ได้
หลายปีที่ผ่านมานี้มันมีคนตายไปมากเกินนับ!
เย่หยวนนั้นตกตะลึงสุดหัวใจ หรือว่าสภาพของสวรรค์โมฆะเกินดุลมันจะแย่ไม่แพ้สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดกัน?
แต่ไม่นานเขาก็ได้เข้าใจ!
เพราะว่าในสวรรค์โมฆะเกินดุลนี้เผ่าวิญญาณคือผู้ปกครองสวรรค์
แม้จะเป็นเผ่ามนุษย์ที่แพร่กระจายไปทั่วทุกสวรรค์เองก็ไม่อาจจะเทียบเคียงได้
บนสวรรค์นั้นมันมีเผ่ามากมายที่ต่อต้านเผ่าเลือดได้และเผ่าวิญญาณนั้นก็เป็นหนึ่งในศัตรูที่เผ่าเลือดแพ้ทาง!
เพียงแค่ว่าเมื่อจอมเทพสู้กันคนที่ลำบากนั้นคือชาวบ้าน!
ตอนนี้เผ่าวิญญาณนั้นได้เกณฑ์ชาวมนุษย์มากมายออกไปสู้รบกับเผ่าเลือด
ทำให้แทบจะไม่มีสงครามระหว่างสองเผ่าจริงๆ จังๆ เลย
ต่างฝ่ายนั้นต่างใช้สงครามตัวแทน คนที่ฉิบหายจึงกลายเป็นเผ่ามนุษย์
ตอนนี้บนสวรรค์โมฆะเกินดุลคนที่ตายไปส่วนมากนั้นล้วนแล้วแต่เป็นประชากรเผ่ามนุษย์สิ้น!
…………………………