Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2921 พยายามได้ดีมากแล้ว!
การทดสอบนั้นยังคงดำเนินต่อไป
โดยที่พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นก็ยังคงมุ่งหน้าออกมาด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
แน่นอนว่า ‘น่าเหลือเชื่อ’ นี่มันคือพูดตามมาตรฐานปกติ
คนทั้งหลายนั้นมองดูที่จุดแสงบนหน้าจอนั้นราวกับว่ากำลังตั้งใจดูความพยายามผ่านป่าสุวิมลของพวกเขา
แต่หันมามองเย่หยวนที่ยืนรออยู่นั้นความพยายามใดๆ นั้นมันก็ช่างน่าหัวเราะ
คนทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องคาดเดาสีหน้าของพวกฉินซื่อเถียนหลังจากออกมาเห็น
จนในที่สุดมันก็ครบเวลาหกชั่วโมงและจุดแสงของฉินซื่อเถียนก็หายวับไปจากจอ!
“ฮ่าๆๆ… หกชั่วโมง! ข้าทำลายสถิติของป่าสุวิมลแล้ว! ข้าฉินซื่อเถียนนั้นคืออันดับหนึ่งแห่งโถงวิญญาณนิพพานกล้วยไม้สงบ!”
เมื่อเขาออกมาถึงเขาก็ต้องหัวเราะลั่นขึ้นมา
เพราะเขานั้นกำลังรู้สึกภาคภูมิอย่างมากล้นหัวใจ!
เอาชนะโจวหยูและเหอเฉิน ทำลายสถิติของป่าสุวิมล!
เขานั้นได้แต่ต้องคิดจินตนาการถึงคำชมมากมายจากปากอาจารย์
แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์!
มันช่างเป็นอะไรที่น่าภาคภูมินัก!
เพราะว่าก่อนหน้าที่จะมีการทดสอบครั้งนี้สถิติที่เร็วที่สุดของป่าสุวิมลนั้นคือหกชั่วโมงสิบห้านาที
แต่ตัวเขา ฉินซื่อเถียนคนนี้กลับสามารถทำลายสถิติไปได้ถึงสิบห้านาที!
นี่มันคือการทำลายสถิติอย่างยิ่งใหญ่
ความสำเร็จระดับนี้มันย่อมจะทำให้ทั้งโถงวิญญาณนิพพานแตกตื่นหากไม่มีเย่หยวน
ไม่นานนักพวกโจวหยูและเหอเฉินก็ตามออกจากป่ามาติดๆ ด้วยสีหน้าเหยเก
พวกเขาทั้งสองเองก็ทำลายสถิติลงได้เช่นกัน
เพียงแค่ว่าสุดท้ายพวกเขาก็ยังพ่ายให้แก่ฉินซื่อเถียน
ฉินซื่อเถียนหัวเราะลั่นขึ้นมา “พวกเจ้าทั้งสองอย่าได้ทำหน้าเช่นนั้นไป พ่ายให้ข้านั้นมันมิใช่เรื่องน่าอายอะไรเลย! เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียพวกเจ้านั้นก็ทำลายสถิติของศิษย์พี่จิ่วหยวนได้!”
โจวหยูนั้นทำหน้าตาไม่เป็นมิตรตอบกลับไป “เจ้าจะทำเป็นวางท่าเพื่อ? เจ้ามันก็แค่โชคดีกว่าเราเท่านั้น! หากเราไม่ได้เจอวิญญาณเต๋าน่ารำคาญหลายตัวติดกันแล้วมีหรือที่จะแพ้พ่ายให้กับเจ้า?”
ฉินซื่อเถียนยิ้มเย้ยตอบกลับไป “แพ้ก็คือแพ้สิ จะหาข้อแก้ตัวเพื่อ? ป่าสุวิมลนั้นมันยุติธรรมที่สุดแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาจะใช้มันเป็นหัวข้อทดสอบหรือ? ทำไม? แพ้แล้วไม่รู้จักยอมรับความพ่ายแพ้หรือ?”
โจวหยูนั้นหัวเราะตอบกลับไป “ไม่รู้จักยอมรับความพ่ายแพ้? เดี๋ยวอีกไม่นานเจ้านั่นแหละที่จะเป็นคนแพ้!”
“อ่าว แล้วเจ้าเด็กเวรนั่นไปไหนแล้ว?” เหอเฉินที่เงียบปากมาตลอดนั้นหันหลังกลับไปมองพร้อมกล่าวทักขึ้น
ฉินซื่อเถียนผงะไปเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะลั่นขึ้น “ไอ้เด็กนั่นมันคงอยู่ห่างจากเราไปมากแล้วมั้ง? ฮ่าๆๆ แต่มันก็ไม่ธรรมดาจริงๆ คงไม่ถึงขั้นไม่ผ่านหรอก”
คนทั้งสามนั้นพูดคุยกันเสียงดังอย่างไม่กลัวใครได้ยินพร้อมเดินมาหาผู้ดูแลป่า
คนทั้งสามนั้นยิ้มกว้างเพราะว่าการทำลายสถิติจนไม่ได้สังเกตเลยว่าบรรยากาศรอบๆ มันแปลกประหลาดแค่ไหน
แน่นอนว่าพวกเขาย่อมจะไม่เห็นเย่หยวนตามหลังมา
ฉินซื่อเถียนก้มหัวลงคารวะมหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง “อาจารย์ ศิษย์ไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวังแล้ว ข้านั้นเอาอันดับหนึ่งมาพร้อมทำลายสถิติของศิษย์พี่จิ่วหยวน! ในที่สุดข้าก็ตอบความคาดหวังของท่านอาจารย์ได้!”
มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นทำหน้าเหยเกตอบกลับไป “อืม เจ้า…เจ้าพยายามได้ดีมากแล้ว”
ฉินซื่อเถียนนั้นผงะไป
‘พ…พยายามได้ดีมาก?’
‘มันหมายความว่าอย่างไร?’
เวลาเช่นนี้อาจารย์ควรจะชมเขาด้วยรอยยิ้มมิใช่หรือ?
ทำไมมันกลับกลายเป็นคำพูดเหมือนปลอบใจ?
นี่มันไม่ถูกต้อง!
“อาจารย์…”
ฉินซื่อเถียนเงยหน้าขึ้นมา และเป็นเวลานั้นเองที่เขาได้เห็นเย่หยวนที่กำลังยืนมองเรื่องราวอยู่ข้างตัวเหยียนยูเจิน จนทำให้เขาต้องยืนนิ่งไป
มันออกมาตอนไหน? ดูอย่างไรเบื้องหน้าของพวกเขามันก็ไม่เคยมีใคร!
ฉินซื่อเถียนนั้นเริ่มมึนงงจนไม่อาจจะเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าได้
มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของฉินซื่อเถียน “ซื่อเถียน เจ้านั้นทำได้ดีมากแล้วจริงๆ แต่น่าเสียดายแค่…เจ้าไม่ได้ทำลายสถิติ! เพราะก่อนหน้าเจ้านั้นเย่หยวนได้สร้างสถิติใหม่ไว้แล้ว!”
พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นรู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าผ่าลงกลางหัวพร้อมๆ กันต้องหันไปมองหน้าเย่หยวนอย่างตกตะลึง
จะบอกว่าเจ้าเด็กนี่มันเร็วกว่าพวกเขาทั้งสาม?
นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไรกัน?
เขานั้นเป็นคนที่ทำลายสถิติของศิษย์พี่จิ่วหยวนลงถึงสิบห้านาที!
หรือจะบอกว่าเจ้าเด็กนี่มันออกมาได้ก่อนหกชั่วโมง?
“บ้าน่า! ไอ้เด็กนี่มันจะออกมาก่อนหกชั่วโมงได้อย่างไร?” ฉินซื่อเถียนร้องออกมา
มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นไม่อยากจะทำร้ายศิษย์ของตัวเองไปมากกว่านี้แต่ความเป็นจริงมันช่างโหดร้าย!
“หกชั่วโมง? ฮ่าๆๆ หกชั่วโมงนั้นคงมากพอให้เย่หยวนมันไปกลับในป่าสุวิมลได้เป็นหมื่นๆ รอบแล้ว!” คนที่พูดขึ้นมานั้นคือมหาจักรพรรดิชีหยู
เพราะว่าเย่หยวนนั้นได้ปฏิเสธคำเชิญของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางไปก่อนหน้านี้แล้ว
มันชัดเจนมากว่าเย่หยวนนั้นคิดจะเข้าเป็นศิษย์ภายใต้การสั่งสอนของเขา
เพราะคนที่พาเย่หยวนมานั้นมันคือเหยียนยูเจิน!
ก่อนหน้านี้เขายังว่าเหยียนยูเจินไม่รู้เรื่องรู้ราวไปพาใครไม่รู้มาทำให้เขาต้องอับอาย
แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะมองมุมไหนเหยียนยูเจินก็ช่างน่าเอ็นดู
ได้ศิษย์ระดับนี้มามันย่อมจะถือเป็นบุญของอาจารย์ด้วย!
“เป็นหมื่นๆ! เหลว…มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกท่าน!”
คำว่า ‘เหลวไหล’ นั้นมันถูกกลืนลงคอฉินซื่อเถียน
เพราะจะอย่างไรชีหยูนั้นก็คือมหาจักรพรรดิคนหนึ่ง จะไปลบหลู่มันคงไม่ดี
แน่นอนว่าเมื่อได้ยินเช่นนั้นตัวชีหยูเองก็ทำหน้าตาดุร้ายขึ้นมา “เจ้าโถงเองก็อยู่ที่นี่เจ้าคิดว่าเจ้าคนนี้จะมาล้อเล่นกับเด็กน้อยอย่างเจ้า? หลังจากเย่หยวนเข้าป่าสุวิมลแล้วเขาก็ใช้เวลาแค่ห้าอึดใจเท่านั้นในการผ่านออกมา!”
“ห…ห้าอึดใจ?” พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นร้องขึ้นมาพร้อมๆ กันอย่างไม่อยากเชื่อหู
ฉินซื่อเถียนนั้นหันไปมองหน้ามหาจักรพรรดิล้ำตงหยางทันทีและอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับด้วยท่าทางหมดแรง “ใช่แล้ว มันแค่ห้าอึดใจจริงๆ! ข้านั้นตามเข้าไปดูกับตามาแล้ว”
ตูม!
ร่างของฉินซื่อเถียนนั้นระเบิดออกจากภายใน!
นี่มันจะบ้าเกินไปแล้ว
พวกเขาทั้งสามนั้นสังหารฆ่าเผ่าเลือดมากมายในสนามรบเจาะชาดกว่าที่จะได้จิตเต๋าที่หนักแน่นเช่นนี้ขึ้นมา
หกชั่วโมงนั้นมันคือสิ่งที่เป็นประวัติการณ์แล้ว
แต่มันกลับมีคนใช้แค่ห้าอึดใจ?
ฉินซื่อเถียนนั้นรู้สึกเหมือนว่าคนทั้งหลายรวมหัวกันล้อเล่นกับตน
แน่นอนว่าในการทดสอบนี้มันไม่ได้มียอดอัจฉริยะแค่พวกฉินซื่อเถียนสามคน
เพราะแท้จริงแล้วอัจฉริยะที่มาวันนี้มันก็มีไม่น้อย
ไม่นานมันก็มีคนตามหลังออกมา
เพียงแค่ว่าไม่ว่าจะเป็นใครที่ออกมาเมื่อได้ยินสถิติใหม่ห้าอึดใจนั้นพวกเขาก็ต้องลืมหายใจไป
เดิมทีแล้วพวกเขานั้นต่างภาคภูมิว่าตัวเองนั้นได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจอย่างมาก
แต่ตอนนี้พวกเขานั้นเริ่มจะสงสัยแล้วว่าชีวิตของตนนั้นมีค่าจริงหรือไม่
สามวันต่อมาการทดสอบของป่าสุวิมลมันก็จบลง
สุดท้ายแล้วมันก็มีคนที่ผ่านป่าสุวิมลมาได้สามร้อยเจ็ดสิบสองคน
และอีกกว่าสองร้อยคนได้ตายลงไปในป่าสุวิมล
คนที่ผ่านมานั้นต่างมารวมตัวกันที่ด่านทดสอบที่สอง เส้นทางคุมวิญญาณ
เดิมทีแล้วพวกมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นมาเพื่อดูเรื่องราวเอาสนุกเล่นๆ
เพราะไม่ว่าอย่างไรการทดสอบเช่นนี้มันก็ไม่อาจจะถือเป็นเรื่องใหญ่ได้
แต่ตอนนี้เพราะการปรากฏตัวขึ้นของเย่หยวน…
มันได้ทำให้มหาจักรพรรดิทั้งหมดต้องมารวมตัวกันที่เส้นทางคุมวิญญาณ
เส้นทางคุมวิญญาณนั้นมันถูกสร้างขึ้นระหว่างสองยอดเขาเป็นเส้นทางที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ด่านทดสอบเส้นทางคุมวิญญาณนี้มันคือการทดสอบพลังป้องกัน
สำหรับเผ่าวิญญาณแล้วนั้นพลังป้องกันคือทุกสิ่งอย่าง
เพราะหากเป็นเผ่าอื่นแล้วหลังจากเสียร่างเนื้อไปมันก็ไม่แน่ว่าจะตายลง เหมือนเหยียนยูเจินนั้น
แต่สำหรับเผ่าวิญญาณแล้วหากเสียร่างวิญญาณไปแล้วมันย่อมจะเท่ากับการดับสูญ
เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเข้าโถงวิญญาณนิพพานไปนั้นจึงต้องมีการทดสอบความถึกทนของร่างวิญญาณก่อน
นี่คือจุดที่พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นมั่นใจกว่าใครเพื่อน!
เพราะว่าพวกเขานั้นคือทหารหนุ่มจากสนามรบเจาะชาด!
พวกเขานั้นฝึกฝนร่างวิญญาณของตัวเองจนแข็งแรงเหมือนเหล็กกล้า!
หลายวันผ่านไปนี้คนทั้งสามก็เริ่มกลับมาตั้งสติกันได้แล้ว
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียพวกเขานั้นก็คือทหารที่ผ่านความเป็นความตายมานับไม่ถ้วน!
ฉินซื่อเถียนมองหน้าเย่หยวนและกล่าวขึ้น “ไอ้เด็กเวร ผ่านป่าสุวิมลมานั้นมันมิใช่เรื่องใหญ่อะไร!
เส้นทางคุมวิญญาณนี้ต่างหากคือการทดสอบฝีมือที่แท้จริง! ครั้งนี้ข้าจะให้เจ้าได้รู้ว่ายอดฝีมือนั้นคืออะไร!”