Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2927 วางเดิมพัน!
คำพูดนี้มันทำให้เกิดความแตกตื่นขึ้นทันที!
หลายคนเริ่มจะมีความรู้สึกอยากถอนตัวแล้ว
“ม…มันกลับเป็นเต๋าไฟโกลาหล! ที่สำคัญยังมากถึงสี่สิบเก้าแบบด้วย!”
“เต๋าไฟโกลาหลนั้นมันเผาทำลายได้ทุกสิ่ง ข้าได้ยินมาว่าแม้แต่เจ้าโลกเองก็ยังไม่รอดจากมันไป! เช่นนี้แล้วเราจะไม่เข้าไปรนหาที่ตายหรือ?”
“รอบนี้มันคงมีแต่พวกเย่หยวนหรือฉินซื่อเถียนที่จะพอสามารถผ่านได้แล้ว! การเข้าโถงวิญญาณนิพพานนั้นมันยากยิ่งนัก!”
…
เสียงของผู้เข้าทดสอบนั้นดังขึ้นทั่วทิศเพราะคำว่า เต๋าไฟโกลาหล
เพราะในความเป็นจริงด่านที่สามนี้มันก็เป็นด่านที่นับว่ายากที่สุดเช่นกัน!
ในด่านทั้งสามนั้นป่าสุวิมลมันถือว่าง่ายที่สุด
แม้ว่าเส้นทางคุมวิญญาณนั้นมันจะยากเย็นแต่ในรอบหมื่นๆ ปีมันย่อมจะมีคนที่ผ่านได้ปรากฏขึ้นมาบ้าง
แต่ด่านที่สามนั้น เตาหลอมวิญญาณนี้จนถึงวันนี้มันก็ยังมีคนที่ผ่านไปได้แค่หยิบมือ!
คนที่สามารถผ่านมันไปได้นั้นล้วนกลายเป็นยักษ์ใหญ่ในเผ่าวิญญาณทั้งสิ้น!
คนเหล่านั้นคือตัวตนที่สามารถยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับเจ้าโลกหยุนซานได้ทีเดียว
เมื่อซีเฉินเห็นว่ามีหลายคนที่ไม่อาจตัดสินใจได้เช่นนั้นเขาจึงยิ้มกล่าวขึ้นตาม “ข้าจะบอกพวกเจ้าทั้งหลายให้ฟังไว้ การทดสอบแต่ละครั้งนั้นด่านที่สามนี้มันมีอัตราการตายมากถึงเจ็ดในสิบ! หมายความว่าจากพวกเจ้าเก้าสิบกว่าคนนี้มันคงเหลือคนรอดชีวิตออกมาได้แค่ราวสามสิบคน!”
ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องขนลุกตั้งทันที
อัตราการตายเจ็ดในสิบนั้นมันเป็นอะไรที่น่ากลัวล้ำ
เพราะจะอย่างไรเสียคนที่ผ่านมาถึงด่านสามนี้ได้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นยอดอัจฉริยะของเผ่าวิญญาณทั้งสิ้น
แต่พวกเขานั้นกลับยังมีอัตราการตายที่สูงล้ำเช่นนั้น
“ข้า…ขอถอนตัว!”
“ข้าถอนตัวด้วย!”
“ช่างเถอะ ข้ายอมแพ้แล้ว!”
…
คำพูดของซีเฉินนั้นมันทำให้คนที่อยู่อันดับรั้งท้ายเริ่มถอนใจไปตามๆ กัน
สำหรับคนทั้งหลายนั้นเตาหลอมวิญญาณมันเหมือนเครื่องบดเนื้อที่พวกเขาไม่อาจตอบโต้ใดๆ ได้
ไม่นานคนกว่าสิบคนก็ต้องถอนตัวออกไป
แต่ในตอนนั้นเองที่ฉินซื่อเถียนได้หันมายิ้มใส่เย่หยวนและกล่าวท้าทาย “เย่หยวน เรามาเดิมพันกันดีหรือไม่? มาเดิมพันกันในเตาหลอมวิญญาณนี้เจ้าว่าอย่างไร?”
เย่หยวนไม่คิดแปลกใจอะไรและถามกลับไป “อ่า? เจ้าจะเดิมพันอะไรเล่า?”
ฉินซื่อเถียนกล่าวขึ้น “ในโถงวิญญาณนิพพานกล้วยไม้สงบนี้สถิติสูงสุดของเตาหลอมวิญญาณนิพพานมันคือสี่ต่อเจ็ด ยี่สิบแปดเต๋าไฟ! เรามาขอให้ท่านอาจารย์ช่วยลงมือปิดทางออกของเตาหลอมวิญญาณไว้กัน! หากไปไม่ถึงห้าต่อเจ็ด สามสิบห้าเต๋าไฟแล้วเราก็ห้ามจะออกมา!”
เมื่อคนทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นสีหน้าก็ต้องเปลี่ยนสีไป
นี่เป็นการเดิมพันที่ยิ่งใหญ่!
แม้จะไม่ต้องพูดถึงห้าต่อเจ็ด สามสิบห้าเต๋าไฟนั้นแต่แค่สองต่อเจ็ด ยี่สิบแปดเต๋าไฟมันก็รุนแรงล้ำแล้ว!
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียพลังของเต๋าไฟในเตาหลอมวิญญาณนั้นมันก็จะเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ
แค่พลังของยี่สิบแปดเต๋าไฟนั้นมันก็มากพอจะเผาทำลายจักรพรรดิเที่ยงลงได้ง่ายๆ!
แต่สามสิบห้าเต๋าไฟนั้นมันคือสิ่งที่ไม่มีทางผ่านไปได้แน่นอน
แม้แต่มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางเองก็ยังต้องเบิกตากว้างเมื่อได้ยิน
แต่ไม่นานเขาก็ต้องยิ้มขึ้นมา
นี่แหละคือฉินซื่อเถียน!
เขานั้นกำลังบังคับให้ตัวเองเข้าสู่สภาวะคับขันจะได้สามารถดึงความสามารถทั้งหมดออกมาใช้ได้!
เจ้าเด็กคนนี้มันมีความมุ่งมั่น กำลังฝีมือและพรสวรรค์ที่แตกต่างจากคนทั่วไปสิ้นเชิง
ที่สำคัญไปกว่านั้นนี่ยังเป็นศึกทางจิตใจด้วย
หากเย่หยวนถอยไปตอนนี้แล้วตัวฉินซื่อเถียนก็คงกลายเป็นผู้ชนะไปทันที
แต่หากยอมรับคำท้าแล้วมันก็คงมีแต่ต้องตาย
ในรอบนี้ตัวเขาได้เปรียบเรื่องร่างวิญญาณจริง
แต่หากไปถึงช่วงหลังๆ แล้วตอนที่พลังของเต๋าไฟมากมายปะทุขึ้นแค่ร่างวิญญาณมันย่อมจะไร้ค่าใด
ต่อให้จะเป็นสิบรูปเองมันก็ยังเป็นแค่จักรพรรดิเที่ยงสิบรูปเท่านั้น
แต่ว่าการทดสอบด่านนี้มันต้องใช้ทุกอย่าง
กำลังฝีมือ พรสวรรค์ ความอดทน สติปัญญา ทุกสิ่งอย่างจะถูกทดสอบในด่านนี้
คนมากมายต่างหันมามองเย่หยวนด้วยสายตาเห็นใจเพราะตอนนี้เขากำลังถูกลากขึ้นเชือดทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไร
เย่หยวนเงียบไปพักหนึ่ง
ฉินซื่อเถียนมองหน้าเย่หยวนและยิ้มกว้างขึ้น “อะไรหรือ? เจ้าไม่กล้าแล้ว? หรือว่ายอดฝีมือที่ผ่านด่านเส้นทางคุมวิญญาณมาได้นั้นจะไม่มีความกล้ารับคำเดิมพันแค่นี้? น่าผิดหวังนัก!”
เย่หยวนส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยิน “ข้าแค่คิดว่าสามสิบห้ามันออกจะดูน้อยไปหน่อย เช่นนี้เป็นอย่างไร? ข้าเองก็ไม่มั่นใจว่าจะผ่านสี่สิบเก้าเต๋าไฟไปได้เช่นกัน เอาเป็นว่าหกต่อเจ็ดสี่สิบสองเต๋าไฟ น่าจะเป็นจุดที่พอเหมาะแล้ว ถือว่าท้าทายเกินตัวแต่ก็ไม่ง่ายเกินไป”
“ซีด…”
เสียงสูดหายใจเข้าลึกดังขึ้นรอบกาย
ข่ม!
สมชื่อว่าเป็นยอดคนที่ผ่านเส้นทางคุมวิญญาณมาได้ เขาย่อมจะมีความมั่นใจเปี่ยมล้นจริงๆ!
พูดเช่นนี้มันก็เท่ากับว่าเย่หยวนตอกกลับและอวดโม้ตัวเองไปในตัวด้วย
‘สี่สิบสองแบบนั้นเจ้ากล้าหรือไม่?!’
‘หากไม่กล้าก็ไม่ต้องมาแข่ง!’
ฉินซื่อเถียนได้แต่ทำหน้าเหยเกเมื่อได้ยินเช่นนั้น
ไอ้บ้านี่บ้าคลั่งนัก!
สายตาของคนทั้งหลายนั้นต่างหันไปมองฉินซื่อเถียนเป็นตาเดียว
เพราะตอนนี้เขากำลังลังเล!
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “อะไรหรือ? เจ้าไม่กล้าแล้ว? หรือว่ายอดฝีมือที่เกือบไปถึงเส้นทางคุมวิญญาณระดับเจ็ดมาได้นั้นจะไม่มีความกล้ารับคำเดิมพันแค่นี้? น่าผิดหวังนัก!”
“อ่อก!”
คนทั้งหลายที่ได้ยินเช่นนั้นต้องกระอักขึ้นมาแทนฉินซื่อเถียน
ตอกกลับ!
ตอกกลับเต็มหน้า!
ยอดฝีมือที่ผ่านด่านมาได้นั้นกลับกำลังล้อเลียนคนที่ไปไม่ถึงระดับเจ็ด!
ไม่มีอะไรจะน่าขันไปกว่านี้แล้ว
ที่สำคัญเย่หยวนนั้นยังใช้คำพูดของฉินซื่อเถียนสวนกลับมาด้วย
แต่พลังของคำพูดนั้นมันรุนแรงกว่าของเดิมหลายเท่า!
ฉินซื่อเถียนไม่อาจจะทนรับไว้ได้ เขามิใช่คนโง่มากมาย รู้ดีว่าเย่หยวนกำลังท้าทายเขา
แต่เขาจะถอยได้หรือ?
ฉินซื่อเถียนนั้นย่อมจะไม่มั่นใจว่าตัวเองจะผ่านไปได้ถึงจุดไหน
แต่เขานั้นอยากจะลองท้าทายตัวเอง
พร้อมๆ กันนั้นก็จะได้กดหัวเย่หยวนลงไปด้วย
แต่ใครจะไปคิดว่าเย่หยวนนั้นกลับบ้าบิ่นกว่าตัวเขา กลับคิดท้าทายสี่สิบสองเต๋าไฟแทน!
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียเต๋าไฟมากมายขนาดนั้นแค่เพิ่มขึ้นไปหนึ่งมันก็ไม่ต่างอะไรจากการต้องแบกเขาเพิ่มบนหลังอีกลูก
ความอันตรายของมันนั้นไม่อาจจะประมาทได้เลย
เขาจะทนได้หรือ?
“ได้สิ ข้ายอมรับ!” ฉินซื่อเถียนเงียบไปพักใหญ่ก่อนที่สุดท้ายจะร้องตอบกลับไป
มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้นขัด “ซื่อเถียน!”
ฉินซื่อเถียนเงยหน้ากลับไปบอกมหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง “อาจารย์ ข้านั้นผ่านความเป็นความตายมามากมายในสนามรบเจาะชาดมีหรือที่ข้าจะไม่รู้ว่ามันกำลังขู่ให้ข้าถอย? แต่แล้วทำไม? มียอดฝีมือคนใดบ้างที่ไม่เคยผ่านความเป็นความตายมา? คนอย่างพวกมันนี้จะเป็นเจ้าโลกได้หรือ?”
พูดไปเขาก็ชี้หน้าคนที่ถอนตัวไปทั้งหลายนั้น
คนทั้งหลายนั้นได้แต่ยืนหน้าแดงก่ำคิดอยากจะมุดดินหนีไปให้พ้นๆ
เมื่อมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางได้ยินเขาก็ต้องพยักหน้ารับออกมา “ข้าเข้าใจแล้ว ไปเถอะ! ข้านั้นจะปิดเตาไว้จนกว่าจะถึงหกต่อเจ็ด สี่สิบสองเต๋าไฟ!”
ฉินซื่อเถียนยกมือขึ้นคารวะ “ขอบพระคุณอาจารย์ที่ช่วยสนองความเห็นแก่ตัวของข้า!”
เขานั้นมองหน้าเย่หยวนด้วยรอยยิ้ม “ว่าอย่างไรเล่า? เจ้าคงไม่คิดว่าข้าจะตอบตกลงใช่หรือไม่? ขุดหลุมฝังตัวเองนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ไม่หรอก หากเจ้าพอใจก็ดีแล้ว”
ฉินซื่อเถียนแทบจะต้องกระอักเลือดขึ้นมา เจ้าบ้านี่มันช่างน่าชังนัก!
เขายิ้มกล่าวขึ้นมา “ข้าได้ยินอาจารย์ท่านพูดไว้ว่าเต๋าไฟโกลาหลแต่ละอย่างในเตาหลอมวิญญาณนั้นมันมีพลังจนถึงที่สุดของจักรพรรดิเที่ยง หลังจากผ่านเต๋าไฟโกลาหลที่ยี่สิบเอ็ดไปแล้วต่อให้จะเป็นยอดฝีมือสิบรูปมันก็ไม่แน่ว่าจะรอดออกมาได้เช่นกัน! เจ้าอย่าคิดว่าแค่มีเก้ารูปแล้วจะรอดออกไปได้ง่ายๆ เล่า!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เช่นนั้นหรือ? เช่นนั้นเจ้าที่มีแค่หกรูปนั้นคงต้องระวังให้มากกว่าข้าแล้ว”