Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2960 เกือบสำเร็จ!
“ไม่นึกเลยว่าการใช้หวนฝันและกำเนิดเทพออกมาพร้อมๆ กัน มันจะสร้างพลังที่ทรงอานุภาพขนาดนี้ขึ้นมาได้!”
เย่หยวนนั้นมองดูเจ้าโลกทั้งสองที่นอนกองอยู่กับพื้นด้วยสภาพปางตายอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
วินาทีก่อนหน้าในตอนที่ถูกโจมตีนั้นเย่หยวนและหยุนหนีได้ใช้พลังของกำเนิดเทพและหวนฝันออกมาพร้อมๆ กัน
วินาทีนั้นพลังวิญญาณของคนทั้งสองกลับผสานเข้าด้วยกัน
จนทำให้เกิดพลังงานที่เหนือล้ำกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการออกมาได้
และด้วยความที่หยุนหนีนั้นมีไหวพริบดี
นางจึงได้ใช้โอกาสนั้นส่งพลังออกมาพร้อมลากเจ้าโลกทั้งสองนี้เข้าสู่ห้วงความฝันและให้พวกเขาโจมตีกันเองไป
โดยที่เจ้าโลกทั้งสองนั้นไม่ได้รู้เลยตัวเลยแม้แต่น้อย!
แต่ว่าหยุนหนีนั้นก็บาดเจ็บหนักจริงๆ
แต่นี่ก็ถือเป็นเหยื่อที่ทำให้สามารถใช้งานห้วงความฝันออกมาได้
ในวินาทีนั้นตอนที่ห้วงความฝันปะทุพลังขึ้นมาสองเจ้าโลกนั้นติดอยู่ภายในอย่างลึกล้ำจนไม่อาจถอนตัวขึ้น
เจ้าโลกทั้งสองนั้นตกสู่ห้วงความฝันและคิดว่าต่างฝ่ายต่างเป็นหยุนหนีและเย่หยวนไป
จนตอนที่แลกชีวิตกัน!
มันอาจจะฟังดูง่ายแต่ว่าการที่ต้องให้เจ้าโลกทั้งสองเกือบตายลงก่อนที่ห้วงความฝันนี้จะคลายออกนั้นมันเป็นเรื่องที่ยากเย็นจนแทบไม่อาจจะคาดคิดถึงได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพที่หลูนั้นเตรียมตัวรับมือห้วงความฝันมาก่อนแล้ว
แม้ว่ากำเนิดเทพของเย่หยวนนั้นมันจะยังอ่อนแอนัก แต่ว่าพลังของมันก็สุกใสอย่างมาก
มันจึงสามารถช่วยเสริมพลังให้แก่หวนฝันของหยุนหนีได้หลายเท่าตัว
หยุนหนีนั้นมีห้วงความฝันที่ทรงพลังอยู่แต่ก่อนแล้ว
ตอนนี้เมื่อมีพลังรุนแรงมาเสริมให้ แม้แต่เจ้าโลกทั้งสองก็ยังไม่อาจจะหนีจากวิชาของนางไปได้ในที่สุด
“มันมิใช่แค่เพราะว่าสองวรยุทธศักดิ์สิทธิ์นั้น! เพราะเมื่อกี้มันเป็นพลังงานวิญญาณของเราด้วยที่ผสานเข้าด้วยกัน! นี่มันคือจุดสำคัญ!” หยุนหนีกล่าวขึ้น
เมื่อลองนึกย้อนกลับไปถึงความรู้สึกแปลกประหลาดก่อนหน้าเย่หยวนก็อดพยักหน้าออกมาไม่ได้
เมื่อสักครู่นั้นเขารู้สึกได้ถึงการผสานของวิญญาณระหว่างตัวเขาและหยุนหนีจริงๆ
มันมิใช่แค่เพียงหยุนหนีเท่านั้น แต่ในเวลาเดียวกันพลังวิญญาณของเขาก็พุ่งทะยาน
เรื่องนี้มันเป็นอะไรที่เขาไม่เคยรู้สึกและสัมผัสมาก่อน!
ได้ยินคำของคนทั้งสองนั้นสองเจ้าโลกก็ต้องรู้สึกคับแค้นสุดหัวใจ!
ผสานพลังวิญญาณ!
เรื่องนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
สิ่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนนั้นมันเป็นสิ่งที่จบชีวิตพวกเขาทั้งสองลง!
พวกเขานั้นจะอย่างไรก็เป็นเจ้าโลกระดับแนวหน้ามิใช่แค่เจ้าโลกขยะๆ
แต่ปาฏิหาริย์ของเย่หยวนและหยุนหนีมันกลับทำให้พวกเขาทั้งสองพ่ายแพ้ลงง่ายๆ อย่างนี้
หยุนหนีนั้นไม่เปิดโอกาสให้คนทั้งสองได้ฟื้นพลังและลงมือสังหารเจ้าโลกทั้งสองลงไปทันที
สองเจ้าโลกนั้นได้ตายลงด้วยมือของเด็กน้อยสองคนด้วยประการฉะนี้
“เอาล่ะ เจ้าไปเถอะ!” หยุนหนีกล่าว
เย่หยวนที่ได้ยินต้องผงะไป “เจ้าจะกลับไปสู้?”
หยุนหนีพยักหน้ารับ “ท่านว่างหนิงนั้นมีคุณกับข้าล้นพ้น ข้าจะปล่อยท่านตายไปไม่ได้!”
เย่หยวนหยุดคิดไปพักหนึ่งก่อนจะกล่าวขึ้น “ข้านั้นจะไปช่วยบรรพบุรุษบู๋เมี่ย เจ้าจะมาด้วยกันหรือไม่?”
หยุนหนีนั้นหันมามองเย่หยวนด้วยความตกตะลึง “บรรพบุรุษบู๋เมี่ยนั้นถูกสามยอดเจ้าโลกกักขังไว้ ด้วยกำลังของเจ้าคนเดียวนั้นจะทำอะไรได้? มีแต่ไปรนหาที่ตายสิ!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “มันอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป! พวกเขาทั้งสามนั้นคงต้องเสียกำลังอย่างมากเพื่อขังท่านบู๋เมี่ยไว้ หลังจากออกมาจากเจดีย์เจ็ดสีแล้วข้าถึงได้เข้าใจว่าบรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านนั้นทรงพลังแค่ไหน! แข็งแกร่งอย่างมาก! บางทีเราอาจจะมีช่องว่างทำอะไรบ้างก็ได้!”
หยุนหนีขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้น “เรื่องนี้มันมิใช่เรื่องของเจ้าแท้ๆ ทำไมถึงได้คิดอยากไปช่วยบรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่าน?”
เย่หยวนตอบกลับไป “เจ้าคงสงสัยสิว่าเป้าหมายที่ข้ามายังเผ่าวิญญาณนั้นคืออะไร? เป้าหมายที่แท้จริงของข้านั้นคือบรรพบุรุษบู๋เมี่ยนั่นแหละ! ข้าต้องการพลังของร่มคลื่นม่วง!”
“เพื่อ?” หยุนหนีอดตระหนกขึ้นไม่ได้
การเดินทางนี้มันอันตรายจนเกินไป!
เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าร่มคลื่นม่วงนั้นมันอยู่ในมือเจ้าโลกบู๋เมี่ย หนึ่งในตัวตนระดับสูงสุดของสามสิบสามสวรรค์!
ต่อให้มันจะได้ประโยชน์อะไรขนาดไหนมันก็ไม่ถึงขั้นต้องลองเสี่ยงตายใช่หรือไม่?
แต่เจ้าเด็กนี่มันกลับกล้า!
เย่หยวนตอบกลับไป “เรื่องนั้นค่อยไปเล่าระหว่างทางก็ยังทัน! หากเรายังไม่ออกเดินทางกันตอนนี้มันคงไม่มีโอกาสให้ไปอีกแล้ว! ตอนนี้มันเป็นโอกาสดีที่จะออกไปช่วยท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ย! หากสามฝ่ายนั้นมันรู้ว่าเรื่องครั้งนี้พลาดมันอาจจะทุ่มกำลังไปจัดการท่านบู๋เมี่ยแทน! ถึงตอนนั้นต่อให้อยากจะไปช่วยท่านมันก็คงสายเกินไปแล้ว!”
“ไป!” หยุนหนีร้องตอบไปทันที
…
สี่ชั่วโมงต่อมานั้นมันก็มีหลายเงาร่างพุ่งผ่านขึ้นทะเลมารมา
คนที่นำมานั้นมันคือเฉียชาง
เขานำมาด้วยสีหน้าเหยเก
แผนผิดพลาด!
แม้ว่าตระกูลวิญญาณนิพพานนั้นจะเสียหายไปอย่างหนักแต่มันก็ไม่ถึงแก่น
จากผู้นำของห้าดินแดนวิญญาณนั้นมีเพียงแค่ผู้นำแดนวิญญาณเหนือที่ตายลง
แม้ว่ายู่เทียน ว่างหนิงและพวกที่เหลือจะบาดเจ็บหนักกลับไปแต่พวกเขาก็ยังสามารถกลับออกไปได้
จากสิบเจ้าโลกที่มานั้น พวกเขาจัดการลงไปได้แค่สาม!
ปล่อยให้เจ็ดคนหนีออกไปได้
เฉียชางนั้นกำลังนำคนออกตามล่าหลังยู่เทียนไป
ด้านหนึ่งนั้นมันเกิดขึ้นได้เพราะว่าเย่หยวนพูดปลุกใจคนทั้งหลาย
แต่อีกด้านหนึ่งมันก็เพราะว่าพวกเย่หยวนสองคนนั้นหนีทำให้พวกเขาต้องแบ่งกำลังออกไปตาม
และที่น่าคับแค้นใจที่สุดก็คือแม้จะผ่านไปได้สี่ชั่วโมงจนจบศึกกันไปแล้วหวู่เจียและหลูนั้นก็ยังไม่กลับมา!
แต่วินาทีต่อมาเฉียชางก็ต้องหยุดเท้าลงพร้อมสั่ง “หยุด!”
สีหน้าของเจ้าโลกเผ่าเลือดที่ตามข้างเขามานั้นต้องเปลี่ยนสีไป “ท่านเฉียชาง นี่มัน…คลื่นพลังของหวู่เจีย! ย…ยังมีคลื่นของหลูจากตระกูลวิญญาณฉีคนนั้นด้วย!”
เฉียชางนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกพยักหน้ารับไป
ในฐานะยอดเจ้าโลกคนหนึ่ง เขาย่อมจะมีสายตาที่เฉียบคม
เมื่อมาถึงตรงนี้เขาก็สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังที่เหลือทิ้งไว้ของหวู่เจียและหลู
พวกเขานั้นเพิ่งตายไปได้ไม่นาน คลื่นกำเนิดของพวกเขานั้นยังไม่ได้จางหายไปไหน
ตอนนี้เฉียชางนั้นรู้สึกรุ่มร้อนสุดใจ
สองเจ้าโลกที่ตามมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์และมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์มากลับตายลงสิ้น?
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? พวกเขา…ตายหมดแล้ว?” เจ้าโลกอีกคนร้องขึ้นมาอย่างตกตะลึง
สองเจ้าโลกตายลงพร้อมกันนั้นมันเป็นเรื่องใหญ่โตอย่างมาก!
เจ้าโลกแต่ละคนนั้นต่อให้จะอ่อนแอแค่ไหนก็เป็นคนที่มีคุณค่ามาก
หากนับเจ้าโลกอีกสองคนที่ตายในการปิดล้อมด้วยแล้วในศึกครั้งนี้พวกเขาเสียเจ้าโลกไปถึงสี่คนด้วยกัน!
นี่มันเสียหายหนักยิ่งกว่าตระกูลวิญญาณนิพพานเสียด้วยซ้ำ!
หวู่เจียและหลูตายลงนั้นมันทำให้การลอบโจมตีวางกับดักใดๆ ในวันนี้เป็นเหมือนเรื่องตลกไป
สามกองกำลังส่งเจ้าโลกออกมายี่สิบสามคน ทั้งยังสามารถล่อตระกูลวิญญาณนิพพานเข้ากับดักได้อีก
แต่สุดท้ายกลับเสียหายเยอะกว่าอีกฝ่าย!
หากยอดเจ้าโลกทั้งสามได้ยินเรื่องวันนี้พวกเขาคงคับแค้นใจจนแทบคลั่งแน่
“อะไรกัน? เจ้าโลกหวู่เจียและเจ้าโลกหลูกลับตายลงทั้งคู่? นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”
“ร่างวิญญาณฝันเมฆามันทรงพลังปานนั้น? นางนั้นเป็นแค่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์แท้ๆ กลับจะบอกว่านางสังหารเจ้าโลกลงได้ถึงสองคน?”
“ฉิบหายจริงๆ! ศึกครั้งนี้มันล้มเหลวไม่เป็นท่า!”
…
เมื่อยอดฝีมือคลื่นกำเนิดทั้งหลายได้ยินเสียงพูดคุยของเจ้าโลกพวกเขาต่างก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน
พวกเขานั้นไม่เคยคิดฝันว่าสถานการณ์มันกลับจะกลายเป็นเช่นนี้ไป
เฉียชางนั้นส่ายหัวออกมา “แม้ว่านังเด็กนั่นมันจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็ไม่มีทางสังหารเจ้าโลกอย่างพวกหวู่เจียลงในการปะทะตรงๆ ได้แน่! มันต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นที่เราไม่อาจเข้าใจได้! เพียงแค่ว่าจะอย่างไรมันก็กลายเป็นหายนะแน่แล้ว! ตอนนี้แม้จะไม่มีพวกยู่เทียนทั้งหลายแต่มันก็มียอดฝีมือที่หนึ่งมีร่างวิญญาณฝันเมฆาอีกหนึ่งมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มรอดออกไป เจ้าเด็กสองคนนี้มันอันตรายเกินไปแล้ว!”
คนอื่นๆ เองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไรแต่ผลลัพธ์ก็คือสองเจ้าโลกตายลง!
ต่อให้มันจะเป็นศึกที่หนักหน่วงแค่ไหนแต่การตายของเจ้าโลกนั้นมันก็มิใช่เรื่องธรรมดาทั่วไป
แต่วันนี้พวกเขากลับเสียเจ้าโลกไปถึงสี่คน
สิ่งที่เฉียชางกังวลมากที่สุดมันก็ยังเป็นหยุนหนีและเย่หยวนนั้น
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียพวกเขาทั้งสองนั้นก็มีวิธีที่สามารถสังหารเจ้าโลกลงได้
นี่มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว!
…………………………