Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2972 สายเลือดระดับสวรรค์แห้ง!

สวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่าง ที่แห่งนี้มันคือแดนสวรรค์ของภูตแท้

สวรรค์นี้มันถูกปกครองโดยมังกรฟ้า เสือขาว หงส์แดงและเต่าดำ

สี่เผ่าภูตแท้โกลาหลที่มีพลังแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าเผ่าวิญญาณ!

พวกเขานั้นคือตัวตนที่เรียกได้ว่าเป็นบรรพบุรุษของภูตแท้ทั้งหมดบนสวรรค์!

แม้ว่าสามสิบสามสวรรค์นั้นมันจะไม่มีการนับว่าใครสูงใครต่ำกว่ากันแต่แท้จริงมันก็ย่อมจะมีความแตกต่าง

เหมือนดั่งสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นที่ไม่อาจจะเรียกได้ว่าอยู่ในระดับพลังเดียวกับสวรรค์โมฆะเกินดุล

หรือสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่าง

แค่ดูจากปริมาณเจ้าโลกและฝีมือของเจ้าโลกทั้งหลายมันก็พอเข้าใจได้ชัดเจน

มันก็เหมือนตัวหมี่เทียน

ซึ่งเขาก็คือยอดฝีมือที่เกิดขึ้นจากความโกลาหล และมีพลังเหนือล้ำสวรรค์เดินทางไปไหนไม่มีใครกล้าขัดขวาง!

เทียบกับตัวตนอย่างเจ้าโลกหยุนซานที่แม้จะเป็นหนึ่งในยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด แต่หากเทียบกับเจ้าโลกของทุกๆ สวรรค์แล้วเขาก็คงเรียกได้ว่าอยู่แค่ระดับกลางๆ

ยิ่งนานวันเข้าเย่หยวนก็ยิ่งเข้าใจโลกมากขึ้นและเข้าใจว่าตัวตนอย่างหมี่เทียนนั้นจะต้องทรงพลังแค่ไหน!

“ความรู้สึกว่าได้กลับบ้านนี้มันช่างสดชื่นดีจริง! ขอบคุณมากเย่หยวน!”

เมื่อออกมาจากเขตแดนสวรรค์แล้วหมี่เทียนก็อดกล่าวขึ้นมาด้วยความรู้สึกคิดถึงบ้านไม่ได้

เขานั้นจากบ้านไปนานแสนนาน!

“ผู้อาวุโสจะทำเหมือนเราเป็นคนไม่รู้จักกันเกินไปแล้ว หลายปีมานี้ท่านได้สอนเรื่องราวต่างๆ ให้ข้ามากมาย

หากไม่มีทางมันก็คงไม่มีข้าในวันนี้!” เย่หยวนกล่าวตอบไป

หมี่เทียนยิ้มขึ้นเมื่อได้ยิน “มีหรือไม่มีข้าสุดท้ายเจ้าก็จะผงาดขึ้นมาได้อยู่ดี! เจ้านั้นมีเต๋าอยู่ในใจและพรสวรรค์ที่ไม่มีใครเทียบเคียง บางทีเจ้าอาจจะกลายเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีตคนแรกที่หลุดพ้นจากเต๋าสวรรค์บรรลุเจ้าโลกจริงๆ ก็ได้!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ผู้อาวุโสพูดเกินไปแล้ว เพียงแค่ว่าแม้เราจะมาถึงสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างแล้วแต่มันก็ยังไม่ใช่บ้านของท่านใช่หรือไม่? ดูท่าเรื่องที่ยากจริงๆ มันคือทางกลับบ้านจากนี้ไปต่างหาก”

หมี่เทียนได้แต่ต้องเงียบปากลงเพราะเขารู้ดีว่าตัวเองคงไม่อาจซ่อนมันจากสายตาเย่หยวนได้

ยอดเจ้าโลกมากฝีมืออย่างเขาที่สามารถจัดการเผ่าวิญญาณทั้งเผ่าได้ด้วยตัวคนเดียว กลับต้องมาตาย

ในดินแดนรกร้างใต้ทะเลลึกและถูกสังหารลงจนแทบไม่อาจเอาชีวิตรอด

เรื่องเช่นนี้ต่อให้จะมองมุมไหนมันก็ไม่ปกติ

หลายปีที่ผ่านมาหมี่เทียนไม่ได้เล่าอะไรเย่หยวนก็ย่อมจะไม่ถาม

แต่เย่หยวนนั้นคาดเดาไว้แล้วว่าเรื่องราวมันคงใหญ่โตไม่ธรรมดา

“บางอย่างนั้นแม้แต่ข้าเองก็ได้แต่เดา ตอนนี้มันคงมีแต่ต้องไหลตามน้ำและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน” หมี่เทียนกล่าวขึ้น

ได้เห็นว่าถึงตอนนี้หมี่เทียนก็ยังไม่คิดเล่าเย่หยวนก็ไม่คิดจะถามเช่นกัน ทำเพียงแค่พยักหน้ารับ “เช่นนั้นเราจะทำอย่างไรกันต่อดี?”

หมี่เทียนกล่าวขึ้น “ตอนนี้ไปแดนตรังค์ตะวันออกก่อน! เกาะมังกรสวรรค์จะส่งทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์ลงมาตรวจดูแดนตรังค์ตะวันออกเป็นประจำ เจ้าแค่ต้องทำให้ทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์คนนั้นหันมาสนใจ และพาเจ้าไปเกาะมังกรสวรรค์”

สัตว์เทวะทั้งสี่นั้นดูแลดินแดนสี่ทิศของสวรรค์นี้และแดนตรังค์ตะวันออกมันก็เป็นหนึ่งในดินแดนของเผ่ามังกร

เผ่าใหญ่ๆ อย่างเผ่ามังกรหรือเผ่าวิญญาณนั้นมันย่อมจะมีดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของตัวเอง

เกาะมังกรสวรรค์นั้นคือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ามังกรโกลาหล

ตำนานว่ากันว่าที่แห่งนั้นมันอยู่ใกล้กับความโกลาหลที่สุดและยังเป็นต้นกำเนิดของเผ่ามังกรด้วย

เกาะมังกรสวรรค์นั้นมันเป็นดินแดนสุดตะวันออกของสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างเหนือท้องทะเล

เพียงแค่ตำแหน่งของมันนั้นไม่แน่ชัด

มีเพียงแค่คนที่ได้รับการยอมรับจากทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่จะถูกพาขึ้นไปบนเกาะมังกรสวรรค์และกลายเป็นเผ่ามังกรอย่างแท้จริงไป

เดิมทีแล้วด้วยตัวตนของหมี่เทียน

หากเขาเผยตัว การจะไปถึงเกาะมันย่อมไม่ยากเย็น แต่ทำเช่นนั้นมันคงทำให้เกิดเรื่องยุ่งยากมากขึ้นตามมา

เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องการให้เย่หยวนเข้าเกาะมังกรสวรรค์ไปด้วยการนำทางของทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์นั้น

“เช่นนั้นตอนนี้เราอยู่ที่ไหน?” เย่หยวนถามขึ้น

“ที่นี่น่าจะเป็นชายแดนระหว่างแดนหงส์ไฟเหนือและแดนตรังค์ตะวันออก อยู่ไม่ไกลจากแดนตรังค์ตะวันออกมาก” หมี่เทียนตอบกลับมา

เย่หยวนเองก็ไม่คิดรอช้าพุ่งตัวมุ่งหน้าไปยังแดนตรังค์ตะวันออกทันที

แต่ในวินาทีนั้นเองที่มันได้มีแสงสีแดงเจิดจ้าพุ่งผ่านเส้นขอบฟ้าไป

ตูม!

เสียงระเบิดดังลั่นขึ้นมาจากป่าไม่ไกลจุดที่เย่หยวนยืน

เย่หยวนได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่นก่อนจะหยุดคิดไปพักหนึ่งแต่สุดท้ายก็ยังตามออกไปดู

เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้าเย่หยวนกลับพบว่ามันมีหงส์แดงเพลิงลุกไหม้รอบตัวจมอยู่ในหลุมดิน

หงส์แดงนั้นมีขนาดราวๆ ตัวมนุษย์สองคนพร้อมด้วยคราบเลือดอาบกายดูท่าคงไม่รอดแน่แล้ว

เย่หยวนส่ายหัวออกมา “ไม่รอดแน่แล้ว”

หมี่เทียนกล่าวขึ้นขัดทันที “ไม่ นางแค่เข้าสู่สภาวะเปลี่ยนถ่ายและคงจะจุติใหม่ในไม่ช้า หงส์แดงผู้นี้มีสายเลือดที่บริสุทธิ์อย่างมาก ดูท่าคงเป็นคนจากตระกูลหลักของเผ่าหงส์แดง”

เย่หยวนผงะไปทันทีที่ได้ยิน “สภาพเช่นนี้ก็ยังไม่ตายหรือ?”

หมี่เทียนกล่าวขึ้นตอบ “หงส์แดงจุตินั้นเป็นทักษะเทวะภายในของเผ่าหงส์แดง การจุติแต่ละครั้งนั้นมันจะเสริมสร้างพลังให้คนผู้นั้นอย่างมาก แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่เปราะบางที่สุดด้วย หงส์แดงผู้นี้คงบาดเจ็บสาหัสและจำใจต้องจุติใหม่อย่างแน่นอน แต่หากนางฟื้นกลับขึ้นมาจากเถ้าได้ นอกจากบาดแผลใดๆ มันจะหายดีแล้วพลังของนางเองก็คงพัฒนาขึ้นไปอย่างมากด้วย!”

แน่นอนว่าพูดยังไม่ทันขาดคำร่างของหงส์แดงนั้นก็ค่อยๆ ไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านไป

ไฟร้อนแรงนั้นมันเผาป่ารอบๆ จนเป็นจุณไป

เย่หยวนได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกถอยหลังกลับออกมาหนีความร้อนแรงของไฟนั้น

นี่มันเป็นเพลิงที่ทรงพลังอย่างมาก!

“ในเมื่อนางไม่ตายเราก็ไปเถอะ” พูดจบเย่หยวนก็หันหน้ากลับคิดเดินจากไป

“นายท่านรอก่อน!” เย่หยวนยังไม่ทันได้หันหน้ากลับมันก็มีเสียงหญิงสาวผู้หนึ่งดังขึ้นเรียกไว้

เว้นเสียแต่ว่าเสียของนางนั้นมันช่างฟังดูไร้เรี่ยวแรงราวกับเป็นน้ำเสียงของคนใกล้ตาย

เย่หยวนต้องผงะหันกลับไปมองต้นเสียง มันดังออกมาจากกองเพลิงนั้น

มันคือเสียงของหงส์เพลิงผู้นี้

เสียงนั้นกล่าวขึ้นต่อ “ชิงซวนถูกคนร้ายไล่ล่ามา ข้าย่อมจะไม่อาจรอดมือพวกมันระหว่างที่กำลังจุติได้แน่

นายท่านช่วยเหลือยื้อชีวิตให้ชิงซวนด้วยเถอะ! หลังจากที่ชิงซวนจุติสำเร็จย่อมจะมีรางวัลตอบแทนท่านอย่างงาม!”

เย่หยวนขมวดคิ้วแน่น “เจ้าคิดว่าเย่ผู้นี้ยังเป็นเด็กน้อยและไม่รู้เรื่องราวของโลก? เพราะเจ้านั้นจะอย่างไรก็เป็นมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ขั้นกลาง ด้วยสายเลือดของเจ้านี้คนที่ไล่ล่าเจ้ามามันต้องเป็นถึงมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์แน่นอน! เจ้าคิดจะให้ข้าถ่วงเวลาให้เจ้าด้วยชีวิตของตัวเองหรือ?”

เย่หยวนเองก็เป็นเผ่ามังกรคนหนึ่ง เขาย่อมจะรู้ดีว่าศิษย์ของตระกูลหลักในเผ่ามังกรนั้นทรงพลังแค่ไหน!

เรียกได้ว่าพวกเขานั้นไร้เทียมทานก็คงไม่ผิดนัก!

หงส์แดงผู้นี้เองก็คงไม่ได้เป็นตัวตนต่ำต้อยแน่นอน

คนสำคัญเช่นนี้หากถูกหมายหัวเอาชีวิตแล้วผู้ที่ไล่ล่ามามันก็ย่อมจะมิใช่แค่นักฆ่าทั่วๆ ไป

นางผู้นี้ต้องการให้เขาช่วย ดูท่าคงคิดให้เขาตายเพื่อถ่วงเวลาให้เป็นแน่

แม้ว่าเย่หยวนนั้นจะเป็นคนใจกว้างชอบช่วยเหลือคน

แต่เขาก็ไม่ได้โง่เง่าถึงขั้นยอมให้คนอื่นมาใช้ประโยชน์ไปง่ายๆ

เรื่องราวน่าสงสัยเช่นนี้ เขาย่อมจะไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย

ได้เห็นเย่หยวนไม่คิดตอบรับและจะเดินหนีไปเสียงนั้นก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง “นายท่านเข้าใจผิดแล้ว!

มันมีมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ตามล่าข้ามาจริงๆ แต่พวกนั้นถูกข้าหลอกให้ตามไปผิดทิศ ตอนนี้คนที่ตามข้ามาจริงๆ มีแค่มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ห้าคนเท่านั้น! ตราบเท่าที่นายท่านช่วยข้าหยุดพวกมันไว้ข้าก็ย่อมจะเกิดใหม่ขึ้นจากเถ้าได้แน่! หยดแก่นเลือดนี้มันถือเป็นของมัดจำไว้ หลังจากสิ้นเรื่องราวแล้วข้าจะตอบแทนท่านแน่นอน!”

พูดจบนางหงส์แดงผู้นั้นก็รีดแก่นเลือดของตัวเองออกมาให้แก่เย่หยวน

คลื่นพลังรุนแรงล้ำฟ้าปะทะเข้าเต็มหน้าเย่หยวน!

เย่หยวนต้องเบิกตากว้างเพราะว่านี่มันคือแก่นเลือดระดับสวรรค์แห้ง!

หงส์แดงนางนี้กลับมีสายเลือดที่ทรงพลังล้ำ!

แค่ใช้แก่นเลือดนี้เป็นของตอบแทนนั้นมันก็ถือว่าเป็นสิ่งล้ำค่ามากแล้ว

หากนับกันในหมู่สายเลือดหลังกำเนิดนั้นระดับสวรรค์แห้งถือว่าเป็นระดับที่สูงส่งที่สุด!

สำหรับภูตแท้แล้วการบรรลุพัฒนาสายเลือดนั้นเรียกได้ว่ายากเย็นเสียยิ่งกว่าการบรรลุอาณาจักรบ่มเพาะด้วยซ้ำ

เจ้าโลกภูตแท้หลายๆ คนนั้นยังมีสายเลือดแค่ระดับขยายปฐพีเพียงเท่านั้น

ระดับสวรรค์แห้งนั้นมันเป็นอะไรที่หาได้ยากยิ่ง!

แน่นอนว่าเหนือจากระดับสวรรค์แห้งไปมันยังมีสายเลือดระดับโกลาหลอยู่

แต่ว่าสำหรับพวกหลังกำเนิดนั้นมันไม่มีทางใดที่จะก้าวขึ้นไปถึงสายเลือดระดับโกลาหลได้

มีเพียงแค่ภูตแท้โกลาหลก่อนกำเนิดอย่างหมี่เทียนเท่านั้นที่จะมีสายเลือดระดับโกลาหลได้!

และทักษะเทวาภายในบางอย่างมันก็มีแต่สายเลือดระดับโกลาหลเท่านั้นที่สามารถใช้ออกมาได้

นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมหมี่เทียนถึงได้ทรงพลังนัก!

เย่หยวนนั้นบรรลุมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ขึ้นมาพร้อมด้วยความเข้าใจต่อคลื่นกำเนิดเลือดโกลาหลนั้นย่อมทำให้เขาสามารถพัฒนาบรรลุระดับเทพศึกขึ้นมาสู่ระดับขยายปฐพีได้

แต่ว่าหงส์แดงผู้นี้ที่เป็นแค่มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์เช่นกันกลับมีสายเลือดระดับสวรรค์แห้ง

มันชัดเจนเลยว่านางนั้นคงเป็นคุณหนูชั้นสูงของเผ่าหงส์แดงแน่แล้ว!