Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2982 ความสามารถอันน่ากลัวของชีหยู!
“สองร้อยปีที่ผ่านมานี้มันมีศึกเกิดขึ้นนับพันๆ ครั้งและเขาไม่เคยพ่ายให้ใครแม้สักครั้ง! เขานั้นเติบโตขึ้นมาจากเด็กน้อยที่ไม่มีใครสนใจจนกลายเป็นหนึ่งในคนที่ไม่มีใครกล้าประมาท! แน่นอนว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดของเด็กคนนี้มันมิใช่เรื่องชัยชนะติดต่อกันนั้นแต่เป็นเรื่องทักษะการเรียนรู้ของเขาต่างหาก! ผ่านศึกไปแต่ละครั้งนั้นตัวเขาจะพัฒนาขึ้นจนน่ากลัว”
“เจ้าอย่าได้มองว่าเขานั้นแค่อยู่ในอันดับที่ยี่สิบเอ็ด เพราะตอนนี้แม้แต่คนที่อันดับสูงกว่าเขานั้นก็ยังเกรงกลัวเขาคนนี้ไปท้าทายอย่างมาก! เจ้าเด็กคนนี้มันมีชะตาที่จะก้าวขึ้นเป็นใหญ่เหนือคน! ในวันหน้าไม่ว่าเขาจะได้ไปเกาะมังกรสวรรค์หรือไม่เขาก็ย่อมจะต้องบรรลุเจ้าโลกได้แน่นอน! เพราะฉะนั้นคนที่เจ้าคิดสนใจนี้มันย่อมไม่มีโอกาสชนะได้เลย!”
ผู้ใหญ่นั้นกล่าวขึ้นมาราวกับว่าชีหยูนั้นคือสมบัติล้ำค่าของเขา
แต่ว่าสิ่งที่เขาพูดมานั้นมันก็น่ากลัวจริงๆ
ชีหยูนั้นผงาดขึ้นมาได้อย่างน่ากลัวยิ่ง
เขานั้นไม่ได้เป็นยอดอัจฉริยะตามแบบแผนปกติและเป็นตัวตนที่น่ากลัวอย่างมาก
ผงาดขึ้นมาด้วยการท้าทายโลกจนมีฝีมือในระดับที่เห็นตรงหน้านี้ มันคงเรียกได้ว่าชีหยูคนนี้คือปาฏิหาริย์
เฟิ่งชิงซวนนั้นเองก็ต้องทำหน้าเครียดออกมาไม่นึกฝันว่าคนที่เย่หยวนไปท้าทายมันจะเป็นยอดคนเช่นนั้น
นี่มัน…หาเรื่องใส่ตัวชัดๆ!
ตูม!
ราวกับว่าเย่หยวนอยากจะยืนยันความคิดของเฟิ่งชิงซวน ในตอนนี้ร่างของเย่หยวนมันถูกชีหยูต่อยร่วงจมดินไป
ภาพนี้มันดูเหมือนศึกก่อนหน้าอย่างมาก
เพราะเดิมทีในศึกก่อนเย่หยวนก็ไล่ต่อยต้าอี้จนเอาไม่มีแรงต่อสู้กลับเช่นนี้
แต่ตอนนี้มันกลับเป็นฝ่ายชีหยูแทนที่กำลังไล่บี้เย่หยวนจนเขาไม่อาจจะตอบโต้ใดๆ กลับไปได้
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้เย่หยวนเรียกได้ว่าแทบไม่มีโอกาสจะตอบโต้กลับไป
ชีหยูคนนี้เก่งกาจรอบด้านอย่างมาก
คนเผ่ากรุงมังกรนั้นต่างโห่ร้องกันขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น!
“ท่านชีหยูเก่งกาจนัก!”
“เก่ง! เก่งกาจ! เก่งแท้ๆ! ท่านชีหยูนั้นเป็นตัวตนที่ไร้เทียมทานอย่างแท้จริง!”
“ข้ายอมรับนะว่าเจ้าเด็กนี่มันเก่งกาจล้ำแต่ว่ามันก็คงเป็นได้แค่หินให้ท่านชีหยูได้เหยียบก้าวผ่านไปเท่านั้น!”
“ชัยชนะต่อเนื่องนับพันๆ ศึก! เจ้าเด็กนี่มันคิดว่าตัวเองเป็นใครกล้ามาท้าทายท่านชีหยู?”
…
ชาวเผ่ากรุงมังกรที่พ่ายให้แก่เย่หยวนสองครั้งติดนั้นรู้สึกเสียหน้าอย่างมาก
แต่โชคยังดีที่พวกเขานั้นมีชีหยู!
มีเขาคนนี้อยู่แล้วมันย่อมจะไม่มีทางแพ้!
“หนามดิน!”
เสียงโห่ร้องใดๆ นั้นมันไม่ได้ทำให้ชีหยูเสียสมาธิแม้แต่น้อย
เขานั้นชี้นิ้วออกมาด้วยพลังห้วงมิติอีกครั้งหนึ่ง
จากนั้นมันก็ปรากฏหนามแหลมพุ่งขึ้นมาจากแผ่นดิน
เย่หยวนที่ถูกต่อยนั้นกำลังปลิวร่วงลงดินหากถูกหนามนี้แทงเข้าแล้วร่างของเขาคงพรุนแน่
“ทลายมิติ!”
เย่หยวนจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องใช้มันออกมาอีกครั้ง
เขานั้นใช้แรงสะท้อนจากทลายมิติเพื่อส่งตัวเองหลบหนามด้านล่าง
แต่วินาทีต่อมาชีหยูก็พุ่งมาดักหลังเขาไว้!
“ทลายมิติ!”
ชีหยูร้องลั่นออกมาพร้อมต่อยหมัดแบบเดียวกับเย่หยวนใส่ตัวเย่หยวน!
ห้วงมิติพังทลายลง!
พร้อมกันนั้นคลื่นกระแสมิติรุนแรงมันก็กลืนกินเย่หยวนเข้าไป
เย่หยวนนั้นตกตะลึงอย่างสุดหัวใจ แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาคิดให้มากใช้ทลายมิติออกมาลบล้างพลังของมันไป
ตูม!
ห้วงมิติสั่นไหวพร้อมร่างของเย่หยวนที่ปลิวออกมาแต่ตัวชีหยูนั้นกลับไม่ขยับแม้แต่น้อย
ชีหยูมองหน้าเย่หยวนและกล่าวขึ้นมา “ที่แท้กฎแห่งห้วงมิติยังใช้งานเช่นนี้ได้ เจ้าทำให้ข้าได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ! ขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยให้ข้าเข้าใจกฎแห่งห้วงมิติได้ลึกซึ้งขึ้น!”
ตอนนี้ร่างของเย่หยวนมันมีแต่แผลเต็มไปหมด
เขานั้นไม่อาจจะชิงความได้เปรียบมาได้แม้แต่น้อย
หรือจะบอกว่าเขานั้นได้แต่ต้องตั้งรับดี?
เขานั้นไม่คิดเช่นกันว่าชีหยูจะเก่งกาจได้ขนาดนี้!
และที่น่ากลัวที่สุดนั้นมันก็คือความสามารถในการเรียนรู้ของอีกฝ่ายที่เหนือล้ำอย่างมาก
ในศึกนี้ตัวเขากลับสามารถเรียนรู้ทลายมิติไปได้!
ทลายมิตินั้นมันย่อมจะเป็นกระบวนท่าของหมี่เทียน
หากพูดถึงคลื่นกำเนิดห้วงมิตินั้นมันคงไม่มีใครสามารถเทียบเคียงกับหมี่เทียนคนนี้ได้
หมี่เทียนนั้นมันคือชื่อตัวของเขา
ชื่อฉายาของเขาตอนเป็นเจ้าโลกนั้นคือเจ้าโลกคงเจียนราชันห้วงมิติ!
บนสวรรค์ทั้งหลายนั้นเจ้าโลกย่อมจะมีมากมาย คนที่ศึกษาห้วงมิติเองมันก็ย่อมจะไม่ได้มีแค่ตัวหมี่เทียน
แต่ว่ามีเพียงแค่หมี่เทียนเท่านั้นที่ได้ฉายาว่าเป็นราชันห้วงมิติ!
ไม่ต้องถามเลยว่าเขานั้นมีเต๋านี้ที่สูงส่งแค่ไหน
ทลายมิตินี้มันเป็นหนึ่งในไม้ตายของเย่หยวนที่ได้รับมาจากหมี่เทียน ทรงพลังอย่างมากล้น
แต่เขาก็ไม่นึกฝันว่าชีหยูคนนี้กลับจะสามารถลอกเลียนมันไปได้ระหว่างต่อสู้
ศัตรูเช่นนี้มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเจอ
เย่หยวนนั้นมั่นใจในตัวเองอย่างมาก
เขานั้นไม่ได้หลงตัวเองแต่ก็ไม่เคยด้อยค่าตัวเอง
เย่หยวนรู้ดีว่าพรสวรรค์ของตัวเองนั้นมันเหนือล้ำคนทั้งหลายไป
เพียงแค่ว่าเขาก็ไม่นึกฝันว่าวันนี้ตัวเองกลับจะได้มาเจอคนเช่นนี้ในเผ่ากรุงมังกร
แน่นอนว่าเขาย่อมจะสามารถสร้างข้ออ้างได้ร้อยแปดเช่นเรื่องพลังบ่มเพาะของเขาที่ต่ำกว่าศัตรู
หรือเรื่องที่ว่าเขาต้องต่อสู้ติดๆ กัน
แต่เย่หยวนนั้นมิใช่ต้าอี้ เขาย่อมจะไม่คิดหาข้อแก้ตัวให้ตัวเอง
เขานั้นยอมรับเลยว่าฝีมือของเขาในตอนนี้มันด้อยกว่าชีหยู!
ที่สำคัญไปกว่านั้นเย่หยวนยังรู้สึกได้ว่าชีหยูคนนี้แข็งแกร่งขึ้นกว่าตอนก่อนเริ่มสู้กันอย่างมากด้วย!
เขาคนนี้เกิดมาเพื่อต่อสู้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เจอศัตรูอย่างเย่หยวนนี้ เขาย่อมจะสามารถใช้ความสามารถออกมาได้อย่างถึงที่สุด
ชีหยูนั้นต่อสู้เหมือนเล่นหมากรุก
เจ้าคิดได้สามตาต่อจากนี้แต่อีกฝ่ายนั้นคิดไปได้สิบตา
การคาดเดาและใช้งานแผนที่วางไว้นั้นมันเรียกได้ว่าเฉียบคมถึงที่สุด
นี่เป็นครั้งแรกที่เย่หยวนรู้สึกสิ้นหวัง!
“ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก! ข้านั้นยังมีอีกหลายกระบวนท่านัก เจ้าศึกษาต่อไปเถอะ!” เย่หยวนกล่าวขึ้น
“เช่นนั้นข้าคงต้องขอดูเสียหน่อยแล้ว! ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะเป็นศัตรูที่เหนือล้ำเช่นนี้!” ชีหยูกล่าวตอบกลับไป
จนถึงตอนนี้ชีหยูก็ยังไม่แสดงความยินดียินร้ายใดๆ ออกมา
เขานั้นไม่คิดเหลิงเพราะตัวเองกำลังได้เปรียบและไม่ดีใจที่ได้เรียนรู้วิชาห้วงมิติอันใหม่นี้ขึ้นมา
ทุกสิ่งอย่างนั้นมันเหมือนราวกับมิใช่เรื่องของตัวเอง
เรื่องนี้ต้องยอมรับเลยว่ามันเป็นปัญหาไม่น้อย
“ปราบโลกา!”
เย่หยวนต่อยหมัดออกมาจนทำให้ห้วงมิติสั่นไหว
คลื่นพลังรุนแรงนั้นมันขยายใหญ่ขึ้นในทุกๆ ระยะของห้วงมิติ
เรื่องนี้ทำให้แม้แต่ชีหยูยังต้องเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง
มันราวกับสายตาของฉลามที่ได้กลิ่นเลือด
เย่หยวนนั้นได้เปิดหูเปิดตาเขาอย่างกว้างล้ำ
“โอ้!”
เสียงโห่ร้องดังขึ้นมาจากรอบด้าน
ดูท่าแล้วคนทั้งหลายเองก็คงสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของมันนี้
“ทลายมิติ!”
ชีหยูนั้นใช้กระบวนท่าเดิมออกมาซ้ำ
ตูม!
คลื่นพลังงานรุนแรงนั้นส่งร่างของทั้งสองปลิวออกจากกัน
แต่ชีหยูนั้นกลับยิ่งเบิกตากว้างอย่างตื่นเต้น
เพราะเย่หยวนนั้นได้เปิดประตูบานใหม่ให้แก่เขา
“เก่ง! เก่งดีจริงๆ! เจ้ามันทำให้เลือดข้าเดือดขึ้นมาแล้ว!” ชีหยูกล่าวขึ้นอย่างตื่นเต้น
“ฮ่าๆ เห็นไหม? นี่คือชีหยู! ไม่ว่าเจ้าจะเก่งแค่ไหนมันก็ไร้ค่าหากสังหารเขาลงไม่ได้ในกระบวนท่าเดียว
และเขานั้นก็จะพัฒนาตัวเองไประหว่างสู้เรื่อยๆ! ศัตรูที่เขาเคยไปท้าทายนั้นเดิมทีต่างแข็งแกร่งกว่าเขาสิ้นแต่สุดท้ายก็ไม่มีใครเอาชนะเขาได้! เขาคนนี้เกิดมาเพื่อสู้!”
“เจ้าเด็กนามเย่หยวนคนนี้มันมีความเข้าใจต่อกฎแห่งห้วงมิติอย่างลึกล้ำนัก ทลายมิติและปราบโลกา
สองกระบวนท่านี้มันทรงพลังจนน่ากลัว แต่ชีหยูนั้นยิ่งสู้จะยิ่งเก่ง! ศัตรูทุกคนของเขาต่างสิ้นหวังเพราะเรื่องนี้!”
ผู้ใหญ่คนนั้นยิ้มกว้างขึ้น
เฟิ่งชิงซวนเองก็ได้แต่ต้องยืนเงียบ
เย่หยวนนั้นมีฝีมือที่เหนือล้ำกว่าที่นางคาดไปจนนางไม่รู้จะพูดอะไร
ไม่ว่าจะเป็นทลายมิติหรือว่าปราบโลกานั้นมันต่างเป็นกระบวนท่าที่ทรงพลังจนทำให้ศัตรูสิ้นหวัง
แต่ว่าต่อหน้าชีหยูแล้ว คนที่ใช้กระบวนท่าทั้งหลายนั้นออกมาต่างหากที่จะกลายเป็นฝ่ายสิ้นหวัง!