Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2991 เจ้ามิใช่สัตว์ประหลาด!
ตอนที่ 2991 เจ้ามิใช่สัตว์ประหลาด!
เรื่องนี้มันก็เป็นความท้าทายที่ใหญ่หลวงของเย่หยวนเช่นกัน
เขานั้นไม่มีความมั่นใจแม้แต่น้อยว่าตัวเองจะสามารถรอดชีวิตจากเงื้อมมือของจ้าวเยว่ได้
ถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็ยังเห็นได้ถึงความทุกข์ทรมานในดวงตาของจ้าวเยว่
แต่อีกฝ่ายนั้นเป็นถึงเจ้าโลก!
ไม่ไกลออกไปพวกหลงยี่และคนอื่นๆ นั้นได้แต่ยืนกลัวขาสั่นกลืนน้ำลายกันจนปากแห้ง
“หลังจากข้าเข้าไปแล้วพวกเจ้าปิดค่ายกลเสีย หากข้าตายพวกเจ้าค่อยหนีไปให้ไกลสุดแรง ไปไกลได้เท่าไหร่ยิ่งดี” เย่หยวนกล่าวขึ้น
แม้ว่าเขารู้ดีว่าทำเช่นนั้นแล้วโอกาสที่จะรอดกลับออกไปมันช่างริบหรี่แต่ก็ยังดีกว่านั่งรอความฉิบหายเฉยๆ
นอกคุกน้ำนั้นมันมีคันโยกควบคุมค่ายกลอยู่ ทำให้ผู้คุมสามารถเปิดปิดมันได้ดั่งใจ
กรงขังนี้มันถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ แม้จะเป็นเย่หยวนเองก็ไม่มีปัญญาจะผ่านมันเข้าไปได้ มีแต่ต้องปิดใช้งานมันชั่วขณะในระหว่างที่เข้าไป ให้พวกชีหยูดูแลคันโยกเปิดปิดนั้น
“เย่หยวน ไม่ได้! เราบุกออกไปทั้งอย่างนี้เถอะ! นี่มันอันตรายเกินไป!” ชีหยูกล่าวขึ้น
แม้ว่าพวกเขาทั้งหลายนั้นจะกลัวกันจนขาสั่นแต่พวกเขาก็ยังรู้สึกซาบซึ้งสุดใจ
เย่หยวนนั้นกลับยอมเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อเปิดหนทางรอดให้แก่พวกเขาทั้งหลาย!
พวกเขานั้นสัมผัสได้ชัดเจนว่าจ้าวเยว่นั้นแข็งแกร่งอย่างมาก
หลังปิดค่ายกลแล้วเขาออกมาได้ความหายนะที่จะเกิดขึ้นตามนั้นมันคงเหนือล้ำจินตนาการ
แต่การปล่อยให้เย่หยวนเข้าไปภายในเพียงแค่คนเดียวนั้นมันย่อมจะไม่ต่างอะไรจากการรนหาที่ตาย!
มันมิใช่ว่าเย่หยวนนั้นอยากจะเล่นเป็นวีรบุรุษไม่สนใจชีวิตตัวเอง
แต่ว่าเรื่องนี้มันต้องเป็นเขาเองเท่านั้น!
เพราะมีแค่เขาที่มีโอกาสทำสำเร็จ
หากคนอื่นๆ เข้าไปลองแล้วมันคงมีแต่ความตายอย่างไร้ความหมายเกิดขึ้นแน่นอน
แน่นอนว่าเขาเองก็ไม่คิดยอมแพ้ในใจ!
เขานั้นยังไม่ยอมจะตายลงเช่นนี้
ทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์และเฉียหวูนั้นได้สร้างบาปไว้มากมายเกินกว่าที่เขาจะยอมปล่อยมันผ่านไปได้
จิตใจของเย่หยวนในตอนนี้มันเปี่ยมล้นไปด้วยจิตสังหารอย่างไม่เคยมีมาก่อน
เย่หยวนส่ายหัวตอบกลับไป “เราบุกฝ่าออกไปไม่ได้ เปิด!”
เฟิ่งชิงซวนนั้นไม่พูดอะไรตอบกลับไปมองดูแผ่นหลังของเย่หยวนด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
เป็นคนดีอะไรเช่นนี้!
คนอื่นนั้นไม่รู้แต่เฟิ่งชิงซวนนั้นติดตามเย่หยวนมาสองปีกว่าและย่อมจะรู้ดีว่าหากเขาบุกออกไปจากคุกน้ำนี้ตัวเขาคนเดียวย่อมจะมีโอกาสหนีออกไปได้สูงมาก
เพราะเจ้าบ้านี่มันมีไพ่ตายซ่อนไว้มาก!
แต่เขานั้นกลับไม่หนี!
เขากลับเลือกที่จะเข้าไปเสี่ยงชีวิต
พริบตาเดียวกันที่ค่ายกลเปิดออกนั้นเย่หยวนก็พุ่งเข้าไปในคุกอย่างรวดเร็ว
ชีหยูเตรียมสับคันโยกลงเพื่อเปิดใช้งานค่ายกลขังสัตว์ร้ายนี้ไว้อีกครั้ง
แต่เฟิ่งชิงซวนนั้นกลับตบซัดหน้าเขาจนปลิว
“เฟิ่งชิงซวน เจ้าทำอะไรของเจ้า!” หลงยี่ร้องขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
“ไม่ว่าจะอย่างไรเราก็ออกไปไม่ได้อยู่แล้ว ก็ตายไปด้วยกันตรงนี้เถอะ! เย่หยวนนั้นกล้าจะเสี่ยงเดิมพันชีวิตตัวเอง พวกเจ้ากลับจะมองดูเขาจากหลังกำแพงอย่างขี้ขลาดหรือ?” เฟิ่งชิงซวนกล่าวขึ้น
คนทั้งหลายที่ได้ยินนั้นต้องก้มหัวลงอย่างอับอายทันที
“โฮ่ก!”
เมื่อค่ายกลเปิดออกจ้าวเยว่ก็ร้องลั่นขึ้นมาจนอากาศสั่นสะเทือน
เย่หยวนนั้นสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลที่ปกคลุมฟ้าดินพุ่งเข้ามาปะทะใส่ร่างกาย
รูขุมขนของเย่หยวนนั้นมันเปิดออกด้วยแรงจากภายใน
นี่มันคือความรู้สึกเมื่อต้องปะทะกับเจ้าโลกตรงๆ มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้คนอยากตาย
เพราะนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เย่หยวนต้องเผชิญหน้ากับตัวตนระดับนี้ตรงๆ
เขานั้นเคยเห็นเจ้าโลกมากมายมาก่อนก็จริง แต่คนระดับนี้เขายังไม่เคยได้พบเห็น
ในตอนนี้ไม่ว่าจะทำอะไรมันก็ช่างดูไร้ค่า!
จ้าวเยว่นั้นแข็งแกร่ง!
พลังเช่นนี้มันคือพลังแห่งความดิบเถื่อน ราวกับว่าเขานั้นเพิ่งก้าวออกมาจากยุคหิน
ฟุบ!
พริบตาเดียวกันนั้นจ้าวเยว่ก็พุ่งตัวเข้ามาใส่เย่หยวน
แต่ก่อนที่จ้าวเยว่จะทันเข้ามาถึงร่างของเย่หยวนมันก็ถูกแรงลมจากตัวจ้าวเยว่นั้นซัดจนบาดเจ็บภายใน
จ้าวเยว่ยกมือขึ้นกางกรงเล็บออก ตราบเท่าที่กรงเล็บนี้ปะทะเข้ากับร่างของเย่หยวนต่อให้เย่หยวนจะมีชีวิตอีกนับสิบมันก็คงไม่พอจะรอดออกไป
ความตายมาเยือนตรงหน้า!
“เจ้ามิใช่สัตว์ประหลาด!” เย่หยวนร้องสุดเสียงไปเพื่อกล่าวประโยคนี้ออกมา
ปัง!
ร่างของเย่หยวนปลิวออกไปอย่างไม่อาจต้านทานกระแทกเข้ากับค่ายกลของกรงขัง
“อ่อก!”
เย่หยวนนั้นสัมผัสได้ว่าเครื่องในของตนมันสลับที่ทางกันไปหมดจนต้องกระอักเลือดออกมา
แต่โชคยังดีที่เขานั้นรอดชีวิตมาได้
เฟิ่งชิงซวนและพวกนั้นต่างยืนหน้าซีดตัวสั่น
“เย่หยวน เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?” เฟิ่งชิงซวนนั้นกำลังจะพุ่งตัวเข้ามา
“อย่าเข้ามา! ข้า…ยังไม่ตายหรอก!” เย่หยวนกล่าวพร้อมค่อยๆ พยุงตัวขึ้นยืน
“โฮ่ก!”
เสียงคำรามดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับตัวจ้าวเยว่ที่ก้าวออกมาจากกรง
เสือร้ายมันได้หลุดจากกรงขังแล้ว!
จ้าวเยว่นั้นมองดูเย่หยวนอย่างไม่วางตา
“น…นั่นมันพลังคลื่นกำเนิดหรือ?” หลงยี่ร้องขึ้นอย่างตกตะลึง
ชีหยูพยักหน้ารับ “ไม่ผิดแน่ มันเป็นคลื่นกำเนิดเลือด! ที่สำคัญมันยังเป็นคลื่นพลังที่แตกต่างจากของเจ้าโลกเฉียหวู! คลื่นกำเนิดเลือดในร่างของเย่หยวนมันดูบริสุทธิ์…และสูงส่งกว่า!”
หลงยี่ร้องขึ้นมาอย่างตกตะลึง “มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์กลับสำเร็จคลื่นกำเนิดได้…จ…เจ้าบ้านี่มันจะมีไพ่ตายมากเกินไปแล้วหรือไม่!”
ชีหยูเองก็ได้แต่ต้องกล่าวขึ้นมาอย่างอับอาย “เจ้าดูสภาพที่เขาท้าขุนเขาเถอะ เขานั้นไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมดที่มีออกมาเลย! วรยุทธที่เขาใช้ออกมาทั้งหมดนั้นมันล้วนแล้วแต่เป็นวรยุทธเผ่ามังกร! ฝีมือที่แท้จริงของพี่เย่นั้นมันคงเหนือล้ำกว่าที่เราเห็นนี้ไปหลายเท่า!”
การที่เย่หยวนรอดชีวิตมาได้นั้นมันเพราะว่าเจ้าโลกเกิดลังเลที่จะสังหารขึ้นมา?
ไม่มีทาง!
ที่จ้าวเยว่ลังเลนั้นมันมิใช่เพราะกลัวการสังหารแต่เป็นเพราะคลื่นกำเนิดเลือดจากร่างของเย่หยวน!
แน่นอนว่าคำพูด ‘เจ้ามิใช่สัตว์ประหลาด’ นั้นมันก็แทงเข้าไปในจิตใจของจ้าวเยว่เช่นกัน
ตัวเขานั้นแม้จะแทบไม่เหลือสติสัมปชัญญะใดๆ แล้วแต่มันก็ยังมีความเป็นมนุษย์อยู่บ้าง
ความทรมาน ความทุกข์ที่เกิดขึ้นในจิตใจของเขานั้นมันเกิดขึ้นมาเพราะอะไร?
เพราะว่าคนอื่นๆ มองเขาเป็นสัตว์ประหลาด!
หากเขานั้นสิ้นสติสิ้นเชิงไปแล้วคำพูดของเย่หยวนมันย่อมจะไม่มีทางทำให้เขายั้งมือลงได้
แต่ตราบเท่าที่เขานั้นยังมีสติหลงเหลืออยู่ในส่วนลึกของจิตใจ
คำพูดประโยคนี้ของเย่หยวนมันก็จะทรงพลังขึ้นมาทันที!
พร้อมๆ กันนั้นเย่หยวนก็ได้ใช้คลื่นกำเนิดเลือดในร่างส่งมันเข้าไปให้ถึงจ้าวเยว่
ในร่างกายของเขานั้นมันมีสายเลือดภูตแท้มากมายปะทะทำสงครามกันอยู่
แต่พลังคลื่นกำเนิดเลือดนั้นสามารถทำให้มันสงบลงได้!
เย่หยวนนั้นต้องการจะบอกเขา ‘ข้าทำให้เจ้าไม่ต้องทุกข์ทรมานได้!’
มันคือการให้ความหวัง!
เมื่อสองเรื่องนี้มาผสานกันแล้วจ้าวเยว่จึงยั้งมือไว้ในวินาทีสุดท้าย
แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยังมีสภาพเป็นแค่สัตว์ร้าย!
เย่หยวนจึงถูกซัดไปเกือบสิ้นใจลง
“โฮ่ก! โฮ่ก!”
คุกใต้น้ำนี้สั่นสะท้านจนแทบจะพังทลายลง
จ้าวเยว่นั้นร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดสุดหัวใจ!
เย่หยวนนั้นลากร่างบาดเจ็บของตัวเองเข้าไปใกล้จ้าวเยว่
“เจ้ามิใช่สัตว์ประหลาด! เจ้าเป็นคนเหมือนกับข้านี้!”
“โฮ่ก!”
จ้าวเยว่นั้นร้องลั่นขึ้นพร้อมซัดพลังใส่ร่างเย่หยวนจนปลิวอีกครั้ง
สภาพของเย่หยวนในตอนนี้มันไม่น่าดูแม้แต่น้อย
ร่างกายของเขามีแต่บาดแผล แต่เขาก็ยังคงฝืนตัวลุกขึ้นเดินเข้ามาหาจ้าวเยว่อีกครั้ง
ตอนนี้พวกเฟิ่งชิงซวนที่ได้เห็นนั้นแทบจะลืมหายใจไปแล้ว
นี่มันล้อเล่นกับความตาย!
หากจ้าวเยว่คิดอยากสังหารเย่หยวนนั้นมันคงง่ายเสียยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ
“เจ้ามิใช่สัตว์ประหลาด! หากแม้แต่ตัวเจ้าเองยังยอมแพ้แล้วใครจะยังช่วยเจ้าได้อีก!”
“เจ้าไม่ยอมรับมิใช่หรือ? เจ้าคิดจะปล่อยให้คนที่มันทำให้เจ้ากลายเป็นเช่นนี้หลุดรอดลอยนวลไปหรือ?”
“โฮ่ก!”
คลื่นลมรุนแรงซัดใส่ร่างของเย่หยวนอีกครั้งจนไปกระแทกเข้ากับกรงจนได้ยินเสียงกระดูกแตก
หากเป็นคนอื่นนั้นมันย่อมจะไม่มีทางลุกขึ้นมายืนได้อีกแล้ว
แต่เย่หยวนยังไม่ยอมแพ้
เขานั้นลุกขึ้นเดินกลับมาหาจ้าวเยว่อีกครั้ง แต่ละคำพูดของเขานั้นมันกล่าวออกมาจากใจ
เขานั้นเห็นถึงความทุกข์ทรมานในใจของจ้าวเยว่ และเห็นถึงความเจ็บปวดของคนที่มีสภาพเดียวกับจ้าวเยว่อีกมากมายมาแล้ว
เทียบกับคนทั้งหลายนั้นแล้ว บางทีจ้าวเยว่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นคนโชคดี
เพราะอย่างน้อยเขาก็รอดชีวิตมาได้
“เจ้านั้นกำลังเจ็บปวดทรมานทนรับความเจ็บปวดที่คนอื่นๆ ไม่อาจทนได้ เจ้าคิดจะยอมแพ้มันง่ายๆ เช่นนี้?”
“ไม่ว่าเจ้าจะกลายเป็นอะไร ตราบเท่าที่จิตใจของเจ้าไม่เปลี่ยนแปลงเจ้าก็ยังเป็นคน!” เย่หยวนมองหน้าจ้าวเยว่และกล่าวขึ้นด้วยความจริงใจ
เฟิ่งชิงซวน หลงยี่ และพวกนั้นต่างแทบไม่อาจกลั้นน้ำตาได้เช่นกัน
เพราะว่าพวกเขานั้นสัมผัสได้ถึงความจริงใจของเย่หยวน!
มันมิใช่ว่าเขาแค่อยากจะใช้งานจ้าวเยว่ แต่เขานั้นคิดอยากช่วยเหลือสัตว์ร้ายผู้นี้จริงๆ!
พวกเขานั้นได้แต่ต้องยอมรับเพราะหากเป็นตัวเองแล้วพวกเขาคงไม่อาจทำมันได้แน่
สัตว์ประหลาดเช่นนี้แต่ดูก็ขนลุกขนพองแล้ว
และจ้าวเยว่นั้นเหมือนว่าจะสัมผัสได้ถึงความจริงใจของเย่หยวนเช่นกัน
รอบนี้เขาไม่ได้โจมตีสวนกลับออกมาแล้ว
“เชื่อข้าเถอะ ข้าสามารถทำให้เจ้ากลับไปมีสภาพเดิมได้แน่นอน!”
เย่หยวนเดินไปหยุดตรงหน้าจ้าวเยว่และลูบหัวของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน
เฟิ่งชิงซวนนั้นได้แต่ต้องเบิกตากว้างค้าง เพราะจ้าวเยว่นั้นกลับไม่ตอบโต้อะไรกลับมา!
…………………………