Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 3003 พลิกกลับวรยุทธบ่มเพาะ!
“ไอ้เด็กนี่ทำอะไรของมัน? มัน…มันกลับทำลายร่างวิญญาณหมอกหุ้มของตัวเองและแบ่งจิตศักดิ์สิทธิ์ออกมานับไม่ถ้วน? มันบ้าไปแล้วหรือ?” หลงเจี้ยนร้องลั่นขึ้น
แต่หลงหรานที่ยืนมองอยู่ข้างๆ นั้นต้องยิ้มขึ้นกล่าว “เจ้าสิบ้า! เจ้าเด็กนี่มันได้เข้าใจอะไรบางอย่างตอนที่ได้เห็นคงคานิรันดร์! ในร่างวิญญาณหมอกหุ้มของเขานั้นมันมีเมล็ดคลื่นกำเนิดอยู่มากมายนับไม่ถ้วน เขาคงคิดจะแบ่งจิตของตัวเองออกมาเป็นหมื่นๆ เพื่อให้แต่ละส่วนนั้นได้บ่มเพาะคลื่นกำเนิดนั้นๆ! เมื่อเขาไปถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ขั้นสุดแล้วคลื่นกำเนิดทั้งหลายมันก็จะกลับเป็นหนึ่ง ถึงตอนนั้นเขาอาจจะเป็นคนแรกในรอบหลายล้านปี ผู้บ่มเพาะนอกรีตคนแรกที่ได้บรรลุเจ้าโลก!”
เมื่อหลงเจี้ยนได้ยินเขาก็ต้องอ้าปากค้างไปทันที
เพราะเขานั้นลืมไปว่าเย่หยวนเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีต!
ตั้งแต่บรรพกาลมานั้นมันไม่เคยมีผู้บ่มเพาะนอกรีตคนใดที่บรรลุเจ้าโลกได้แม้แต่คนเดียว
หากไม่มีความคิดที่แปลกแยกมันจะสร้างประวัติศาสตร์ได้อย่างไร?
หลงเจี้ยนนั้นยังไม่ยอมรับและกล่าวขึ้นต่อ “ทำเช่นนี้ไปมันจะต้องเสียพลังไปอย่างมากมายแน่! อย่าว่าแต่เจ้าโลก ข้าว่าแค่มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์เองมันก็คงยังจะไปไม่ถึงด้วยซ้ำ!”
แต่หลงหรานนั้นกลับยิ้มตอบกลับไป “ในเมื่อเจ้าเด็กนี่มันกล้า มันก็ย่อมจะเตรียมตัวไว้แล้ว เจ้าดูไปก่อนเถอะ”
จิตศักดิ์สิทธิ์ถูกแบ่งออกมานับไม่ถ้วนนั้นมันแตกต่างจากการที่เย่หยวนแยกวิญญาณแฝดก่อนหน้านั้นมาก
เพราะการเปลี่ยนจิตออกเป็นนับไม่ถ้วนนั้นมันคือการแยกวิญญาณมนุษย์ของเขาออกเป็นจุดเล็กจุดน้อย
มันจะแยกร่างออกมามากมายจนไม่เหลือพลังใด
แน่นอนว่ามันย่อมต้องมีส่วนที่เสียหายไปด้วยบ้าง
แน่นอนว่าตอนนี้เมื่อเย่หยวนแยกจิตศักดิ์สิทธิ์ออกมานับหมื่นๆ เช่นนั้นแล้วร่างกายของเขาก็ดูผอมซูบ
และพลังบ่มเพาะตกลงไปสองอาณาจักร กลายเป็นแค่จักรพรรดิเซียนไป
แต่วินาทีต่อมามันก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกว่าเก่า
เพราะพลังบ่มเพาะของเย่หยวนมันยังคงตกลงต่อเนื่องไม่หยุดแค่ที่จักรพรรดิเซียน!
หลงเจี้ยนนั้นแทบจะต้องกัดลิ้นตัวเองร้องลั่นขึ้นมา “เจ้าเด็กนี่มันเป็นบ้าอะไรกัน? มัน…มันคิดจะทำลายการบ่มเพาะของตัวเองหรือ?”
ได้เห็นเช่นนี้แม้แต่หลงหรานเองก็ยังผงะ หรือว่าเขาจะสิ้นหวังจนหมดแรงจะอยู่ต่อ?
นอกจากทำลายวิญญาณมนุษย์ของตัวเองลงแล้วเขายังคิดทำลายพลังบ่มเพาะของตัวเองลงด้วย?
หากทำเช่นนี้ต่อไปแล้วเขาจะไม่ตกไปจนถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยเลยหรือ?
“เจ้าเด็กนี่มันสร้างเรื่องได้ดีจริงๆ! นอกจากจะทำให้เรื่องเกาะมังกรเลือดเปิดเผยขึ้นมาแล้วมันยังกล้าไปเย้ยบรรพบุรุษหมี่เจิ้นท่าน แต่ตอนนี้พอเข้าคงคานิรันดร์มามันกลับทำให้สภาพบรรยากาศดูหม่นหมองไปทันที! เจ้าดูหน้าคนทั้งหลายเถอะ ตอนนี้ใครจะยังมีอารมณ์มาศึกษาเต๋าใดๆ อีก? คนหันมาสนใจมันกันหมดสิ้น!” หลงเจี้ยนกล่าวขึ้น
เย่หยวนทำเรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้
มีหรือที่อัจฉริยะทั้งหลายนั้นจะยังมีอารมณ์มาบ่มเพาะศึกษาพลังของคงคานิรันดร์ได้?
ตอนนี้แม้แต่เจ้าโลกทั้งหลายที่เข้ามาเตรียมตัวจะลงคงคานิรันดร์เองก็ยังต้องหยุดตัวลงสิ้น
ไม่ว่าใครจะเข้าคงคานิรันดร์มา
สิ่งแรกที่พวกเขาจะทำนั้นมันคือการดึงพลังโกลาหลขึ้นมาช่วยบรรลุอาณาจักรบ่มเพาะ
แต่เย่หยวนนั้นกลับผิดแปลกคน แยกวิญญาณของตัวเองออกมาจนถึงระดับแตกสลายและทำลายพลังบ่มเพาะของตัวเองลงตาม
ให้ตายเถอะ มันจะบ้าเกินไปแล้ว!
“เจ้าเด็กนี่คิดทำอะไรกันแน่? จิตศักดิ์สิทธิ์ของมันนั้นแตกออกเป็นหมื่นๆ เรื่องนั้นข้ายังพอเข้าใจแต่ทำลายพลังบ่มเพาะของตัวเองนี่เพื่ออะไรกัน?”
“ทำเช่นนี้ต่อไปแล้วมันจะได้กลายเป็นแค่ขยะไร้ค่าแน่!”
“คิดทำลายพลังบ่มเพาะตัวเองในคงคานิรันดร์ เย่หยวนคงเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์แน่ๆ!”
“เฮอะ เจ้าเด็กนี่มันรนหาที่ตายเก่งกาจนัก! วิญญาณเสียหายมากมายและยังมีหน้ามาทำลายอาณาจักรบ่มเพาะตัวเอง มันคงไม่ได้คิดจะบ่มเพาะขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ต้นหรอกนะ?”
“มันคิดจะทำให้คนหันมาสนใจด้วยการสร้างเรื่องหรืออย่างไร? มันคิดจริงๆ หรือว่าตัวเองทำเช่นนี้ได้แล้วคนจะชมว่าเก่ง?”
…
เจ้าโลกมากมายนั้นต่างกล่าวเย้ยหยันวิธีการของเย่หยวน
พวกเขานั้นมีความรู้สูงส่งแค่ไหน?
การกระทำของเย่หยวนนั้นมันเหมือนการกรีดแขนหักขาตัวเองลง
มันเป็นการสร้างความเสียหายให้แก่การบ่มเพาะอย่างไม่มีทางกู้กลับ
เรียกได้ว่าเขานั้นตัดเส้นทางยุทธของตัวเองลง
แต่เย่หยวนไม่อาจจะได้ยินเสียงด่าว่าของใครๆ อีกต่อไปแล้ว
ตอนนี้เขาเข้าสู่สภาวะไร้ตัวตนไม่คิดถึงใครแม้แต่ตัวเอง และความคิดของเขานั้นก็คิดถึงแค่สิ่งตรงหน้า
วรยุทธบ่มเพาะชุดใหม่นั้นมันกำลังถูกสร้างขึ้นในหัวของเย่หยวน
การทำลายพลังบ่มเพาะของตัวเองลงก็ย่อมจะสามารถบ่มเพาะวรยุทธแบบใหม่ได้อย่างไร้ปัญหา!
สวรรค์สัมฤทธิ์ไร้คำนั้นมันเป็นหนึ่งในสุดยอดวรยุทธบ่มเพาะอันทรงพลังของสามสิบสามสวรรค์ก็จริง
แต่หลังจากเย่หยวนเข้าใจต้นกำเนิดของมันแล้วเขาก็ตัดสินใจจะไม่ใช้มันต่อ
เพราะว่านี่มันคือทางตัน ต่อให้จะทรงพลังแค่ไหนมันก็แค่ทางตัน หากยังใช้ต่อไปเย่หยวนก็คงโง่เง่าแล้ว
ตอนที่เขาเพิ่งบรรลุสวรรค์ขึ้นมา เย่หยวนก็ยังไม่เข้าใจสวรรค์เท่าไรนักและเห็นว่าสวรรค์สัมฤทธิ์ไร้คำนั้นเหมือนเป็นวรยุทธจากสวรรค์
แต่ตอนนี้เขาได้เห็นเจ้าโลกมากมายนับไม่ถ้วน นอกจากนั้นเขายังเกือบตายในทะเลคลื่นกำเนิดด้วย
ความรู้ความเข้าใจต่อสวรรค์ของเขาในตอนนี้มันแตกต่างไปจากแต่ก่อนอย่างสิ้นเชิง
เมื่อเข้าคงคานิรันดร์มาได้เขาก็สัมผัสได้ถึงโกลาหลและเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดทันที
สวรรค์สัมฤทธิ์ไร้คำนั้นมันทรงพลังอย่างมาก เย่หยวนไม่คิดปฏิเสธเรื่องนี้
และเพราะว่าเย่หยวนนั้นเข้าใจสวรรค์สัมฤทธิ์ไร้คำอย่างดี
เขาถึงได้สามารถเดินตรงสู่เส้นทางที่ถูกต้องได้อย่างไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก
เหมือนดั่งตอนนี้ที่เขาทำลายพลังบ่มเพาะของตัวเองลงก็เพราะคิดจะพลิกกลับวรยุทธบ่มเพาะ
ในเมื่อเจ้าโลกห้วนต้วนนั้นสร้างวรยุทธบ่มเพาะกลับด้านขึ้นมา เขาก็แค่ต้องกลับมันมาให้เป็นปกติเท่านั้น!
แต่เย่หยวนนั้นก็ได้เสริมความเข้าใจของตัวเองไปในระหว่างนั้น
ทำให้การบ่มเพาะของเขามันสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเก่า
ทำให้เส้นทางในอนาคตของเขาเปิดกว้างขึ้น
ในเวลาหนึ่งเดือนกว่านั้นเย่หยวนก็ตกลงมาถึงอาณาจักรจักรพรรดิหยก
และเมื่อผ่านไปอีกราวเดือนกว่าเย่หยวนก็ตกลงมาถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศ
ครึ่งปีต่อมาเย่หยวนก็ไม่มีคลื่นพลังปราณเทวะใดๆ ในร่างและมีพลังบ่มเพาะเทียบเคียงกับตอนที่เขาเพิ่งบรรลุสวรรค์ขึ้นมาใหม่ๆ
สามปีจากนั้นคนทั้งหลายก็หมดหวังในตัวเย่หยวนไป
เขานั้นได้กลายเป็นแค่ขยะแล้ว
“ฮ่าๆๆ…ข้าได้กลับมาบนเส้นทางยุทธแล้ว! ข้า…ข้ามิใช่แค่ขยะอีกต่อไปแล้ว! ฮือๆ…”
ยอดอัจฉริยะจากแดนตรังค์ตะวันออกคนหนึ่งร้องไห้ขึ้นมา
“ข้าเจอแล้ว! ข้าเจอแล้วจริงๆ! หมื่นปี! ข้าไม่นึกเลยว่าตัวเองจะกลับมาบ่มเพาะได้อีก!”
“ข้าบรรลุแล้ว! พ่อเจ้าเหมือนได้เกิดใหม่ ครั้งนี้จะไม่มีใครขวางการเป็นเจ้าโลกของข้าได้!”
…
ในคงคานิรันดร์นั้นยอดอัจฉริยะจากแดนตรังค์ตะวันออกต่างขึ้นน้ำมาด้วยความตื่นเต้นดีใจพร้อมๆ กัน
ไม่มีอะไรน่าดีใจไปกว่าการกลับขึ้นบนเส้นทางยุทธได้อีกครั้ง
“เรากลับมามีชีวิตสดใสได้เพราะว่าพี่เย่แท้ๆ! ตอนนี้เขาอยู่ไหนแล้ว? นั่น…”
คนทั้งหลายที่นึกย้อนไปถึงเย่หยวนก็อดหันกลับไปมองหาร่างของเย่หยวนบนคงคานิรันดร์ไม่ได้
แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นพวกเขาก็แทบลืมหายใจ
เพราะเย่หยวนนั้นไม่ได้ต่างอะไรจากชาวบ้านธรรมดาแล้ว
“เป็นไปได้อย่างไรกัน? พี่เย่เขา…พิการไปแล้วหรือ?”
“บ้าน่า ทำไมเขาถึงทำลายพลังบ่มเพาะตัวเองเช่นนี้?”
“หรือว่าพี่เย่จะมีแผนอะไร?”
“การเริ่มบ่มเพาะใหม่จากหนึ่งนั้นมันต้องใช้จิตใจที่แข็งแกร่งแค่ไหน? ที่สำคัญไปกว่านั้นการทำลายพลังบ่มเพาะตัวเองลงเช่นนี้มันจะสร้างรอยแผลใหญ่ให้แก่เต๋าของตัวเอง นี่มันเท่ากับว่าเส้นทางของเขานั้นขาดลงแล้ว จะยังมีแผนอะไรได้อีก?”
…
ได้เห็นสภาพน่าสมเพชของเย่หยวนนั้นคนทั้งหลายก็ปวดร้าวขึ้นมาจับใจ
พวกเขานั้นได้ชีวิตใหม่แต่เย่หยวนที่พาพวกเขาออกมาจากนรกกลับพิการไปแทน
นี่มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากจะเห็น
หลงเจี้ยนพยักหน้ารับเมื่อเห็นคนทั้งหลายขึ้นมาจากน้ำ “ผลลัพธ์มันดีกว่าที่คาดไปนัก มันกลับมีคนกว่าห้าร้อยที่หาเส้นทางยุทธของตัวเองเจออีกครั้ง! ดูท่าครั้งนี้จะมียอดอัจฉริยะอยู่มากมายแล้ว! หลังจากเลี้ยงดูให้ดีเราคงได้เจ้าโลกเพิ่มมาอีกหลายคนทีเดียว”
เดิมทีแล้วหลงเจี้ยนนั้นคิดว่าคงมีคนกลับมาบนเส้นทางยุทธได้แค่สองร้อยคนเท่านั้น
แต่ตอนนี้มันกลับมีคนขึ้นมาแล้วกว่าห้าร้อยคน มากกว่าที่เขาคาดเดาไปกว่าเท่าตัวและที่สำคัญตัวเลขนี้มันยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีหยุด เรื่องนี้ทำให้หลงเจี้ยนนั้นยิ้มกว้างขึ้นมา
หลงหรานที่ได้ยินก็ต้องกล่าวขึ้นแทรก “เด็กๆ ทั้งหลายนี้ต่างเป็นยอดอัจฉริยะที่รอดมาจากคุกนรกในเวลากว่าแสนปีได้ มีหรือที่พวกเขาจะเป็นแค่อัจฉริยะธรรมดาทั่วไป? หลงชาและหลงเย่สองคนนั้นมันช่างทำร้ายเผ่ามังกรเราได้หนักหนานัก!”
หลงเจี้ยนพยักหน้ารับ “เจ้าพูดถูก! แต่มันน่าเสียดายเรื่องของเย่หยวนจริงๆ เฮ้อ…”