Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 3106 นายน้อยผู้น่าทึ่ง!
ฟุบ!
ปราณดาบนั้นพุ่งขึ้นฟ้าก่อนจะตามมาด้วยเสียงระเบิดดังลั่น
ประตูแห่งชีวานิรันดร์บานหนึ่งมันเปิดออก พร้อมด้วยพลังงานรุนแรงมหาศาลที่ไหลเข้ามาสู่ร่างกายของโฉปู้ฉุน
พลังศักดิ์สิทธิ์ไหลออกมาราวสายน้ำทำให้คลื่นพลังจากร่างของโฉปู้ฉุนยิ่งใหญ่และทรงพลังขึ้นไปอีกนับเท่าตัว
เขานั้นลอยตัวอยู่กลางอากาศราวกับว่าเขานั้นคือสวรรค์
การกระทำของเขาทุกสิ่งอย่างในเวลานี้มันคือเต๋า!
นี่คือล้ำสวรรค์!
“โฉปู้ฉุนนั้นช่างเก่งกาจล้ำเลิศเสียจริงๆ! เขานั้นกลับเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ได้ด้วยเพียงดาบเดียว!”
“ดาบเดียวบรรลุสามอาณาจักรในตอนนั้นแล้วยังมาตอนนี้ที่ใช้ดาบเดียวเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์อีก! เจ้าโลก ปู้ฉุนนั้นช่างเหมือนดั่งเทพแท้ๆ!”
“หากมิใช่เพราะเกิดมาช้าไปหน่อยแล้วเจ้าโลกปู้ฉุนนั้นคงจะก้าวขึ้นไปถึงระดับของบรรพบุรุษเผ่าเลือดมันแน่ น่าเสียดายจริงๆ!”
…
โฉปู้ฉุนนั้นเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ได้ด้วยดาบเดียวบรรลุสู่อาณาจักรล้ำสวรรค์ไป
นั่นมันทำให้คนทั้งสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
เพราะอาณาจักรล้ำสวรรค์นั้นมันเป็นตัวตนที่แสนๆ ปีจะเกิดขึ้นมาสักคนหรือไม่ยังไม่ทราบได้!
แม้ว่ายอดเจ้าโลกนั้นจะทำลายสามผนึกลงได้…ถึงจะมีกำลังแข็งแกร่งมหาศาลแต่การเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นมันย่อมจะยากกว่าสามผนึกใดๆ สิ้นเชิง!
ยอดฝีมือล้ำสวรรค์นั้นมันมีเพียงแค่หยิบมือบนสวรรค์นี้
สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นเดิมทีไม่มีแม้แต่ยอดเจ้าโลกสักคน ไม่ต้องถามเลยว่าพวกเขาเคยได้เห็นการถือกำเนิดของเจ้าโลกล้ำสวรรค์หรือไม่
สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดในตอนนี้มันมีเจ้าโลกอยู่ถึงหกคน แต่ว่าคนทั้งหกนั้นต่างเป็นคนเผ่าภูติแท้จากสวรรค์อื่นสิ้น
ด้วยโฉปู้ฉุนที่บรรลุขึ้นมานี้มันทำให้สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดมีเจ้าโลกล้ำสวรรค์คนแรกในความเป็นจริงขึ้นมาได้ มันเป็นเรื่องใหญ่แก่จิตใจของคนทั้งหลายมากนัก
เมื่อประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นค่อยๆ จางหายไปร่างกายของโฉปู้ฉุนก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลขึ้น
สภาพของเขาในตอนนี้มันเหมือนเป็นดาบใหญ่ที่ปักลงกลางฟ้าดินทำให้คนทั้งหลายที่ได้เห็นต้องขนลุกตั้งอย่างไม่อาจห้ามตัว
จากนั้นเขาก็พุ่งตัวเข้าไปหาเย่หยวนอีกครั้งหนึ่ง
“ข้าแพ้แล้ว!”
ไม่มีใครคิดว่าหลังจากโฉปู้ฉุนนั้นบรรลุล้ำสวรรค์มาได้แล้วคำแรกที่เขาพูดออกมากลับจะเป็นการยอมแพ้!
คนทั้งหลายที่ได้ยินนั้นต้องผงะไปเพราะว่าการต่อสู้เมื่อครู่นี้มันดูอย่างไรก็เป็นชัยชนะของโฉปู้ฉุนที่สามารถบรรลุอาณาจักรขึ้นมาได้อย่างยิ่งใหญ่
แต่ตอนนี้เขากลับมายอมแพ้หรือ?
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ท่านและข้านั้นต่างยังมีไม้ตายเก็บไว้มากมาย จะมาพูดเรื่องแพ้ชนะกันทำไม?”
โฉปู้ฉุนนั้นส่ายหัวตอบกลับไปด้วยใบหน้าจริงจัง “ดาบแห่งการปกป้องนั้นมันย่อมจะไม่มีทางเปล่งพลังสูงสุดออกมากับคนของตัวเองได้! แต่เมื่อสักครู่นี้ตอนที่เจ้าและข้านั้นต่อสู้กันอย่างสุดตัวโดยไม่ใช้ไม้ตายออกมานั้นข้าสัมผัสได้ถึงพลังของดาบแห่งการปกป้องอย่างชัดเจน! ครึ่งปีที่เข้าสลักเขานี้ เจ้าเป็นผู้ที่ได้บรรลุอย่างแท้จริง!”
เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องหัวเราะ “ในเมื่อท่านรู้อยู่แล้วว่าดาบแห่งการปกป้องของข้าจะไม่มีวันหันคมเข้าหาคนของตนแล้วท่านจะยังหาผู้ชนะไปเพื่ออะไร? ท่านนั้นคือท่าน ข้านั้นคือข้า เต๋าของเรามันแตกต่างกันก็เท่านั้น!”
โฉปู้ฉุนได้ยินเช่นนั้นก็ต้องผงะไปก่อนจะพยักหน้ารับออกมา “ก็จริง มันเป็นข้าเองที่ยึดติดกับความพ่ายแพ้ชัยชนะมากเกินไป เย่หยวน เจ้าจะเอาอย่างไรต่อ?”
เย่หยวนถอนหายใจยาวออกมาก่อนจะมองไปที่เส้นขอบฟ้า “บรรพบุรุษศิลาโลหิตมันนั้นฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วกว่าที่ข้าคิดนัก! ตอนนี้นอกจากว่ามันจะฟื้นคืนกำลังดั่งเดิมแล้วมันยังพัฒนาฝีมือของตัวเองไปได้มากกว่าเก่า ในอีกไม่ถึงสามปีนี้มันคงจุติขึ้นมาได้สมบูรณ์แน่! การต่อสู้ของสามบรรพบุรุษนั้นมันคงเป็นเขาที่จะชนะในที่สุด!”
เมื่อคนทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องโห่ร้องแตกตื่นขึ้น
เพราะสามปีนั้นมันสั้นเกินไป!
สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดตอนนี้มันกำลังพัฒนาขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่ แต่มันก็ยังอยู่ในช่วงแห่งการพัฒนาเท่านั้น
พวกเขานั้นต้องการเวลา!
หมี่เทียนกล่าวขึ้น “ข้านั้นแลกหมัดกับมันเมื่อครู่และสัมผัสได้ว่าพลังของมันเกินกว่าที่คาดคิดไปมากนัก! หากบรรพบุรุษศิลาโลหิตมันจุติขึ้นมาได้จริงๆ แล้วแม้แต่ข้าเองก็คงไม่อาจจะต้านทานมันได้แม้แต่น้อย!”
คนทั้งหลายที่ได้ยินก็ต้องผงะไปด้วยใจสั่น เพราะแม้แต่หมี่เทียนนั้นยังยอมรับว่าตัวเองด้อยกว่านี่มันเท่ากับว่าพวกเขานั้นได้แต่ต้องนั่งรอความตายแล้ว!
ไม่ว่าจะมีเจ้าโลกล้ำสวรรค์มากมายขึ้นแค่ไหนมันก็เปล่าประโยชน์!
พริบตานี้ความสิ้นหวังมันก็ค่อยๆ กัดกินหัวใจผู้คนไป
ความยินดีแห่งชัยชนะใดๆ ก่อนหน้ามันหายไปสิ้น
เย่หยวนตอบกลับหมี่เทียนไป “ผู้อาวุโสหมี่เทียน พี่โฉพวกท่านพานักยุทธสายเลือดทั้งแปดร้อยคนและคนที่เหลือของเรานั้นไปช่วยกอบกู้สวรรค์อื่นๆ เถอะ ได้มากเท่าไหร่ยิ่งดีแต่จำไว้ว่าอย่าบุกลึกเกินไป แม้ว่าเรานั้นจะทรงพลังแต่เผ่าเลือดนั้นมันก็มียอดฝีมือซ่อนตัวอยู่ไม่น้อย! หากพวกมันร่วมมือกันวางแผนดักโจมตีเราแล้วแม้จะเป็นพวกเราเองก็คงรอดกลับมาได้ยาก!”
หมี่เทียนตอบกลับไป “แต่เฒ่าคนนี้สั่งการจ้าวเยว่มันไม่ได้!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “วางใจเถอะ ข้านั้นได้ศึกษามหาค่ายกลโลหิตเมฆาทำให้ได้ความรู้ใหม่มาและน่าจะพอฟื้นคืนสภาพของพวกเขากลับมาได้แล้ว”
หมี่เทียนนั้นเลิกคิ้วขึ้นสูงก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ได้เช่นนั้นก็เยี่ยม!”
โฉปู้ฉุนนั้นกล่าวขึ้นถามต่อ “แล้วตัวเจ้าเองเล่า?”
เย่หยวนตอบกลับไปด้วยหน้าเครียด “หลังจากข้ารักษาพวกเขาแล้วข้าจะขอเก็บตัวเตรียมบรรลุเจ้าโลก!”
หมี่เทียนที่ได้ยินก็ต้องกัดฟันถามไป “เจ้า…มั่นใจแค่ไหน?”
เย่หยวนส่ายหัวออกมา
โฉปู้ฉุนนั้นกล่าวขึ้นต่อ “เจ้านั้นคือความหวังสุดท้ายของเรา! ตราบเท่าที่เจ้าบรรลุเจ้าโลกได้นั้นเราคงพอต่อสู้กับบรรพบุรุษศิลาโลหิตมันได้! หากเจ้าตายลงแล้วทุกสิ่งอย่างก็คงจบกัน! เจ้านั้นต้องระวังเต๋าทุกข์ครั้งนี้ให้มาก!”
เย่หยวนตอบกลับไปอย่างหนักแน่น “เวลานั้นไม่คอยท่า! ข้านั้นมีเลือดต้นของบรรพบุรุษศิลาโลหิตมันและพอสัมผัสถึงพลังของมันได้บ้าง ตอนนี้มันแข็งแกร่งกว่าตอนที่อยู่ในวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตไปสิ้นเชิงแล้ว! หากมันจุติขึ้นมาได้จริงๆ มันคงมีพลังก้าวผ่านล้ำสวรรค์ไป! ถึงตอนนั้นแม้ว่าข้าจะบรรลุเจ้าโลกได้มันก็ยังไม่แน่หรอกว่าจะเอาชนะมันได้! เรานั้นได้แต่ต้องพยายามให้สุดตัว ทำได้เท่าไหร่ก็ทำเท่านั้น ที่เหลือมีแต่ต้องพึ่งโชคชะตาแล้ว!”
คนทั้งหลายที่ได้ยินนั้นได้แต่ต้องกัดฟันแน่นขึ้นมามองดูหน้ากันอย่างตกลงใจ
…
สงครามเริ่มขึ้นอีกครั้งด้วยการนำของหมี่เทียนที่พากองทัพเคลื่อนออกจากสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด
ในแนวหน้าของกองกำลังนี้มันมียอดฝีมือล้ำสวรรค์อยู่ถึงแปดคนด้วยกัน มันช่างเป็นกองทัพที่ยิ่งใหญ่มากนัก!
คนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นคงรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฝันไป
ยอดฝีมือล้ำสวรรค์แปดนั้นมันเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะฝันถึงในอดีต
แต่เย่หยวนกลับสร้างกองทัพนี้ขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง!
“เจ้าเป็นอย่างไรบ้างจ้าวเยว่?” หมี่เทียนหันไปถามจ้าวเยว่
จ้าวเยว่ในตอนนี้มีร่างกายสูงใหญ่ของคนพร้อมด้วยสายตาที่เฉียบคมหนักแน่น ไม่มีรูปร่างของสัตว์ ประหลาดใดๆ อีก
บนโลกนี้มันไม่มีสิ่งใดที่ไม่อาจหลอมได้!
เย่หยวนนั้นปรับแก่นเลือดของเผ่าเลือดนั้นเข้ากับสมุนไพรสวรรค์โกลาหลที่ได้มาจากวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตเพื่อหลอมโอสถสวรรค์ขึ้นมารักษาจ้าวเยว่ได้ในที่สุด
ในตอนนี้เขานั้นกลับมามีสติสัมปชัญญะครบถ้วนและกลายเป็นแม่ทัพของนักยุทธสายเลือดทั้งแปดร้อยคนไป
นอกจากนั้นแล้วพลังของเขายังเหนือล้ำกว่าพวกหลงเจี้ยนทั้งหลายไปขั้นหนึ่ง
ขณะที่กำลังเรียกระดมกองทัพนั้นหมี่เทียนก็ได้เห็นสีหน้าของจ้าวเยว่ที่เปี่ยมล้นไปด้วยอารมณ์หลากหลายจึงอดถามขึ้นไม่ได้
“นายน้อยช่างเป็นคนที่น่าทึ่งนัก!” จ้าวเยว่
หมี่เทียนที่ได้ยินก็ต้องผงะไปเพราะไม่คิดว่าเขาจะตอบกลับมาเช่นนี้
เขานั้นรู้ดีว่าจ้าวเยว่นั้นเป็นแค่นักยุทธตัวน้อยคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้เขายังเป็นแค่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์
แต่ตอนนี้เมื่อได้สติกลับมาอีกครั้งเขากลับพบว่าตัวเองกลายเป็นยอดฝีมือล้ำสวรรค์ไป นอกจากนั้นยังกลายเป็นแม่ทัพที่นำกองทัพเจ้าโลกนับร้อยๆ หมี่เทียนคิดไปเสียว่าเขานั้นจะตื่นเต้นดีใจ
แต่จ้าวเยว่นั้นกลับรู้สึกเคารพเชิดชูเย่หยวนอย่างมากแทน
หลังจากใช้เวลาหลายเดือนในการช่วยรักษาจ้าวเยว่และพวกนั้นเย่หยวนก็ปลีกตัวออกไปเก็บตัวในที่สุด
พวกเขารู้ดีว่าเย่หยวนนั้นกำลังเตรียมตัวเผชิญหน้ากับความตาย!
วันใดที่เขาออกมาจากการเก็บตัวนั้นมันจะเป็นวันที่เขาเรียกเต๋าทุกข์!
เมื่อถึงเวลานั้นฟ้าดินคงได้เปลี่ยนสีแน่!
“หือ เจ้าหมายความว่าอย่างไรหรือ?” หมี่เทียนยิ้มถามขึ้นต่อ
จ้าวเยว่ตอบกลับไปอย่างไม่ลังเล “ภาพตรงหน้านี้มันเกิดขึ้นมาได้เพราะนายน้อยสิ้น! ก่อนนั้นตอนที่วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตไล่โจมตีสวรรค์ทั้งหลายมันก็คงไม่ได้ยิ่งใหญ่ไปกว่านี้แน่! แต่ว่ายอดฝีมือของวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนั้นมันเป็นยอดอัจฉริยะที่เก็บเกี่ยวมานานแสนนาน แต่พวกเรานั้นเป็นแค่ขยะไม่มีอะไรดี! นายน้อยนั้นกลับเปลี่ยนขยะอย่างพวกเราให้กลายเป็นของวิเศษ กลายเป็นยอดฝีมือล้ำหน้าใครๆ! หากไม่มีนายน้อยแล้วข้าว่ามันก็คงไม่มีพวกเรา ยอดฝีมือล้ำสวรรค์ทั้งแปดนี้เช่นกัน ไม่ต้องไปพูดถึงเจ้าโลกที่อยู่ด้านหลังเราเลย! เพราะฉะนั้นข้าจึงได้แต่รู้สึกซาบซึ้งในคุณของนายน้อยอย่างมากล้นนัก!”
หมี่เทียนนั้นได้แต่ต้องพยักหน้ารับตาม!
เพราะแม้ว่าเขานั้นจะเป็นยอดฝีมือล้ำสวรรค์คนหนึ่งอยู่แล้วแต่หากไม่ได้เย่หยวนช่วยพากลับไปคืนชีพที่คงคา นิรันดร์ ตอนนี้อย่าว่าแต่ล้ำสวรรค์ แม้แต่ร่างกายเขาก็ไม่มีมันเสียด้วยซ้ำไป
แน่นอนว่าหากไม่ได้เย่หยวนพวกหลงเจี้ยนเองก็คงไม่มีทางจะบรรลุล้ำสวรรค์มาได้เช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นโฉปู้ฉุน จ้าวเยว่ หมี่เจิ้นหรือคนอื่นใดในแปดยอดฝีมือล้ำสวรรค์นี้พวกเขาต่างก็ได้เย่หยวนช่วยเหลือไว้ทั้งสิ้น!
นี่มันน่าทึ่งจนน่ากลัว!
จะบอกว่ากองทัพเจ้าโลกอันยิ่งใหญ่ในวันนี้มันถูกสร้างขึ้นมาจากน้ำมือของเย่หยวนอย่างสิ้นเชิงก็ว่าได้!
หมี่เทียนต้องสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะกล่าวขึ้นตาม “ใช่ เจ้าเด็กคนนี้มันน่าทึ่งจริงๆ!”
…………………………