Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 3112 ความหมายของคำว่าไร้เทียมทาน!
“นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
“ตาข้าไม่ได้ฝาดไปใช่หรือไม่? สองยอดฝีมือแข็งแกร่งล้ำสวรรค์ทั้งสามสิบสามนั้นกลับถูกบรรพบุรุษศิลาโลหิตนั้นกดหัวให้ก้มลง?”
“บรรพบุรุษศิลาโลหิตในตอนนี้มันมีพลังอยู่ในอาณาจักรไหนแล้วกัน?”
…
สายตาของคนมากมายต่างจับจ้องไปยังตัวศิลาโลหิต
เพราะว่าภาพนี้มันน่าตกตะลึงจนเกินไป
ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมานั้นสามสิบสามสวรรค์มันมีสมดุลที่คงที่อย่างมาก
จนถึงตอนที่บรรพบุรุษหวูเทียนปรากฏขึ้นมาทำลายสมดุลนั้นไป
แต่ว่าบรรพบุรุษหวูเทียนนั้นก็ไม่ได้ไร้เทียมทานเพราะว่าเขายังมีศัตรูในระดับเดียวกันอย่างเจ้าโลกหลุนฮวย!
เพราะฉะนั้นแม้ว่าบรรพบุรุษหวูเทียนนั้นจะทรงพลังอย่างมาเขาก็ยังไม่ถึงระดับไร้เทียมทาน
จนถึงวันนี้ที่เขานั้นได้สร้างร่างโกลาหลที่ทรงพลังและผงาดล้ำขึ้นมาแก่สายตาผู้คนอีกครั้ง
มันทำให้หวูเทียนไร้เทียมทานได้อย่างแท้จริง!
แต่ว่าหวูเทียนผู้ไร้เทียมทานนั้นกลับดูเหมือนเป็นแค่เด็กน้อยในเวลานี้!
หวูเทียนมองหน้าศิลาโลหิตพร้อมกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าซีดขาว “เจ้า…เจ้าก้าวครึ่งก้าวสุดท้ายนั้นไปได้? บ้าน่า!”
ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มตอบกลับมาอย่างชั่วร้าย “เผ่าเลือดนั้นเปิดสงครามกับสามสิบสามสวรรค์สังหารคนไปนับล้านๆ คนเผ่าเลือดทั้งหลายนั้นเก็บเกี่ยวประคำขจัดเลือดกลับมาได้ถึงเก้าสิบเก้าเม็ด! ประคำขจัดเลือดทั้งเก้าสิบเก้าเม็ดนั้นมันเปี่ยมไปด้วยพลังของเลือดที่ซ่อนความหมายของยอดเต๋าแห่งเลือดไว้! เต๋านี้มันเป็นส่วนหนึ่งของโกลาหล ผสานเข้ากับพลังงานจากประคำขจัดเลือดทั้งเก้าสิบเก้านั้นแล้วข้าย่อมจะสามารถเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ได้จนสุด! และของรางวัลที่ประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นมอบกลับมาให้ข้ามันก็คือเต๋าแห่งเลือด! จากวันนี้ไปเต๋านี่มันจะมีนายเพียงแค่คนเดียวบนสามสิบสามสวรรค์! พวกเจ้าคิดว่าอย่างไร?”
หวูเทียนนั้นแทบไม่อาจหายใจได้เพราะเขานั้นสัมผัสได้ถึงพลังงานแห่งเต๋าที่ปะทะเข้ากับหน้า
เขานั้นไม่เคยสัมผัสถึงแรงกดดันขนาดนี้มาก่อนในชีวิต แม้แต่ตอนที่เขาเพิ่งได้เข้าวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตเป็นครั้งแรกมันก็ยังไม่หนักหน่วงเช่นนี้
แต่ตอนนี้เขาได้สัมผัสมันเข้าอย่างแรง!
พลังของศิลาโลหิตนั้นมันทำให้ตัวเขารู้สึกว่าตนเองช่างไร้พลังสิ้นเชิง!
“บ้าน่า! บรรพบุรุษผู้นี้แปลงชีวิตเป็นหมื่นๆ แสนๆ ลงไปศึกษาสังสารวัฏอย่างถี่ถ้วนทั่วฟ้าดิน แต่ข้ากลับยัง ไม่อาจจะเข้าใกล้ครึ่งก้าวสุดท้ายนี้ได้! ทำไมเจ้าถึงทำได้กัน?” หลุนฮวยร้องลั่นขึ้นอย่างไม่อยากยอมรับ
ชายหนุ่มคนนั้นจึงยิ้มตอบกลับไป “หากมันเป็นเมื่อก่อนแล้วเต๋าผู้นี้คงไม่อาจจะตอบได้! แต่ตอนนี้เต๋าผู้นี้ตอบมันได้แล้ว! เต๋าแห่งสังสารวัฏนั้นมันมิใช่ความลับที่เจ้าจะเข้าถึงได้! เพราะฉะนั้นเต๋าของเจ้ามันก็ผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น!”
หลุนฮวยนั้นหน้าซีดขาวลงไป รู้สึกราวกับว่าถูกค้อนตีเข้ากลางอก
คำพูดของศิลาโลหิตนั้นมันทำให้เขาแทบหยุดหายใจ!
เพราะเขานั้นใช้เวลาทั้งชีวิตไล่ตามเต๋าแห่งสังสารวัฏ
แต่สุดท้ายมันกลับไร้ค่าหรือ?
“ไม่! ไม่มีทาง! มีหรือที่เต๋าข้าจะผิดพลาดไปได้? เจ้าโกหกข้า! เจ้าต้องโกหกข้าแน่ๆ!” หลุนฮวยนั้นร้องลั่นตอบกลับไปราวคนเสียสติ
แต่ชายหนุ่มคนนั้นกลับยิ้มตอบอย่างไม่คิดสนใจ “เต๋าแห่งสังสารวัฏนั้นมันคือการควบคุมชีวิต! ความเป็นความตายของทุกชีวิตนั้นมันคือสิ่งที่สวรรค์กำหนด! เต๋าแห่งสังสารวัฏนั้นมันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่คนอย่างเจ้าจะเข้าถึงได้! เพราะหากเจ้าควบคุมเต๋าแห่งสังสารวัฏได้จริงๆ แล้วเจ้าก็มีกลายเป็นเต๋าสวรรค์ไป เจ้าคิดว่าตัวเองจะเป็นเต๋าสวรรค์ได้? ต่อให้เจ้านั้นจะเอาชนะใครได้เจ้าก็ไม่มีทางเอาชนะสวรรค์ได้!”
หลังพูดจบศิลาโลหิตก็หลับตาลงพักถอนหายใจ
เพราะหลังจากก้าวมาถึงจุดนี้แล้ว ตัวเขานี้คงเรียกได้ว่าไร้เทียมทานอย่างแท้จริงในสามสิบสามสวรรค์
แต่เขานั้นก็เป็นได้แค่ตัวแทนแห่งเต๋าสวรรค์
เต๋าสวรรค์นั้นคือสิ่งที่ปกครองทุกสิ่งอย่างบนโลกหล้า!
ไม่มีใครเอาชนะสวรรค์ได้!
หลุนฮวยที่ได้ยินนั้นยิ่งมีใบหน้าซีดขาวลงเรื่อยๆ
เพราะเขานั้นเข้าใจความหมายของคำพูดศิลาโลหิต
สังสารวัฏการเวียนว่ายตายเกิดนั้นมันยิ่งใหญ่เกินไป!
เขาไม่อาจจะควบคุมมันได้แน่นอน!
“เอาล่ะ พูดเล่นกันเท่านี้! จากวันนี้ไปพวกเจ้าทั้งสองนั้นจะเป็นสุนัขรับใช้ของข้า พวกเจ้าคิดขัดอะไรหรือไม่? แล้วก็ไม่ต้องใช้สายตาเช่นนั้นมองเต๋าผู้นี้ นี่มันเป็นโอกาสเดียวของพวกเจ้า คิดให้ดีก่อนตอบกลับมา!” ศิลาโลหิตนั้นกล่าวขึ้น
แต่คำพูดนี้มันทำให้สีหน้าของพวกหลุนฮวยนั้นเปลี่ยนสีแสดงความไม่ยอมรับออกมาทันที
แต่หากไม่รับมันก็ต้องตาย!
เรื่องนั้นไม่ต้องสงสัยเลยแม้แต่น้อย
“ข้า…ยอมรับ!” หวูเทียนนั้นก้มหัวลงจรดพื้นต่อหน้าศิลาโลหิต
ศิลาโลหิตนั้นยิ้มตอบกลับไปก่อนจะหันไปมองหน้าหลุนฮวย “แล้วเจ้าเล่า? เจ้าก็เห็นพลังของเต๋าผู้นี้แล้วจะยังลังเลอะไรอีก?”
หลุนฮวยนั้นก้มหัวลงกล่าว “ท่านเป็นผู้เดียวที่จะสังหารเย่หยวนมันได้!”
ศิลาโลหิตที่ได้ยินเช่นนั้นก็ต้องยิ้มกว้างก่อนจะหันไปหาหมี่เทียน “เจ้าจะไปเรียกเย่หยวนมันออกมาหรือว่าให้เต๋าผู้นี้ไปหามันเอง? จากวันนี้ไปพวกเจ้านั้นคือคนของเต๋าผู้นี้ เต๋าผู้นี้ไม่อยากจะสังหารคนอย่างเปล่าประโยชน์”
ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นศิลาโลหิตวางสีหน้าเรียบเฉยมาตลอด
มันราวกับว่าทุกสิ่งอย่างบนโลกนี้อยู่ในการควบคุมของเขาแล้ว
เขานั้นมาเพื่อล้างแค้น และเพียงเพื่อล้างแค้น
สัมผัสได้ถึงสายตานั้นหมี่เทียนก็แทบต้องกระอักเลือดออกมา
แรงกดดันเช่นนี้มันเหมือนเป็นแรงกดดันจากสวรรค์
ความกลัวในหัวในของหมี่เทียนนั้นมันไม่อาจจะปิดซ่อนได้ เขานั้นสั่นสะท้านไปถึงวิญญาณ!
และมิใช่แค่ตัวเขานั้น คนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดทั้งหลายต่างสั่นกลัวไม่ว่าจะแข็งแกร่งกันแค่ไหน
หลังจากผ่านไปอีกนานสองนานสุดท้ายหมี่เทียนก็ค่อยๆ ปรับลมหายใจและตอบกลับไป “ข้าขอยอมหักไม่ยอมงอ! หากคิดอยากเจอเย่หยวนเจ้าก็ต้องไปเองแล้ว!”
ศิลาโลหิตนั้นยิ้มตอบกลับไป “ได้ ข้าเข้าใจพวกเจ้าแล้ว เช่นนั้นก็ตายไปเถอะ!”
ปุ ปุ ปุ…
วินาทีเดียวกันนั้นร่างของยอดฝีมือมากมายมันก็ระเบิดออกกลายเป็นหมอกเลือด!
พริบตาเดียวนี้ท้องฟ้ามันถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉาน!
และตั้งแต่ต้นจนจบนั้นศิลาโลหิตไม่ได้แม้แต่จะขยับนิ้วมือ
เมื่อหมี่เทียนได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องผงะไปตามๆ กัน
พวกเขานั้นคิดว่าศิลาโลหิตนั้นจะโจมตีทำลายกำแพงเขตแดนเหมือนพวกหวูเทียน
แต่กลับกลายเป็นว่าเขานั้นเลือกที่จะสังหารคนนับหมื่นๆ แสนๆ นี้อย่างไม่แม้แต่จะกะพริบตา!
วันนี้ศิลาโลหิตมันช่างน่ากลัวยิ่งนัก!
ศิลาโลหิตนั้นกล่าวขึ้นต่อ “เต๋าผู้นี้ควบคุมเลือดได้สมบูรณ์แบบ กายเนื้อของพวกเจ้าทุกคนนั้นย่อมจะอยู่ในการควบคุมของข้าสิ้น! ให้เจ้าอยู่ พวกเจ้าก็จะรอด ให้เจ้าตายพวกเจ้าก็อย่าได้หวังจะมีชีวิต! การฆ่าสังหารนั้นมันง่ายเพียงแค่คิด! ในเมื่อพวกเจ้าร้องขอความตายแล้วข้าก็จะสนองให้เอง! ฮ่าๆ ชอบสีหน้าของพวกเจ้าในตอนนี้เสียจริงๆ!”
ศิลาโลหิตนั้นมีความแค้นต่อสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดมากมายเกินอธิบาย
ต่อให้เขาจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ไร้เทียมทานเขาก็ยังไม่ชอบสวรรค์นี้!
“หยุด!”
ในเวลานั้นเองที่มันได้มีเงาร่างหนึ่งพุ่งตัวขึ้นมาจากเขาของนิกายยาสุดล้ำ
เมื่อหมี่เทียนได้เห็นเงาร่างนั้นเขาก็ต้องหน้าซีดขาวลง
เย่หยวน!
ในเวลานี้เย่หยวนกลับเลือกที่จะออกมาเอง!
ที่สำคัญเจ้าบ้านี่ยังพุ่งตัวออกไปนอกเขตแดน มันรนหาที่ตายโดยแท้!
ศิลาโลหิตนั้นสามารถสังหารเขาได้ด้วยแค่ความคิด!
“เย่หยวน ถอยกลับมา!” หมี่เทียนร้องตามหลังไป
เย่หยวนนั้นไม่คิดแม้แต่จะหันหน้ากลับและพุ่งตัวไปยืนอยู่หน้าศิลาโลหิตก่อนจะกล่าว “ข้ามาแล้ว หยุดมือ!”
ศิลาโลหิตนั้นยิ้มตอบกลับไป “เจ้าโผล่หัวออกมาจนได้!”
เย่หยวนนั้นหรี่ตาลงกล่าวขึ้นอย่างดุดัน “เจ้าจะได้ชดใช้กับเรื่องที่เจ้าก่อไว้!”
ศิลาโลหิตนั้นยิ้มตอบกลับไป “อ่าว? แล้วต้องจ่ายอย่างไรดีเล่า?”
เย่หยวนตอบไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ด้วยชีวิตเจ้า!”
“อวดดีนัก! เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้ามาพูดกับบรรพบุรุษท่านเช่นนี้? บรรพบุรุษของพวกเรานั้น ไร้เทียมทานบนสวรรค์นี้!” อี้เฉียกล่าวขึ้น
ศิลาโลหิตนั้นยิ้มและยกมือขึ้นมาห้ามอี้เฉียจนทำให้อี้เฉียต้องผงะไปก่อนจะต้องเงียบปากลง
เพราะวันนี้ศิลาโลหิตนั้นไม่ต้องอวดอ้างตัวเองใดๆ แล้ว
เขานั้นไร้เทียมทานอย่างแท้จริง!
……………………….