มีการแจ้งเตือนจากระบบเกี่ยวกับวันหยุดยาวขึ้นมา เย่ฉางทำหน้างวยงง ‘นี่มันปิดภาคฤดูร้อนรึไงกัน? ทำไมมันถึงนานนัก? หยุดตั้งเกือบ 40 วันเชียว! มันเกิดอะไรขึ้น?’
“ลีคกำลังจะเริ่มต้นฤดูกาลขึ้นแล้ว มันเป็นเช่นนี้ทุกปี อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนกลายเป็นคนติดเกม แต่เหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือ เนื่องจากลีคกำลังเปิดฉากขึ้นแล้ว ทั้งลีคอาชีพระดับ B, A และ S เช่นเดียวกับลีคของมือสมัครเล่นจะเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ นายควรให้ความสนใจข้อมูลเหล่านี้มากยิ่งขึ้น” SpyingBlade เห็นความรู้สึกสับสนของเย่ฉางและถอนหายใจ
“โอ้! เป็นยังนี้นี่เอง อืมๆ ทุกคนมาเจอกันอีกครั้งหลังจากวันหยุดฤดูร้อนจบลง” เย่ฉางพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ
“หัวหน้าทีม คุณเข้าร่วมแข่งขันในลีคหรือไม่?” หวังถามอย่างรวดเร็ว
“อืม เราอยู่กับ … เราเป็นนักกีฬาของสโมสร Thorns and Roses” เย่ฉางพยักหน้า อูนาตกตะลึง ‘ไม่น่าเชื่อ! คนเหล่านี้เป็นสมาชิกหลักของ Thorns and Roses?’
“เมื่อถึงตอนแข่ง ผมจะมาเชียร์พวกคุณ หัวหน้าทีมอย่าลืมใช้อำนาจของคุณ เพื่อให้ผมเข้าไปในพื้นที่นั่งชมของสมาชิก Thorns and Roses ด้วยล่ะ” หวังกล่าวอย่างจริงจัง
FrozenCloud และอูนาต่างมองหวังอย่างดูแคลน ‘นายเพียงแค่ต้องการที่จะไปเชียร์ หรือต้องการถูกล้อมรอบไปด้วยพวกสาวงามกันแน่’
SpyingBlade มองไปที่เย่ฉาง, จางเจิ้งเฉียง, หลินหลี่ และเย่เทียน ‘ความสามารถที่พวกเขาแสดงในสโมสรเป็นอย่างไร?’ เขาเป็นคนที่อยากรู้อยากเห็นมาก เขายังไม่ตอบรับคำเชิญของ ThornyRose แต่ตอนนี้เขาคิดจะตอบตกลงแล้ว ‘มันน่าสนใจที่จะได้ร่วมทีมกับคนเหล่านี้ที่นั่น’
เย่ฉางให้สิทธิ์ที่นั่งชมแก่หวัง ขณะเดียวกันเขาก็มอบให้กับฟางชิด้วย “จำไว้ด้วยว่าต้องเชียร์อย่างเต็มที่ด้วยนะ เพราะมันจะทำให้พวกเรามีความกระตือรือร้นมากขึ้น…”
“อย่ากังวลเลยครับ! ผมเป็นมืออาชีพพอ …” หวังพูดด้วยท่าทางจริงจัง
“……” FrozenCloud เอามือก่ายหน้าผากของเธอ ‘เขาให้มันจริงๆด้วย’
ณ.บ้านพักริมชายทะเล
เย่ฉางและคนอื่นๆต่างเตรียมเสื้อผ้าของพวกเขา พวกเขาแต่งตัวตามสบายๆ โดยใส่กางเกงที่ดูเรียบร้อย ส่วนด้านบนเป็นเสื้อกั๊กภายในเป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวที่พับแขนเสื้อขึ้นไปถึงข้อศอก เดิมที FrozenCloud ต้องการสวมชุดเดรส แต่เย่ฉางและหลินหลี่บอกว่ามันไม่เหมาะกับภาพลักษณ์ของพวกเขา ดังนั้นเธอจึงถูกบังคับให้ใส่ชุดเหมือนกับคนอื่นๆ จากนั้นพวกเขาก็มุ่งหน้าสู่เมืองหลวง อูนาโบกมืออำลาพวกเขา “อีกสามวันข้างหน้า อย่าลืมกลับมาชมคอนเสิร์ตของฉันนะ!”
“ฉันรู้แล้ว …” เย่ฉางและคนอื่นๆค่อยๆหายไปในระยะไกลๆ
อูนาถอนหายใจและยิ้มเศร้าๆ ถ้าเขามีความสุข เธอนั้นยอมทำได้ทุกอย่าง ตราบเท่าที่เธอสามารถอยู่เคียงข้างเขาได้ เธอก็พอใจแล้ว ‘ฉันต้องการแค่นี้จริงๆ’
ตระกูลฉินในเมืองหลวง
พวกของเย่ฉางเป็นคนคุ้นเคยของบ้านหลังนี้แล้ว เมื่อพวกยามหน้าประตูเห็นว่าเป็นพวกเขาทุกคนจึงได้รับการต้อนรับอย่างดีเยี่ยม ThornyRose มองพวกเขาจากบนระเบียง พวกเขาทั้งหมดแต่งกายที่ดูเป็นทางการพอสมควร พวกเขาสวมเสื้อผ้าแบบตะวันตก หลินหลี่ดูเหมือนเด็กที่ไม่มีประสบการณ์อะไร จางเจิ้งเฉียงดูเหมือนพวกนักเลงรับจ้าง สำหรับ FrozenCloud เธอมีเสน่ห์เป็นพิเศษ แล้วเจ้าคนประหลาดคนนั้น ไม่มีอะไรโดดเด่นนอกจากผมขาวของเขา
พวกเขาเดินเข้าห้องจัดเลี้ยง คุณนายฉินเดินเข้ามากอดเย่เทียนราวกับเป็นลูกสาวของเธอ ฉินซานพาเย่ฉาง, จางเจิ้งเฉียงและหลินหลี่ไปแนะนำให้เพื่อนเก่าของเขา พ่อของ FrozenCloud มองลูกสาวของตัวเองที่ยืนอยู่ข้างหลังเย่ฉาง ‘ดูเหมือนว่าเธอจะมีความสุขดี ว่าแต่ทำไมเธอถึงแต่งตัวแบบนี้? แม้ว่ามันจะดูดี แต่มันก็เป็นเสื้อผ้าของผู้ชาย หรือว่าจริงๆแล้วเธอชอบแต่งตัวแบบนี้กัน? เฮ้อ! ลูกสาวคนโตก็เป็นเลสเบี้ยนไปแล้ว ลูกสาวคนเล็กยังมาเป็นทอมอีก?’ เขาถอนหายใจหนักหน่วง
หลินหลี่และจางเจิ้งเฉียงขอตัวไปกินอาหาร
“ลูกเขย สงครามศักดิ์สิทธิ์ที่นายเป็นคนจุดชนวนขึ้นมา มันไม่ใช่เหตุการณ์เล็กๆเลยนะ” ฉินซานยิ้ม
“ผมเพียงต้องการรักษาความยุติธรรมไว้เท่านั้นเอง” เย่ฉางพูดว่าไม่แยแส ฉินซานไม่สามารถหยุดหัวเราะได้ เขารู้ดีว่าชายหนุ่มที่ชอบตีสองหน้าคนนี้เป็นคนเช่นไร
“แล้วปู่ฉินอยู่ที่ไหนครับ?” เย่ฉางถาม
“เขากำลังประชุมกับพวกเพื่อนๆของเขาอยู่อีกที่หนึ่ง” ฉินซานตอบพร้อมกับจิบไวน์ของเขา “นายรู้จักเร็นลองใช่มั้ย?”
“คนหัวโล้นนั้นนะ?” เย่ฉางถาม
“……” ฉินซานกระอักกระอ่วน แต่คำอธิบายนั้นถูกต้องจริงๆ “ใช่แล้ว คนหัวโล้นๆนั้นแหละ”
“รู้จักครับ ผมเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ในกลุ่มมังกรของเขา” เย่ฉางไม่ได้หลีกเลี่ยงหัวข้อนี้
ฉินซานพยักหน้าและไม่ได้ถามอะไรอีก ทั้งสองคนดื่มและพูดคุยกันอย่างมีความสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อฉินซานเริ่มเล่าเรื่องราวในวัยเด็กของ ThornyRose จนเย่ฉางอดไม่ได้ต้องหันไปมองเธอด้วยรอยยิ้ม
เมื่องานเลี้ยงสิ้นสุดลง
ฉินซานเริ่มให้คำแนะนำแก่ลูกศิษย์สองคนของเขา เพื่อขจัดความไม่เข้าใจในวิชาที่พวกเขาฝึกอยู่ เย่เทียนอยู่กับคุณนายฉินและพูดคุยถึงความลับทางการค้า สำหรับ ThornyRose เธอเดินมาหาเย่ฉางซึ่งกำลังดูทีวีอยู่ “รอบคัดเลือกจะมีขึ้นในเร็วๆนี้แล้ว เมื่อมีกำหนดการออกมา ให้พวกนายมาที่สโมสรทันที”
เย่ฉางพยักหน้าโดยไม่ละสายตาจากละคร
“หันมาคุยกันก่อน” ThornyRose รู้สึกว่าเธอควรสื่อสารกับเขามากขึ้น
“ไม่ …” เย่ฉางตอบกลับทันที แต่ยังคงไม่ละสายตาจากทีวี “คุยกับเธอ มันน่าเบื่อ…”
‘เชี่ย! นายหาว่าฉันน่าเบื่อ!?’ หน้าอกของเธอบีบรัดขึ้น ‘ฉันคนนี้ต้องการคุยกับนาย และนายยังมาพูดว่าฉันน่าเบื่อ!? คนที่กำลังดูละครน้ำเน่าอย่างนาย ดีพอที่จะเรียกคนอื่นว่าน่าเบื่อหรือไง!?’ เธอบังคับตัวเองให้สงบลง “นายได้อะไรจากการสำรวจซากปรักหักพังหรือไม่”
“ลองเดาดู …” เย่ฉางยักไหล่
“นายต้องได้รับอุปกรณ์และหนังสือสกิลที่ดีมากๆอย่างแน่นอน แล้วนายคิดหรือยังว่าจะทำอะไรต่อไป?” ThornyRose ถามต่อ
“ไม่บอก …” เย่ฉางส่ายหัวในขณะที่ยังดูทีวี
ThornyRose กำหมัดและกัดฟันแน่น เธอต้องการฉีกกระชากใบหน้าของเขา แต่เธอได้แต่ปลอบตัวเองอยู่ในใจ ‘โรส เธอต้องอดทน ลีคกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว แม้แต่ SpyingBlade ยังได้แสดงความสนใจในการเซ็นสัญญาชั่วคราวแล้ว’ เธอจึงต้องสินใจใช้ท่าไม้ตายโดยออดอ้อนเหมือนเด็กน้อยที่น่ารัก “บอกฉานนหน่อยน๊าา~”
“มาดามอย่าทำอย่างนี้ เธอไม่ใช่เด็กๆอีกต่อไปแล้วนะ” เย่ฉางถอนหายใจ
ThornyRose แข็งค้าง ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีเขียวและรีบกระโจนใส่เขา เย่ฉางเบี่ยงตัวหลบและออกจากห้องไปด้วยความรวดเร็ว ขณะที่พูดว่า “ฉันจะไปเดินเล่นก่อน ไว้ค่อยพบกันใหม่นะ~”
“อ่า! ไอ้คนบ้า!” ThornyRose เฝ้ามองขณะที่เย่ฉางหายตัวไปเหมือนหมอกควัน FrozenCloud ผ่านมาและเห็น ThornyRose กำลังโกรธอยู่ “พี่สาวโรส หัวหน้าทีมทำอะไรพี่อีก?”
“อย่าพูดถึงเขาให้ฉันได้ยิน!” ThornyRose ตะโกนพร้อมกับเดินกลับไปที่ห้องของเธอ
“……” FrozenCloud รู้สึกทำอะไรไม่ถูก ‘ในชาติที่แล้ว พวกคุณมีความแค้นต่อกันแบบไหนกันนี่’
เย่ฉางเรียกรถแท็กซี่และไปที่ตลาดกลางคืนแห่งหนึ่งของเขตวิหคเพลิง เขาตั้งใจจะมากินอาหารว่างบางอย่างที่นี่ ช่วงเวลาสามทุ่มเช่นนี้ เป็นช่วงเวลาที่มีชีวิตชีวามากที่สุดของตลาดตอนกลางคืน เย่ฉางมองไปที่ร้านแผงลอยหนึ่ง ซึ่งมีลูกค้าอยู่เต็มร้าน เขาจึงเดินเข้าไปสั่งซุปหอยและเนื้อแกะผัดเผ็ด ขณะที่เขานั่งลง เขาก็เห็นคนรู้จักคนหนึ่ง เป็นคนที่สวมแว่นตากันแดดที่พวกเขาได้สั่งสอนบทเรียนบนรถไฟ มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่กับเขาด้วย ถึงแม้ว่าเธอจะสวมหมวกและแว่นตากันแดด แต่ก็ยังสามารถบอกได้ว่าเธอเป็นคนสวยคนหนึ่ง
“เมื่อตอนที่ฉันยังเด็กอยู่ ฉันได้มาเที่ยวเล่นแถวนี้ และเผอิญได้มากินหอยนางรมที่ร้านนี่ ตั้งแต่นั้นมาทุกครั้งที่ฉันมาที่นี่ ฉันจะสั่งมันมากินทุกครั้ง มันอร่อยมากขึ้นแทบทุกครั้ง ฝีมือเจ้าร้านเป็นของจริง” ผู้ชายสวมแว่นกันแดดพูดขึ้น
ผู้หญิงยิ้มอย่างเงียบๆ เย่ฉางคิดนิดหน่อยและตัดสินใจเข้าไปทักทาย MistyVeil มองไปที่ชายผิวขาวที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ ‘ฉันรู้สึกเหมือนว่าเคยเห็นเขามาก่อน โอ้! ฉันจำได้แล้ว เขาเป็นคู่หมั้นของฉินเซียง แล้วเขาเข้ามาหาฉันเพื่ออะไร? เขาไม่ควรรู้จักฉันสิ’
เย่ฉางเอื้อมมือไปกดไหล่ของผู้ชายสวมแว่นตากันแดด “โย่! ไม่เจอกันนานเลยนะ …”
ชายสวมแว่นตากันแดดพบว่าเสียงนั้นช่างคุ้นเคยนัก เขาหันไปและเห็นรอยยิ้มไม่แยแสของเย่ฉาง หนังศีรษะของเขาด้านชาขึ้นทันที และเขาก็นึกถึงช่วงเวลาบนรถไฟขึ้นมาได้
…
“หลินหลี่ นายคิดว่าเราควรจะจัดการกับคนที่ทำให้เราแพ้ยังไงดี …”
“ถอดเสื้อผ้าของเขา! จากนั้นก็เขียนถ้อยคำขอโทษบนตัวเขา…”
“แผนดีมาก! อาเฉียงจับตัวเขาไว้ …”
“เฮ้! เดี๋ยวก่อน! ฉันไม่กลัวพวกนายหรอก!”
“ไม่! อย่านะ เจ้าพวกคนเถื่อน!!!”
…
“ชิเซียว นายรู้จักเขาหรือ?” MistyVeil ถามอย่างสงสัย
ชายที่สวมแว่นตากันแดดที่ชื่อว่าชิเซียวรีบส่ายหัวอย่างรวดเร็ว จู่ๆรอยยิ้มไม่แยแสของเย่ฉางกลายเป็นรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น “ฉันรู้สึกเศร้าจริงๆ ที่นายไม่คิดว่าฉันเป็นเพื่อน”
ชิเซียวไม่รู้ว่าทำไม แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นของเย่ฉางแล้ว มันทำให้ใจเขาสั่นกลัว เขากล่าวด้วยรอยยิ้มที่ถูกบังคับว่า “เขาเป็นเพื่อนที่ฉันพบในระหว่างทางมาเมืองหลวง …”
“……” MistyVeil นึกถึงวันนั้นขึ้นมาทันที ‘ผู้ชายคนนี้ไม่เลวเลยจริงๆ เขามีความกล้าที่จะข่มแหงลูกชายของตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่งในประเทศจีน ตระกูลชิทรงพลังไม่แพ้ตระกูลลีเลยทีเดียว ตระกูลชิเป็นตระกูลใหญ่ที่มีประวัติมาเป็นเวลายาวนาน ถือว่าเป็นตระกูลที่เก่าแก่ที่สุดก็ว่าได้ ฉันได้ยินจากลุงฉินบอกว่า ผู้ชายผิวขาวคนนี้เป็นสมาชิกภายนอกของกลุ่มมังกรที่ประจำการอยู่ที่หลินไห่ เดี๋ยวก่อนนะ … ผมขาวเช่นนี้ น่าจะเป็นพี่ใหญ่วีรษุรุษแห่งสามพี่น้องหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะ ที่สโมสรของ ThornyRose เพิ่งเซ็นสัญญามาแน่ๆ’ เธอถอนหายใจ “ทำไมไม่มานั่งด้วยกันกับเราล่ะ”
“ตกลง ฉันกำลังเบื่อๆอยู่พอดีเลย เป็นเรื่องดีที่ได้มาพบกับเพื่อนเก่าที่นี่” เย่ฉางพูดพร้อมกับตบไหล่ชิเซียวเบาๆและนั่งลง
‘ใครเป็นเพื่อนของนาย! เราเป็นศัตรูกัน!!’ เขาค่อยๆมองไปรอบๆ ‘ดูเหมือนว่าชายตัวใหญ่และตัวเล็กๆไม่ได้มากับเขา ฮ่าๆๆ มาดูกันว่าครั้งนี้นายจะทำตัวหยิ่งได้อีกไหม!’ เขากำลังจะโจมตีใส่เย่ฉาง แต่เห็นการแสดงออกของเย่ฉางที่เหมือนไม่ได้กลัวอะไรเลย ชิเซียวจึงนึกขึ้นมาได้ว่าชายตัวใหญ่คนนั้นเรียกเขาว่าเพื่อน และยังเรียกด้วยความเคารพอย่างมากอีกด้วย นั่นหมายความว่า ผู้ชายคนนี้อาจจะแข็งแรงกว่าชายตัวใหญ่อีก เขาหลั่งเหงื่อเย็นออกมา ในขณะที่เขาหัวเราะกลบเกลื่อน “ฮ่าๆๆๆ”
“คุณควรจะเป็นหัวหน้าของสามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะ พี่ใหญ่วีรษุรุษใช่ไหม … ?” MistyVeil เริ่มการสนทนา
“โอ้ ~? คุณรู้จักฉัน? แล้วคุณเป็นใคร?” เย่ฉางมองอย่างสงสัย จากนั้นเขาก็ถามทันทีว่า “เป็นแฟนคลับฉันหรือ!?”
“ฉันชื่อ MistyVeil …” MistyVeil หัวเราะเบาๆ
เย่ฉางตกตะลึง จากนั้นก็ชี้ไปที่ MistyVeil พร้อมกับปากที่อ้าค้างอยู่ MistyVeil เห็นปฏิกิริยาของเย่ฉางและยิ้ม
ในวินาทีต่อมา เย่ฉางหยุดชี้และลูบคางของเขา เขาดูเหมือนจะอยู่ในความคิดลึก ซึ่งทำให้ MistyVeil ค่อนข้างสับสน อีกหนึ่งวินาทีผ่านไป เธอก็ได้ยินเสียงเย่ฉางพูดพึมพำว่า “บ้าเอ้ย!ฉันรู้สึกว่าเหมือนเคยได้ยินชื่อนี้จากที่ไหนสักแห่งนะ แต่ฉันไม่สามารถจำได้ ถ้าฉันไม่ได้ติดเชื้อความจำเสื่อมจากหลินหลี่ มันต้องเป็นเพราะชื่อของเธอนั้น มันยากที่จะจำ อย่างไรก็ตาม …” จากนั้นเขาก็มองไป MistyVeil และพูดอย่างสุภาพว่า “สวัสดี …”
“…”