ทีม Broken Halberd และคนอื่นๆที่อยู่ด้านนอกสนามจ้องเขม็งไปที่ทีม Thorn and Roses “พวกคุณไม่มีจริยธรรมจรรยาบรรณของมืออาชีพบ้างเลยงั้นหรือ?”
“ThornyRose เขาบอกว่าเธอไม่มีจริยธรรมจรรยาบรรณของมืออาชีพ มีอะไรเกิดชึ้นในระหว่างที่ฉัน, หลินหลี่ และอาเฉียงกำลังต่อสู้กับบอสอยู่งั้นหรือ?” เย่ฉางชี้ไปที่อีกฝั่ง แล้วหันกลับไปถาม ThornyRose
“พวกเขากำลังพูดถึงพวกนายสามคนที่ไปแคมป์ปิ้งดักที่จุดเกิดต่างหากล่ะ!!” ThornyRose ตะโกนออกมา เธอถอนหายใจ และมองไปที่ Halberd และคนอื่นๆด้วยความเสียใจ “กลุ่มสามพี่น้องเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เข้าใจในกฎระเบียบมากเท่าไหร่ อย่าไปสนใจและไม่ต้องไปทะเลาะกับพวกเขาหรอก พวกเราไปเริ่มแข่งขันในโหมดความบันเทิงกันดีกว่า…”
“ใครบอกกันล่ะ! ผมเข้าใจกฏระเบียบดี!” หลินหลี่รีบกระโดดออกมาอย่างไม่สนใจหน้าอินหน้าพรหม เขาจ้องมองไปที่ Halberd และคนอื่นๆด้วยความเกลียดชัง “ตอนนี้ผมโมโหแล้วนะ…”
“……” Halberd และคนอื่นๆต่างก็พูดไม่ออก พวกเขาเกือบที่จะขอโทษออกไปแล้ว แต่เมื่อคิดย้อนกลับไป พวกเขาก็ได้แต่สบถอยู่ภายในใจ ‘เชี่ย! คนที่ควรจะโมโห มันคือพวกเราต่างหากโว้ย!!’
“มาเริ่มการแข่งขันกันเถอะ…” CapableLiu พูดเตือน
“สตรีทแดนซ์แบทเทิ้ล!?” Halberd มองไปที่โหมดการแข่งขันที่สุ่มได้ และหันไปหาทีมของเขา “ใครสามารถที่จะ…”
“ฉันเอง ฉันรู้จัก และเคยเข้าร่วมกลุ่มจักรพรรดิสตรีทแดนซ์มาก่อน…” Kate เดินออกมา Halberd พยักหน้า ในทีมของเขาอาจจะมีเพียงแต่ Kate เท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับการเต้นสตรีทแดนซ์
ThornyRose กลับไปที่ห้องพักและมองไปที่ทุกคน “ใครจะเป็นคนออกไป…” ท้ายที่สุดสายตาของเธอก็มองไปที่เย่ฉาง แม้ว่าเธอจะไม่เคยพูดถึง แต่เธอก็ได้ดูคอนเสิร์ตในคืนนั้นทุกวินาที การเต้นวอลทซ์ที่แสนโศกเศร้าของเย่ฉาง แม้ว่าเธอจะไม่อยากยอมรับมันเท่าไหร่ แต่การเต้นของเขาก็ทำให้น้ำตาของเธอไหลออกมาเช่นกัน เธอไม่รู้ว่าการเต้นสตรีทแดนซ์ของเขาเป็นยังไง แต่เธอก็คิดว่าเขาน่าจะเต้นออกมาได้ดีเช่นกัน จากนั้นเธอก็หันไปมองชายแปลกหน้าที่หยาบคายคนหนึ่ง “เขาเป็นใคร? ทำไมเขาถึงเข้ามาในห้องพักนักกีฬาของเราได้กัน?”
“เขาชื่อหวัง เขาเป็นซัมมอนเนอร์ที่อยู่ในปาร์ตี้ของหัวหน้าทีม” FrozenCloud อธิบาย
ThornyRose ไม่ได้พูดอะไร แต่กลิ่นอายของผู้ชายคนนี้ทำให้ผู้หญิงรึสึกถึงความอันตรายยิ่งกว่ากลิ่นอายของเจ้าหมียักษ์ซะอีก “หลังจากนี้เอาข้อมูลของตัวละคร, สกิล และสิ่งต่างๆที่นายมีทั้งหมดในเกมมาให้ฉันด้วย…”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอารมณ์ดุจดั่งราชินีของ ThornyRose ทำให้ OldWangFromNextDoor แทบจะหมอบคลานไปบนพื้น และตอบออกมา “ครับผม!”
“เดี๋ยวก่อนนะ เขาอยู่ในทีมของฉัน ทำไมเขาถึงจำเป็นต้องให้ข้อมูลกับเธอด้วย…” เย่ฉางถามออกมาด้วยความสับสน
“นายไม่ต้องการที่จะได้พบกับเหล่าสาวงามหรอกหรือ?” ThornyRose มองไปที่ OldWangFromNextDoor และพูดขึ้นมา
“ขอความกรุณาด้วยครับ!” OldWangFromNextDoor รีบตอบกลับไปโดยไม่ต้องคิด เย่ฉางถอนหายใจ เขาหันกลับไป และเห็นจางเจิ้งเฉียงเดินเข้าไปหาเธอ “พี่สาวโรส~~ เราได้ตกลงกันไว้ว่า…”
“ไม่ต้องรีบร้อนไป รออีกไม่นานหรอก หลังจากจบการแข่งขันลีคครั้งนี้แล้ว ฉันจะแนะนำสาวๆให้กับนายเอง!” ThornyRose พูดออกมาด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด
“พี่สาวโรส ไม่ใช่ว่าพี่เกลียดพวกผู้ชายเหล่านั้นหรอกหรือ? แต่ทำไมพี่ถึงให้พวกเขาเข้าร่วมกับกลุ่มผู้หญิงของเรากันล่ะ?” KittyKat พูดตรงประเด็นอย่างเงียบๆ
“ในอดีตประธานสโมสรของเราไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แต่เพื่อผู้ชายแล้ว เธอได้ทิ้งแม้กระทั่งคนรักของเธออย่าง FrozenBlood เฮ้อ… โอ้ใช่แล้ว! เธอได้พูดอะไรกับหลินหลี่ในก่อนหน้านี้หรือไม่?” ElegantFragrance ถอนหายใจ จากนั้นก็มองไปที่หลินหลี่ผู้ซึ่งกำลังเด้งไปมาอยู่รอบๆ และพยายามเรียนรู้การเต้นสตรีทแดนซ์
“……” KittyKat สั่นสะท้าน เธอมีปัญหาในการเชื่อมต่อคำพูดส่วนแรก และส่วนที่สองของคำพูดของเธอ
“PaleSnow นายเป็นคนออกไปแล้วกัน นายเต้นได้ดีที่สุดในทีมพวกเราแล้ว สำหรับเสื้อผ้า มันมีให้นายเลือกเยอะแยะในโกดังของสโมสร นายสามารถสวมใส่เสื้อผ้าแบบไหนก็ได้ที่นายต้องการ” ThornyRose พูดออกมา
“ไม่ต้องกังวลไปหรอก…” เย่ฉางยักไหล่ ตั้งแต่ที่เขาได้เต้น เขาแค่ต้องสวมเสื้อผ้าอย่างเป็นทางการ เช่นชุดทักซิโด้กับกางเกงที่เข้ากับชุดอย่างเหมาะสม และเสื้อเชิ้ตสีม่วงเพียงเท่านั้น
“นายแน่ใจนะว่านายสามารถเต้นสตรีทแดนซ์ และไม่ใช่การอย่างเป็นทางการอย่างการเต้นบัลเล่ต์, วอลทซ์ หรืออะไรก็ตามแต่…?” FrozenBlood หลั่งเหงื่อที่เย็นเยียบออกมา เธอได้เห็นการเต้นของเขา และมันทำให้เธอตกใจมากจริงๆ
ผู้ชมกำลังตกอยู่ในความโกลาหลสับสนวุ่นวาย และมีผู้ชมจำนวนมากได้ส่งเสียงเยาะเย้ยออกมา “มีใครกันบ้างวะที่สวมชุดทักซิโด้มาเต้นสตรีทแดนซ์! นายเป็นคนบ้าใช่ไหม!? วีรบุรุษที่โง่เขลางั้นหรือ!?”
“หุบปากเน่าๆของแกไปซะ! พี่ใหญ่วีรบุรุษต้องสวมทักซิโด้ด้วยเหตุผลบางอย่างอย่างแน่นอน! ทำไมปากที่เน่าเหม็นของแก ไม่เคยพูดอะไรที่ดีกับคนอื่นได้บ้างเลยนะ!?”
พร้อมกับการเริ่มต้นของเพลง เย่ฉางเริ่มเต้นเป็นหุ่นยนต์ ความเร็วของเขาได้เข้ากับจังหวะเพลงอย่างสมบูรณ์แบบ และการเคลื่อนไหวของเขาทำให้เขาดูเป็นหุ่นยนต์มากจริงๆ ทุกคนไม่สามารถอดปรบมือออกมาได้ กลุ่มคนที่เยาะเย้ยทั้งหมดได้หุบปากลงทันที สำหรับ Kate เธอได้ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันที่หนักหนามาก เป็นการเต้นสตรีทแดนซ์ที่ยอดเยี่ยมมาก! ความแข็งแรง, จังหวะ, ความเร็วของเขาเรียกได้ว่าไม่มีข้อผิดพลาดใดๆเลย เมื่อดนตรีเปลี่ยนเป็นความเศร้าหมอง เย่ฉางได้ปรับเปลี่ยนจังหวะและการท่าทางการเต้นของเขา ให้กลายเป็นหุ่นยนต์ที่กำลังค่อยๆพังยับเยิน แขนขาและลำคอที่ไร้พลังงานได้ส่งเสียงแตกหักดังออกมา ทุกคนที่เฝ้าดูรู้สึกราวกับว่า แขนขาของเย่ฉางได้แตกหักออกไปอย่างแท้จริง ร่างกายของเขาพังทลายร่วงหล่นไปบนพื้น Kate เลือกที่จะเฝ้าดูการเต้นของเขา และตัดสินใจยอมรับความพ่ายแพ้ทันที นี่คือ…
เมื่อจังหวะเร็วขึ้นอีกครั้ง แขนขาที่อ่อนปวกเปียกของเย่ฉางเริ่มสั่นไหว ราวกับกระดูกของเขากำลังฟื้นตัว เท้าซ้ายของเขาลุกขึ้นยืน เท้าขวาของเขาลุกขึ้นยืน มือซ้ายของเขาจับไปที่ไหล่พร้อมกับเสียงที่แตกร้าว คอของเขาที่โค้งงอทำมุมองศา 130 ถูกยืดออก เขาแสดงรอยยิ้มที่มืดมน เขาแตะไปที่ปลายหมวก และหยิบไม้เท้าสีดำขึ้นมา เขาถอดหมวกออก และโค้งคำนับด้วยความสง่างาม
“อ่า โครตหล่อเลย!”
“หล่อมาก!”
“การเต้นของเขา ทำให้ฉันขนลุกเลยจริงๆ!…”
“ทักซิโด้เทพพระเจ้าหุ่นยนต์ ฮ่าฮ่า เขาน่าทึ่งมาก…”
“ฉันต้องการให้เขาสอนฉัน! ทักษะการเต้นของเขาสุดยอดมากเกินไปแล้ว! แม้กระทั้งแชมป์การเต้นของรายการ America’s King of Dance ก็ยังไม่ดีเท่ากับเขาเลย นอกจากนี้เนื่องจากเขาใส่ทักซิโด้ นั่นหมายความวว่าเขารู้จักการเต้นอื่นๆ ที่นอกจากสตรีทแดนซ์เป็นอย่างดี! เอาไมค์โครโฟนมาให้ฉัน!” ซูหยี่ยี่ลุกขึ้นยืนคว้าไมค์
“พี่ใหญ่วีรบุรุษ ฉันซูหยี่ยี่! คุณสามารถให้เกียรติมาสอนฉันเต้นได้หรือไม่?” ซูหยี่ยี่ถามออกมาด้วยความจริงใจ
“ก็ได้… แต่มันมีค่าเล่าเรียนน๊า~” เย่ฉางใส่หมวก และถือไม้เท้าของเขาหันมายิ้มให้กับเธอ
ThornyRose เริ่มวางแผน ถ้าเธอสามารถทำให้ซูหยี่ยี่มาเป็นโฆษกให้กับสโมสร Thorn and Roses ได้ล่ะก็ จะมีผู้สนับสนุนมากมายเข้าร่วมกับสโมสร Thorn and Roses และพวกเธอจะไม่อยู่ในสถานะที่ขาดแคลนเงินทุนอีกต่อไป
ซูหยี่ยี่รีบเดินลงมาแลกเปลี่ยนที่อยู่ และวันนัดหมายกับเย่ฉาง เธอพูดอย่างจริงจังว่า “คุณสามารถสอนการเต้นแจ๊สให้กับฉันได้ไหม! สำหรับคอนเสิร์ตครั้งต่อไปของฉัน ฉันหวังว่าคุณจะสามารถให้คำแนะนำกับฉันได้”
ความรู้สึกภายในใจของเย่ฉางได้ถูกกระตุ้น ‘แจ๊ส?’ เขานึกย้อนถึงความทรงจำในอดีต และยิ้มออกมาอย่างเจ็บปวด “ตกลง นี่คือการเต้นแจ๊สที่ฉันคิดค้น‘ความรัก – ส่วนที่ 3 – ความซื่อสัตย์ต่อความตาย’”
เย่ฉางเปิดดนตรีเต้นรำที่เขาจัดไว้ให้กับเธอในปีนั้น เดิมทีมีเพียงแค่ 2 ส่วนเท่านั้น ส่วนที่ 3 เป็นส่วนที่เขาทำเสร็จหลังจากที่เขาฟื้นความชัดเจนในวันที่ฝนตก การเต้นของเขาก็ยังคงเป็นการเต้นของคนสองคน เย่ฉางเริ่มระลึกถึงช่วงเวลาเหล่านั้น การเต้นรำที่ดูปกติแต่ร่าเริงของเขา จังหวะ, หมุน, ก้าว, เปลี่ยน ทุกคนรู้สึกราวกับกำลังเฝ้าดูการเต้นของชายหนุ่มเต้นไปรอบๆหญิงสาวคนหนึ่ง อย่างไรก็ตามจังหวะค่อยๆเปลี่ยนเป็นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เขามีท่าทางดูกระวนกระวายใจ เข่าของเขาไร้เรี่ยวแรงจนหลุดลงไปบนพื้น เพลงที่สั่นคลอนทำให้การเต้นของเขาดูเหมือนกับกำลังแบกรับเรื่องราวที่ทุกข์ทรมานเกินจะทนไหว ราวกับว่าพวกเขากำลังเฝ้าดูผู้ชายคนหนึ่งถือศพของคนรักของเขาในวันที่ฝนตก เขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังในขณะที่นั่งจมไปที่กองเลือดและสายฝน ชายคนนั้นเศร้าโศกมาก แต่ก็ยังกอดเธออย่างนุ่มนวล และไม่ยอมปล่อยมือจากเธอไป ในท้ายที่สุด ทั้งคู่ก็ต้องแยกจากกันไปตลอดกาล ทีมของเย่ฉางมีการแสดงออกที่โศกเศร้า ในขณะที่พวกเขามองไปยังฉากที่มืดมนฉากนี้ ในที่สุดเย่ฉางก็กระโดดลงไปในความมืด และการเต้นรำก็สิ้นสุดลง มันไม่ใช่ฉากจบที่แฮปปี้เอนดิ้ง มีเพียงแต่ความรักและความศรัทธาในขณะที่เขากระโดดลงไปในความมืดเท่านั้น
เพลงแจ๊สที่เริ่มต้นอย่างร่าเริ่ง กลายเป็นมืดมน, หดหู่, โศกเศร้าโดยการเต้นของเย่ฉาง
“ไม่!!!” ผู้หญิงนับไม่ถ้วนกำลังร้องไห้
เย่ฉางค่อยๆเดินออกมาจากความมืด เขาถอดหมวกออกและโค้งคำนับอีกครั้ง
หญิงสาวทั้งหมดในทีม Thorn and Roses ต่างพากันร้องไห้ออกมา การเต้นของเขามันสะเทือนใจมากเกินไปจริงๆ เพลงที่แสนเศร้า และการเต้นที่เศร้าโศกผสมผสานกันเพื่อสรรสร้างการเต้นที่ดีที่สุดออกมา พลังการทำลายล้างครั้งนี้สูงเกินไป แม้แต่ ElegantFragrance และ FrozenBlood ที่เป็นพวกหญิงแกร่งใจกล้า ก็ยังไม่สามารถหันไปแอบเช็ดน้ำตาของพวกเธอได้ หลินหลี่ก็รู้สึกเสียใจมากด้วยเช่นกัน จางเจิ้งเฉียง และเย่เทียนก็ร้องไห้ด้วยใบหน้าที่ไม่น่าดูมากเท่าไหร่
“เพื่อน สำหรับพี่สาวและฉันที่ได้พบกับนายในช่วงชีวิตนี้ ฉัน…” จางเจิ้งเฉียงไม่สามารถพูดไปมากกว่านี้ได้ เย่เทียนเดินไปกอดเขา “หนูรู้ค่ะ…”
“หลังจากที่พี่สาวฉันตาย เขาต้องทนทุกข์ทรมานมากแค่ไหนเพื่อฉันกัน เขาถึงกับทิ้งขว้างชีวิตตัวเอง และทำทุกอย่างเพื่อฉัน เขามีอายุพอๆกับฉัน แต่เขาดูแลฉันเหมือนเป็นพ่อเหมือนเป็นพี่ชายของฉัน ถึงแม้ว่าฉันจะติดหนี้เขามาก แต่ฉันก็ไม่สามารถแม้แต่จะตอบแทน หรือช่วยเขาและพี่สาวของฉันได้เลย… ฉันมันเป็นขยะที่ไร้ประโยชน์มากจริงๆ…” จางเจิ้งเฉียงจับมือของเย่เทียน เสียงพูดของเขาเป็นเพียงเสียงพึมพำออกมาเท่านั้น
เย่เทียนพิงไหล่ของจางเจิ้งเฉียง “พี่ใหญ่เฉียง พ่อคงมีความภูมิใจที่ได้มีเพื่อนและน้องชายอย่างพี่ หนูยังคิดว่าพี่เป็นพี่ชายที่แท้จริงของหนูเลยนะ พวกเราทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกันนะคะ…”
“ใช่แล้ว พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน…” หลินหลี่กระโดดเข้าไปกอดจางเจิ้งเฉียง
FrozenCloud ยืนจับมือจางเจิ้งเฉียงอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ เธอมองไปที่จางเจิ้งเฉียงที่กำลังร้องไห้ราวกับสาวน้อย หัวใจของเธอถูกทำให้สั่นสะเทือน ความแข็งแรง, ความบ้าบิ่นเป็นลักษณะภายนอกของเขา แต่หัวใจของเขาดูบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก ‘ฉัน… ฉัน… อาจจะชอบไอหมีที่โง่เง่าคนนี้จริงๆงั้นหรือ’
“น้องเล็กไดโน แม้ว่าฉันจะสูญเสียการควบคุมเล็กน้อย แต่… เฮ้อ… ถ้าหน้าของเธอไม่ขรุขระเหมือนกับเส้นทางบนภูเขาล่ะก็…” จางเจิ้งเฉียงเช็ดหน้าเช็ดตาของเขา และพูดออกมาอย่างจริงจัง
“พี่สาวไดโน แม้ว่าพี่จะเป็นพี่สาวของหนู(พี่สาวรถเข็น) แต่หนูก็ไม่ยอมให้พี่อยู่ด้วยกันกับพี่ใหญ่เฉียงหรอกนะ พี่จะทำลายความฝันของพี่ใหญ่เฉียง ในการมีลูกที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ธรรมดา ไม่ว่าจะสวยงามหรือเป็นสาวหล่อก็ดี พี่จะทำอย่างนั้นไม่ได้นะ ..” เย่เทียนพูดอย่างจริงจัง
“น้องเล็กไดโนเป็นคนดี แต่แค่นิดหน่อยเท่านั้นนะ… แม้ว่าฉันต้องการจะโต้กลับเย่เทียน แต่ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี สิ่งที่ผมจะพูดก็คือ มันเป็นความผิดของเธอน้องเล็กไดโน! ใครบอกให้เธอเกิดมาน่าเกลียดมากกันล่ะ! มันเป็นเพราะเธอ ผมจึงไม่มีอะไรที่จะสามารถโต้กลับไปได้! น่ารังเกียจจริงๆ!!” หลินหลี่เปลี่ยนจากการปกป้องเป็นการบ่นคร่ำครวญแทนทันที เขามองไปที่การแสดงออกอย่างภาคภูมิใจของเย่เทียน และมองด้วยสายตาเกลียดชังไปที่ FrozenCloud
“……” อารมณ์ของ FrozenCloud ตอนนี้ มีเพียงต้องการที่จะฆ่าพวกเขาทีละคนทีละคน
ซูหยี่ยี่โค้งคำนับอย่างลึกซึ้งเพื่อแสดงความเคารพของเธอ เขาเป็นราชานักเต้นที่แท้จริง! แม้แต่เธอก็ไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้ร้องไห้ออกมาได้ ผู้บรรยายอย่างพี่ใหญ่เฉาก็ยังต้องใช้หมวกปิดบังใบหน้าเพื่อเช็ดน้ำตาและน้ำมูกของเขาเลย พี่ใหญ่จงก็ใช้ผมสีทองที่เหมือนกับตัวละครในอนิเมะ มาปิดบังใบหน้าในการร้องไห้ของเขาด้วยเช่นกัน
“พวกเราได้พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง…” สมาชิกทีม Broken Halberd ต่างก็พากันสูดหายใจเข้าลึกๆ
เย่ฉางยิ้มอย่างแผ่วเบา เชยคางของซูหยี่ยี่ด้วยไม้เท้าของเขา “เงยหน้าขึ้น โปรดจำกฎข้อแรกของฉันไว้ให้ดี ถ้าหากเธอต้องการจะเรียนรู้จากฉัน เมื่อเธอเต้นรำ เธอต้องสวมเครื่องแต่งกายอย่างเป็นทางการ…”
“ฉันเข้าใจแล้ว…” ซูหยี่ยี่ลังเลใจ จากนั้นเธอก็แสดงรอยยิ้มที่ไม่อาจบรรยายได้ออกมา