เย่ฉางกลับไปที่บ้านพักริมทะเล เขามองไปยังมือขวาของตัวเอง และรู้สึกสังหรณ์ใจถึงลางร้ายบางอย่าง
…
ในขุมต่ำสุดของนรกอเวจี (อเวจีคือนรกขุมต่ำสุดตามความเชื่อทางศาสนาพุทธ)
อเวจีคือความโหดร้ายของนรก ผู้ที่อยู่ในนรกอเวจีจะไม่สามารถหลบหนีได้ และต้องทนทุกข์ทรมานต่อการลงโทษห้าประเภท ประเภทแรกการลงโทษของเวลา สำหรับผู้ที่ถูกส่งลงมาที่อวเจีต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในนรกชั่วกัปชั่วกัลป์ ประเภทที่สองการลงโทษของพื้นที่ ผู้ที่ถูกส่งลงมาที่อเวจีจะถูกทรมานไปตามทุกส่วนของร่างกายและจิตวิญญาณ ไม่มีเว้นแม้แต่นิ้วเดียว ประเภทที่สามเครื่องมือแห่งการลงโทษ ผู้ที่ถูกส่งลงมาอยู่ในอเวจีจะไม่ถูกทรมานด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ หรือวิธีการทรมานเพียงแค่อย่างเดียว แต่พวกเขาจะถูกทรมานด้วยเครื่องมือ และวิธีการที่แตกต่างกันหลากหลายวิธี ประเภทที่สี่การลงโทษด้วยความเสมอภาค ไม่มีใครที่จะได้รับการพิจารณา และยกเว้นโทษเป็นกรณีพิเศษแม้แต่คนเดียว ประเภทที่ห้าการลงโทษแห่งชีวิตและความตาย ผู้ที่ถูกส่งลงมาที่อเวจีจะได้รับทุกข์โทษอย่างแสนสาหัสจนขาดใจตายไปแล้ว แต่ก็ฟื้นกลับมารับโทษทัณฑ์อยู่ร่ำไป เวลาของในนรกจะถูกบิดเบือนจากความเป็นจริง หนึ่งวินาทีในนรกอาจจะเท่ากับหนึ่งหมื่นปีบนโลกมนุษย์ เวลาไม่มีความหมายในนรกแห่งนี้
ในส่วนที่ลึกสุดของนรกอเวจี เป็นผู้ชายที่มีผิวถูกถลกออกทั้งหมด เขาจ้องมองไปข้างหน้าอย่างว่างเปล่า เขามีผมยาวสีขาวที่่ถูกย้อมด้วยสีแดงของเลือด เขาได้รับการลงโทษมานับไม่ถ้วน ทั้งถูกดึง แยกส่วน, ถลกหนัง, ตัดเป็นชิ้นๆ, ร่างกายบิดเบี้ยว, แต่ร่างกายของเขายังคงฟื้นกลับคืนมา เหมือนกับเล่นฉากเดิมซ้ำไปซ้ำมา ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ส่งเสียงกรีดร้อง และไม่ได้แสดงออกถึงความทรมานออกมาเลยสักครั้ง ดวงตาสีชมพูของเขาดูไร้ความรู้สึก แต่ยังคงจ้องมองออกไปในความมืดอย่างแน่วแน่
“เขาได้รับความทุกข์ทรมานมา 9 ล้านล้านปีแล้ว นรกอเวจีได้แสดงให้เห็นว่าร่างกายของเขาเป็นอมตะ ทั้งหมดที่เราทำได้คือการวางกับดักเขาไว้ที่นี่ ถ้าเขาเปิดหนังสือแห่งความหวังได้สำเร็จ พระเจ้าทั้งหมดในดาวดวงนี้จะถูกสังหารโดยเขา” เสียงของผู้หญิงได้เล็ดลอดออกมาจากช่องว่าง
“เรามีทางเลือกอื่นอีกไหม? เราไม่สามารถฆ่าร่างอมตะของเขาได้เลย เธอจะทำยังไงกับเขากัน?” เสียงผู้ชายได้ดังสะท้อนไปทั่วทั้งนรก
“เราต้องรออีกหน่อย ถึงจะปล่อยให้เขาเป็นอิสระได้ บางทีเราอาจจะสามารถใช้ช่วงเวลาปัดเป่าความเกลียดชังของเขาได้ ความจริงก็คือ ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกถึงความเกลียดชังใดๆจากเขาเลย มันก็ผ่านมาเป็นเวลาถึง 9 ล้านล้านปีแล้วนะ แต่เขาก็ยังคงจ้องมองออกไปข้างหน้าอยู่ตลอดเวลา…” เสียงของผู้หญิงถอนหายใจออกมา
“เธอเชื่อจริงๆงั้นหรือว่า หลังจากที่เราทรมานเขามานานแสนนาน และบังคับให้เขาตื่นขึ้นมาตลอดเวลา จะไม่ทำให้เขามีความเกลียดชังใดๆเลยงั้นหรือ?” เสียงของผู้ชายตอบโต้กลับไป
“เฮ้อ… ฉันไม่เคยคิดเลยว่า สิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นมาจะบุกเข้ามาในนรกอเวจีเพื่อชุบชีวิตใครคนหนึ่ง จะไปสะดุดเข้ากับหนังสือแห่งความหวัง ทำให้พวกเราอับจนหนทางเต็มที แต่อย่างไรก็ตาม เขาสามารถเปิดหนังสือแห่งความหวังได้งั้นหรือ?” เสียงของผู้หญิงพูดออกมาเบาๆ
“ไม่ว่าเขาจะทำได้หรือไม่ก็ตาม แต่เรากล้าที่จะเสี่ยงได้ด้วยงั้นหรือ? กฏทั้งสี่ประกอบขึ้นด้วย หนังสือแห่งบาป, หนังสือแห่งความหวัง, หนังสือแห่งการทำลาย และหนังสือต้นกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเล่มไหน พวกมันก็มีพลังที่น่าหวาดหวั่นมาก ทั้งเธอและฉันก็ไม่รู้เลยว่าหนังสือพวกนั้นทำอะไรได้บ้างกันแน่ นอกเหนือจากหนังสือแห่งบาปเพราะ…” เสียงของผู้ชายยังคงพูดอย่างต่อเนื่อง
“เพราะหนังสือแห่งบาปอยู่ในมือของคุณชายคนนั้น คนของพันธมิตรเพื่อสันติภาพจักรวาล…” เสียงของผู้หญิงได้หัวเราะออกมาอย่างขมขื่น
ผู้ชายผมขาวยังคงได้รับความทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ ในขณะที่เขามองไปข้างหน้าอย่างไร้ความรู้สึก แต่ยังคงแน่วแน่
…
เช้าวันรุ่งขึ้น เวลาอาหารเช้า
อูนาและคนอื่นๆ ดูเหมือนจะสงบเสงี่ยมต่อหน้าผู้หญิงคนใหม่ เธอมาที่นี่เพื่อเรียนเต้นรำ และทั้งสามคนก็ได้คุยกันอย่างมีความสุขเมื่อคืนนี้ พวกเขาปฏิบัตราวกับเธอเป็นพี่สาวที่แท้จริง อูนารู้สึกขอบคุณมากสำหรับความคิดเห็น และคำแนะนำของซูหยี่ยี่เกี่ยวกับการแต่งเพลง แม้แต่ FrozenCloud ก็ยังได้รับบางสิ่งบางอย่างที่เกี่ยวกับการแสดงด้วยเลย
ฟางชิเฝ้าดูซูหยี่ยี่เล่นกับถงน้อย เขามองไปยังการแสดงออกที่มีความสุขของถงน้อยและยิ้มออกมา ตามที่คาดคิดเทพธิดาที่มีชื่อเสียงคนนี้มีความสัมพันธ์ที่เข้ากับคนอื่นได้ดีมาก
จางเจิ้งเฉียงจะมองไปที่ซูหยี่ยี่เป็นครั้งคราว ‘เทพธิดา… เทพธิดา…’
เย่ฉางมองดูข่าวโดยไม่สนใจอะไร
ซูหยี่ยี่ค่อนข้างพอใจกับสถานที่แห่งนี้ มันสงบมาก และมีสายลมทะเลที่สดชื่นอยู่เสมอ มันเป็นบ้านพักตากอากาศที่ดีเกินไปในวันหยุดยาวนี้ มันน่าสนใจยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับสถานที่หรูหราอื่นๆ ลมทะเลได้พัดชุดเดรสของเธอกระพือไปมา จางเจิ้งเฉียงจึงรีบก้มลงอย่างกระทันหัน หลินหลี่ที่อยู่บนเสากระโดงเรือกับเขา ได้ก้มตัวเลียนแบบจางเจิ้งเฉียง “มันเป็นสีแดง!”
“ไปทะเล ไปทะเลกัน” เย่ฉางได้เรียกทุกคนเข้ามา “ถงน้อย เธอควรกลับเข้าไปในบ้านนะ บนเรือมันค่อนข้างสั่นเล็กน้อยหนะ เมื่อเธออาการดีขึ้นอีกหน่อย จากนั้นพวกเราค่อยไปจับปลาด้วยกัน ฟางชินายก็เหมือนกัน”
“เอ๊ะ…” ถงน้อยไม่พอใจนิดหน่อย แต่เธอก็เป็นเด็กสาวที่ฉลาด และรู้ว่านี่เป็นผลดีกับตัวเธอเอง ฟางชิยิ้มออกมา และพาเธอกลับไปที่บ้าน
“วันนี้ฉันต้องไปที่สโมสร ดังนั้นฉันจะไม่ไปทะเลกับพวกนายนะ” อูนาหยิบกีตาร์ของเธออกมา และอำลาทุกคน จากนั้นเธอก็เดินทางไปสโมสรทางรถไฟ
ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตรในทะเล
ซูหยี่ยี่มองไปยังฉมวกที่เย่ฉางมอบให้กับเธอ เธอได้ยินเขาพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการฝึกร่างกายหรืออะไรทำนองนั้น เธอมองไปยัง FrozenCloud ที่กำลังถือฉมวกอยู่ และดูเหมือนว่าเธอกำลังตื่นเต้นอีกด้วย ‘เธอเป็นผู้หญิงจริงงั้นหรือ?’
ซูหยี่ยี่กระโดดตามทั้งสามคนลงไปในน้ำ ภาวะซึมเศร้าแต่เดิมของเธอได้หายไปหลังจากที่เธอได้ปลาตัวแรก นี่มันแตกต่างจากการฝึกอบรมว่ายน้ำมากจริงๆ การฝึกซ้อมแบบนี้จำเป็นต้องควบคุมความรุนแรง เมื่ออยู่ใกล้ปลา อย่างแรกเลยคือต้องเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ จากนั้นก็ระเบิดความแข็งแกร่งที่มีออกมาทั้งหมด เธอโผล่ขึ้นมาจากน้ำด้วยรอยยิ้มที่สดใสและมีเสน่ห์ เธอมองไปที่ปลาตัวใหญ่บนฉมวกของเธอ จากนั้นเธอก็หันกลับมา และเห็นครีบขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำพุ่งเข้าหาเธอ นี่เป็นฉากที่คุ้นเคยมาก เธอรู้สึกเหมือนเคยเห็นทางทีวีมาก่อน เธอดำดิ่งลงไปใต้น้ำ และเงยหน้าขึ้นมองเห็นฉลามขาวขนาดมหึมาที่กำลังพุ่งมาหาเธอ ‘โอ้ พระเจ้า!’ เธอรีบว่ายน้ำหนีอย่างสุดชีวิตไปยังทิศทางของเรือ แต่เธอกลับเห็นทั้งสามคนว่ายน้ำเข้ามาหาเธอ “เป็นฉลามขาวชั้นยอด!”
ฉลามขาวชั้นยอดเห็นจางเจิ้งเฉียง, หลินหลี่ และ FrozenCloud ว่ายน้ำพุ่งเข้ามา จากนั้นมันก็หันตัวกลับ และรีบว่ายน้ำหนีจากไปสุดชีวิตทันที
“……” ซูหยี่ยี่หลั่งเหงื่อที่เย็นเยียบออกมา ‘พวกคุณไปทำอะไรกับมันกัน? มันถูกรังแกจนหวาดกลัวคุณอย่างเห็นได้ชัด!’
หลังจากเวลาผ่านไปไม่นาน ซูหยี่ยี่ก็ว่ายน้ำกลับขึ้นเรือ และขึ้นไปนั่งหอบหายใจพะงาบพะงายบนเกาอี้ที่ด่านฟ้าของเรือ FrozenCloud ส่งมอบเครื่องดื่มชูกำลังที่ทำขึ้นด้วยตัวเองให้กับเธอ “ครั้งแรกก็จะเหนื่อยเล็กน้อยแบบนี้แหละ แต่เธอจะเคยชินกับมันไปเอง หลังจากผ่านไปไม่กี่ครั้ง”
ระหว่างปิ้งบาร์บีคิว
“ให้ฉันย่างให้คุณเถอะ” ซูหยี่ยี่เห็นการแสดงออกของเย่ฉางที่เต็มไปด้วยความปรารถนา และด้วยการถอนหายใจของทุกคน เธอยื่นบาร์บีคิวให้กับเขา ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ได้ยื่นสิ่งที่ดำมืด และมีกลิ่นแปลกๆส่งคืนให้กับเธอ มันไม่ได้เหมือนกับบาร์บีคิวที่เธอยื่นให้เขาไปเลยสักนิดเดียว ส่วนที่เป็นสีดำนี่ถูกเคลือบด้วยช็อกโกแลต? ดูเหมือนว่าเขายังใช้ส่วนผสมของผักบางชนิดใส่เข้าไปจนถูกเผาเป็นขี้เถ้าอีกด้วย เธอเงยหน้าขึ้น และเห็นการแสดงออกที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของเย่ฉาง “ลองกินดูสิ”
“……” ซูหยี่ยี่หลั่งเหงื่อที่เย็นเยียบออกมา และพยายามที่จะกัด แต่จบลงด้วยการยืนพิงเรือเพื่อคืนสิ่งที่เธอได้กินไปตอนเช้าและกลางวันกลับคืนสู่ธรรมชาติ
หลังอาหารเย็น พระอาทิตย์ที่กำลังตกดูสวยงามมากจนทำให้หัวใจของทุกคนอุ่นขึ้น ซูหยี่ยี่รู้สึกผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์ เธอมองไปยังทั้งสี่คนที่กำลังเล่นบอร์ดเกมกันอยู่ด้านข้าง จากนั้นก็หันไปมองเย่เทียนผู้ที่กำลังเล่นแท็บเล็ตอยู่ “ทำไมเธอถึงไม่ไปเล่นกับพวกเขาล่ะ?”
“พวกเขาไม่ชอบที่ฉันนับไพ่ได้ และสถาบันการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษายังมีวิทยานิพนธ์ 50 เรื่องให้ฉันทบทวน อืม… แต่มันคงใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่นัก หลังจากที่ฉันทบทวนเสร็จแล้ว คุณป้ายังได้ขอให้ฉันช่วยล้างข้อมูลขยะออกให้หมดอีกด้วย” เย่เทียนตอบกลับไปอย่างสงบ
“……” ซูหยี่ยี่ตกตะลึง นี่เป็นเด็กหญิงอายุ 10 กว่าปีจริงงั้นหรือ? ถึงแม้ว่าเธอจะเคยได้ยินมาว่ามันสมองและที่ปรึกษาของทีม T-105 จะเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆก็ตามที แต่เธอก็ไม่เคยเชื่ออย่างเต็มที่ เธอลุกขึ้นและเดินไปดูเนื้อหาของวิทยานิพนธ์ แต่เธอกลับรู้สึกว่าเย่เทียนไม่ได้อ่านมันเลย เธอแค่พลิกผ่านมันเหมือนกับเครื่องพิมพ์เงิน ซูหยี่ยี่ขอเย่เทียนให้หยุดสักครู่ และอ่านหัวข้อของวิทยานิพนธ์ ปฏิกิริยาที่แตกต่างของการลดไอออน และการสลายตัวภายใต้การสั่นสะเทือนสูง XXXX เมื่อเธอเห็นถึงหัวข้อนี้ ทำให้เธอรู้สึกโง่งมไปเลยทีเดียว หน้าของคำ และการคำนวณเป็นเหมือนเวทมนตร์ ทำให้เธอปวดหัว ดูเหมือนว่าหญิงสาวตัวน้อยคนนี้จะเป็นอัจฉริยะของจริง เธอกลับไปที่เก้าอี้ และพักผ่อนมองดูทะเลสีทองด้วยความรู้สึกพึงพอใจ จนมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนริมฝีปากเธอ
“เพื่อน เราไม่เคยใช้เวลาทั้งคืนในทะเลกันเลย ลองพักกลางทะเลตอนกลางคืนกันเถอะ ฉันขอสวมใส่การ์ดง้าวระเบิดทำลายเมืองมังกรให้กับใช้ราชันนักฆ่า เพื่อฆ่าราชากระต่ายปีศาจ” จางเจิ้งเฉียงพูดออกมาในขณะที่เขากำลังเล่นบอร์ดเกมไปด้วย
“ก็ได้ เปิดใช้งานการ์ดอัลติเมท! การเต้นรำของพระเจ้า และปีศาจ! เป้าหมายคืออิลินแดนของน้องเล็กไดโน เธอมีการ์ดเค้าเตอร์ถึง 16 ใบรึเปล่า? ถ้าไม่มีงั้นเธอก็ตายไปซะ! ฮ่าฮ่า!” เย่ฉางตอบขณะที่เล่นบอร์ดเกมไปด้วย
“การใช้เวลากลางคืนในทะเลฟังดูน่าสนใจ หัวหน้าทีมคะ ฉันขอโทษด้วย ฉันอาจจะไม่มีการ์ดเค้าเตอร์ถึง 16 ใบ แต่ฉันมีการ์ดนี้! การ์ดกับดักทำงาน! ความตายของอัลติเมท! การ์ดใบนี้ทำให้การ์ดอัลติเมทของหัวหน้าทีมไร้ผล และทำให้ฉันจั่วการ์ดเพิ่มขึ้นมาอีก 3 ใบ! ตอนนี้แหละ! การ์ดการกลายร่างเป็นปีศาจ! ฉันขออัญเชิญซัมมอนธาตุไฟ!!” FrozenCloud ยิ้ม และเปิดใช้งานการ์ดกับดักของเธอ
“หืม หืม เทิร์นของหลินหลี่! จั่ว! การ์ดเกราะชีวะกายเวอร์! สวมใส่! ขอโจมตีผู้พิชิตเซียงหยู่ของพี่ใหญ่เฉียง! เปิดใช้งานการ์ดอัลติเมท! การ์ดปืนใหญ่กายเวอร์!” หลินหลี่เปล่งเสียงทางจมูก
“เปิดใช้งานการ์ดเวทมนตร์! การ์ดอำลาเมียน้อย! เมื่อโดนโจมตีโดยการ์ดอัลติเมทจะสามารถอัญเชิญฮีโร่พิเศษขึ้นมาได้ ฉันขออัญเชิญยูจิ!! ลดความเสียหาย 75%! ฮ่าฮ่า! พี่ใหญ่คนนี้ไม่รู้สึกแม้แต่จะจักกะจี้เลยสักนิด! แถมยังได้ฮีโร่พิเศษเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย!” จางเจิ้งเฉียงใช้ประโยชน์จากการ์ดเด็คฮีโร่ของเขา
“อาเฉียง ฉันกำลังเฝ้ารอการเคลื่อนไหวของนายครั้งนี้อยู่เลย! การ์ดเวทมนตร์ทำงาน! ลิโป้ และเตียวเสี้ยน! เมื่อผู้เล่นคนอื่นเรียกฮีโร่พิเศษผู้หญิงออกมา! ฉันจะสามารถเรียกเตียวเสี้ยนออกมาได้ทันที! ฉันขอใช้เอฟเฟคพิเศษของเตียวเสียน! เอฟเฟคล่อลวง! เป้าหมายคืออิลินแดน และเซียงหยู่! ให้ต่อสู้กันเอง!” เย่ฉางหัวเราะเบาๆ ‘ฉันมีการ์ดเคาเตอร์ได้ทุกอย่างโว้ย!’
“เพื่อน อย่าลืมเกี่ยวกับยูจิของฉันสิ เปิดใช้งานสุดยอดอัลติเมทยูจิ! ขณะที่ผู้พิชิตเซียงหยูอยู่บนสนาม! สกิลของเพศหญิงไม่สามารถล็อคเป้าไปที่เซียงหยูได้!” จางเจิ้งเฉียงพูดพร้อมกับทำท่าเตะเครนคิกของคาราเต้ออกมา
FrozenCloud หลั่งเหงื่อออกมา ‘ต้องโอ้อวดในขณะที่เล่นบอร์ดเกมกันด้วย? แต่! อย่าคิดว่าฉันเป็นหมูที่จะถูกกินง่ายๆนะ!’ “ขอสวมใส่ดาบแอสซินอท! เพิ่มพลังโจมตี +2 เพิ่มความสามารถในการโจมตีกระจาย! เพิ่มระยะในการโจมตีกระจาย! โจมตี!!” FrozenCloud จัดการสร้างความเสียหายให้กับทั้งสามคน
หลินหลี่บุ้ยปาก “เธอรังแกผมงั้นหรือ!? ผมจะสู้กับเธอเอง!! จั่ว! ฮ่าฮ่า! การ์ดวิวัฒนาการ! เหยี่ยวพายุ! จั่วอีกครั้ง! หลินหลี่ยอดเยี่ยมที่สุด! การ์ดวิวัฒนาการ! ฟินิกซ์นรก! เปิดใช้เอฟเฟคการ์ด! เปลวเพลิงนิพพาน! โจมตีไปที่น้องเล็กไดโน!”
ซูหยี่ยี่เฝ้าดูเกมของพวกเขา บรรยากาศรอบตัวหนักอึ้งราวกับพวกเขาสามารถเปิดฉากการต่อสู้ได้ตลอดเวลา เธอเดินออกมาเพื่อชมดูบรรยากาศ หลังจากที่ความงามของพลบค่ำก็เป็นทะเลแห่งดวงดาว เธอเป็นคนที่ยุ่งมาก ดังนั้นมันจึงเป็นเวลานานมากแล้วที่เธอไม่ได้หยุดพัก และผ่อนคลายมากขนาดนี้ เธอยืนพิงราวบันได เธอเอื้อมมือออกไปปัดผมเหน็บไว้ที่หลังหู ‘ฉันควรจะพักผ่อนเพื่อผ่อนคลายตัวเองบ้าง การแข่งขันลีคอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในเร็วๆนี้แล้ว’ เธอหันหลังกลับไป และเห็นเย่เทียนถือไอติมยื่นให้กับเธอ เธอจึงหยิบไอติมมาด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณนะ…”
“โอ้ใช่แล้ว กรอกแบบฟอร์มนี้ด้วยนะ” เย่เทียนหยิบกระดาษออกมา
ซูหยี่ยี่หยิบมันมา และมองเห็นตัวอักษรขนาดใหญ่ที่สะดุดสายตาของเธอ ‘แบบฟอร์มใบสมัครพันธมิตรแอนตี้หลินหลี่’ ซึ่งทำให้เธอหัวเราะอย่างหนักจนน้ำหูน้ำตาไหล