“ถ้าเธอสู้กับ SpyingBlade เธอคิดว่ามีโอกาสชนะเขาเท่าไหร่?” ThornyRose มอง FrozenBlood และถามอย่างจริงจัง
“ไม่เกิน 20% …” FrozenBlood ไม่ต้องการยอมรับ แต่ก็ยังพยักหน้า มันยากมากจริงๆที่เธอจะเอาชนะ CompassionateDream ได้แบบเขา เขาไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวอะไรมากเลย แต่ก็บังคับให้เธอใช้ท่าไม้ตายใส่เงาของเขาได้ จนเขาสามารถทำเฟอร์เฟคคิวได้ สมกับเป็นตัวละครที่พร้อมจะเลื่อนระดับเป็นแร็งค์ SS ได้ตลอดเวลา เพชฌฆาตเงา!!!
“ถ้าเป็นผมล่ะก็ 50-50” หลินหลี่พูดพร้อมกับพยักหน้าอย่างไม่แยแส
“ฮึ่ม ฉันไม่มีทางแพ้เขา …” จางเจิ้งเฉียงเปล่งเสียงทางจมูก
“ฉันเป็นเอซ ไม่มีคำพูดอะไรมากไปกว่านี้ …” เย่ฉางเงยหน้าขึ้น 45 องศา
“เจ้าบ้า อะไรที่นายเรียกว่าเอซ! นายอยู่ตรงข้ามกับมันเลย มันก็ดีหรอกนะที่นายเป็นตัวหลักของทีม แต่เสียตรงที่นายไม่ยอมฟังคำสั่ง …” ทีแรก ThornyRose ต้องการที่จะตอกย้ำคำพูดของหลินหลี่ที่บอกว่า 50-50 แต่เธอต้องการที่จะโต้กลับเย่ฉางมากกว่า DarkBlade คือคนที่มีตัวละครที่พร้อมจะเลื่อนระดับเป็นแร็งค์ SS ได้ตลอดเวลาเชียวนะ!!
“ในฐานะที่ฉันเป็นหัวหน้าของ Happy Firmament ฉันต้องเอาชนะเอซคนอื่นทั้งหมด อาเฉียง ฉันรู้ว่านายอยากจะขึ้นไป แต่ปล่อยเรื่องนี้ให้กับฉัน …” เย่ฉางหยุดจางเจิ้งเฉียงซึ่งกำลังจะขึ้นไปบนเวทีไว้ จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นเวทีพร้อมกับเปลี่ยนเป็นนักดาบปีศาจตอนลอยอยู่บนอากาศ “เจ้าขยะ…”
“ไอ้คนชั้นต่ำ …” SpyingBlade กอดอกและอดยิ้มออกมาไม่ได้ ‘คนๆนี้เป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ เห็นได้ชัดว่าขนาดเป็นการแข่งขันของสโมสร แต่เขาก็ยัง …’
ThornyRose ตกตะลึง พวกเขาทั้งหมดอยู่ในสโมสรเดียวกัน ทุกอย่างเพื่อประโยชน์ในการเดินทางสู่สงครามคริสต์มาสที่ยิ่งใหญ่! แต่พวกเขายังอยากต่อสู้กัน! “นายรีบลงมาซะ!”
“พวกเขากำลังจะทำอะไรกัน?” พี่ใหญ่เฉาจ้องมองอย่างว่างเปล่า
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน การกระทำของพวกสามพี่น้อง ยากเกินไปที่จะเข้าใจได้” พี่ใหญ่จงหลั่งเหงื่อเย็น
“พวกเขาอยู่ในสโมสรเดียวกัน หรือนี้จะกลายเป็นสงครามภายใน? กฎการแข่งอนุญาตให้ทำได้ด้วยหรือ?” ซูหยี่ยี่ถามอย่างไม่แน่ใจ
“ถ้ามันเป็นเพียงเพื่อความบันเทิง ฉันจะอนุญาตให้ แต่นี่มันเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัว เรื่องนี้มันจึงเป็นไปไม่ได้หรอก” พี่ใหญ่เฉาถอดหมวกนอนที่เป็นรูปทะเลเมดิเตอร์เรเนียนออก และเปลี่ยนเป็นหมวกรูปห้าเหลี่ยม
“เราต้องดูว่าทีม Falling Star จะเห็นด้วยหรือไม่” พี่ใหญ่จงตอบ
“พวกเขาคงต้องเห็นด้วยอยู่แล้ว เพราะนี่เป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะได้เก็บข้อมูลของทั้ง DarkBlade และพี่ใหญ่วีรบุรุษ ที่สำคัญพวกเขาแทบไม่ได้เสียหายอะไรเลย” พี่ใหญ่เฉายิ้ม
เป็นไปตามที่คาดไว้ CompassionateStar อนุญาตให้มีการต่อสู้แบบพิเศษนี้เกิดขึ้น
ThornyRose กัดฟันแน่น ‘นายอยู่ในทีมเดียวกันแท้ๆ! แต่นายก็ยังเลือกที่จะจัดการกับเพื่อนร่วมทีมแทนที่จะจัดการคนอื่น!’ เธอโกรธและกระทืบเท้าอยู่ข้างเวที เธอเห็นจางเจิ้งเฉียงและหลินหลี่เริ่มวางแผนที่จะยกธงและเชียร์
นี่เป็นครั้งแรกที่ SpyingBlade จะได้ต่อสู้กับนักดาบปีศาจของเย่ฉาง เขาดึงดาบของเขาและจับมันอย่างแน่นหนา เขารู้ดีว่าการต่อสู้กับเย่ฉางจะไม่ง่ายกว่าการสู้กับ CloudDragon เลย แม้ว่าตัวละครของเย่ฉางจะเป็นเพียงตัวละครแร็งค์ S ก็ตามที แต่เขาก็ต้องระวังตัวไว้ให้ดี
เย่ฉางค่อยๆก้าวเข้าไปหา พร้อมกับมีเสียงกริ๊กกริ๊กดังไปทั่ว และเมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีเงาอย่างฉับพลัน เขาก็ต้องหลบมันไปตามขั้นตอน การต่อสู้ครั้งนี้มันจะต้องไม่สบายๆเหมือนที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ทั้งสองเดินเข้าหากันอย่างช้าๆ 10 เมตร! 9 เมตร! พวกเขาค่อยๆเข้ามาใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ การเผชิญหน้าของทั้งสองคนนี้ ทำให้ผู้ชมทุกคนต่างตื่นตระหนกในกลิ่นอายที่พวกเขาปล่อยออกมา ทุกคนเฝ้ารอชมแทบหยุดหายใจกันเลยทีเดียว
2 เมตร!
“นายจะต้องตายแน่ๆ!!” ทั้งสองคนหัวเราะเยาะใส่กัน กลิ่นอายที่บ้าคลั่งและน่ากลัวของ SpyingBlade ปะทะกับกลิ่นอายที่ไม่แยแสของเย่ฉาง
ระบำเงาดาบและพายุดาบเริ่มปรากฏขึ้นทั่วเวที ผู้ชมทั้งหมดต่างตกใจ พี่ใหญ่เฉาก็ลุกขึ้นยืนและเริ่มปรบมือให้ “การต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม!”
เงาดาบมาจากทุกทิศทุกทาง ในขณะที่พายุบำดูเหมือนจะวุ่นวาย ผู้ชมมองดูวงกลมแห่งความตาย! ทั้งสองคนเป็นตัวละครที่เน้นการลอบสังหาร ยิ่งต่อสู้ความเร็วของเย่ฉางก็ได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วน SpyingBlade ยังคงเพิ่มจำนวนของเงาและอัตราการโจมตีของเขา ในตอนนี้เขามีเงาตั้ง 13 ตัวแล้ว!
เย่ฉางเห็นการโจมตีของเงานับไม่ถ้วนที่พุ่งมาหาเขา! เขาก้าวออกจากพื้นที่ระยะปะทะ สายตาของเขาสแกนผ่านเงาและตัวจริงที่กำลังพุ่งเข้ามา เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง!!!! เสียงดาบปะทะกันดังออกมา คมดาบที่ยาวแตกต่างกันออกจากตัวเย่ฉางเข้าปะทะการโจมตีของ SpyingBlade ภาพเงาจากการปะทะกันของพวกเขา ดูเหมือนดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน จากนั้นเย่ฉางชักดาบยาวออกมา “ตายซะ!”
“ท่าไม้ตายลับ [Frenzy Blade]”
“ไม่มีทาง!” แม้ว่า SpyingBlade รู้สึกประหลาดใจที่การเคลื่อนไหวของเขาถูกบล็อคได้ แต่เขาก็ยังคงยกดาบขึ้นเพื่อป้องกันท่าไม้ตายของเย่ฉาง พร้อมกับยกนิ้วขึ้นสองนิ้วเพื่อร่ายสกิล “ [Curse of the Berserk Shadow] …”
จู่ๆในวินาทีต่อมา เย่ฉางถูกส่งตัวออกไปจากเวที เขามองไปรอบๆอย่างไม่เข้าใจ พวกผู้ชมก็มองอย่างงงๆและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ThornyRose กำหมัดแน่น เธอตัดสินใจใช้อำนาจของเธอ เพื่อบังคับให้เย่ฉางออกจากเวที
“เฮ้! อีกเพียงแค่ไม่กี่วินาที! มันจะเป็นการต่อสู้ที่สมบูรณ์แบบแล้วเชียว! คุณทำแบบนี้ทำไมกัน!? คุณจบมันในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ได้อย่างไร! ถึงแม้ว่าจะเป็นความขัดแย้งภายในก็ตามที แต่นี่เธอก็ทำเกินไปจริงๆ !!”
“ใช่! ใช่ เทพธิดาโรสนี่ทำเกินไปจริงๆ !!”
“น่าเสียดายมาก ในการปะทะกันครั้งนี้ คุณคิดว่าใครจะชนะ?” พี่ใหญ่เฉามองไปที่พี่ใหญ่จงและถามอย่างเศร้าๆ
“มันยากที่จะพูดได้ ทั้งสองคนใช้ท่าไม้ตายลับที่จำเป็นต้องมีเงื่อนไขพิเศษเพื่อเปิดใช้งาน ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก็น่าจะจบลงด้วยการตายคู่ แต่คุณก็เห็นแล้วว่า พี่ใหญ่วีรบุรุษมีความได้เปรียบในการประสานงานและความสามารถในการเคลื่อนไหวของร่างกาย แต่ SpyingBlade มีประสบการณ์และทักษะมากกว่า การปะทะกันของพวกเขาเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก แต่ผลจากการแลกเปลี่ยนครั้งล่าสุดมันยากที่จะคาดเดาจริงๆ ที่สำคัญคือ ThornyRose ก็คงได้ข้อสรุปเช่นเดียวกับฉัน ถ้าเราอยู่ในสถานการณ์แบบเธอ เราก็คงทำแบบเดียวกัน เพราะเธอนั้นไม่สามารถเปิดเผยไพ่ลับสุดท้ายของทีมได้อย่างง่ายๆเช่นนี้ เธอต้องปกปิดความสามารถของทั้งคนนี้ให้ดี คนหนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสังหารที่แข็งแกร่งมาก และอีกคนหนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการลอบสังหารความเร็วสูง …” พี่ใหญ่จงหยุดภาพการปะทะกันครั้งสุดท้ายเอาไว้ชั่วคราวและพูดต่อไปว่า “แต่เราอย่ามองข้ามเจ้าแห่งเพชรไป ถ้าเขาเป็นคนที่ขึ้นไปต่อสู้กับ SpyingBlade ผลการต่อสู้ก็คงดุเดือดเช่นนี้เหมือนกัน สำหรับปีศาจหลี่ผู้บ้าคลั่ง ถ้าฉันมองไม่ผิด เขามีโอกาสที่จะชนะประมาณ 50% แต่อย่าถามฉันว่าทำไม มันเป็นเพราะนักรบดาบยักษ์ไม่เหมาะที่จะต่อสู้ตัวต่อตัวแบบนี้ แต่อย่างน้อยก็มี Angelite ที่ทำได้ และฉันก็คาดว่าเขาน่าจะทำได้ด้วยเช่นเดียวกัน …”
“คุณหมายถึงว่าปีศาจหลี่ผู้บ้าคลั่งจะกลายมาเป็น Angelite คนที่สอง?” ซูหยี่ยี่ถาม
“ฉันอาจจะพูดเกินจริงมากไป Angelite นั้นเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของสมาคมเกมระดับโลก ฉันก็แค่คาดเดาเท่านั้นและฉันก็ดื่มเหล้าก่อนที่จะมาบรรยาย …” พี่ใหญ่จงมองไปที่พวกสามพี่น้องและพึมพำ
“พวกเขาจะกลายเป็นยุคทองของเราหรือ?” พี่ใหญ่เฉาพูดด้วยความความหวัง เขาไม่ได้เป็นนักวิจารณ์เพราะเงิน แต่สิ่งที่เขาต้องการก็คือการเฝ้าดูการต่อสู้อันยอดเยี่ยม
