ณ.บ้านพักริมทะเล
เย่ฉางนำหลินหลี่และคนอื่นๆเดินทางไปยังตระกูลฉินที่เมืองหลวง บนรถไฟมี 6 คนนั่งเล่นเกมกระดานกันอยู่ เมื่อหลินหลี่เดินกลับมาจากห้องน้ำ เขาวิ่งเข้าไปอยู่ด้านหน้าชายสวมแว่นกันแดดที่มีผมสีทองคนหนึ่ง หลังจากที่ตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ เขาจึงตะโกนบอกว่า “พี่ใหญ่ขาว! พี่ใหญ่ขาว! ผู้ชายคนนี้ดูหน้าคุ้นๆจัง!”
เย่ฉางและจางเจิ้งเฉียงลุกขึ้นและเดินเข้ามาดู เย่ฉางจำหน้าเขาได้ทันที “นี่มันชิเซียวนี่หน่า! มาเล่นกับเราเถอะ! ครั้งล่าสุดเขาได้เลี้ยงอาหารฉันที่ตลาดนัดกลางคืนในเขตวิหคเพลิง …”
“เอาล่ะ! ตั้งแต่ที่เขาเลี้ยงอาหารพี่ใหญ่ขาว เขาก็ถือได้ว่าเป็นเพื่อนของเราแล้ว มานั่งกับพวกเราเถอะ ~” หลินหลี่พูดอย่างเป็นกันเอง
หัวใจที่ตื่นตระหนกของชิเซียวเริ่มผ่อนคลายลง เขากลัวว่าคนเหล่านี้จะกลับมากลั่นแกล้งเขาอีกครั้ง เขากำลังวางแผนที่จะปฏิเสธคำเชิญของพวกเขา แต่เขารีบเปลี่ยนความคิดตัวเอง เขาไม่ควรทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขา อย่างน้อยก็ขณะที่นั่งอยู่บนรถไฟเดียวกันแบบนี้ เขาเดินเข้าไปร่วมกลุ่ม และได้เห็นสามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะและ FrozenCloud แต่ใครเป็นคนที่นั่งอยู่ข้างหน้าต่างกัน? เขาส่ายหัวและทักทายพวกเขาทีละคน FrozenCloud ถอนตัวออกจากเกมเพื่อให้เขาเป็นคนเล่นแทน เมื่อพูดถึง FrozenCloud เมื่อตอนที่เขาเคยไปเที่ยวเมืองหลวง ในอดีตเขาเคยเล่นกับเธอหลายๆครั้งมาก่อน อาจกล่าวได้ว่ามีมิตรภาพต่อกันอยู่พอสมควร แม้เขาจะบอกว่าเล่นกัน แต่ส่วนใหญ่นั้น เขาถูกรังแกโดยพี่สาวของเธอเสียมากกว่า ในตอนนั้นเขาช่างไร้เดียงสาจริงๆ เขานั่งแทนที่ FrozenCloud และเล่นเกม เมื่อเขาเล่นไปได้สักพัก เขาก็มีโชคดีในการจั่วการ์ดพอสมควร ทำให้เขาสามารถอวดเบ่งต่อหน้าคนอื่นๆได้ “พวกคุณควรรู้ไว้ด้วยนะว่า ฉันไม่เคยได้ลิ้มรสความพ่ายแพ้ในเกมกระดานมาก่อน …”
เย่ฉาง, หลินหลี่และจางเจิ้งเฉียงเริ่มมีสีหน้าแย่ลง ขณะที่เกมยังดำเนินต่อไป ชิเซียวก็เริ่มห่างชั้นจากพวกเขามากขึ้นไปเรื่อยๆ เขาเหวี่ยงการ์ดออกไปอีกครั้งและชูนิ้วขึ้น “ฉันชนะแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า พวกคุณยังอ่อนแอเกินไป …”
FrozenCloud เห็นเย่ฉางพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อส่งสัญญาณให้หลินหลี่และจางเจิ้งเฉียง จากนั้นทั้งสามคนก็ปั้นรอยยิ้มที่แสนดี เธอหลั่งเหงื่อเย็นออกมา ‘ผู้ชายคนนี้จบเห่อย่างแน่นอน’
ชิเซียวเห็นรอยยิ้มเหล่านั้นที่เหมือนกับครั้งล่าสุด เขาจึงรีบลุกขึ้นและตั้งใจที่จะวิ่งหนี แต่ก่อนที่เขาจะวิ่ง จางเจิ้งเฉียงก็ยื่นมือออกมาและกดลงบนไหล่ของเขา บังคับให้เขากลับไปนั่งตรงที่เดิม
สถานีรถไฟในเมืองหลวง
เนื่องจาก MistyVeil กำลังเดินเล่นอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟพอดี เธอจึงคิดว่าจะไปรอรับชิเซียวเพราะเธอก็กำลังว่างอยู่พอดี เมื่อเธอมาถึง เธอกลับพบว่าเขามีป้ายแขวนอยู่บนคอ ซึ่งเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เลย ป้ายมีขนาดใหญ่พอสมควรจึงปกปิดร่างที่เปลือยเปล่าของเขาไว้อย่างมิดชิด บนป้ายมีข้อความเขียนไว้ว่า “ฉันไม่ควรแสดงออกอวดดีต่อหน้าคนอื่นแบบนั้น ฉันไม่ควรทำลายอารมณ์ของคนอื่น ฉันต้องขออภัยอย่างสูง”
“……” MistyVeil รีบถอดเสื้อแจ็คเก็ตของเธอ และโยนมันไปให้เขา จากนั้นก็พาเขาขึ้นมาบนรถของเธอ
“พวกเขาเป็นคนทำอีกแล้วหรือ?” MistyVeil ตกตะลึง
ชิเซียวเล่าเหตุการณ์ให้เธอฟังอย่างไม่พอใจ MistyVeil ถอนหายใจ และไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี มันเป็นเรื่องไร้สาระจริงๆ เธอกำลังจะสตาร์ทรถ เธอก็เหลือบเห็นพวกของเย่ฉางเดินออกมาจากอีกฟากหนึ่ง SpyingBlade ยังรู้สึกตกตะลึงกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น ‘พวกคนเหล่านี้ไม่หวั่นกลัวที่จะทำร้ายคนอื่นๆเลย…’
MistyVeil มอง SpyingBlade เธอหรี่ตาลง นั่นคือเขา! DarkBlade ผู้สอนบทเรียนที่ขมขื่นที่สุดให้แก่เธอ การพ่ายแพ้ให้กับ FlameEmperor หรือพวกราชันสวรรค์นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติสำหรับเธอ แต่ว่าไม่ใช่การต่อสู้กับ Falling Star ในตอนนั้นเธอหยิ่งและโอ้อวดว่ามือใหม่คนนี้ไม่มีค่าพอให้เธอสนใจ แต่เขาก็สามารถลอบสังหารเธอได้
“FrozenCloud!” MistyVeil ตะโกนออกมา
“FrozenCloud คือชื่อใครกัน? แต่เสียงนี้ฟังดูคุ้นๆจังเลย” เย่ฉางมองไปรอบๆ
“ชื่อฉันเอง!” FrozenCloud ตะโกนด้วยความโกรธ
“โอ้ นี่เป็นชื่อเล่นของนักเล็กไดโนนี่เอง…” เย่ฉางตอบอย่างจริงจัง หลินหลี่ขมวดคิ้วของเขา “น้องเล็กไดโน เธอมีชื่อเล่นตั้งแต่เมื่อไหร่…”
‘บ้าเอ้ย! ฉันมีชื่อว่า FrozenCloud มาโดยตลอด! ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันแนะนำตัวเองแล้ว! น้องเล็กไดโนเป็นเพียงชื่อเล่นที่นายตั้งให้ฉัน เพราะนายคิดว่าฉันเป็นไดโนเสาร์! เฮ้! ไม่ใช่ว่านายลืมไปว่าน้องเล็กไดโนเป็นชื่อเล่นนะ!?’ FrozenCloud คิดกับตัวเอง
“รถฉันมีที่ว่างเยอะแยะเลย ฉันจะให้พวกคุณทุกคนนั่งไปด้วย พวกคุณจะไปที่ตระกูลฉินกันใช่ไหม? ฉันก็กำลังไปหาน้องเซียงอยู่พอดี …” MistyVeil ยิ้ม
“พี่สาว อย่าปล่อยให้พวกเขาเข้ามานะ …” ชิเซียวรีบพูดจากด้านหลัง หลังจากที่เขาใส่กางเกงแล้ว ตอนที่เขาพูดจบ เย่ฉางก็เปิดประตูรถและนั่งลงบนเบาะหลังคนขับ หลินหลี่ยิ้มและนั่งที่ด้านซ้ายของชิเซียว จางเจิ้งเฉียงนั่งอยู่ทางด้านขวาของเขา ส่วน SpyingBlade, FrozenCloud และเย่เทียนนั่งอยู่ในแถวที่สาม
ชิเซียวมองไปทางซ้ายและขวา และเห็นรอยยิ้มของทั้งสองคน หัวใจของเขาสั่นไหว เขาเพียงทำอย่างดีที่สุดในการฝืนยิ้มให้ “ช่างบังเอิญจริงๆที่เราได้พบกันอีกแล้ว …”
จางเจิ้งเฉียงยิ้มและตบหลังเขาเต็มแรง “มันเหมือนกับที่พวกเขาบอกเลยว่า ผู้ชายอย่างเราสานสัมพันธุ์กันด้วยกำปั้น จากนี้ไปนายคือเพื่อนของจางเจิ้งเฉียงคนนี้! ฮ่าๆๆๆ …”
“อืม คุณเป็นเพื่อนของผมเช่นกัน…” หลินหลี่ตบหน้าอกของเขา
ชิเซียวรู้สึกอวัยวะภายในของเขาสั่นระริก … คลื่นความเจ็บปวดได้ไหลผ่านหน้าอกและแผ่นหลังของเขา จนเขากำลังจะระเบิดโกรธออกมา แต่รอยยิ้มที่สดใสและน่ารักของหลินหลี่ได้ปรากฏขึ้นมา “คุณคงไม่ต้องการที่จะโดนมัดติดบนหลังคารถใช่ไหม!?…”
ชิเซียวทำได้เพียงแต่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น MistyVeil ยิ้มอย่างไม่เป็นกังวลใดๆ ‘สมกับเป็นปีศาจหลี่ผู้บ้าคลั่งจริงๆ’ เธอสตาร์ทรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว เธอมองเห็นเย่ฉางผ่านกระจกรถของเธอ ‘เขาสวมชุดชายหาด เขาดูผอมบางและอ่อนแอ แต่ความแข็งแกร่งของเขาค่อนข้างดีมากๆ แม้แต่ DarkBlade ก็ยังยินดีที่จะเข้าร่วมทีม Happy Firmaments เรื่องนี้มันอาจจะเกี่ยวข้องกับการที่เขาได้กลับมาคบกับกงซุนเฉียนอีกครั้งแน่ๆ’
“เราจะหยุดแวะที่ตระกูลลั่วกันก่อน ฉันต้องการเปลี่ยนชุดเสียก่อน พวกคุณจะได้หยุดพักล้างหน้าล้างตากันด้วย…” MistyVeil ยิ้ม
เย่ฉางพยักหน้า พวกเขาไม่ได้เร่งรีบอะไรมาก เพราะยังคงมีเวลาอีกนานก่อนที่งานเลี้ยงจะเริ่มขึ้น
ลานบ้านตระกูลลั่ว
ทุกคนกำลังมองไปที่น้ำพุซึ่งมีรูปปั้นจักรพรรดิดอกเบญจมาศอยู่ตรงกลาง หลินหลี่ไม่แน่ใจว่าทำไม แต่มันให้ความรู้สึกคุ้นเคยบางอย่าง เวลาเขามองรูปปั้นนี้แล้วทำให้เขารู้สึกมีความสุขมาก เขาเต้นและกระโดดอย่างร่าเริงอยู่ข้างๆเย่ฉาง เย่ฉางมองหลินหลี่และยิ้ม จากนั้นเขาก็ดึงหลินหลี่เข้ามาและจูงมือเขาไว้ เขาดูแลหลินหลี่เหมือนพี่ชายที่แสนดี “หลินหลี่อย่าซนสิ …”
MistyVeil พาพวกเขาไปที่ห้องนั่งเล่น แล้วเธอก็ขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้า หลินหลี่ยิ้ม “บ้านหลังนี้ใหญ่โตกว่าบ้านพี่สาวโรสเสียอีก มันช่างหรูหรามากๆ …”
“แน่นอนอยู่แล้วเพราะนี่คือตระกูลลั่วเชียวนะ … และห้องที่พวกเราอยู่กันตอนนี้ ก็เป็นห้องพิเศษที่ MistyVeil ใช้เพื่อต้อนรับแขกคนสำคัญเท่านั้น …” FrozenCloud ยิ้มอย่างขมขื่น ตระกูลลี ตระกูลฉินและตระกูลลั่ว เป็นสามตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง ในหมู่พวกเขาตระกูลลีเป็นตระกูลที่ใหญ่ที่สุด, ตระกูลฉินเป็นที่สอง และตระกูลลั่วเป็นที่สาม แต่ถึงแม้ว่าตระกูลลั่วจะอยู่ในอันดับที่สาม แต่ทรัพยากรทางด้านการเงินของพวกเขา ก็ไม่ได้ต่ำกว่าอีกสองตระกูลเลย
“เทียนน้อย เรามีเงินเพียงพอสำหรับสร้างห้องนั่งเล่นแบบนี้หรือยัง?” เย่ฉางถาม
“ทางด้านเทคนิคนั้นก็เพียงพอ แต่การตกแต่งเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ภาพวาดดินสอสีที่วาดด้วยจักรพรรดิเบญจมาศรูปนี้เป็นของล้ำค่ามาก” เย่เทียนมองสแกนไปทั่วห้องและพูดขึ้น
เย่ฉางเดินออกจากห้องและเดินตรงไปยังทะเลสาบที่อยู่ใกล้ๆ เขาเห็นชายชราคนหนึ่งกำลังนั่งตกปลาอยู่ เขาถอนหายใจและยกสองมือประสานกันเพื่อทักทายเขา “ผู้อาวุโสลั่ว …”
นี่เป็นหนึ่งในเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของปู่ฉินที่เขาได้พบในงานเลี้ยง ซึ่งเป็นคนที่ถูกปู่ฉินหลอกให้มาทดสอบพลังหมัดของเขา
ทั้งสองคนมองหน้ากันและกระพริบตาปริบๆ เย่ฉางรีบบอกลาพร้อมกับหันหลังกลับและรีบเดินออกไปทันที “พอดีผมมีธุระ ผมขอตัวก่อนตัว”
“นายไม่สามารถหนีฉันไปได้!” ชราลั่วพุ่งมาตัดหน้าเข้าเอาไว้ “เด็กน้อย ครั้งล่าสุดที่เราเจอกัน นายและตาเฒ่าฉินหลอกฉันไว้ได้แสบมาก”
“ผมไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น มันเป็นความคิดของปู่ฉินทั้งหมดเพียงคนเดียว ผมเป็นเพียงแค่ … รับนี่ไปซะ! ไลท์นิ่งพลาสม่า!” เย่ฉางทำท่าไร้เดียงสาแล้วก็โจมตีใส่เขาอย่างฉับพลัน