จางเจิ้งเฉียงรู้สึกว่าเขากำลังจะล้มพับ เขาหยิบเหล็กเสียบเนื้อย่างขึ้นมา และโยนมันลงบนผ้าที่ปูไว้อยู่ด้านของหน้าทุกคน จากนั้นเขาก็รีบถอยหลังออกไปหลายสิบก้าวอย่างรวดเร็ว “โอ้เชี่ยเอ๊ย! กลิ่นของมันฉุน จนฉันแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว”
ทุกคนก็พากันก้าวถอยหลังกลับไป พวกเขามองไปที่การผสมผสานที่แสนจะสุดพรรณนาของมอนสเตอร์ที่อยู่ข้างหน้าพวกเขา เพราะเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นมา ทำให้มันฟังราวกับว่าเป็นเสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังออกมาจากปากของมัน แม้ว่าพวกเขาจะต้องกินมัน แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นกินที่ตรงไหนดี เพียงแค่มองไปยังค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นมาจากอาหาร นี่เรียกได้ว่าเป็นการทำอาหารที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเย่ฉางเลยก็ว่าได้ แต่ในเวลาเดียวกัน มันก็ยังเป็นสิ่งที่เลวร้ายมากที่สุดของเขาด้วยเช่นกัน … อย่างน้อยก็จนถึงตอนนี้
“ฉันคิดว่านายต้องกินมันแบบนี้…” เย่ฉางตัดเกี๊ยวซุปที่เหมือนกับเม็ดสิวเสี้ยน จากนั้นก็ใส่ บาร์บีคิวและคางคกที่ยัดไส้ใส่ลงไป เขาค่อยๆตัดตุ่มที่ผิวคางคกออกจนเกิดเป็นของเหลวสีเขียวที่ปลดปล่อยควันสีม่วงออกมา เมื่อเห็นสิ่งนี้ เย่ฉางได้แค่กลืนน้ำลาย แล้วหันไปเห็นการแสดงออกที่ดูหวาดน่ากลัวของทุกคน “อืม… พวกนายกินก่อนเลย…”
NalanPureSoul ได้สูญเสียความสง่างามทั้งหมดไป ‘ต้องกินจริงงั้นหรือ…’ หยาดเหงื่อที่เย็นเยียบได้หยดลงมาจากหน้าผากของเขา สำหรับหวังและคนอื่นๆ เหงื่อของพวกเขากำลังเปียกโชกไปทั่วทั้งตัว
“อืม ในฐานะหัวหน้าทีม หัวหน้าควรทำหน้าที่เป็นแบบอย่างของพวกเราก่อนสิ…” FrozenCloud พูดอย่างกลับไปอย่างรวดเร็ว
“เธออย่าเอาแต่ประจบฉันสิ แต่น้องชาย PureSoul เป็นแขกของเรานะ ดังนั้นพวกเราจึงควรให้ความเพลิดเพลินแก่เขาเป็นคนแรก …” เย่ฉางปรากฏตัวขึ้นอยู่ด้านข้าง NalanPureSoul และส่งชามไปให้เขา NalanPureSoul เอื้อมมือออกไปเพื่อปิดกั้นชามที่ยื่นเข้ามา และผลักดันชามกลับไป “เจ้าบ้านยังไม่ได้เริ่มกินเลย ในฐานะที่เป็นแขก ฉันจะกล้าได้ยังไงกัน พี่ชาย PaleSnow พี่ควรจะเป็นคนแรกที่ได้กินนะ…”
“ไม่ ไม่ ไม่ น้องชาย PureSoul ให้เกียรติฉันหน่อยก็แล้วกันนะ…” เย่ฉางดันชามกลับไป
“ฉันเป็นน้องชาย ฉันไม่กล้าที่จะกินก่อนหรอก ไม่กล้า ไม่กล้า พี่ชาย PaleSnow เชิญ…” มือที่ละเอียดอ่อนของ NalanPureSoul ผลักดันชามกลับคืนไป
ในขณะที่ทั้งสองคนผลักดันชามกันไปมา หลินหลี่หันไปมองหวัง เขายิ้มและยกมือขึ้น “พี่ใหญ่ขาว! หวังบอกว่าเขาอยากจะกินเป็นคนแรก!”
ทั้งสองคนหันไปมองด้วยความชื่นชมอย่างเห็นได้ชัดบนใบหน้าของพวกเขา พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่า คนที่มีจิตตานุภาพมากที่สุดจะเป็นคนหยาบคายที่สุดของทีม แม้แต่อูนาและคนอื่นๆ ก็มองหวังใหม่ ด้วยสายตาที่นับถือ
“อืม… ฉัน ฉัน…” หวังต้องการอธิบายอย่างรวดเร็ว แต่จางเจิ้งเฉียงเดินเข้าไปจับตัวเขา และหลินหลี่ก็ใช้มือปิดปากเอาไว้ ทำให้เขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ เย่ฉางเดินไปหาหวังอย่างช้าๆ “โอ้ หวัง ฉันไม่เคยคิดเลยว่า นายจะเป็นคนที่ฉลาดมากที่สุด…”
ทุกคนไม่สามารถแบกรับการมองอาหารในชามได้ ใบหน้าของหวังเริ่มบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง ดวงตาของเขาเปิดกว้างราวกับพวกมันจะถล่นออกมา ในที่สุดเขาก็ล้มลงไปบนพื้น และคว้าจับไปที่ขาของหลินหลี่ “พี่ใหญ่หลี่… ฉัน… เกลียด… อั๊ก”
มือของเขาอ่อนยวบลงไป ในขณะที่กำลังช็อค เขาชักกระตุกอย่างต่อเนื่อง และมีน้ำลายไหลออกมาจากปากอย่างท่วมท้น
“อืม ทุกคนเตรียมตัว ฉันจะนับ 3, 2, 1 และเราจะกินพร้อมกัน ถ้าใครไม่ยอมกินล่ะก็ ฮี่ฮี่…” เย่ฉางเตรียมชามใบอื่นๆ และหัวเราะอย่างน่ากลัว NalanPureSoul ถอนหายใจ การกินเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากค่าความต้านทานที่เพิ่มขึ้นนั้นสำคัญเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งระหว่างทางมาที่นี่ เขาก็สามารถบอกได้เลยว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสรวงสวรรค์ของสิ่งมีชีวิตที่เป็นพิษ
เย่เทียนบังคับให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงกินเป็นกลุ่มแรก จากนั้นทุกคนก็ถือชามและยกมันขึ้น
“3, 2, 1! กิน!” เย่ฉางสั่นสะท้านไปทั่วทั้งร่างกาย ในขณะที่เขาปลุกความกล้าหาญของเขาขึ้นมาเพื่อที่จะกินมัน คนที่เหลือทั้งหมดก็เริ่มลงมือกิน พวกเขารู้สึกราวกับว่าตับและลำไส้ของพวกเขาถูกตัดออกเป็นชิ้นๆ กลิ่นเหม็นฉุนได้พัดพาจิตใจของพวกเขาให้ล่องลอยออกไป ในท้ายที่สุด สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือการชักกระตุก และน้ำลายฟอดเต็มปากราวกับซากศพ
ทุกคนค่อยๆฟื้นขึ้นมา พวกเขามองไปที่ ⅔ ของอาหารคางคกที่ยังคงเหลืออยู่ และการแสดงออกที่รังเกียจเดียดฉันท์ของพวกเขาก็รุนแรงมากยิ่งขึ้น พวกเขารีบล้างปากของพวกเขาด้วยน้ำซุปเพื่อให้ได้รับบัฟจากอาหาร ถึงแม้ว่าจานข้าวจะเป็นสิ่งที่น่าขยะแขยง แต่หลังจากที่ได้รับบัฟมาก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้พวกเขาไม่สลบล้มลงไปบนพื้นอีกต่อไป พวกเขาสามารถฝืนกินได้โดยไม่ลำบากมากนัก
เพื่อที่จะสามารถจัดการกับจานข้าวที่น่าขยะแขยงนี่ได้ พวกเขาต้องใช้อาการคลื่นไส้ก่อนหน้านั้น เพื่อกำจัดอาการคลื่นไส้ในตอนนี้ ทำให้พวกเขาไม่ต้องทนคายอาหารออกมากินใหม่อีกครั้ง เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ทุกคนรู้สึกขอบคุณ แต่ยิ่งกว่านั้นพวกเขารู้ก็สึกโศกเศร้ามากเช่นกัน…
“การปรุงอาหารของฉัน น่าจะเกือบใกล้ถึงระดับมาสเตอร์แล่ว เมื่อฉันเลื่อนไปถึงระดับมาสเตอร์ เราน่าจะได้บัฟ 4 บัฟจากการกินอาหารชุดครั้งเดียว และน่าจะเป็นบัฟแบบชุดเซ้ท…” ไม่มีใครสามารถทำให้ตัวเองมีความสุขในการฟังคำพูดของเย่ฉางได้ พวกเขารู้สึกหนาวสั่นไปถึงกระดูกสันหลัง เพราะนั่นหมายความว่าพวกเขาต้องอดทนกินอาหาร 4 จานในครั้งเดียว “พระเจ้าช่วยฆ่าฉันทีเถอะ…”
เย่ฉางและเย่เทียนได้ใช้สกิล [Mark of the Wild] และ [Blessing] ให้กับคนอื่นๆอีกครั้ง หลังจากทีทุกคนฟื้นตัวแล้ว พวกเขาก็เดินไปยังถ้ำแห่งความมืด
เย่ฉางและคนอื่นๆมาถึงหน้าทางเข้าถ้ำแห่งความมืด NalanPureSoul จดจำพื้นที่รอบๆนี้เอาไว้ ‘ดังนั้นมันคือที่นี่?’ เขาเดินตามทุกคนเข้าไปในดันเจี้ยนแบบเปิดแห่งนี้ ถ้ำนี้ทั้งมืดและชื้นมากๆ พื้นที่ด้านในเป็นที่ราบลุ่มกว้างใหญ่ มันดูน่ากลัวอย่างผิดปกติ และได้ถูกปกคลุมไปด้วยเชื้อรา และป่าดิบชื้นเท่าที่จะมองเห็นได้ ในพื้นทื่แห่งนี้สกิล [Eagle Eyes] ของเย่ฉางถูกจำกัด แต่เขาก็ยังมองเห็นพวกมอนเตอร์ที่ซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆได้ เพราะคางคกเชื้อราและจระเข้น้ำจืด จะมีขนาดใหญ่กว่าพวกที่อยู่ข้างนอกถึง 50%
“มีคางคกเชื้อราสองตัวอยู่ใต้เห็ดยักษ์ทางซ้าย และที่ด้านขวาในบึงน้ำมีมอนเตอร์อยู่ในนั้น ทุกคนระวังตัวด้วย มอนเตอร์เหล่านี้มีขนาดใหญ่มากกว่าพวกที่อยู่ข้างนอก” เย่ฉางดึงปืนคู่ออกมา และใส่คริสตัลไฟลงไป หลินหลี่เอาคริสตัล 3 ก้อนที่ติดตั้งอยู่ในไดรฟ์ของเขาออกมา เพื่อเปลี่ยนเป็นคริสตัลไฟที่ได้มาจากเย่ฉางทั้ง 3 ก้อน โดย 2 ใน 3 ก้อนนี้เป็นคริสตัลไฟระดับ 4
Flame Strike: สร้างความเสียหายเป็นธาตุไฟ 75 หน่วย ไปยังพื้นที่ด้านหน้า มีโอกาสที่จะให้ศัตรูล้มลง, กระเด็นถอยหลัง และติดสตั้น
Flame Blade (Toggle): อาวุธของคุณมีจะสร้างความเสียหายเป็นธาตุไฟเพิ่มขึ้น 30-35 หน่วย การโจมตีจะกินพลังงานของคริสตัล
หลินหลี่เปิดใช้ [Flame Blade] ดาบยักษ์ในมือของเขา และถุงมือด้านซ้ายก็เริ่มที่จะเปล่งประกายเปลวไฟออกมา มันดูงดงามมากในความมืดมิดแบบนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่มีประกายเปลวไฟ แต่ดาบยักษ์ที่เรืองแสงสีแดงก็ยังดูโดดเด่นสะดุดตามากเช่นกัน
เย่ฉางยกปืนขึ้นและยิงกระสุนไฟ 2 ลูก โจมตีไปยังตำแหน่งของคางคกเชื้อราที่อยู่ด้านซ้าย ลากพวกมันออกมาจากระยะไกล มอนเตอร์ที่อยู่ทางด้านขวาถูกแจ้งเตือน และวิ่งเข้ามาด้วยเช่นกัน
“100 เมตร, 50 เมตร…” เย่ฉางยิง [ Enchanted Bullet – Explosive Bullet], [Explosive Energy Bullet] และ [Multishot] อย่างต่อเนื่อง ขณะที่เขาประกาศระยะทาง มือของ NalanPureSoul เริ่มเรืองแสงด้วยเปลวไฟเมื่อมีการประกาศระยะถึง 50 เมตร หลินหลี่คิดว่ามีมอนเตอร์เพียงไม่กี่ตัว เขาจึงตัดสินใจที่จะรอจนกว่าพวกมันจะวิ่งเข้ามาใกล้ๆ จากนั้นเขาก็จะโยนขวดระเบิดเพลิงระดับสูง 2 ขวดที่อยู่ในมือของเขาออกไป
“25 เมตร!” เย่ฉางตะโกน หลินหลี่โยนขวดระเบิดเพลิงระดับออกไปทันที ครอบคลุมไปยังคางคกเชื้อราและมอนเตอร์ที่อยู่ในบึง ตรึงพวกมันไว้ในเปลวไฟ NalanPureSoul ใช้ [Hellfire Hoop] โจมตีมอนเตอร์ที่อยู่ในเปลวไฟ ด้วยท่าคว้าจับของเขา ทะเลแห่งเปลวไฟ และ [Hellfire Hoop] ได้ระเบิดออกมา สร้างฉากที่เต็มไปด้วยเปลวไฟที่รุนแรง ด้วยแสงจากเปลวไฟ เย่ฉางสังเกตเห็นอุโมงค์ที่ทอดยาวผ่านบ่อกว้าง และแอ่งน้ำที่มืดมิด เขาจึงบันทึกไว้ในใจ
มอนสเตอร์ที่ถูกโจมตี ถูกดักจับโดยจางเจิ้งเฉียง และ FrozenCloud หลินหลี่ตามเข้าไปต่อสู้อย่างใกล้ชิด และตามไปโจมตีมอนเตอร์ตัวอื่นๆที่แยกตัวออกมาต่อสู้ อูนาและหวังได้แต่ถอนหายใจ พวกเขาใช้เพียงแค่วิธีการต่อสู้ธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่ได้เห็นเปลวไฟเหล่านั้น และการสู้รบระยะประชิดที่พวกเขาแทบไม่สามารถทำตามได้ พวกเขาไม่รู้ว่าจะใช้สกิลอะไรดี ดังนั้นมันจะดีกว่าถ้าพวกเขาจะเก็บมานาของพวกเขาเอาไว้ และดูว่ามีอะไรที่พวกเขาสามารถช่วยได้ในภายหลัง
ฟางชิและเย่เทียนยังคงยืนอยู่กับที่อย่างสงบ เย่เทียนคอยฮีลคนอื่นๆอยู่เสมอ ในขณะที่ฟางชิคอยใช้คำสาปเพื่อลดค่าสถานะและสร้างดีบัฟต่างๆ