ทุกคนส่งเสียงดังลั่น ทุกคนมองเห็นจางเจิ้งเฉียงใช้มือเปล่าบิดเครื่องทดสอบกระดานโลหะผสมเป็นรูปตัว V เมื่อเลื่อนสายตาจากการจ้องมองเครื่องทดสอบไปยังร่างที่ราวกับเทพปีศาจของจางเจิ้งเฉียง ทำให้พวกเขาต่างพากันขนชี้ตั้ง แม้แต่ซันหยู่ก็รู้สึกสั่นสะท้าน ถ้ามีคนถูกต่อยโดยพละกำลังเต็มที่ของเขา แม้แต่กระดูกสักชิ้นก็คงไม่เหลือ…
แม้แต่เสี่ยวยุนฮีก็ได้แต่เช็ดเหงื่อของเขาออกจากหน้าผาก นี่คือการแสดงให้เห็นถึงพลังที่แท้จริงงั้นหรือ?
จางเจิ้งเฉียงยืดกระดานโลหะผสมด้วยมือเปล่า จากนั้นเขาใช้ฝ่ามือที่เหมือนดั่งค้อนทุบมัน เขาพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อทำให้พื้นผิวกระดานโลหะเรียบเหมือนเดิม จากนั้นก็ใส่แผ่นกระดานโลหะผสมกลับเข้าที่ และบิดคอไปมา เขาเดินไปด้านข้างเพื่อหาน้ำดื่ม
การกระทำครั้งนี้ ทำให้สมาชิกทั่วๆไปรู้สึกสั่นสะท้านมากยิ่งขึ้น พวกเขามองไปที่กระดานโลหะผสมที่ถูกซ่อมให้กลับมาดีเหมือนเดิม และนึกไปถึงฉายาของเขา มนุษย์กันดั้ม – จางเจิ้งเฉียง เขาเป็นคนที่เหมาะสมกับฉายานี้อย่างแท้จริง
FrozenCloud เสร็จสิ้นการฝึกของเธอ และนั่งลงข้างเขาด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น เธอมองดูเย่ฉาง และหลินหลี่ที่ต่อสู้กันอยู่บนเวทีประลอง ทั้งสองคนต่างงั้นท่าไม้ตายทุกอย่างออกมา แต่จบลงด้วยการที่เย่ฉางใช้ท่า ‘คว้าจับไข่’ โจมตีไปยังไข่ของหลินหลี่ จนหลินหลี่ต้องร้องขอความเมตตาและเลือกที่จะยอมแพ้ หลินหลี่มองเย่ฉางด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเคารพบูชา FrozenCloud รู้สึกถึงการจ้องมองแปลกๆของคนอื่น ที่กำลังจ้องมองไปยังพวกเขาทั้งสองคน ทำให้เธอต้องรีบหลบซ่อนใบหน้าของตัวเองโดยทันที
หลินหลี่กำลังเริ่มลงจากเวทีประลอง เย่ฉางกำลังวางแผนที่จะลงไปพร้อมกับเขาเพื่อที่จะไปพักผ่อนด้วยเช่นกัน แต่ทันใดนั้น ก็มีใครคนหนึ่งกระโดดขึ้นมาบนเวทีประลอง “นายเป็นนายพลของสงครามศักดิ์สิทธิ์จากเขตตะวันออกสินะ…”
ชายคนนี้ไม่ทันได้พูดจบ ก่อนที่เย่ฉางจะเอาสเปรย์พริกไทยออกมา และจัดการเขาจนไร้ความสามารถในการป้องกันตัว ต่อจากนั้นก็เป็นการระดมหมัดต่อยออกไปอย่างต่อเนื่อง และปิดท้ายด้วยการเตะ จากนั้นเย่ฉางก็กระโดดลงจากเวทีด้วยความมั่นใจ ทิ้งคนด้านหลังให้ตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน เขาพูดขึ้นมาด้วยความภาคภูมิใจว่า “ถูกต้อง เป็นฉันเอง…”
หลังจากพูดจบแล้ว เย่ฉางก็เดินไปยังบริเวณที่พัก ภายใต้ดวงตาที่ตกตะลึงของทุกคน
สำหรับสมาชิกคนอื่นๆ ทุกคนได้แต่อ้าปากค้าง ‘เขาเป็นคนไร้ยางอายขนานแท้!’
“บัดซบ นายใช้สเปรย์พริกไทย! ถ้านายมีความกล้า ก็มาต่อสู้กับฉันด้วยอาวุธจริงสิ!!” หญิงสาวที่ตัวสูง สวมกางเกงขายาว และใส่ชุดศิลปะการต่อสู้พูดขึ้นมาด้วยความรังเกียจ
“ไม่จำเป็นต้องถึงมือเพื่อนของฉันหรอก ฉันจะเป็นคู่ต่อสู้ให้กับเธอเอง ฉันรับประกันได้เลยว่ามันจะต้องเป็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน…” จางเจิ้งเฉียงลุกขึ้นยืนและเยาะเย้ยใส่เธอ เขามองไปที่ป้ายชื่อบนหน้าอกของเธอ – ฝางซิน
ฝางซินเลิกคิ้วขึ้น ‘ฉันไม่สามารถเอาชนะผู้ชายคนนี้ได้’ เธอยิ้มออกมาโดยปราศจากความโกรธ “นายไม่ใช่คนที่ฉันอยากจะต่อสู้ด้วย นายเป็นสุดยอดอัจฉริยะ ซึ่งแตกต่างจากผมขาวที่รู้เพียงแต่การใช้วิธีที่น่าอับอายเท่านั้น…”
เย่เทียนที่กำลังใช้ไอคิวของเธอเพื่อบดขยี้โปรแกรมการฝึกอบรม แต่เมื่อเธอได้ยินเรื่องนี้ คิ้วเธอขมวดขึ้น ขณะที่เธอหันไปมองฝางซิน แต่เมื่อเธอนึกถึงคำพูดของเย่ฉาง เธอไม่ได้รับอนุญาตให้ฆ่าใครเพราะความโกรธ ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่ต่างไปจากมนุษย์เทียมเหล่านั้น เธอได้แต่ถอนหายใจออกมา ‘พ่อพูดถูกแล้ว ฉันไม่สามารถทำให้พ่อผิดหวังอย่างเด็ดขาด ถ้าอย่างงั้นฉันคงต้องบดขยี้เมทริกซ์คอมพิวเตอร์เหล่านี้ต่อไปแล้วกัน’
“พี่ใหญ่ขาว ผู้หญิงต่ำช้าคนนี้น่ารังเกียจเกินไปแล้ว ให้ผมเป็นคนสอนบทเรียนให้กับเธอเถอะ!!” หลินหลี่ลุกขึ้น ปอยผมของเขาชี้ตั้งขึ้น เขาให้ความรู้สึกราวกับว่า ‘ฉันจะฆ่าเธอก่อนที่น้ำชาร้อนจะเริ่มเย็นลง’ FrozenCloud ลุกขึ้นและถลึงตา “ผู้หญิงคนนี้ ฉันจะเป็นคนตบหน้าเธอเอง”
เย่ฉางเอื้อมมือออกไป และโบกมือให้กับจางเจิ้งเฉียง, หลินหลี่ และ FrozenCloud ให้ถอยกลับมา “ฉันจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง…”
เขาเดินขึ้นไปบนเวทีประลอง ภายใต้การจ้องมองของทุกคน เสี่ยวยุนฮียึดสเปรย์พริกไทยของเขาไว้ เย่ฉางจึงต้องมอบสเปรย์พริกไทยให้กับเขาอย่างไม่เต็มใจ ร่างที่ผอมแห้งของเขายืนอยู่ที่นั่นเหมือนกับคนอ่อนแอ เขาดูราวกับว่าเขาไม่สามารถรับการโจมตีใดๆได้เลย
เสี่ยวยุนฮีคิดกับตัวเอง ‘ผู้หญิงคนนั้นกำลังหาเรื่องตาย สมาชิกที่น่ากลัวที่สุดของทีมนี้น่าจะเป็นปีศาจสีขาวคนนี้นี่แหละ’ เขาเฝ้ามอง ขณะที่เย่ฉางเดินตรงไปหาฝางซินด้วยการเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง จู่ๆเขาใช้อีกมือหนึ่งตบไปที่หน้าอกของตัวเอง ในขณะที่เขาไอออกมา “ฉัน… แค่ก แค่ก ไม่กลัวเธอหรอก! เข้ามา! แค่ก แค่ก!”
เสี่ยวยุนฮีเห็นว่ามีคนหลายคนได้เผยอยิ้มขึ้นมา ความคิดของพวกเขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ‘นี่คือนายพลแห่งสงครามศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ? หนึ่งในสิบอันดับแรกที่มีอิทธิพลมากที่สุด? หนังหุ้มกระดูกเดินได้ชัดๆ!’
เสี่ยวยุนฮีรู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาทันที ‘โว้ว ปีศาจตนนี้สามารถชั่วร้ายได้มากขนาดไหนกัน? เขายังคงแสดงละครอยู่อีก เขาคงจะกลืนกินเธอไปทั้งตัวเลยมั้งเนี่ย’
ฝางซินกำลังจะกระโดดขึ้นไปบนเวทีประลอง แต่เมื่อร่างของเย่ฉางปรากฏตัวต่อหน้าเธอเพียงแค่กระพริบตา กำปั้นของเขาก็ทุบไปที่อกของเธอ มือของเขาคว้าจับตัวเธอได้อย่างง่ายดาย โดยจับไปที่หน้าอกด้านซ้าย และยกตัวเธอขึ้นลอยไปในอากาศ เขายังคงจับหน้าอกเธออย่างรุนแรงมากยิ่งขึ้น เขายังคมยิ้มออกมาอย่างสงบ ในขณะที่เขาฟังเสียงกรีดร้องของฝางซิน “พูดมันออกมาสิว่า! ฉันผิดไปแล้ว และฉันไม่ควรที่จะพูดไม่ดีกับคุณ…”
“นาย!! อ๊า!” ฝางซินรู้สึกว่าตัวเองกำลังลอยอยู่ในอากาศ การบีบจับของเขาราวกับว่ามันต้องการที่จะแยกเธอออกจากกัน ขณะที่เขาคว้าจับไปทั้งด้านซ้า และด้านขวาของเธอ ฝางซินเริ่มกรีดร้องและร้องไห้ออกมา “ฉันผิดไปแล้ว! ฉันไม่ควรพูดไม่ดีกับคุณ ท่านนายพล!”
เย่ฉางปล่อยมือจากเธอทันที แล้วเอามือล้วงกลับไปที่กระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม ในขณะที่เขาเดินลงจากเวทีประลองอย่างมั่นใจ เขาเห็น FrozenCloud แอบเอามือปกปิดหน้าอกของเธอ ไว้ ทำให้มีการแสดงออกแปลกๆบนใบหน้าของเย่ฉาง “เธอกำลังทำบ้าอะไร?”
FrozenCloud รีบส่ายหัวไปมา “ไม่มีอะไร”
เธอรู้สึกราวกับว่า เธอมองเห็นจุดจบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าหัวหน้าทีมพบว่าเธอเคยโกหกพวกเขา มันจะต้องโหดร้ายมากกว่านี้อย่างแน่นอน
เสี่ยวยุนฮีอ้าปากค้าง ‘ชั่วร้ายอย่างแท้จริง เขาไม่สนใจว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้หญิง และใช้ท่านี้กับเธอจริงๆ ผู้หญิงหลายคนหน้าซีดจากการมองเห็นฉากนี้ ทีมบู๊ของทีมนี้อาจจะแข็งแกร่งอย่างแท้จริง นอกจากนี้ความเร็วของเขายังรวดเร็วมากอีกด้วย แม้แต่ฉันก็ยังมีปัญหาในการมองเห็นการเคลื่อนไหวของเขา ความเร็วของเขาได้รับการยืนยันแล้ว ความแข็งแรงของเขาก็ไม่เลวเช่นกัน ความแข็งแรงของเขามากพอที่จะยกคนได้อย่างง่ายดาย ราวกับว่ากำลังจับไก่ด้วยมือเดียว’
เฉินเทียนยี่กอดอกและเลิกคิ้วขึ้น ‘เขาคล่องตัวมาก การเคลื่อนที่ของเขาทำได้ดีทีเดียว’ เขาหันกลับไปมองฟางซินรู่วและโจวหนิงชิ ซึ่งหญิงสาวทั้งสองคนกำลังรู้สึกสั่นสะท้านอยู่ นี่คือบทเรียนอย่างแท้จริง เขาหันหลังและเดินออกจากห้องฝึกซ้อม
เสี่ยวยุนฮีมองไปยังเฉินเทียนยี่ หัวใจของเขาทรุดลง ‘นี่ก็เป็นสัตว์ประหลาดอีกคนหนึ่ง แม้แต่ฉินเส้าเทียนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แถมพื้นเพของเขาก็ยังลึกลับมากอีกด้วย ด้วยการที่เขาลงแข่งในการแข่งขันมหาวิทยาลัยทั้งห้า หลินไห่จะไม่อยู่ในอันดับ 3 อย่างแน่นอน ตอนนี้เรามีความแข็งแกร่งมากพอที่จะคว้าอันดับที่ 1 หรือ 2 ได้แล้ว เขาเป็นประธานสภานักศึกษาที่แข็งแกร่งที่สุด
หลินหลี่เริ่มฝึกด้วยการขว้างปามีด มีมีด 4 เล่มอยู่ในมือข้างหนึ่ง และมีแอปเปิ้ลคอยปิดกั้นเป้าหมายเอาไว้ เขาปิดตาลงและปามีดทั้ง 4 เล่มออกไปในวิถีที่แตกต่างกัน และมีดทั้งหมดก็ได้ไปบรรจบกันที่เป้าหมาย ความสามารถด้านนี้แสดงให้เห็นถึงการเป็นสมาชิกจากนิกายถังอย่างสมบูรณ์ เสียวยุนฮีรู้สึกตกตะลึง ยิ่งเขาได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับทีมนี้มากเท่าไหร่ เขาก็รู้สึกว่าคนที่ประเมินทีมนี้ ช่างเป็นคนที่ไร้เดียงสามากจริงๆ เพียงแค่การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาเป็นหนึ่งในทีม ที่จะเข้าแข่งขันมหาวิทยาลัยทั้งห้าได้แล้ว
เย่ฉางถูกลากออกไปโดยสมาชิกการแข่งเต้นรำ เสี่ยวยุนฮีรู้ดีว่าการเต้นของเขาเป็นการเต้นที่ดีที่สุดในหลินไห่ ดังนั้นเขาจึงให้เย่ฉางเป็นผู้แข่งขันหลักในการเต้นรำ
วันแรกของการฝึกซ้อมสิ้นสุดลง ทุกคนกลับไปยังห้องของตัวเอง และมองไปกำหนดการใหม่ วันที่สองจะเป็นการทดสอบการต่อสู้ กลุ่มทั้งสามคนของเย่ฉางแลกเปลี่ยนสายตากัน พวกเขาพยักหน้าพร้อมกัน “ครั้งก่อนเราได้แสดงความเชี่ยวชาญของเราออกมาแล้ว แล้วเป้าหมายต่อไปของเราในครั้งนี้คืออะไรดี?”
“ระเบิดศูนย์บัญชาการ?” จางเจิ้งเฉียงเสนอขึ้นมา
“เราเคยทำไปแล้ว มันไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย เป้าหมายต่อไปของเราต้องยิ่งใหญ่กว่านี้…” เย่ฉางส่ายหัว FrozenCloud ที่นั่งอยู่ข้างๆกำลังหลั่งเหงื่อที่เย็นเยียบออกมา มันเป็นข้อเท็จจริงที่ว่า พวกเขาได้ทำอะไรบางอย่างที่บ้าคลั่งลงไปก่อนหน้านี้แล้ว
“จัดการผู้บัญชาการทหารสูงสุดในการต่อสู้?” จางเจิ้งเฉียงเสนออีกครั้ง
“นี่…” เย่ฉางเงยหน้าขึ้นและเข้าสู่โหมดคิดหนึ่งวินาที จากนั้นก็พยักหน้าทันที “ตกลง เอาแบบนี้แหละ!”
FrozenCloud แข้งค้าง ‘เฮ้ พวกนายต้องทำให้ทุกอย่างยุ่งยากสำหรับอาจารย์ผู้สอนเลยงั้นหรือ? จัดการผู้บัญชาการทหารสูงสุดในการต่อสู้? มันเป็นไปได้ด้วยงั้นหรอ?’