ณ.วิหารเทพธิดาแมลโลในแบล็กพีค
เย่ฉางได้อัญเชิญเทพธิดาทั้งสามลงมา แต่สิ่งแรกที่เขาได้ยินจากพวกเธอก็คือ คำร้องเรียนเกี่ยวกับความเจริญรุ่งเรืองของวิหารเทพธิดาอันย่า
“บริเวณรอบๆวิหารเทพธิดาอันย่า เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสร้างเมือง ดังนั้นฉันหวังว่าพวกคุณจะสามารถย้ายวิหารไปที่นั่นได้ แน่นอนว่าเราจะสร้างวิหารของพวกคุณขึ้นมาใหม่ที่นั่น และมันจะมีขนาดใหญ่กว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ อีกทั้งบรรดาผู้ศรัทธาของคุณจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และทั้งเมืองก็จะมีวิหารทั้งสามของพวกคุณเป็นจุดศูนย์กลาง …โดยเราจะเรียกมันว่า ไตรลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์วิหารเทพธิดา” เย่ฉางรีบอธิบายให้เทพธิดาแมลโลและแจมฟัง
คำพูดของเย่ฉางทำให้เทพธิดาอันย่าตัวลอย แต่เธอกลับพูดอย่างจริงจังว่า “แต่ฉันไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้นะ ในอนาคตวิหารของพวกเธอทั้งสอง จะต้องเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาอย่างแน่นอน มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นเอง เราไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันทั้งสามวิหาร สำหรับการก่อสร้างเมืองนี้ ฉันจะสนับสนุนอย่างเต็มที่เอง ฉันจะพาเมืองนี้ก้าวไปข้างหน้าเอง…”
เมื่อเทพธิดาแมลโลและแจมได้ฟังคำพูดและน้ำเสียงของเทพธิดาอันย่า พวกเธอก็เริ่มมองไปที่อันย่าด้วยแววตาที่เกลียดชังเล็กน้อย
“อย่าคิดแม้แต่จะผูกขาดมันเพียงผู้เดียว …” เทพธิดาแมลโลเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย และหยิกแกมอันย่าเบาๆ ในขณะที่หัวเราะอย่างเย็นชา เธอแผ่กลิ่นอายพี่สาวที่ชั่วร้ายออกมา
แจมจับมือของอันย่าและแสดงรอยยิ้มอันบริสุทธิ์ พร้อมกับเปล่งเสียงที่หวานเหมือนไอดอลของเธอออกมา “คุณน้องสาว เราควรแบ่งปันผลกำไรต่อกันสิ พวกเราเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันนี่หน่า!! ท่าน PaleSnow พวกเราเห็นด้วยกับความคิดนี้”
เย่ฉางยักไหล่ ใครจะคาดคิดว่าพวกเธอจะพอใจในสิ่งที่เขาเสนอขึ้นมา “เอาล่ะ ในเมื่อตัดสินใจกันได้แล้ว ฉันจะให้คนของฉันเริ่มดำเนินตามแผนการทันที”
ช่วงเวลาที่เย่ฉางเดินออกไปทางประตู เขาก็ได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังเล่นมวยปล้ำดังอยู่ข้างหลังเขา เขาพึมพำกับตัวเองว่า “พวกเธอสนิทสนมกันจัง …”
จากนั้นเย่ฉางได้บอกเย่เทียนให้เริ่มดำเนินตามแผนการที่วางไว้ทันที เย่เทียนเริ่มเฟสหนึ่งของแผนการ อันดับแรกคือการสร้างวิหารแห่งใหม่ขึ้นมาสองแห่ง เธอวาดพิมพ์เขียววิหารและจัดสรรพื้นที่ต่างๆขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันต้องใช้เงินเป็นจำนวนมหาศาล แต่ผลกำไรจากการดำเนินงานของท่าเรือแห่งใหม่นี้ สามารถช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ไปได้ไม่มากก็น้อย แต่ความจริงที่ว่าพวกเขายังคงมีสมาคมเทพธิดา, ร้านค้าทั่วไปของกิลด์ Happy Firmament , ร้านบ้านชา และบ้านประมูล Thorns and Roses ที่เริ่มดำเนินธุรกิจแล้ว ซึ่งทุกวันมีเงินทุนไหลเวียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้พวกเขาแก้ไขปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายไปได้ แต่ดูเหมือนว่าในตอนนี้ความต้องการเหรียญทองในเมืองแบล็กร็อคและเมืองไวน์สโตนจะไม่ได้ลดลงเลย กลับจะเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย
เย่เทียนคำนวณรายได้ทั้งหมดของพวกเขา พวกเขามีเงินพอที่จะสร้างสิ่งเหล่านี้ได้ แต่เป็นการดีที่ถ้ามันมีเยอะกว่านี้อีก เธอนึกถึงเหมืองในเทือกเขาคาร์โรลขึ้นมา ซึ่งในตอนนี้เป็นเวลาที่จะขยายเหมืองออกไปแล้ว ตามการคาดคะเนของเธอ มันควรมีสายแร่คริสคัลเวทมนตร์อีกอย่างน้อยห้าเส้น เธอนึกถึงเครื่องจักรทำเหมืองที่ถูกทิ้งไว้ในคลังสินค้า อย่างไรก็ตาม เครื่องจักรทำเหมืองเพียงแค่หนึ่งอัน มันคงจะไม่เพียงพอ พวกเขาจำเป็นต้องซื้อเพิ่มและจ้างคนงานจำนวนมากอีกด้วย
เย่เทียนมาที่ร้านค้าทั่วไปเพื่อพบคุณย่าริก้า เพื่อดูว่าพอจะมีคนงานที่เป็นมืออาชีพในการทำเหมืองหรือไม่ เมื่อเธอรู้ว่าคนเหล่านี้หาได้ง่ายๆและมีฝีมือดี เธอจึงบอกเย่ฉางเกี่ยวกับแผนการขยายเหมืองของเธอ
“เทียนน้อยไปที่คฤหาสน์ของมาร์ควิสอัสชาร่า และถามเขาว่าจะสามารถช่วยเราหาเครื่องจักรทำเหมืองและเครื่องมืออื่นๆได้หรือไม่” เย่ฉางกำลังเดินทางผ่านแบล็กพีค และกำลังมุ่งหน้ากลับไปยังวิหารเทพธิดาอันย่ เพื่อไปยังหลุมลึก
“เข้าใจแล้วคะ คุณพ่อ” เย่เทียนตัดสายสนทนาและมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์ของมาร์ควิสอัสชาร่า แต่เมื่อรู้ว่ามาร์ควิสอัสชาร่าอยู่ที่ท่าเรือ เธอจึงมุ่งหน้ามายังท่าเรือใต้ดิน ซึ่งในตอนนี้ได้กลายเป็นที่รู้จักและถูกตั้งชื่อว่าท่าเรือแบล็กร็อคแล้ว จุดพักตรงกลางแม่น้ำก็ถูกเรียกว่าท่าเรือขาวดำ และจุดสิ้นสุดที่เมืองไวน์สโตนก็เรียกว่าท่าเรือไวน์สโตน สำหรับชื่อท่าเรือที่บริวเณหลุมลึกกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา
อัสชาร่าได้ยินว่าพวกเขาต้องการเครื่องมือทำเหมืองจำนวนมาก เขาจึงถามอย่างสงสัยว่า “เรื่องจำนวนไม่ใช่ปัญหา แต่ว่าเธอจะเอาไปทำอะไรตั้งมากมาย?”
“เทือกเขาคาร์โรลอาจจะมีสายแร่คริสตัลเวทมนตร์อีกหลายเส้น เรากำลังวางแผนที่จะดำเนินการขยายเหมืองแร่” เย่เทียนตอบสั้นๆ คิ้วของอัสชาร่ายกขึ้น เขาจำได้ว่าเทือกเขาคาร์โรลถูกปล่อยทิ้งร้างมานานแล้ว หลังจากที่ตรวจพบสายแร่คริสตัลเวทมนตร์ครั้งแรก พวกเขาก็ขุดลึกเข้าไปเยอะมาก แต่ก็ไม่สามารถตรวจพบเจอสายแร่เส้นอื่นๆ สุดท้ายแล้วเหมืองในเทือกเขาคาร์โรลจึงถูกรวมอยู่ในรายชื่อของเหมืองร้าง และเขายังนึกขึ้นมาได้ว่า คริสตัลเวทมนตร์ของครอสมาร์ ได้มาจากสายแร่คริสตัลเวทมนตร์ขนาดเล็กที่อยู่ในเหมืองนี้ ดูเหมือนว่าอาณาจักรนี้จะประมาทเกินไป แต่ทุกอย่างก็เป็นอดีตไปแล้ว และไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เพราะในตอนนี้มันอยู่ภายใต้การครอบครองของเย่ฉาง
“30% ของคริสตัลเวทมนตร์ที่ขุดได้ จะถูกส่งไปให้อาณาจักร ส่วนที่เหลือจะเป็นของพวกเธอ แต่แน่นอนว่าไม่สามารถขายให้อาณาจักรศัตรูได้ ถ้าถูกค้นพบ พวกเธอจะถูกกล่าวหาว่าเป็นคนทรยศและได้รับโทษประหารชีวิต เธอต้องระมัดระวังเอาไว้ด้วย เอาล่ะ! นี่คือป้ายคำสั่งของฉัน เธอสามารถไปที่คลังแสงทหาร เพื่อรับเครื่องจักรและเครื่องมือเหล่านั้นได้เลย”
“ขอบคุณคะ มาร์ควิสอัสชาร่า…” เย่เทียนคำนับด้วยรูปแบบการทักทายของอัศวิน แล้วรับป้ายคำสั่งและเดินจากไป
“กลิ่นอายของเด็กผู้หญิงคนนี้ ช่างเหมือนกับผู้ชายคนนั้นจริงๆ” อัสชาร่ายิ้มรำไร จากนั้นก็หันกลับไปดูแลการก่อสร้างฐานทัพเรือต่อ
เย่เทียนนำคนงานมืออาชีพกว่า 100 คน พร้อมกับเครื่องจักรและเครื่องมือต่างๆไปยังเทือกเขาคาร์โรล เมื่อมองไปยังแผนที่ ท่าเรือตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ขณะที่ทางเข้าเหมืองตั้งอยู่ทางทิศใต้ เธอคาดการณ์ว่าสายแร่น่าจะอยู่ที่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อเธอมาถึงทางเข้าเหมืองแห่งแรก เธอจึงทำแผ่นป้ายและเขียนข้อความไว้ว่า ‘พื้นที่ส่วนบุคคล ห้ามบุกรุกโดยไม่ได้รับอนุญาติ’
เย่เทียนคำนวณจากที่ตั้งของสายแร่คริสตัลเวทมนตร์ที่ผ่านมาในก่อนหน้านี้ และในที่สุดก็พาทุกคนไปยังจุดที่จะเริ่มต้นการขุดเจาะอุโมงค์ หลังจากผ่านไปทั้งวัน กำแพงสูงนับสิบเมตรที่เต็มไปด้วยคริสตัลเวทมนตร์จำนวนมาก ก็ปรากฏขึ้นข้างในอุโมงค์ แร่และคริสตัลดิบจำนวนนับไม่ถ้วนแออัดอยู่ข้างในนั้น คนงานเหมืองที่ควบคุมเครื่องจักรทำเหมือง สูดหายใจลึกๆด้วยความตื่นเต้น “พระเจ้าช่วย! น่ะ น่ะ นี่มัน … สายแร่คริสตัลเวทมนตร์ขนาดใหญ่ อาณาจักรของเราปล่อยให้สถานที่นี้รกร้างจริงหรือ? สายแร่คริสตัลเวทมนตร์เส้นนี้ มันเพียงพอสำหรับให้เมืองแบล็กร็อคใช้ได้ไปอีกนาน อ่า…แต่นานกี่ปีนั้น ฉันไม่สามารถบอกได้ …”
มาร์ควิสอัสชาร่าซึ่งยังคงอยู่ที่ท่าเรือทางตะวันตกเฉียงใต้ของเทือกเขาคาร์โรล เมื่อเขาได้รู้ข่าวว่า พวกเย่ฉางค้นพบสายแร่คริสตัลเวทมนตร์ขนาดใหญ่ เขาได้แต่อ้าปากค้าง ในตอนแรกเขาคาดคิดว่า มันอาจจะมีเพียงแค่สายแร่คริสตัลเวทมนตร์ขนาดเล็กเท่านั้น แต่นี่มันน่าเหลือเชื่อมากเกินไปแล้ว! เขารีบระดมเรียกลูกน้องของเขามาที่เหมืองทันที เมื่อเห็นกำแพงคริสตัลที่สวยงามที่สูงหลายสิบเมตร และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ถูกเปิดเผยออกมาเท่านั้น! ทำให้เขารู้เลยว่ากลุ่มของเย่ฉางจะมีรายได้มหาศาล แม้ว่าจะมอบให้อาณาจักรไป 30% ก็ตาม แต่ด้วยท่าเรือและสายแร่คริสตัลเวทมนตร์ขนาดใหญ่นี้ ก็ทำให้พวกเขาสบายไปทั้งชาติ เขารู้สึกตื่นเต้นมาก ‘เมืองแบล็กร็อคกำลังจะเข้าสู่ยุคแห่งความมั่งคั่งแล้ว!’ เขาหันกลับไปมองเย่เทียนซึ่งเป็นผู้ควบคุมการทำเหมืองอย่างใจเย็น ‘เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่มีโชคจริงๆ!’ แม้ว่าข่าวการค้นพบสายแร่คริสตัลเวทมนตร์ขนาดใหญ่นี้ ไม่สามารถปกปิดได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็ยังสามารถประกาศให้ทั่วทั้งเมืองได้รู้ว่า มันเป็นสายแร่คริสตัลเวทมนตร์ขนาดใหญ่
เนื่องจากในเหมืองนี้ยังมีรางรถลากที่ยังใช้งานได้อยู่ เย่เทียนจึงทำการเชื่อมต่อกับระบบที่มีอยู่ เพื่อการสกัดและขนส่งแร่อย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้ทำให้พวกเขาเร่งการทำเหมืองอย่างเต็มรูปแบบ เดิมทีตรงบริเวณปากทางเข้าเหมือง มีหอสังเกตุการณ์อยู่เพียงแค่อันเดียว แต่มาร์ควิสอัสชาร่าได้สร้างขึ้นมาใหม่อีกสามแห่ง และยังส่งทหารมาเฝ้ายามตรงจุดเข้าของเทือกเขา เพื่อป้องกันการบุกรุกอีกด้วย
เย่เทียนกลับมาที่เมืองแบล็กร็อค เธอต้องการคนที่เชื่อถือได้ในการเฝ้าระวังเหมือง ดังนั้นเธอจึงติดต่อกับเย่ฉางทันที เย่ฉางคิดถึงกิลด์ Thorns and Roses ขึ้นมา แต่รีบเปลี่ยนความคิดของเขาทันที ในตอนนี้คุณยายริก้าน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่เธอก็เริ่มแก่มากแล้ว ร้านค้าทั่วไปของกิลด์ Happy Firmaments รวมทั้งสมาคมเทพธิดา ก็ทำให้เธอยุ่งอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งเธอยังต้องดูแลเจสอีกด้วย เขานึกถึงลีน่าหัวหน้าเผ่าฟามิเลียขึ้นมา ‘ใช่แล้ว! เธอน่าจะใช้งานได้ ที่สำคัญเธอจงรักภักดีต่อวิหารเทพธิดาอันย่าเป็นอย่างมาก’ เย่ฉางจึงรีบบอกให้เย่เทียนให้ไปที่ห้องฝึกอบรมผู้จัดการของสมาคมเทพธิดา
เย่เทียนเดินทางมาที่ห้องฝึกอบรมผู้จัดการของสมาคมเทพธิดา และได้เห็นกลุ่มคนที่กำลังรับการล้างสมองอยู่ เธอเรียกลีน่าเข้ามาคุย เมื่อลีน่ารู้ว่านี่เป็นเรื่องสำคัญมาก และเธอยังได้รับความไว้วางใจจากเย่ฉางอีก เธอจึงรีบพาคนของเธอออกออกเดินทางไปยังเทือกเขาคาร์โรล เพื่อดูแลความเรียบร้อยต่างๆทันที
เย่เทียนบิดตัวอย่างเฉื่อยชา จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังห้องทดลองของเธอ
เย่ฉางเดินผ่านดันเจี้ยนถ้ำแห่งความมืด ซึ่งยังคงเนืองแน่นไปด้วยผู้เล่นจำนวนมาก กิจการร้านขายอาหารของเขาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เขาพยักหน้าอย่างพอใจ จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปยังหลุมลึก มีโครงสร้างที่คล้ายกับลิฟท์ขนาดเล็กถูกสร้างขึ้นมา เขาเดินเข้าไปในลิฟท์ขนาดเล็ก และเห็นพวกคนงานกำลังดื่มสังสรรค์กันอยู่ เขาจึงพูดคุยกับพวกคนงานอยู่พักหนึ่ง