เย่ฉางถ่มน้ำลายปนเลือดออกมา แล้วก็พุ่งโจมตีหลินหลันต่อ หลินหลันรู้สึกถึงความแข็งแกร่งอันน่ากลัวของเย่ฉาง ในระยะใกล้แบบนี้ มันเกือบฉีกกระชากเขาเป็นชิ้นๆ นี่ขนาดเขาใช้พลังเต็มที่ในการป้องกันแล้วนะ! ฝ่ามือของเขากระแทกมือที่เหมือนปีศาจของเย่ฉาง ขณะที่กำลังจะขย้ำคอของเขาออกไป จากนั้นเขาก็ฟาดฝ่ามือตามซ้ำออกไป ศิลปะการต่อสู้สังหารมังกร – มังกรกระชากวิญญาณ!
ตั้งแต่ไหล่ของเย่ฉางลงมา ถูกตัดออกเป็นสองส่วนทันที แต่เย่ฉางก็ยังไม่ได้ผ่อนแรงแขนข้างที่จับดาบแม้แต่นิดเดียว พลังงานแห่งความโกรธเกรี้ยวสีดำและสีขาว ยังคงฉายออกมาจากดวงตาของเขาอย่างบ้าคลั่ง เย่ฉางใช้มืออีกข้างดึงดาบออกมาจากไหล่ข้างที่ถูกตัดไป และเขาก็พุ่งเข้ามาโจมตีอีกครั้ง หลินหลันรู้สึกสยดสยองต่อภาพที่เห็น เขาพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีอันรุนแรงนี้ ดาบของเย่ฉางได้ตัดผ่านหน้าอกของเขาไป ทำให้เขารู้สึกชื่นชมทักษะดาบของเย่ฉางมาก นี่เป็นดาบที่ดูเรียบง่ายแต่งดงามมากๆ และมันยังแฝงไปด้วยความสามารถในการบิดเบือนเวลา ที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังพบว่ายากที่จะจัดการได้ เขารู้สึกแย่มากที่ต้องตัดสินใจฆ่าเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์คนนี้ แต่เขาก็จำเป็นต้องทำ หลินหลันฟาดฝ่ามือออกไปอย่างสุดแรง เกิดเป็นประกายดาบจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่เย่ฉาง จนฉีกร่างของเย่ฉางเป็นชิ้นๆ!!
“เพื่อน, หลินหลี่ …” จางเจิ้งเฉียงไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้ ในที่สุดเขาก็ยิ้มออกมาและตะโกนว่า “ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ได้เกิดในวันเดียวกัน แต่เราจะขอตายในวันเดียวกัน … อย่างน้อยเราสามพี่น้องก็สามารถตายด้วยกันได้ …” เมื่อพูดจบจางเจิ้งเฉียงก็ล้มลงไป
หลินหลันมองจางเจิ้งเฉียง ผู้ซึ่งพูดคำเหล่านั้นออกไปอย่างไม่เกรงกลัว เขารับรู้ได้ว่าคนที่กล้าพูดแบบนี้ แสดงว่าพวกเขาต้องเป็นพี่น้องที่รักกันมากขนาดไหน! เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงสามพี่น้องสวนท้อ (เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย) ในประวัติศาสตร์ของจีนขึ้นมา เด็กพวกนี้อาจเป็นเหมือนพวกเขาเหล่านั้น! เด็กพวกนี้บุกเข้ามาในถ้ำเสือถ้ำมังกรเพื่อช่วยพ่อของน้องชาย โดยไม่ลังเลที่จะเสี่ยงชีวิตของพวกเขาเลย และพวกเขาก็ทำมันด้วยความเต็มใจ เขาหันและกำลังเดินจากไป ปล่อยทิ้งความรู้สึกเสียใจเหล่านี้ไว้ข้างหลัง …
ทันใดนั้น มีเสียงของหัวใจเต้นดังออกมา สวรรค์และโลกดูเหมือนจะสูญเสียสีสันทั้งหมดไปทำให้ทุกอย่างดูคล้ายกับภาพขาวดำ
ซงซินที่อยู่ในบ้านพักริมทะเล ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวล ‘หลินหลี่และพวกเขาจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัย! หลินหลี่ ถ้าคุณตาย ฉันก็ไม่ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป’ เธอนึกถึงความทรงจำอันแสนอบอุ่นในอดีต โลกของเธอจะไม่มีสีสันอีกต่อไปถ้าขาดหลินหลี่ ‘หลินหลี่คือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน อย่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาเลยนะ!’
ซงซินไม่รู้ว่าในตอนนี้ สิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบๆนิกายดาบสวรรค์ ทั้งหมดล้วนถูกแช่แข็งในโลกสีดำและสีขาว
จู่ๆคนที่ตายไปแล้วอย่างหลินหลี่ก็ค่อยๆลุกขึ้นมา แสงสีแดงที่ดูน่ากลัวส่องออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างของเขา เขาหัวเราะอย่างชั่วร้าย จากนั้นก็เริ่มที่จะเดินเซไปมา “สถานที่แห่งนี้ … ช่างรู้สึกคุ้นเคยยิ่งนัก โอ ~ ใช่แล้ว ~ นี่คือนิกายดาบสวรรค์? อ่า คิดถึงจัง …”
หลินหลันตื่นตระหนก ‘มันอาจจะเป็น?’ เขายืนเผชิญหน้ากับหลินหลี่และพูดด้วยความนับถือ “ท่านบรรพบุรุษหลินเซ็น …”
“เพียงแค่ส่งมอบหลินซ่งหยูหรืออะไรก็ตามที่เด็กคนนี้ต้องการไป เด็กคนนี้เป็นลูกหลานที่สืบเชื้อสายโดยตรงของหลินหลิน และฉันมีหน้าที่ปกป้องสายเลือดของเขา เนื่องจากเด็กคนนี้สามารถปลุกฉันขึ้นมาได้ ฉันจึงมีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลความปลอดภัยของเด็กคนนี้ตลอดไป อย่างไรก็ตาม อารมณ์, ปัญญา และพรสวรรค์ของเด็กคนนี้มีความคล้ายคลึงกับเจ้าบ้าหลินหลินชะมัด…”
หลินเซ็นที่อยู่ในร่างหลินหลี่ กวาดตามองไปที่เกิดเหตุและถอนหายใจ “เฮ้อ ช่างน่าเสียดายนัก นี่ก็ผ่านมาก็ตั้งหลายร้อยปีแล้ว ตระกูลหลินก็ยังไม่มีใครสามารถเป็นเจ้าของดวงตาแห่งการพิพากษาได้ มีแค่เด็กคนนี้ที่สามารถครอบครองดวงตาแห่งการพิพากษาได้เท่านั้น หลินหลัน นายเป็นลูกชายของหลันหลัน (คนที่ถูกพูดถึงในตอน226 ซึ่งอาจจะเป็นภรรยาอีกคนของจักรพรรดิดอกเบญจมาศหลินหลินที่เหลืออยู่บนโลก) และเป็นเครือญาติของเด็กน้อยคนนี้ นายและพ่อของนายนี่ มีนิสัยเหมือนกันเลย ถึงแม้ว่าพ่อของนายจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับคนอื่นง่ายๆ แต่อย่างน้อยเขาก็ยังเคยช่วยฉันไว้ แต่นายนี่กลับไม่เคยช่วยเหลือใครเลย … เฮ้อ ~.”
หลินหลันก้มหัวลงอย่างละอายใจ เขายังคงเงียบอยู่เป็นเวลานาน หลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่ที่เขาอยู่เหนือคนอื่น และได้รับความเคารพจากผู้คนมากมาย จนเขากลายเป็นคนเย็นชาและเลือดเย็นไร้น้ำใจ ดวงตาสองข้างของเขากลับมาแน่วแน่อีกครั้ง “ท่านบรรพบุรุษหลินเซ็น ผู้น้อยเข้าใจดีแล้ว ต่อไปผมจะไม่ทำให้ชื่อเสียงของพ่อต้องหม่นหมองอย่างเด็ดขาด”
“ดีมาก เอาล่ะ! เด็กที่อยู่บนพื้นยังไม่ตาย สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ทำตามที่นายเห็นสมควรได้เลย …” หลินเซ็นสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวหลินหลัน เขาจึงพยักหน้าอย่างพอใจ จากนั้นเขาก็มองไปที่เย่ฉาง ซึ่งเป็นชิ้นส่วนกระจายอยู่บนพื้น เขารับรู้ได้ทันทีเลยว่า คนๆนี้ไม่ใช่คนธรรมดา เพราะเขาได้กลิ่นที่แสนอันตรายจากร่างของเย่ฉาง
…
ณ.อเวจี นรกที่ไม่มีวันสิ้นสุด
ชายผมขาวที่สวมหน้ากากเหล็กซึ่งกำลังถูกทรมานอยู่ ค่อยๆหลับตาที่กำลังโกรธของเขาอย่างช้าๆ “ดูเหมือนว่าฉันจะไม่ต้องให้เขายืมพลังของ ‘นรก’ แล้วสินะ!”
…
สวรรค์และโลกกลับคืนมามีสีสันอีกครั้ง หลินเซ็นออกจากร่างหลินหลี่ไป จางเจิ้งเฉียงอยู่ในภาวะช็อค เนื่องจากการเห็นหลินหลี่ตายไป เศษชื้นส่วนของเย่ฉางที่กระจัดกระจายอยู่ ก็ค่อยๆหลอมรวมกันกลับคืนมาเป็นร่างของเขาอีกครั้ง เย่ฉางลุกขึ้นยืนอยู่ข้างหน้าหลินหลี่และจางเจิ้งเฉียง เพื่อปกป้องพวกเขาไว้ ดาบที่เขาใช้พยุงตัวอยู่พร้อมที่จะโจมตีอยู่ตลอดเวลา
“ช้าก่อน เราไม่มีเหตุผลที่จะต่อสู้กันอีกต่อไปแล้ว ทั้งสองคนนี้ยังไม่ตาย นายรีบพาพวกเขาไปที่ตำหนักดาบเพื่อรับการรักษาซะ สำหรับเรื่องของหลินซ่งหยูนั้น ฉันจะอธิบายให้หลินหลี่ฟังเอง …” หลินหลันพูดจบ ก็หันกลับขึ้นไปที่ตำหนักดาบ เขาสั่งคนให้จับกุมตัวหลินซ่งหยูไว้ หลังจากที่เขาพูดไม่กี่คำกับพวกผู้อาวุโสคนอื่นๆเสร็จแล้ว เขาก็บินขึ้นไปที่ภูเขาด้านหลัง
เย่ฉางรับรู้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจหลินหลี่ เขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่งใจ แต่ก็รู้สึกยังไม่เข้าใจเรื่องราวต่างๆอยู่ดี หลินซ่งหยิน รีบเดินเข้ามาและมองไปที่เย่ฉางด้วยความสงสัย “ท่านบรรพบุรุษหลินเซ็นได้สั่งกำชับไว้ว่า มอบหลินซ่งหยูให้พวกนายทั้งสามเป็นคนลงโทษ ส่วนหลินซ่งหยู่และอีกคนหนึ่งจากคุกในตำหนักดาบ ได้รับการปล่อยตัวแล้ว และพวกคนร้ายในนิกายจะถูกตัดสินลงโทษให้ไปอยู่ที่สุสานดาบสวรรค์ ท่านบรรพบุรุษหลินเซ็นยังได้สัญญาไว้อีกว่า จะนำพานิกายไปยังเส้นทางที่ถูกต้อง และยังได้กล่าวขอโทษในเรื่องที่เกิดขึ้นกับพวกนายอีกด้วย”
เย่ฉางยังคงสับสนอยู่ แต่เนื่องจากพวกเขาทั้งสามคนปลอดภัยดีแล้ว เขาจึงส่ายหัวอย่างใจเย็นและเลือกที่จะเงียบ หลินซ่งหยินพาพวกเขามายังชั้นบนสุดของตำหนักดาบ ทำให้หลินหลี่และจางเจิ้งเฉียงกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว เมื่อจางเจิ้งเฉียงและหลินหลี่ได้ยินผลลัพธ์การต่อสู้ พวกเขาก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที หลินหลี่มีความสุขมากๆที่จะได้พบกับพ่อของเขาแล้ว
ในคุก
หลังจากที่หลินซ่งหยู่รู้ว่าได้รับการอภัยโทษแล้ว น้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด หลังจากที่ถอดโซ่ตรวนออกแล้ว เขาก็มาถึงชั้นบนสุดของตำหนักดาบ เมื่อเขาเห็นหลินหลี่ เสียงของเขาสั่นเครือขึ้นมา “หลินหลี่ …”
“พ่อ …” ในที่สุดหลินหลี่ก็ได้พบพ่อของเขา
พ่อและลูกสวมกอดกันแน่น เย่ฉางและจางเจิ้งเฉียงยิ้มแป้น พวกเขาเอื้อมมือไปกดไหล่หลินหลี่เบาๆ
เมื่อหลินซ่งหยู่ได้รับรู้ว่า เย่ฉางเป็นคนที่ช่วยพาหลินหลี่บุกฝ่าเข้าในนิกาย และยังได้รับการยอมรับจากบรรพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่อีก ที่สำคัญคือเย่ฉางทำหน้าที่ทั้งในฐานะพ่อและพี่ใหญ่ คอยดูแลและปกป้องหลินหลี่มาโดยตลอด เขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้มาก นอกจากคำว่าขอบคุณ มันเหมือนมีอะไรติดอยู่ในคอของเขา “ขอบคุณ … ขอบคุณมากๆ”
“ลุงหลิน อาเฉียงและผมรักหลินหลี่เหมือนกับน้องชายจริงๆ ลุงเป็นพ่อของหลินหลี่ ซึ่งก็หมายความว่าลุงก็เหมือนเป็นพ่อของเรา การที่ลูกชายอย่างเรามาช่วยพ่อ เป็นสิ่งที่เราควรจะทำแล้ว” เย่ฉางพูดอย่างจริงใจ
“ลุงหลิน ตอนนี้ลุงเป็นอิสระแล้ว” จางเจิ้งเฉียงยิ้ม
คำพูดที่จริงจังของเย่ฉางและจางเจิ้งเฉียง ทำให้หลินซ่งหยู่สั่นสะท้านและหัวเราะออกมา หลินหลี่โชคดีมากที่มีพี่น้องที่มีบุคลิกสมบูรณ์แบบเช่นนี้ เขากล้าท้าทายเหล่าผู้อาวุโส และสุดท้ายยังได้การยอมรับจากบรรพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่อีก!
ต่อมาไม่นาน พวกเขาทั้งสี่คนเห็นหลินซ่งหยูถูกนำตัวมา เย่ฉางมองไปที่หลินหลี่เพื่อให้เขาเป็นคนตัดสินใจ เพราะนี่ไม่ใช่ธุระของเขา มีแค่หลินหลี่และลุงหลินเท่านั้น ที่จะตัดสินโทษผู้ชายคนนี้!!
“พี่ซ่งหยู่ เหตุการณ์ครั้งนั้นมันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ ปล่อยฉันไปเถอะนะ” หลินซ่งหยูร้องขอชีวิต
หลินซ่งหยู่เห็นว่าหลินซ่งหยูที่เคยทำตัวเหย่อหยิ่ง แต่ตอนนี้กลับร้องขอชีวิตด้วยความเวทนาแค่ไหน เขาโกรธแค้นชายคนนี้มาก แต่การฆ่าหลินซ่งหยูนั้น มันไม่เพียงพอที่จะระงับความเจ็บปวดจากการตายของภรรยาเขา และการพลัดพรากจากลูกชายตั้ง 20 ปีไปได้ เขาถอนหายใจออกมา “น่ารำคาญ ผู้อาวุโสสามโยนเขาเข้าไปในขุมนรกดาบสวรรค์ …”
หลินซ่งหยินพยักหน้า ผู้คุมนักโทษทั้งสองคนลากหลินซ่งหยูออกไปทันที
“ฉันไม่ต้องการไปขุมนรกดาบสวรรค์! ไม่นะ! ปล่อยฉัน! ฉันเป็นผู้นำนิกายนะ !! หลินซ่งหยู่! คนอย่างแกจะต้องไม่ตายดี!”ทุกคนต่างเห็นการแสดงออกที่น่าเกลียดของหลินซ่งหยู ในขณะที่เขาถูกลากออกไป และไม่สามารถช่วยอะไรได้ พวกเขาได้แต่เสียใจ เมื่อสักครู่นี้ เขายังเป็นผู้นำนิกายอยู่เลย แต่ในตอนนี้ เขากลับถูกลากไปยังขุมนรกดาบสวรรค์แล้ว สถานที่ที่จะทำให้เขาต้องตายทั้งเป็น!!