มนุษย์ปลานักรบพาเรือกลไฟแล่นไปตามแนวน่านน้ำของตนเอง หลังจากออกน่านน้ำของมหาสมุทรแห่งนรกแล้ว มนุษย์ปลานักรบเหล่านี้ก็ยังคงติดตามกลุ่มของเย่ฉางต่อไป มนุษย์ปลากลุ่มนี้เป็นผู้รับผิดชอบในการพากลุ่มของเย่ฉางกลับไป หลังจากผ่านไป 10 วันในการแล่นเรือด้วยความเร็วสูงสุด เย่ฉางได้เห็นนกนางนวลที่บินอยู่ในอากาศตลอดทาง และเขาก็ค่อยๆมองเห็นเรือขนาดใหญ่ลำอื่นๆ เย่ฉางรู้ว่าพวกเขาได้มาถึงจุดหมายปลายทางกันแล้ว
ท่าจอดเรือขนาดใหญ่ค่อยๆปรากฏขึ้นในสายตาของพวกเขา เย่เทียนเริ่มแล่นเรือไปยังท่าเรือ เนื่องจากลักษณะเรือกลไฟของเย่ฉางเป็นสินค้าที่พบเห็นได้ทั่วไปในท้องถิ่นแบบนี้ ดังนั้นมันจึงไม่ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนในบริเวณนี้เป็นพิเศษ แต่มนุษย์ปลานักรบที่อยู่บนเรือได้ทำให้เจ้าหน้าที่ประจำเมืองถึงกับขวัญหนีดีฝ่อกันเลยทีเดียว ยามประจำท่าเรือทั้งหมดได้โค้งคำนับให้ และให้เย่ฉางรอบุคคลที่รับผิดชอบในส่วนนี้มาถึงก่อน SpyingBlade อดถอนหายใจออกมาไม่ได้
ผู้หญิงที่มีผมสีบลอนด์หยักศกและสวมใส่เสื้อผ้าพนักงาน ได้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้ากลุ่มของเย่ฉาง “คุณเป็นคนที่นำกลุ่มมนุษย์ปลามาใช่ไหมคะ? ขอฉันถามได้ไหมว่าคุณมาจากที่ไหน…”
ผู้หญิงคนนี้เห็นเรือของเย่ฉาง และเธอก็ขมวดคิ้วขึ้น “นี่เป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ของมาสเตอร์ปาสตอเร่ ซีเรียลนัมเบอร์ HHY-91-S13 ซึ่งเป็นเรือกลไฟแบบพกพา นี่เป็นเรือที่ทำขึ้นเองรุ่นจำกัด มีเพียงสามคนเท่านั้นที่มีเรือประเภทนี้”
เย่ฉางยิ้มอย่างสงบและยืนขึ้นด้านหน้าเธอ เขาถึงฮู๊ดหัวหมาป่าลงไปพาดบนไหล่ของเขา และพูดออกมาอย่างสง่างาม “เราเป็นนักเดินทางจากเมืองแบล็กร็อคแห่งอาณาจักรพลาเนทารี่ ตัวเราคือเอิร์ล PaleSnow แห่งอาณาจักรพลาเนทารี่…”
อูนา และ FrozenCloud ต่างพากันถอนหายใจออกมา นี่เป็นวิธีการที่ยอดเยี่ยมมากในการที่เย่ฉางแสดงออกต่อคนแปลกหน้า เขาดูเจ๋ง ดูมีสไตล์ และดูมีสเน่ห์เป็นอย่างมาก
พนักงานผู้หญิงส่งเสียงร้องออกมาอย่างตื่นตระหนก “พวกคุณผ่านน่านน้ำมหาสุมทรแห่งนรกมา?”
“ใช่แล้ว! ในขณะเดียวกัน ฉันก็ยังเป็นชาแมนที่ยิ่งใหญ่ของชนเผ่ามนุษย์ปลาอลาบาเชียอีกด้วย” เย่ฉางพยักหน้า และเริ่มเต้นรำท่าชนเผ่ามนุษย์ปลากับพวกมนุษย์ปลานักรบ
“……” (ทุกคน)
พนักงานผู้หญิงแข็งทื่อ เมื่อเธอยืนยันว่าตราประจำตำเหน่งของเขาเป็นของจริง เธอยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าพวกเขาได้ข้ามผ่านน่านน้ำมหาสมุทรแห่งนรก เธอเต็มไปด้วยความเคารพ และพูดออกมา “ฉันเป็นหนึ่งในคนดูแลท่าเทียบเรือ C5 ของเมืองท่าเรือฟาร์ซารี ฉันชื่อว่าแมรี่ซู ยินดีต้อนรับแขกจากดินแดนที่ห่างไกลทุกคน”
ในความเป็นจริง ระยะทางในการเดินทางระหว่างเมืองท่าเรือฟาร์ซารีและอาณาจักรพลาเนทารี่ไม่ค่อยราบรื่นสักเท่าไหร่นัก พวกเขาถูกแยกออกจากกัน โดยยากที่จะข้ามผ่านอุปสรรคเฉกเช่นป่าเวทมนตร์ และดินแดนแห่งเตาหลอม สำหรับเส้นทางทางทะเลก็ถูกกีดกั้นด้วยมหาสมุทรแห่งนรก มหาสมุทรแห่งนรกถูกควบคุมโดยพวกยักษ์ทะเล และหลากหลายเผ่าพันธุ์ในมหาสมุทรนับไม่ถ้วน โอกาสในการเอาชนะพวกมันในมหาสมุทรนั้น ต่ำเตี้ยเป็นอย่างมาก การที่พวกเขาเหล่านี้ผ่านมหาสมุทรแห่งนรกมาได้ พวกเขาเป็นเหมือนลูกรักของทะเลก็ว่าได้
แมรี่ซูชำเลืองมองไปยังชนเผ่ามนุษย์ปลาด้วยความหวาดกลัว เธออดรู้สึกกังวลขึ้นมาไม่ได้ ไม่ใช่ว่าพวกเธอไม่เคยคิดที่จะแล่นเรือผ่านเส้นทางทะเลทางตอนเหนือ แต่หลังจากเข้าสู่มหาสมุทรแห่งนรกแล้ว เรือก็ต้องพบเจอกับบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ปลอดภัยตลอดเส้นทาง ถึงแม้ว่าเธอจะใช้เรือรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่ก็ไม่ควรไปยั่วยุบรรดาเหล่ายักษ์ทะเล, เผ่านากา และเผ่ามนุษย์ปลา เพราะในท้องทะเลชนเผ่าเหล่านี้คือกษัตริย์ เอิร์ลคนนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ!
แมรี่ซูอนุญาตให้พวกเขาผ่านเข้าไป
เย่ฉางพาทุกคนเข้าไปในเมือง และทำตามคำแนะนำของเย่เทียน พวกเขาเดินเข้าไปในพื้นที่จัดซื้อทรัพย์สินของศาลากลางของเมืองก่อน พวกเขานำเงินมารวมกันเป็นจำนวนมาก และตรวจสอบคุณสมบัติที่พร้อมใช้งานได้เลย เมื่อพวกเขาเห็นท่าเรือ D3 มีการจัดการที่ไม่ดีทำให้ถูกยึดและปล่อยขายออกไป เย่เทียนจึงแนะนำให้ซื้อท่าเรือแห่งนี้ในราคา 2000 เหรียญทอง พวกเขายังคงซื้อศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในบล็อกการค้าฟาร์บูชี่ พร้อมกับร้านค้าขนาดกลางอีกเป็นจำนวนมาก
เย่ฉางไปที่ร้านอาวุธปืน เขาหลั่งเหงื่อที่เย็นเยียบออกมา เมื่อเขาเห็นว่ามีอะไรอยู่ที่นั่น ปืน Giant Owl No.2 ขายแค่เพียง 25 เหรียญทองในร้านนี้ นี่เป็นราคาที่มาพร้อมกับคริสตัลเวทมนตร์อีกนับสิบก้อน เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงราคาที่เขาได้จ่ายเพื่อซื้อปืนกระบอกนี้ในบ้านประมูลระดับไฮเอนต์ เย่ฉางก็กลายเป็นอารมณ์เสียขึ้นมาทันที เขาใช้เงินที่มีเพื่อซื้อปืน Giant Owl No.2 มา 20 กระบอก และจ่ายไปอีก 200 เหรียญทองเพื่อซื้อปืน Sea Owl No.1
Sea Owl No.1 – Left (Black Gold – Standard Issue – Firearm)
ประเภท: ปืนพกขนาดใหญ่
ความต้องการ: 145 Strength, 170 Dexterity
พลังโจมตี: 38-42
+17 Strength
+19 Dexterity
+5% Dexterity
+15% ความเร็วในการรีโหลดกระสุน
+45 ความเร็วในการยิง
+50 เจาะเกราะ
+60 ระยะการยิง
Converging Shot – Sea Owl No.1: ดูดซับพลังเวทมนตร์จากคริสตัลเวทจำนวนมาก หลังจากผ่านไป 2 วินาที จะทำการยิงลูกกระสุนปืนเจาะเกราะที่ทรงพลังเป็นอย่างมากออกไป สร้างความเสียหาย 265% ของพลังโจมตี สำหรับเป้าหมายอื่นๆที่ไม่ใช่เป้าหมายแรกที่ถูกลูกกระสุนเจาะเกราะยิงทะลุ ความเสียหายจะลดลงนัดละ 5% ต่อเป้าหมายที่ถูกยิงทะลุ คูลดาวน์ 5 นาที
Sea Owl No.1 – Right (Black Gold – Standard Issue – Firearm)
ประเภท: ปืนพกขนาดใหญ่
ความต้องการ: 175 Strength, 155 Dexterity
พลังโจมตี: 39-44
+19 Strength
+16 Dexterity
+5% Strength
+10% ความเร็วในการรีโหลดกระสุน
+40 ความเร็วในการยิง
+65 เจาะเกราะ
+70 ระยะการยิง
Explosive Energy Bullet – Sea Owl No.1: ดูดซับพลังเวทมนตร์จากคริสตัลเวทจำนวนมาก หลังจากผ่านไป 3 วินาที ระเบิดพลังงานที่ไม่เสถียรจะถูกยิงออกไป สร้างความเสียหายเป็นพลังงานในระยะพื้นที่ 135 หน่วย (AOE) คูลดาวน์ 5 นาที
นอกจากนี้ยังมีเอฟเฟคโหมดยิงเร็วอยู่ด้วย ความเร็วในการยิงของคุณจะเพิ่มขึ้น แต่ไม่มากนัก ลำกล้องปืนจะมีขนาดเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เย่ฉางสวมใส่ปืนทั้ง 2 กระบอกด้วยความพึงพอใจเป็นอย่างมาก ส่วนปืนที่เหลืออีก 20 กระบอก เขาจะนำพวกมันกลับไปขายเพื่อใช้เป็นเงินหมุนเวียน
เย่เทียนเดินไปทั่วเมือง เพื่อปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญหลายคนเกี่ยวกับองค์ประกอบของชุดพิมพ์เขียว และซื้อการออกแบบหลายอย่างในการประมูล เนื่องจากเย่ฉางได้รับการแจ้งเตือนว่า ท่าเรือของพวกเขาใกล้จะเสร็จแล้ว และเฟสแรกของวิหารเทพธิดาก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเขาละทิ้งแผนเดิมเพื่อที่จะพบกับนายกเทศมนตรีของเมือง และรีบกลับไปซื้อสินค้าพิเศษจำนวนมากของเมืองก่อนที่จะกลับขึ้นเรือ และแล่นเรือกลับไปด้วยความเร็วเต็มพิกัด
แต่เดิมที แมรี่ซูต้องการปรึกษากับเย่ฉาง แต่เมื่อมองไปยังผู้คุ้มกันมนุษย์ปลาของพวกเขาแล้ว เธอทำได้แค่เพียงยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ‘เดี๋ยวพวกเขาก็กลับมาอีก เราอย่ารีบร้อนไป…’
เรือกลไฟที่มีความช่วยเหลือของมนุษย์ปลานักรบได้ขับไล่ยักษ์ทะเล และเผ่านากาบางส่วนออกไป และแล่นเรือไปตามน่านน้ำของชนเผ่าอลาบาเชีย ในที่สุดพวกเขาก็กลับมาถึงเกาะอีกครั้ง โดยไม่มีการหยุดพัก พวกเขารีบแล่นเรือต่อเพื่อกลับไปยังหมู่บ้านทะเลทราย เมื่อเดินทางมาถึง พวกเขาก็ใช้แผนที่เพื่อเดินทางไปตามเส้นทางที่สั้นที่สุด และเริ่มข้ามภูเขาหลายๆลูกไป หลังจากผ่านช่วงเวลาที่ยาวนานและยากลำบาก ด้วยการที่ต้องทนต่อลมและฝนจนทำให้พวกเขาป่วย ในที่สุดพวกเขาก็กลับไปยังพื้นที่ของวิหารเทพธิดาอันย่า ถึงแม้ว่าตอนนี้ควรเรียกว่าวิหารสามเทพธิดาก็ตาม นับตั้งแต่วันที่พวกเขาออกเดินทาง นี่ก็ผ่านไป 2 เดือนแล้ว ทุกคนในปาร์ตี้ของพวกเขามีเลเวลถึง 20 กันหมดแล้ว เย่ฉางยังคงมีเลเวลสูงสุด โดยเขามีเลเวล 23!
เย่ฉางเห็นว่า ถึงแม้ว่าสภาพแวดล้อมจะเบาบางลง แต่วิหารของสามเทพธิดาก็มีกลิ่นอายที่สง่าผ่าเผยปลดปล่อยออกมา รูปปั้นหินอ่อนที่มีขนาดสูงถึง 100 เมตรทั้งสามองค์ ยืนอยู่เคียงข้างกันอย่างสงบเงียบ ในทางตรงกันข้าม พิธีเปิดงานที่พวกเขาจัดขึ้นมาหลังจากนั้นก็ฟุ่มเฟือยเป็นอย่างมาก มารูนาย่า, ลินดา และมาคาร์โระทั้งหมดเดินเข้ามา แต่ละคนมีหน้าที่ในการรับผิดชอบต่อเทพธิดาแต่ละองค์ สำหรับวิหารหลัก ซึ่งแสดงถึงตรีเอกานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์ มีเย่ฉางและทั้งสามคนทำหน้าที่ร่วมกันรับผิดชอบ
หลุมลึกที่มีมานานได้เชื่อมต่อกับเมืองไวท์สโตนแล้ว เชื่อมเส้นทางการค้าจากเมืองแบล็กร็อคไปยังเมืองไวท์สโตน จากนั้นก็เชื่อมต่อไปยังแบล็กพีค ตอนนี้ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก คริสตัลเวทมนตร์ที่ถูกขุดขึ้นในเหมืองถูกส่งไปยังเมืองไวท์สโตน จากนั้นสินค้าจากเมืองไวท์สโตนก็ถูกส่งไปยังเมืองเทพธิดา การเดินทางระหว่างทั้งสามแห่งได้เชื่อมต่อกลายเป็นหนึ่งเดียว พวกเขาเติบโตร่วมกันและจะดิ่งลงเหวไปด้วยกัน
ตอนนี้วิหารสามเทพธิดาก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว เย่ฉางวางแผนที่จะจัดอีเว้นท์ขึ้นในครั้งนี้ เย่ฉางเดินมายังส่วนลึกของวิหารด้านใน เย่ฉางวางแผนที่จะเรียกเทพธิดาทั้งสามออกมาซ้อมใหญ่! ทุกอย่างที่พวกเขาลงทุนกันมา ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของเมืองเทพธิดา เขาไม่อาจประมาทได้เลยแม้แต่นิดเดียว