หลังจากสวมใส่เครื่องประดับกะโหลกมนุษย์หนอนแล้ว เย่ฉางและคนอื่นๆก็ไม่ได้เจอกับศัตรูอีกต่อไป ทุกคนเริ่มรู้สึกกดดันน้อยลง เพราะตอนนี้พวกเขามีเวลาพักฟื้นมากขึ้น พวกเขาไม่สามารถที่จะกินอาหารที่เย่ฉางทำไว้ก่อนหน้านี้ได้ เพราะถ้าพวกเขากินอาหารนี้แล้วเกิดสลบขึ้นมาล่ะก็ พวกเขาก็จะถูกสิ่งมีชีวิตในบึงแห่งนี้จัดการได้อย่างง่ายๆ และจากนั้นพวกเขาก็จะจมลงสู่บึงที่ไร้สิ้นสุดแห่งนี้
เย่ฉางค้นพบสถานที่ที่เป็นหิน และเริ่มก่อกองไฟเพื่อให้พวกเขาพักฟื้น
“ต้องขอบคุณเครื่องประดับชิ้นนี้ ในที่สุดเราก็มีโอกาสได้พักผ่อน” HP ของจางเจิ้งเฉียงเกือบจะหมดลงแล้ว เนื่องจากการโจมตีของศัตรูจำนวนมากที่พวกเขาได้พบก่อนหน้านี้
“อันที่จริงแล้ว เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้เลย หนูคิดว่าเราอยู่ในสถานที่ที่ซึ่งส่วนใหญ่เต็มไปด้วยการซุ่มโจมตี เนื่องจากพวกมันส่วนใหญ่คิดว่าเราเป็นมนุษย์หนอน ดังนั้นพวกมันจึงไม่ได้รบกวนเรา เราควรใช้โอกาสนี้เพื่อฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเรายังต้องเดินทางต่อไปอีกไกล” เย่เทียนนั่งลงและดื่มน้ำเวทมนตร์ ทุกคนพากันตัวเกร็งเมื่อเห็นเย่ฉางกำลังเตรียมพร้อมที่จะทำอาหาร อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยังต้องการอาหารเพื่อการฟื้นฟูอยู่ดี คงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะช่วยชีวิตคนที่เสียชีวิตไป และการเดินทางกลับมาที่นี่คนเดียวก็ยิ่งยากมากขึ้น
“เมื่ออาหารพร้อมแล้ว เราครึ่งหนึ่งจะกิน และอีกครึ่งหนึ่งจะเฝ้าระวังภัย จากนั้นเราจะสลับกัน” แม้ว่า SpyingBlade จะคิดว่าตอนนี้พวกเขาจะชินกับอาหารชีวภาพของเย่ฉางขึ้นมาบ้างแล้ว แต่เพื่อความปลอดภัยของพวกเขา เขาจึงแนะนำสิ่งนี้ขึ้นมา
“ความคิดของ SpyingBlade นั้นไม่เลวเลยทีเดียว ด้วยวิธีนี้เราจะปลอดภัยกว่าเดิม เนื่องจากเราไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญกับอันตรายอะไรบ้าง เราจึงควรระมัดระวังเอาไว้ก่อนดีที่สุด…” เย่ฉางหยุดคำพูดของเขาลง และเปลี่ยนน้ำเสียง “เนื่องจากเราไม่แน่ใจว่าเราจะมีเวลาพักฟื้นหรือไม่ในภายหลัง งั้นฉันจะทำอาหารที่ทรงพลัง และมีคุณค่าทางโภชนาการสูงก็แล้วกัน”
“เพียงแค่ทำแบบปกติก็พอ ไม่จำเป็นต้อง…” SpyingBlade ยิ้มอย่างขมขื่น ขณะที่คนอื่นพยายามเกลี้ยกล่อมเย่ฉาง
“ต้องเน้นปลอดภัยไว้ก่อนหน่า เราไม่สามารถประมาทได้นะ” เย่ฉางรีบคัดค้านอย่างจริงจัง และดูทุ่มเทกับงานของเขามาก ทุกคนต่างพากันถอนหายใจ ‘ดูเหมือนว่าเขาจะชอบบทบาทพ่อครัวนี้จริงๆ…’
เย่งฉางนำศพหนอนตัวเมียออกมา แล้วผ่าหน้าท้อง และตัดแขน นอกจากนี้เขายังตัดเนื้อขนาดใหญ่จากร่างกายของมนุษย์หนอน และหยิบกระดูกออกมาแล้วโยนลงไปในหม้อ เนื้อส่วนอกของบอสนก, เนื้อไวเปอร์, เห็ดอันล้ำค่า และเห็ดพิษก็ถูกโยนเข้าไปในหม้อด้วย ตามด้วยผงคริสตัลธรรมชาติ และคริสตัลดิน เขายังเพิ่มหนวดของหนอนนักซุ่มโจมตีลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ และลดสารพิษ จากนั้นเขาก็ปิดฝาหม้อ ในเวลาเดียวกัน น้ำมันในหม้อหนึ่งก็เริ่มเดือดขึ้นมา เย่ฉางจึงนำศพหนอนนักซุ่มโจมตีออกมา และสอดไส้เนื้อมนุษย์หนอนเข้าไปซึ่งเหมือนกับไส้กรอกจีน หลังจากนั้นเขาก็ตัดมันออกเป็นชิ้นๆ และขจัดคราบของพวกมันด้วยเครื่องปรุงรสรุ่นอัพเกรดของของเขา จากนั้นก็เพิ่มสมุนไพรป่านานาชนิดเข้าด้วยกัน เขายังเอาอวัยวะของคางคกและจระเข้มาจุ่มลงในของเหลวซอมบี้ และโรยขี้เถ้าปีศาจเงาลงไป จากนั้นเช่นเดียวกับการทำแฮมเบอร์เกอร์ เขาได้ประกบพวกมันเข้าด้วยกันด้วยเนื้อสองชิ้น ซึ่งถูกมัดไว้ด้วยใยแมงมุม และโยนลงไปทอด
SpyingBlade, อูนา และคนอื่นๆรู้สึกตกตะลึง ที่เขาใช้ความพยายามอย่างมากในการทำอาหารชีวภาพเหล่านี้
ในขณะที่รออาหารให้พร้อม เย่ฉางก็ตัดสินใจทำซาชิมิ เขาแล่ปลาทั้งหมดที่หลินหลี่จับได้จากเมืองฟาร์ซารี และมหาสมุทรแห่งนรก เนื้อหนอน, เนื้อจระเข้บึง และหนวดหนอนนักซุ่มโจมตีบางส่วนก็ถูกฝานออกเป็นชิ้นบางๆ หลังจากโรยด้วยขี้เถ้าปีศาจเงา, ผงคริสตัลน้ำ และสมุนไพรป่าแล้ว จากนั้นเขาเสิร์ฟลงบนจาน ท่าทางของเขาดูราวกับมาสเตอร์เชฟ เขาเช็ดมีดแล้วพลิกด้ามจับ และเอากลับเข้าไปในซองมีด เขาลูบมือแล้วพูด “เอาล่ะ! ต่อไปก็เป็นจานสุดท้ายแล้ว มันเป็นอาหารระดับสูง แต่ฉันจะใช้ทักษะการทำอาหารใหม่ที่เพิ่งได้รับมาเพื่อปรุงมัน มันจะมีรสชาติที่ดีกว่าพิซซ่าสไตล์เย่อย่างแน่นอน สิ่งนี้เรียกว่าเนื้อห่อ! มันจะไม่ทำให้พวกนายผิดหวังเลยทีเดียว”
‘ฆ่าฉันเถอะ’ นั่นคือความคิดของทุกคน เมื่อได้ยินวลี ‘ทักษะการทำอาหารใหม่’ OldWangFromNextDoor ก็ตกตะลึง ‘วิธีการทรมานของหัวหน้าทีมนั้นน่ากลัวมากจริงๆ จนดูเหมือนว่าจะสามารถทำร้ายผู้คนได้อย่างง่ายดาย’ นั่นเป็นเพราะเขาเคยเห็นเหล่าราชาอย่าง CloudDragon, LordAsked และ NalanPure ต่างพากันล้มป่วย หลังจากที่ได้กินอาหารของเขา
ทุกคนจ้องมองไปที่เย่ฉาง ขณะที่เขาหยิบหนังสีแดงออกมา ‘มันควรเป็นหนังสัตว์ธาตุไฟใช่ไหม?’ ทุกคนเดาได้ถูกต้อง เมื่อพิจารณาจากคุณภาพที่สูงของหนังแล้ว พวกเขาก็รู้ว่านี่ต้องเป็นผิวของโดดูซ่าอย่างแน่นอน! พวกเขาได้รับมันเมื่อพวกเขาต่อสู้กับเหล่าสาวกจากนรกที่แบล็กพีค ดูเหมือนว่าแผ่นหนังนี่จะมีความยาวหลายสิบเมตร!
เย่ฉางแผ่แผ่นหนังออก และวางเนื้อจากอวัยวะที่เหลืออยู่ทั้งหมดลงไปอย่าง หนอนยักษ์, ผึ้งคากู, แมลงบากู, คางคก, มนุษย์หนอน, จระเข้, สัตว์ทะเลสามหัว และเนื้อซอมบี้ จากนั้นเขาก็เติมซอสลับ และเครื่องปรุงพร้อมกับโรยเห็ด, สมุนไพรป่า และผงคริสตัลไฟลงไป
หลังจากนั้นเย่ฉางก็ห่อพวกมันทั้งหมดและมัดด้วยใยแมงมุม และวางไว้บนตะแกรงย่าง
“ปลาย่างในฟอยล์อลูมิเนียม?” อูนาดูสับสน
“ไม่ใช่ … มันเป็นเนื้อย่างในหนังทนไฟ หนังของเซอร์เบอรัสนั้นมีความต้านทานไฟได้ดี ดังนั้นมันจะไม่ถูกเผาไหม้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้มันยังสามารถส่งผ่านความร้อนได้ดีอีกด้วย ด้วยวิธีนี้ รสชาติจะไม่รั่วไหลออกจากห่อที่ปิดผนึกนี้ และจะยิ่งทำให้มันชุ่มช่ำ และอร่อยมากยิ่งขึ้นไปอีก” เย่ฉางพูดพร้อมกับเชิดหน้าของเขาขึ้น
วลี ‘ชุ่มช่ำและอร่อยมากยิ่งขึ้น’ ทำให้ทุกคนถึงกลับสั่นสะท้าน เมื่อพวกเขาจ้องมองไปที่ถุงหนัง ที่ดูเหมือนจะมีบางอย่างที่เคลื่อนไหวอยู่ภายใน และพยายามดิ้นรนที่จะออกมา แต่มันก็ไม่สามารถทำได้ มันดูราวกับเป็นนรกดีๆนี่เอง
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ทุกคนมีความสุขก็คือกลิ่นของน้ำซุป มันมีกลิ่นที่สดชื่นและยอดเยี่ยมมาก จนทำให้ทุกคนแทบรอไม่ไหวที่จะลงมือกิน หลังจากเติมไวน์รสเลิศลงไป จานซาซิมิคือสิ่งที่ทุกคนเห็นว่านี่เหมาะสมกับการเป็นอาหารมากที่สุดแล้ว เพราะในขณะนี้พวกเขาไม่พบสิ่งที่น่ากลัวอะไรเลย แม้ว่าอาหารทอดจะประกอบด้วยส่วนผสมที่น่ากลัวมากมาย แต่มันกลับดูน่ากลัวน้อยลงเมื่อมันถูกทอด สำหรับตอนนี้อาหารที่น่ากลัวที่สุดที่พวกเขาเคยกินก็คือ อาหารประเภทผัดหรือตุ๋น ดังนั้นนักวิเคราะห์น้อยเย่เทียนจึงจ้องมองไปที่อาหารจานสุดท้ายอย่างเนื้อห่อ และกลืนน้ำลายอย่างหวาดกลัว เธอมีความรู้สึก 100% ว่า อย่างน้อยสิ่งนี้จะต้องถูกจัดอยู่ในอันดับ ‘ทุรนทุราย’ ระดับ ‘ทุรนทุราย’ เป็นสิ่งที่พวกเขาจัดตั้งขึ้นมา เพื่อบอกถึงระดับอาหารชีวภาพของเย่ฉางโดยที่เขาไม่รู้ตัว ระดับมีทั้งหมดดังนี้: มืดมนนิดหน่อย, มืดมนมาก, ทุรนทุราย, ภัยพิบัติ, โครตน่ากลัว, นรก และจุดสิ้นสุดของโลก เดิมทีเมื่อตอนที่พวกเขาพูดเรื่องนี้ขึ้นมา มันดูเป็นเรื่องตลก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะกลายเป็นความจริงแล้ว!
เมื่อกำลังทำอาหารจานใหม่อยู่ ข้อความจากระบบก็เด้งขึ้นมา ซึ่งทำให้เย่ฉางรู้ว่าอาหารทอดพร้อมแล้ว ทันใดนั้นเขาก็จับใยแมงมุมแล้วดึงออกมา กลิ่นเหม็นที่พวกเขาไม่สามารถดมได้ในขณะที่มันถูกทอดในน้ำมัน ถูกเติมเต็มในอากาศในฉับพลันเหมือนกับระเบิด เมื่อเย่ฉางตัดมันออกมา จากนั้นน้ำตาก็ปริ่มไปทั่วดวงตาของพวกเขา หลังจากผ่านการกินอาหารทดลองทางชีวภาพมาตลอดเวลา พวกเขาก็มีความต้านทานเป็นพิเศษ ไม่ว่าในแง่ของความตั้งใจหรือความอดทน อาหารที่ครั้งหนึ่งทำให้พวกเขาอ่อนแรง จึงทำให้พวกเขาเพียงแค่รู้สึกคลื่นไส้เท่านั้น จากนั้นพวกเขาก็ดื่มซุปที่แสนอร่อยอย่างรวดเร็วเพื่อสงบสติอารมณ์ และเตรียมพร้อมที่จะสลบครั้งแรก
อาหารจานจานสุดท้ายอย่างเนื้อห่อยังคงร้อนกรุ่น หัวใจของทุกคนดิ่งลง เมื่อพวกเขามองมันและเตรียมพร้อมที่จะสลบเป็นครั้งที่สอง อย่างไรก็ตามเพื่อเผชิญหน้ากับสิ่งที่เรียกว่าเบอร์เกอร์ยัดไส้อวัยวะ! ทุกคนก็เริ่มจริงจังขึ้นมา