Virtual World - Peerless White Emperor - ตอนที่ 598 : สวนป่า
“ดูเหมือนว่าพวกนายยังคงเป็นเพียงเด็กน้อย สิ่งเหล่านี้ไม่นับว่าเป็นอะไรได้เลยสำหรับเรา ดูซะ!” หลินหลี่ยกขวดไวน์ดื่มหมดขวดอย่างใจเย็น แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นหายนะสำหรับพวกเขา แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไวน์ที่เย่ฉางบ่มขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้
FrozenCloud และอูนาได้แต่ถอนหายใจด้วยความเสียใจ ‘ไม่น่าเชื่อเลยว่าตอนนี้เราจะสามารถทนต่อสิ่งที่น่ารังเกียจเหล่านี้ได้แล้ว’ อูนาบอกว่าเธอจะออกไปซื้ออาหารมังสวิรัติราคา 50 เหรียญที่ขายในโรงอาหาร และ FrozenCloud ยังบอกด้วยว่าเธอมีความต้องการที่จะซื้อปลาหมึกทอด และอาหารที่ขายตามริมถนน เมื่อพูดถึงเรื่องนี้พวกเธอก็ได้แต่รู้สึกเสียใจ
เมื่อย้อนนึกไปถึงชีวิตของเขาก่อนที่จะรู้จักหัวหน้าทีม SpyingBlade ก็ได้แต่ถอนหายใจ ‘ถ้าเป็นไปได้… เฮ้อ! เพียงแค่… เฮ้อ’ หลังจากตกอยู่ในห้วงความคิดมากมาย เขาก็ถอนหายใจอีกครั้ง
OldWang และ AV มองดูผู้กล้าที่เหลืออยู่ด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา ‘พวกนายรู้หรือเปล่าว่านรกเป็นยังไง?! เราได้คลานออกมาจากนรกนั่นแล้วโว้ย!’ พวกเขาทั้งคู่ยืดตัวตรง และจ้องมองไปยังเหล่าผู้กล้าอย่างโอ้อวด ‘ไอ้พวกเด็กกระโปก!’
แม้แต่เจ้าคางคกน้อย, เจ้าฟ้าน้อย, เร็นน้อย และเจ้าอาหารฉุกเฉิน ก็กำลังเต้นแร้งเต้นกาเพื่อเยาะเย้ยพวกเขา สำหรับเจ้าซอสอ่อนมักจะเป็นนักเต้นนำอยู่เสมอ เพราะมันเป็นหัวหน้าทีมของเหล่าสัตว์เลี้ยง
คนส่วนใหญ่พากันวิ่งแยกย้ายกันไปพร้อมกับปิดปากของตัวเอง ในขณะเดียวกันผู้คนก็ยังคงพากันเป็นลมล้มชัก เมื่อกินอาหารเพียงแค่อย่างใดอย่างหนึ่งของเย่ฉาง ตอนนี้มีเพียงผู้หญิงรูปร่างสูงคนหนึ่งที่ยังคงยืนอยู่ เธอดูเป็นคนกล้าหาญ และสวยงาม ในขณะนี้วิสัยทัศน์ของเธอเริ่มเบลอ และใบหน้าของเธอก็เริ่มซีดจาง เธอโอนเอนไปทางซ้ายและขวา ราวกับว่าเธอกำลังจะล้มลงได้ทุกเวลา แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงถือดาบสงครามอย่างกล้าหาญ
“เพื่อน ผู้หญิงคนนี้ไม่เลวเลย เธอทนได้จวบจนกระทั่งคนสุดท้าย แม้ว่าเธอจะหมดสติไปแล้วก็ตาม” จางเจิ้งเฉียงมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นพร้อมกับหัวเราะ
“ใช่เลย” เย่ฉางยิ้ม ‘กลิ่นอายของผู้หญิงคนนี้ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคย…’ จากนั้นเขาก็ส่ายหัว “ใครซักคนก็ได้ไปอุ้มเธอที…”
OldWang ที่นอนหมดสติอยู่ที่พื้น ก็รีบวิ่งไปหาหญิงสาวแล้วอุ้มเธอขึ้นไปบนหลังของเขา “หัวหน้า เรื่องเล็กๆแบบนี้ให้ฉันเป็นคนจัดการเอง”
“……” อูนา และ FrozenCloud แทบจะอาเจียน ขณะที่พวกเธอรู้สึกเบื่อหน่ายกับการกระทำของเขา ในเวลาเดียวกัน SpyingBlade ก็ถึงกับพูดไม่ออก และเปียกโชกด้วยเหงื่อที่เย็นเยียบ ‘ตอนนี้นายดูราวกับเป็นผู้เล่นที่น่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก’
ในอีกด้านหนึ่ง AV ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยเช่นกัน “ระยำเอ๊ย! ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาเร็วมาก!”
“ไปกันเถอะ ไปหาผู้ฝึกสอนประจำอาชีพของพวกนายกันได้แล้ว หลังจากนั้นมารวมตัวกันที่สำนักงานใหญ่ของสมาคมเทพธิดา จากนั้นเราจะไปที่เมืองเทพธิดาด้วยกัน OldWang เมื่อเธอตื่นขึ้นมา ให้พาเธอไปที่รวมตัวด้วย อย่าลืมถามเธอด้วยว่าเธอต้องการเข้าร่วมกับ Happy Firmaments หรือไม่ เมื่อพิจารณาจากรูปร่างหน้าตาของเธอแล้ว ฉันก็รู้ได้ทันทีเลยว่าเธอเป็นหนึ่งในแฟนคลับของฉัน” เมื่อได้ยินสิ่งที่เย่ฉางพูด ทุกคนก็ได้แต่พากันส่ายหัว ‘นายคิดมากเกินไปแล้ว…’
เย่ฉางจึงเก็บอาหาร และไวน์ที่เหลืออยู่กลับไป “เรามีอาหารเหลืออยู่อีกเล็กน้อย แต่เราสามารถกินได้ตลอดทางในภายหลัง”
ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ‘อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้วางแผนที่จะทำขึ้นมาใหม่ เนื่องจากมีความต้านทานสิ่งที่น่าขยะแขยงเพิ่มขึ้นมา อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเป็นลมหรือหมดสติ’ เมื่อคิดถึงสิ่งเหล่านี้ พวกเขาก็ได้แต่พากันเศร้าใจ ‘ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราจะคุ้นเคยกับมันไปแล้ว นี่เป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับได้’
เย่ฉางพูดคุยกับ CloudDragon ขณะที่เขากำลังจะนำอาหารออกมาต้อนรับพวกเขา CloudDragon และคนอื่นๆก็รีบจากไปอย่างรวดเร็ว
ไม่นานหลังจากนั้นเย่ฉางก็มุ่งหน้าไปที่สำนักงานใหญ่ของสมาคมเทพธิดา ระหว่างทางเขาก็แวะไปที่สวนของเขา เมื่อเห็นว่าสวนนั้นดูเหมือนป่าขนาดเล็ก เขาก็ขยี้ตาแล้วก้าวถอยหลัง ‘โอ้ ! นี่คือสวนของฉันงั้นเหรอ?’ จากนั้นเขาก็ก้าวเข้าไป
เมื่อเห็นเย่ฉางเดินเข้ามาในสวน มาคาร์โระก็กลายเป็นเถาวัลย์ และปรากฏตัวขึ้นไม่ไกลจากเย่ฉาง จากนั้นเขาก็บอกเย่ฉางว่า เขาได้ใช้เงินของสมาคมเทพธิดาเพื่อซื้อสวนอื่นๆในบริเวณใกล้เคียง และรวมเข้าด้วยกัน “ท่านประธาน ฉันทำงานดูแลสวนได้ยอดเยี่ยมเลยใช่ไหม?”
เย่ฉางพยักหน้า ‘เมื่อฉันจากมาครั้งสุดท้าย มันยังเป็นเพียงสวนขนาดเล็ก แต่ตอนนี้มันกลายเป็นสวนป่าไปแล้ว มีพืชหลากหลายชนิด และสมุนไพรที่หายากมากมาย’ จากนั้นเขาก็พูดว่า “ฉันได้นำสิ่งเหล่านี้กลับมาด้วย”
เมื่อพูดจบ เขาก็หยิบเมล็ดสมุนไพรที่หายาก และพืชที่พบในบึงไร้สิ้นสุดออกมา มาคาร์โระเข้ามา และตรวจดูเมล็ดพันธุ์เหล่านี้อย่างตื่นเต้น “เมล็ดพันธุ์เหล่านี้มาจากบึงไร้สิ้นสุดใช่ไหม?”
เย่ฉางพยักหน้าอีกครั้ง “เรากำลังจะสร้างฐานขึ้นที่นั่น ตอนนี้มันกำลังอยู่ในช่วงเตรียมการ”
เย่ฉางบอกเขาเกี่ยวกับธุรกิจ และผู้อาวุโสใหม่ที่นั่น มาคาร์โระพยักหน้า “บึงไร้สิ้นสุดนั้นง่ายที่จะป้องกัน แต่เป็นเรื่องยากที่จะทำการโจมตี ที่นั่นเต็มไปด้วยทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ แต่มันก็น่ารำคาญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะพวกมนุษย์หนอน”
“คุณเคยไปที่นั่นมาก่อนงั้นเหรอ?” เย่ฉางเลิกคิ้ว
“ใช่ ฉันเคยเดินทางไปที่นั่นมาก่อนเมื่อตอนที่ฉันยังเป็นหนุ่ม ที่นั่นอันตรายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ลึก อย่าคิดว่าจะไปที่นั่นโดยไม่มีกองทัพนับพันได้เลย” มาคาร์โระยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
เมื่อมองดูต้นโอ๊คศักดิ์สิทธิ์ต้นเล็ก และต้นมังกรดำไททันที่เขาปลูกไว้ เย่ฉางก็ถามออกมา “อีกนานแค่ไหนกว่ามันจะออกผล?”
“ปกติแล้วต้องใช้เวลา 50 ปีกว่าต้นโอ๊คศักดิ์สิทธิ์จะเติบโตเต็มที่ และอีก 50 ปีเพื่อผลิตผล สำหรับต้นมังกรดำไททันต้องใช้เวลาเป็นสองเท่าของต้นโอ๊คศักดิ์สิทธิ์” มาคาร์โระยิ้ม
“อ่า! ทำไมคุณถึงไม่พูดในก่อนหน้านี้ล่ะ?” เย่ฉางถึงกับพูดไม่ออก
“แต่ถ้าฉันเป็นผู้ดูแลมัน ต้นโอ๊คศักดิ์สิทธิ์อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปี และใช้เวลา 10 ปีสำหรับต้นมังกรดำไททัน” มาคาร์โระลูบเครา “เว้นแต่…”
“เว้นแต่อะไร?” เย่ฉางถามอย่างอยากรู้
“เว้นแต่คุณจะมีขี้เถ้าศักดิ์สิทธิ์” มาคาร์โระตอบ
“แล้วขี้เถ้าศักดิ์สิทธิ์มันคืออะไร?” เย่ฉางถามต่อ
“มันเป็นขี้เถ้าที่หายากชนิดหนึ่ง พื้นดินใดๆก็ตามที่ถูกโรยโดยขี้เถ้าศักดิ์สิทธิ์จะ… อืม… ฉันจะอธิบายยังไงดี มันไม่สามารถอธิบายได้ว่ามันมีรูปแบบการทำงานอย่างไร แต่มันสามารถทำให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วด้วยความเร็วสูง และปรับปรุงคุณภาพของพืชให้ดียิ่งขึ้น” เย่ฉางจดจำคำพูดของมาคาร์โระเอาไว้ ‘ฉันต้องได้รับขี้เถ้าศักดิ์สิทธิ์นี้ ตอนนี้สวนของฉันขึ้นอยู่กับมันแล้ว’
หลังจากออกจากสวนป่า เย่ฉางก็ไปที่ร้านเค้กและชาเทพธิดา อัลลิกำลังทำชาราวกับภรรยาที่สง่างาม ห้องโถงเต็มไปด้วยนักผจญภัยจำนวนมาก ที่กำลังเล่นเกมกับหญิงสาวหลายคน
“ห้องเก็บของเป็นยังไงบ้าง?” เย่ฉางรับแก้วชาจากอัลลิ
“ยังเหลืออีกไม่มาก แต่มันจะเสร็จเรียบร้อยในอีกไม่ช้า คนโง่เหล่านั้นกำลังทำอะไร? พวกเขามากินอาหารกันจริงๆงั้นเหรอ?” อัลลิพูดไม่ออกขณะที่เธอนั่งลง
“เกี่ยวกับการทำอาหารเธอนั้นช่างไม่รู้อะไรเลย เธอต้องรู้เสมอว่าคนอื่นๆนั้นมีรสนิยมที่แตกต่างกัน เธออาจคิดว่าเธอทำอาหารได้อร่อยแล้ว แต่มันอาจจะไม่ถูกปากของคนอื่นก็ได้” เย่ฉางนั่งจิบชา ความรู้สึกอบอุ่นอบอุ่นทางร่างกายของเขาเพิ่มขึ้น
อัลลิกลอกตาไปมา ‘บ้าเอ๊ย นายไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้เลย นายไม่รู้ด้วยซ้ำว่านายทำอะไร นายแน่ใจเหรอว่าคนปกติทั่วไปสามารถกินอาหารของนายได้? ทุกครั้งที่ฉันเข้าไปในห้องเก็บของ ฉันต้องมีอาวุธครบมือ’ “ให้ตายเถอะ นายเป็นเชฟแห่งความมืด”
เย่ฉางยิ้มตอบ ‘เธอเป็นคนใจแคบมากเกินไป เห็นได้ชัดว่าเธออิจฉาทักษะการทำอาหารของฉัน ฉันควรจะเงียบเอาไว้ดีกว่า เฮ้อ! ช่างเป็นคนไร้การศึกษาเสียจริง’
ในขณะเดียวกันอัลลิก็รู้สึกว่าเย่ฉางมองเธอในท่าทางที่แปลก แต่ก็หยิ่งผยองในเวลาเดียวกัน เธอรู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลย
จากนั้นเย่ฉางก็ตบไปที่ไหล่ของอัลลิเบาๆเพื่อให้กำลังใจเธอ และเดินจากไป อัลลิจ้องมองเขาขณะที่เขาเดินจากไป จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาโดยไม่หันกลับมามอง “โชคดีนะ”
อัลลิกอดอก และจ้องมองไปที่เย่ฉางที่กำลังเดินห่างออกไป ‘เขาต้องป่วยอย่างแน่นอน แต่…’ เมื่อเธอคิดเกี่ยวกับมัน เธอก็รู้สึกเขิน
เย่ฉางได้เก็บวัตถุดิบจำนวนมากไว้ในห้องเก็บของ จากนั้นเขาก็จากไปด้วยความพึงพอใจ เขาเดินไปโบสถ์ เมื่อรู้ว่าครอสมาร์อยู่ที่เมืองเทพธิดา เขาก็กำลังจะเดินออกไป ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นจีน่า วิเวียนยืนอยู่ที่มุมสวน และดูเขินอาย จากนั้นเขาก็มีความต้องการที่จะแกล้งเธอ ด้วยสกิล [Shadow Step] เขาก็ก้าวไปหาเธอ และแตะไปที่ไหล่ของเธอ เมื่อจีน่าหันมา เธอก็เห็นเย่ฉาง เมื่ออยู่ในระยะใกล้เธอก็รู้สึกเขินอาย และถอยหลังกลับ เย่ฉางยกมือขึ้นสูง และพูดขึ้น “ถ้าเธอวิ่งหนี ฉันจะจับนมเธอ โอ้! ขาซ้ายของเธอถอยกลับไปจริงๆ ดังนั้น… เธอทำให้ฉันไม่มีทางเลือก ฉันจะจับนมของเธอข้างหนึ่ง”