Virtual World - Peerless White Emperor - ตอนที่ 664 : พบลุงฟรอสเลอร์โดยบังเอิญ
ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่ เสียงกระซิบที่คุ้นเคยได้ดึงดูดความสนใจของเย่ฉาง ทำให้เขาหันไปหาชายคนหนึ่งในชุดเสื้อกันลมที่ซ่อนตัวอยู่ในตรอก “ลุงฟรอสเลอร์…”
เย่ฉางเดินตรงเข้ามาหาเขาอย่างเงียบๆ และลุงฟรอสเลอร์ก็รีบดึงเขาเข้ามา “ให้ตายสิ! ผู้คนในเขตตะวันออกเป็นบ้ากันไปหมดแล้ว ฉันไม่สามารถออกจากบ้านตอนเที่ยงคืนได้เลย พวกเขาอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งเพื่อต้องการจับช้างน้อยของฉัน บางคนก็อยากขอพร ที่แย่ไปกว่านั้นคือบางคนก็อยากเลียมัน เชี่ยเอ้ย! ฉันอยู่ในโลกอะไรเนี่ย! พวกเขาผิดเพี้ยนกันไปหมดแล้ว! พวกนิสัยเสีย! หน้าด้านเกินไป…”
หลังจากได้ยินลุงฟรอสเลอร์บ่น เย่ฉางรู้สึกแปลกๆ แต่เขาไม่รู้ว่าจะตอบกลับยังไงดี ดังนั้นเขาจึงยิ้ม “นี่เป็นสาเหตุที่ลุงมาหลบอยู่ในเขตตะวันตกสินะ?”
ลุงฟรอสเลอร์พยักหน้า จากนั้นเขาก็ดึงหมวกลง และเอามือล้วงกระเป๋าเสื้อ “ไปกันเถอะ เราไปหาเรื่องสนุกๆทำ พูดตามตรงมันก็เกือบครึ่งปีแล้วที่ฉันมาที่นี่”
“ผมก็เหมือนกัน ว่าแต่ลุงฟรอสเลอร์ ผมจำได้ว่าลุงเคยบอกว่าลุงรู้จักราชากัมปนาทใช่ไหม?” เย่ฉางถามขณะที่ทั้งสองเดินเคียงข้างกัน เนื่องจากความจริงที่ว่าพวกเขาสวมแว่นดำ และพยายามปกปิดตัวตน มันทำให้คนอื่นๆรู้สึกราวกับว่าพวกเขาเป็นผู้ชายที่น่าสงสัยสองคนที่กำลังวางแผนจะทำอะไรสักอย่าง
“ใช่ เมื่อตอนเด็กฉันเคยต่อสู้กับเขา แม้ว่าเขาจะแก่กว่าฉัน และมีชื่อเสียงค่อนข้างดีในเขตตะวันตก แต่เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน ฉันยังเตะเขาออกจากโรงเรียนอีกด้วย รู้ไหมว่าฉันมีฉายาว่าจอมระห่ำแดนใต้ ถึงแม้จะเป็นเด็ก แต่ฉันก็ไม่เคยกลัวตาย นั่นจึงเป็นวิธีที่ฉันมีชื่อเสียง ฉันสามารถทำอะไรก็ได้ที่ฉันต้องการในเขตใต้ทั้งหมด ฉันมักจะไปเขตตะวันตกเพื่อหาเรื่อง แม้แต่ราชากัมปนาทคนก่อนก็ยังต้องให้ความเคารพฉัน แต่ฉันไม่ลุ่มหลงในชื่อเสียง ในเวลานั้นฉันเป็นเพียงแค่เด็กที่ไร้เดียงสาคนหนึ่ง ฉันก็แค่ต้องการพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเองเท่านั้น ฉันแข็งแกร่งมากจน…” เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ลุงฟรอสเลอร์ยิ้มอย่างขมขื่น “แต่ด้วยเหตุนี้ฉันจึงได้สูญเสียบุคคลที่มีค่าในชีวิตของฉันไป นับตั้งแต่นั้นมาฉันจึงปิดฉากตำนานนักเลงในช่วงวัยรุ่นลง”
‘ดังนั้นลุงฟรอสเลอร์จึงหันมาทำตัววิปริตเพื่อลืมอดีตที่แสนเศร้า การโชว์ช้างน้อยของเขาทำให้เขาได้รับชีวิตใหม่ และกลายเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลก เขาตีพิมพ์อัลบั้มของตัวเอง, จัดคอนเสิร์ต, ตั้งลัทธิของตัวเอง และมีผู้ศรัทธามากมาย สิ่งสำคัญคือเขายังกลายเป็นบุคคลสำคัญของหลินไห่ เขาถือว่าเป็นตำนานแลนด์มาร์คในมือถือ เขาอาจจะไม่ได้เป็นนักบวชในตำนาน แต่เขาก็กลายเป็นผู้วิปลาสในตำนาน’ เย่ฉางครุ่นคิด
“ฉันได้ยินมาว่าเขากำลังจะตาย ลุงไม่อยากไปเยี่ยมเขาหน่อยเหรอ?” เย่ฉางหันกลับมาและเดินไปที่แผงขายแกงเผ็ดลูกชิ้นปลา
“จริงเหรอ? เมื่อตอนฉันวางมือจากโลกใต้ดิน เขาก็ยังคงช่วยเหลือลูกน้องของฉัน แม้ว่าเขาจะไม่แข็งแกร่งเท่าฉัน แต่เขาก็นิสัยดี งั้นเราไปกัน ไปเยี่ยมเขา!” แกงเผ็ดลูกชิ้นปลาได้ดึงดูดความสนใจของลุงฟรอสเลอร์ เขาชมหลังจากได้กลิ่นหอมของมัน “โอ้! อาหารอันโอชะ แม่ค้าตักให้ฉันชามหนึ่ง เพิ่มซอสพริกเยอะๆด้วย!”
ทั้งสองถือถ้วยกระดาษที่เต็มไปด้วยแกงเผ็ดลูกชิ้นปลา พวกเขากินไปด้วยในขณะที่เดินและพูดคุยกัน ในที่สุดลุงฟรอสเลอร์ก็พาเย่ฉางไปที่ร้านอาหารหมักดองแห่งหนึ่ง เย่ฉางตัดสินใจเรียนรู้จากพ่อครัวหลังจากชิมผักดองที่ฉ่ำและอร่อย นั่นก็เป็นเพราะอาหารนี้เก็บรักษาง่ายและสามารถรับประทานได้โดยตรง จากนั้นลุงฟรอสเลอร์ก็ลากเย่ฉางออกจากร้าน พร้อมกับตำหนิเย่ฉางที่เกือบจะเปิดเผยตัวตนของเขา
ครู่ต่อมาพวกเขามาถึงด้านนอกของลานแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ที่ปลายสุดของถนนพระอาทิตย์ตก มีทหารสองสามคนยืนเฝ้าอยู่
ลุงฟรอสเลอร์ถอดแว่นดำออกแล้วพูดว่า “โปรดแจ้งหัวหน้าพวกนายด้วยว่าฉันต้องการพบ”
“ไม่จำเป็นต้องแจ้งหรอก ผู้อาวุโสฟรอสเลอร์! คุณพ่อต้องอยากคุยกับคุณอยู่แล้ว” ทันใดนั้นหญิงอำมหิตก็ปรากฏตัวขึ้น เธอจ้องมองลุงฟรอสเลอร์และเย่ฉาง
ลุงฟรอสเลอร์ตบไหล่เธอด้วยรอยยิ้ม แล้วนำเย่ฉางเข้าไป หญิงอำมหิตก็เดินตามไปติดๆ
ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงห้องนั่งเล่นในบ้านทรงโบราณ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่นั้นเป็นแบบโบราณ บนเก้าอี้ที่ทำด้วยไม้มีชายชราสวมชุดดำนั่งอยู่ ดูเหมือนเขาจะเหนื่อยล้ามาก แม้ว่าเขาจะอายุมาก แต่เขาก็ไม่น่ามาถึงจุดที่เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวด้วยตัวเองได้ ตอนนี้ใบหน้าของเขาซีดเซียวมาก ชายชราคนนี้เป็นผู้นำโลกใต้ดินทั้งหมดของเมืองหลินไห่ – ราชากัมปนาท
“ไม่คาดคิดเลยว่านายจะมา จอมระห่ำ” ราชากัมปนาทยิ้ม
“ไม่ได้ยินชื่อนี้มานานแล้ว มันรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้แหะ” ลุงฟรอสเลอร์หัวเราะ
“ถ้านายไม่วางมือไป ฉันพนันได้เลยว่าตอนนี้คง…” ราชากัมปนาทนึกถึงอดีต ลุงฟรอสเลอร์พูดขัดจังหวะเขาทันที “ฉันไม่รู้สึกเสียใจที่ได้วางมือ และถือว่าฉันได้จ่ายบทเรียนราคาแพงในช่วงวัยรุ่นไปแล้ว”
“จริงสินะ ตอนนี้นายกลายเป็นคนมีชื่อเสียงแล้วนี่ ฮ่า ฮ่า ฉันยังสั่งลูกน้องไปซื้ออัลบั้มของนายมาฟังเลย ฮ่า ฮ่า แค่ก แค่ก …” ขณะที่หัวเราะอย่างมีความสุข ราชากัมปนาทก็ไออย่างรุนแรงจากนั้นเขาก็หยุดพูดและมองสำรวจเย่ฉาง เขารู้ว่าเย่ฉางเป็นหนึ่งในสามวีรบุรุษเขตตะวันออก และเป็นเพื่อนของลุงฟรอสเลอร์
เกมเมอร์ที่นั่งอยู่ข้างๆมองไปที่ลุงฟรอสเลอร์ ผู้เป็นตำนานของหลินไห่ แม้ว่าลุงฟรอสเลอร์จะดูตลก แต่เกมเมอร์ก็ไม่กล้าที่จะดูถูก เพราะเขารู้ว่าแม้แต่ราชากัมปนาทในปัจจุบันและคนก่อนก็ยังหวาดกลัวผู้ชายคนนี้ ‘ในช่วงวัยรุ่นเขาคว้าตำแหน่งผู้สืบทอดโดยตรงของเขตใต้ และวางมือหลังจากพิชิตเขตทั้งหมด เขาไม่เคยแพ้แม้แต่ครั้งเดียว นักเลงทั้งโลกใต้ดินในหลินไห่หวาดกลัวผู้ชายคนนี้ แน่นอนว่าคนที่ไม่รู้จักอดีตของเขาจะคิดว่าเขาเป็นคนที่มีนิสัยวิปริต’
“จอมระห่ำ นี่มันก็ผ่านไปหลายปีแล้ว … ฉันอยากจะลองสู้กับนายอีกครั้ง…” ลุงฟรอสเลอร์กลอกตา และปฏิเสธราชากัมปนาท “นายนี่นะ? ทำไมเราไม่พูดเรื่องอื่นล่ะ นายไม่มีทางที่จะชนะฉันได้”
ชายร่างใหญ่สองสามคนของเขตตะวันตกที่นั่งข้างๆลุกขึ้นยืนทันที ในหมู่พวกเขามีชายคนหนึ่งที่มีรอยสักปลาคาร์พบนใบหน้าตะโกนอย่างไม่พอใจ “นายคิดว่าตัวเองเป็นใครห๊ะ?! นายก็แค่มีอดีตที่มีชื่อเสียงเท่านั้น แต่ตอนนี้นายเป็นแค่คนวิปลาสที่ให้ความบันเทิงแก่ผู้คน นายคิดว่าเรากลัวนายหรือ? เราแค่ให้ความเคารพนาย!”
ลุงฟรอสเลอร์หันไปจ้องมองชายคนนั้นและคนอื่นๆทันที ม่านตาของเขาหดตัวเมื่อเขาเดินไปหาพวกเขา แม้ว่าเขาจะตัวเตี้ยและเล็กกว่า แต่เขาก็ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อหญิงอำมหิตกำลังจะไกล่เกลี่ย คนเหล่านั้นก็กระเด็นลอยออกไปนอกหน้าต่างพร้อมกับกรีดร้อง ลุงฟรอสเลอร์จัดเสื้อกันลมของเขาและนั่งลง “คนเหล่านั้นน่ารำคาญจริงๆ ฉันเลยขว้างพวกเขาออกไป นายคงไม่ถือสานะ?”
เกมเมอร์เหล่ตามอง ‘ชายคนนี้แข็งแกร่งมาก! ฉันไม่เห็นด้วยซ้ำว่าเขาลงมือยังไง! มันน่ากลัวเกินไปแล้ว เขาคงไม่โหดเหมือนผมขาวหรอกนะ! ไม่น่าเชื่อว่าเขตตะวันออกจะแข็งแกร่งขนาดนี้!’
“นายนี่นะ … ดูเหมือนว่าฉันจะเอาชนะนายไม่ได้จริงๆแหละ หากนายต้องการตำแหน่งนี้…” ราชากัมปนาทจิบชาและยิ้มอย่างขมขื่น
“นายก็รู้ว่าฉันได้สาบานไปแล้ว ฉันไม่คิดที่ผิดคำสาบานหรอกนะ” ลุงฟรอสเลอร์เหวี่ยงมือของเขา ราชากัมปนาทพยักหน้าอย่างเศร้าๆแล้วเริ่มไออีกครั้ง
ลุงฟรอสเลอร์ถอนหายใจ และเดินเข้ามาหาเขา “จับมัน! เนื่องจากเรารู้จักกันมานาน และนายก็เคยช่วยฉันมาก่อนในอดีต”
เมื่อมองช้างน้อยที่อยู่เบื้องหน้า ราชากัมปนาทก็หลั่งเหงื่อเย็นออกมา เขาเคยได้ยินข่าวลือที่แพร่กระจายไปทั่วเมืองมาแล้ว ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูสงสัย เขาจึงเอื้อมมือไปสัมผัสมัน ทันใดนั้นกระแสพลังงานอันอบอุ่นก็พุ่งเข้าใส่ร่างของเขา มันไม่ใช่แค่ร่างกายที่ได้รับการรักษา แม้แต่จิตวิญญาณของเขาก็ถูกรักษาด้วยเช่นกัน จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา หญิงอำมหิตและคนอื่นๆที่เห็นฉากที่น่าขนลุกนี้ต่างอ้าปากค้าง!
ตอนนี้ราชากัมปนาทรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายตัวเอง โรคร้ายที่อยู่กับเขามานานถูกกำจัดออกไปหมดแล้ว! จากนั้นเขาก็จ้องช้างน้อยของลุงฟรอสเลอร์ และบีบมันด้วยความตื่นเต้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเคารพ ราวกับว่าพระเจ้ากำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา เขาเงยหัวขึ้นและจ้องลุงฟรอสเลอร์ “ขอบคุณมาก! นับจากนี้เป็นต้นไปหากนายต้องการความช่วยเหลือใดๆจากฉัน ฉันจะไม่ปฏิเสธ”
ม่านตาของเกมเมอร์หดตัวลง ‘ราชากัมปนาทหายดีแล้วเหรอ? ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม! เขามีพลังแห่งการรักษาที่แข็งแกร่งเช่นนั้นหรือ! อย่าบอกฉันว่า ‘การตะเวณโชว์จู๋’ ของเขาในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาไม่ใช่แค่การกระทำที่วิปริต แต่มันเป็นแผนการที่จะฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ศักดิ์สิทธิ์! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวีรบุรุษสามคนจากเขตตะวันออกน่ากลัวมาก! แล้วลุงแพนตี้ล่ะ?’
ทั้งๆที่เคยเห็นฉากเช่นนี้มาก่อนแล้ว แต่เย่ฉางก็อดประหลาดใจไม่ได้จริงๆ ‘พลังงานการรักษาของเขาเป็นพลังงานบริสุทธิ์ที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา มันมีการกระตุ้นที่ทรงพลังมาก ราชากัมปนาทดูดีขึ้นเยอะ ฉันเกรงว่าช้างน้อยของลุงฟรอสเลอร์จะกลายเป็นของขลังอันศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถรักษาโรคได้ทุกชนิด’