Virtual World - Peerless White Emperor - ตอนที่ 716 : ท้องฟ้าสีเหลืองกําลังจะเข้ามาแทนที่
- Home
- Virtual World - Peerless White Emperor
- ตอนที่ 716 : ท้องฟ้าสีเหลืองกําลังจะเข้ามาแทนที่
ตอนที่ 716 : ท้องฟ้าสีเหลืองกําลังจะเข้ามาแทนที่
“ไม่มีเงื่อนไขพิเศษใดๆในการเจรจา! หากนายต้องการที่จะต่อรองกับฉัน เช่นนั้นก็ลองถามขวานในมือของฉันก่อนก็แล้วกัน! จากนั้นก็มาถามช้างน้อยของฉันว่าตกลงร็ไม่!” ลุงฟรอสเลอร์เหวี่ยงสะบัดช้างน้อยของเขาไปมาอย่างบ้าคลั่ง
หลินหลี่คลานออกมาจากต้นไม้ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือด รอยยิ้มที่อ่อนโยนและขอโทษแขวนอยู่บนใบหน้าของเขา ในขณะที่เขาเอื้อมมือออกไปพยายามที่จะคว้าจับเตียวเสียน “เฟยเฟยคนนี้อาจไม่สามารถเติมเต็มความฝันตัวเองได้ ฉันขอโทษด้วย… ในท้ายที่สุดฉันก็ไม่ได้ไปข่มขืนเธอ ฉันขอโทษ…”
“ไม่! ลุกขึ้นมา! เฟยเฟย! มาข่มขืนฉัน! เร็วเข้า! ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้! อย่าล้มลงไป! รีบลุกขึ้นมาเร็วเข้า! ฮือ ฮือ” เตียวเสียนตะโกนขณะที่เธอสะอื้น
“ทําไมฉันถึงน้ำตาไหลกัน?”
“ฉันด้วย บทสนทนาของพวกเขาควรจะน่าขนลุก….”
“เฟยเฟย! รีบลุกขึ้นมาเร็วเข้า! เตียวเสียนกําลังรอนายอยู่นะ! นายไม่สามารถยอมแพ้เช่นนี้ได้นะ! ลุกขึ้นเร็วเข้า!”
“ลุกขึ้นมา! ลุกขึ้นมา! ลุกขึ้นมาข่มขืนเธอ! ข่มขืนเธอ! ลุกขึ้นมาสิวะ! นายไม่สามารถละทิ้งความฝันของนายง่ายๆเช่นนี้”
ผู้ชมต่างตะโกนและโห่ร้องให้หลินหลีด้วยน้ำตาคลอ
“เฮ้อ! ดูเหมือนว่าเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องสู้ อาเฉียง ไปกันเถอะ” เย่ฉางดึงดาบออกมา และเตรียมที่จะพุ่งออกไป
“ได้เลย!” จางเจิ้งเฉียงกระชับง้าวมังกรเขียวเพื่อเตรียมพร้อมสําหรับการปะทะ
“ตู้ม!”
ทันใดนั้นหลินหลี่ก็ถูกฟ้าผ่าอย่างกะทันหัน
“ท้องฟ้าสีครามตายลงแล้ว! ท้องฟ้าสีเหลืองกําลังจะเข้ามาแทนที่!”
เย่ฉางหันกลับมาเห็นประกายสายฟ้าและหลินหลีที่ลุกขึ้นยืน ข้างๆเขาเป็นชายวัยกลางคน “ลุงแพนตี้อยู่ที่นี่ รู้สึกว่าเขากําลังแสดงเป็นจูกัดเหลียง”
ดวงตาทุกคู่จับจ้องอยู่ที่ชายผมยาวในชุดคลุมที่ออกแบบด้วยฟูลู ผ้าโพกหัวสีเหลืองผูกติดกับแขนของเขา มือข้างหนึ่งถือธงสีเหลืองอ่อนๆซึ่งมีข้อความเขียนไว้ว่า “ราชาสวรรค์อยู่ที่นี่ ไม่มีอะไรที่แก้ไขไม่ได้” และอีกมือหนึ่งมีสายฟ้าหมุนวนอยู่ “แม้ว่าฉันจะแสร้งทําเป็นตายในความโกลาหล เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้ราชวงศ์ฮั่น แต่ฉันก็สัมผัสได้ถึงความฝันของนาย! เด็กน้อย! ตั๋งโต๊ะเป็นปีศาจร้าย! ฉัน เตียวก๊กคนนี้จะเข้าร่วม และช่วยเหลือนายในการต่อสู้ครั้งนี้เอง!” เมื่อลุงแพนตี้กระทืบธงที่อยู่บนพื้น ผมที่ยาวสลวยของเขาก็พลิ้วไหวไปมา และประกายสายฟ้าก็ผ่าลงมาเป็นระยะ “ท้องฟ้าสีครามตายไปแล้ว! ท้องฟ้าสีเหลืองจะมาเยือนในอีกไม่ช้า! พี่น้องทั้งหลาย! ขอให้ฉันหยิบยืมความแข็งแกร่งของพวกนายอีกสักครั้งเถอะ!”
ทันใดนั้นก็มีลมแรงพัดมา และพื้นดินก็แตกระแหงและลุกไหม้ด้วยเปลวไฟ ลุงแพนตี้กําลังยืนอยู่ตรงกลางพร้อมกับประคํา และหอกในมือของเขา
“ประกาศการมาถึงของนายพลแผ่นดิน และนายพลมนุษย์”
(นายพลแผ่นดินคือ เตียวโป้, นายพลมนุษย์คือเตียวเหลียงที่เป็นพี่น้องของเตียวก๊ก)
ลุงฟรอสเลอร์ขมวดคิ้ว “บ้าเอ๊ย! จัดการมัน!”
“เก้าอัสนี!”
“ถล่มพสุธา!”
“วายุแห่งทวยเทพ!”
“มาทันเวลาพอดี! เปิดใช้งาน! โล่ปีศาจสวรรค์!”
“โอ้? นายจริงจังงั้นเหรอ? หม? เปิดใช้งาน! ตําราแห่งเพลิง! ตําราแห่งพสุธา! ตําราแห่งอัสนี!”
“เปิดใช้งาน! นัยน์ตาแห่งอสูรสงคราม! ความโกรธเกรี้ยวแห่งสวรรค์!”
“ดาราสวรรค์ระเบิดพิภพ!”
“การฟาดฟันแห่งสวรรค์และปีศาจ”
“เพื่อน ทําไมฉันถึงรู้สึกว่าตัวละครในสามก๊กนี้แตกต่างจากที่เรารู้มาเหลือเกิน? ฉันรู้สึกว่าลุงฟรอสเลอร์มาจากดราก้อนบอล และลุงแพนตี้มาจากไซอิ๋ว ระดับของพวกเขาราวกับเทพเจ้าไปแล้ว นายแน่ใจหรือว่าเราจะไม่ถูกฆ่าโดยทักษะ AOE ของพวกเขาโดยไม่ตั้งใจ ถ้าเรายืนอยู่ในลั่วหยางงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว! พี่ใหญ่ขาวลองมองดูด้วยตัวเองสิ มีทั้งลาวา, ฟ้าผ่า และแม้กระทั่งระเบิดพลังงานอยู่นอกประตูเมือง ฉันคิดว่าตัวเองอาจตายก่อนที่จะก้าวออกไปด้วยซ้ำ”
“เราจะไปทัวร์กัน เร็วเข้า! ฉันกลัวว่าลั่วหยางทั้งหมดจะถูกทําลาย หากพวกเขายังคงสู้ต่อไปเช่นนี้”
พวกเขาสามคนขึ้นขี่ม้าเซ็กเธาว์ และไปที่ประตูหลังพร้อมกับการสู้รบที่เกิดขึ้นทันที
“เฮ้ พวกนายลืมฉันไปรึเปล่า?” อูนาพูดอย่างฉุนเฉียว เมื่อเธอจ้องมองทั้งสามคนบนม้าเซ็กเธาว์
“บ้าเอ๊ย! ตั๋งโต๊ะคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว ไม่น่าแปลกใจเลยที่เจ้าเมืองทั้ง 18 คนต้องการฆ่าเขา”
“ไม่ ไม่ ไม่ใช่! ฉันคิดว่ามันไม่สําคัญหรอกว่าจะมีเหล่าเจ้าเมืองจํานวนมากต้องการฆ่าเขาหรือไม่ แต่เขาสามารถทําลายอารยธรรมทั้งหมดจากจักรวรรดิฮั่นตะวันออกไปถึงจักรวรรดิฮั่นตะวันตกได้ด้วยตัวเองทั้งหมด”
“เกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันคิดว่าจักรวรรดิฮั่นตะวันออกมาจากจักรวรรดิฮั่นตะวันตกเสียอีก ไม่ใช่งั้นเหรอ?”
“นั่นคือเหตุผลที่ฉันพูดถึงการมีอยู่ของตั๋งโต๊ะ! ฉันพนันได้เลยว่าในตอนนี้เตียวก๊กสามารถต่อสู้กับเจียงจื่อหยาได้เลย!”
(เจียงจื่อหยา หรือ เกียงจูแหย หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ เจียงไท่กง เป็นนักยุทธศาสตร์คนสําคัญ ของโจวเหวินหวังและโจวอู่หวัง ผู้นําในการก่อรัฐประหารเพื่อล้มล้างราชวงศ์ซาง และสถาปนาราชวงศ์โจวขึ้น)
“การกบฏของโจรโพกผ้าเหลืองนั้นล้มเหลว…”
“พวกเขาถูกหักหลัง เวลาในการกบฏถูกเปิดเผยจนทําให้พวกเขาต้องเร่งเวลาขึ้น หากพวกเขามีเวลามากพอ ฉันพนันได้เลยว่าเตียวก๊กจะชนะอาณาจักรฮั่นตะวันออกทั้งหมดได้ พวกเขาใช้เวลานานในการวางแผนการกบฏครั้งนี้”
“ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะ ผู้คนในยุคนั้นดุร้ายและแข็งแกร่งเกินไป โจรโพกผ้าเหลืองเป็น เพียงคุณงามความดีสําหรับเหล่าเจ้าเมืองก็เท่านั้น”
“ตอนนี้ความกังวลสูงสุดของฉันคือจะเป็นอย่างไรถ้าเมืองลั่วหยาง และราชวงศ์ฮั่นถูกทําลายในระหว่างการต่อสู้?”
ThornyRose ที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาก็สุ่มเลือกตัวละครโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอรีบเลือกเป็นซุนเซ็ก และรีบไปที่ลั่วหยางทันที “ฉันคือราชาแห่งแม่น้ำตะวันออก”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ ดาวตกก็ร่วงหล่นบนตัวเธอ และเธอก็ตายอีกครั้ง
“พวกเขาต้องสุ่มเลือกตัวละครจากเมืองลั่วหยาง แต่ที่แห่งนั้นมันกลายเป็นหายนะไปแล้ว…”
“นายคิดว่านายสามารถเข้าไปในเขตเมืองได้อย่างไม่มีจํากัดงั้นเหรอ?”
มีคนยืนอยู่หน้าประตูเมือง และถือหนังสืออยู่สองสามเล่ม เขาผอมมาก ชายคนนี้คือลิยูซึ่งรับบทโดยฟางชิ “ฉันขอโทษด้วย นายไม่สามารถผ่านเส้นทางนี้ได้”
“แม่งเอ๊ย! ไอ้หนุ่มนี้ได้เป็นเวอร์ชั่นดราก้อนบอลเหมือนกับตั๋งโต๊ะ! เขาหยิ่งมาก!” จางเจิ้งเฉียงกัดฟัน
“ใช้ค่ายกลของเรา! เราจะฝาออกไป!” จากนั้นเย่ฉางก็กระโดดขึ้นไปนั่งบนไหล่ของจางเจิ้งเฉียง ในขณะที่หลินหลีกระโดดขึ้นไปบนเย่ฉางเพื่อสร้างหอคอย
ฟางชิเหวี่ยงหนังสือของเขา “วงเวทย์การควบคุมปีศาจ – การเต้นรําของปีศาจ!”
ประตูเมืองเกิดขึ้น แต่มันก็กลายเป็นพอร์ทัลเสมือน
อสูร, ปีศาจ และมอนสเตอร์ต่างก็แห่กันวิ่งออกมาจากพอร์ทัลเสมือน
“…” ม้าเซ็กเธาว์, จางเจิ้งเฉียง, เย่ฉาง และหลินหลี่ต่างพากันตกตะลึง
“เพื่อน นี่มันเป็นทริคบางอย่างใช่เปล่า?” จางเจิ้งเฉียงจ้องมองไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยปีศาจ
“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน…” เย่ฉางกอดอกและครุ่นคิด
“พี่ใหญ่ขาว ผมจําได้แล้ว! เมื่อเรากําหนดระดับความยาก ผมคิดว่าผมเผลอกดบางสิ่งบางอย่างลงไปโดยไม่ตั้งใจ ผมอยากจะบอกพวกพี่ แต่ผมลืมไปเลยเมื่อเย่เทียนต้องการบอกอะไรบางอย่างกับผม…” หลินหลี่เคาะหัวตัวเอง
“ฉันเข้าใจแล้ว! เป็นเพราะนายนั่นเองหลินหลี่!” ทั้งสองคนตะโกนออกมา จางเจิ้งเฉียงโดดลงจากม้าเซ็กเธาว์ทันที และพยายามหาช่องทางอื่นในการเข้าเมือง
“ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมแค่อยากรู้เกี่ยวกับปุ่มการค้นหา, ปุ่มตกลง และปุ่มระดับพลังก็เท่านั้น…” หลินหลีพูดอย่างสํานึกผิด
“ไม่น่าแปลกใจที่เล่าปี่ของฉันไม่มีดาบมังกรสวรรค์ และดาบหงสาราชัน! ฉันจําได้ว่าฉันตั้งค่าให้พวกมันอยู่ในตะกร้ารองเท้าของฉัน ไม่เช่นนั้นฉันจะใช้มันเพื่อฆ่าพวกเขาทันที”
“อะไรนะ เพื่อน! นายแอบเพิ่มสิ่งเหล่านั้นด้วยตัวนายเอง?!”
“ตัวละครหลักจะยังคงเป็นตัวละครหลักได้งั้นเหรอ ถ้ามันไม่โกงกว่าคนอื่น!”
“ดูสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้สิ ศัตรูของพวกเราทรงพลังเกินไป! รีบหนีเร็วเข้า!”
“เฮ้อ! ทําไมการข่มขืนเตียวเสียนในวันตรุษจีนจึงเป็นเรื่องที่ยากเย็นเช่นนี้? ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเยเทียน…”
“หุบปาก! แล้วโทษตัวเองซะ!” พวกเขาทั้งสองดุด่าหลินหลี่
นอกสนามรบ
“ฉันคิดว่าฉันเพิ่งเห็นสิ่งที่น่าขนลุกบางอย่าง… จักรพรรดิขาวแอบวางแผนโกง…”
“และปรากฏว่าจักรพรรดิแห่งโชคทําให้การตั้งค่านั้นยุ่งเหยิง”
“นี่เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงด้วยรึเปล่า?”
“ฉันอยากรู้บางอย่างมากกว่า ด้วยการมีพวกเขาทั้งสามขึ้นขี่, อาวุธสี่เล่ม และรองเท้าแตะเต็มตะกร้าที่จักรพรรดิเล่าปี่ต้องการขายในตลาด ม้าเซ็กเธาว์ไม่รู้สึกหนักบ้างหรอ?”
“ฉันคิดว่ามันคงจะหนักมาก…”
อูนาทําอะไรไม่ถูก สคริปต์ต้นฉบับยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว และตอนนี้ เธอหันกลับมาเพื่อดูการต่อสู้ในวันสิ้นสุดของโลก และปีศาจที่บุกรุกเข้ามา “แน่นอน เมื่อทั้งสามคนอยู่ด้วยกัน มันไม่มีอะไรที่ไม่ผิดปกติอยู่แล้ว!”