Virtual World - Peerless White Emperor - ตอนที่ 718 : ปมในใจ
ตอนที่ 718 : ปมในใจ
“เสี่ยวหยู จงจดจําเทคนิครวบรวมพลังฟาดฟันของปรมาจารย์ลุงหลีคนนี้ให้ดี”
“ปรมาจารย์ลุง? ทําไมฟังดูแล้วเหมือนว่าจะอาวุโสกว่าอาจารย์?” คําพูดของเฉาเฉียงหยดึงความสนใจจากจางเจิ้งเฉียง “หลินหลี่ นายกล้าอยู่เหนือฉันและอาฉางได้อย่างไร!ไม่มีทาง! งั้นฉันเป็นปรมาจารย์ลุงด้วย! ส่วนอาฉางให้เป็นปรมาจารย์ผู้ทรงเกียรติ”
“ถ้าอย่างนั้นแล้วใครจะเป็นอาจารย์ล่ะ?” เฉาเฉียงหยูแทบพูดไม่ออก
“ไม่เป็นไร มีแค่ปรมาจารย์ลุงและปรมาจารย์ผู้ทรงเกียรติก็เพียงพอแล้ว สําหรับอาจารย์นั้นเพียงแค่ปฏิบัติต่อราวกับว่ามันไม่มีอยู่จริง ระเบียบแบบแผนเหล่านี้ไม่สําคัญนัก”จางเจิ้งเฉียงกล่าว
“เรียกคุณว่าอาจารย์ลุงมันจะฟังดูดีกว่านะ” เฉาเฉียงหยูคิด ถ้าในอนาคตฉันมีลูกศิษย์ และเกิดพวกเขาถามฉันว่าใครเป็นอาจารย์ปูของพวกเขา ฉันไม่อยากจะบอกเลยว่าไม่ม่อาจารย์ปูมีแต่อาจารย์ผู้ทรงเกียรติ
เย่ฉางมุ่งหน้าไปที่สถานีรถไฟ
แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างและสาดลงบนใบหน้าของเขา ผมสีขาวของเขาดูเงางามเป็นพิเศษภายใต้แสงแดด
เย่ฉางหันหน้าไปมองทะเล “ฉันจะต้องแก้ปมในใจให้ได้ อาเฉียงฉันขอโทษด้วย นี่คือความตั้งใจครั้งสุดท้ายของฉันแล้ว ให้ฉันทําอะไรบ้าๆนั่นเป็นครั้งสุดท้ายเถอะนะ แม้ว่ามันอาจจะเป็นไปไม่ได้แต่ฉันก็ยังอยากจะลองดู – ฉันอยากลองพยายามชุบชีวิตซินหยู่อีกครั้ง”
ณ.สํานักงานใหญ่ของกลุ่มบริษัทสกายลอร์ดในเมืองซินหยุน
เยฉางจ้องมองผู้หญิงคนหนึ่งในถังของเหลว เขาดูจริงจังมาก
“คุณคิดดีแล้วหรอ? คุณแน่ใจแล้วนะว่าต้องการฟื้นคืนชีพเธอ?” หัวหน้าห้องทดลองยกแว่นของเขาขึ้นแล้วจ้องมองเยฉาง
“นี่คือสิ่งสุดท้ายที่ฉันต้องการ ฉันไม่แน่ใจว่าวันพรุ่งนี้ฉันจะยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า แล้วทําไมไม่ลองดูซักหน่อยล่ะ” เย่ฉางยื่นมือออกมาแล้วจับประตูถังของเหลว
“ผู้ชายอย่างคุณดูแล้วไม่น่าจะยึดติดกับเรื่องในอดีตเลย” หัวหน้าห้องทดลองพูดจบแล้วเปิดประตูถังของเหลวทันที
ทันใดนั้นของเหลวก็ระเหยเป็นก๊าซในทันที ผู้หญิงที่ดูเหมือนจางซินหยู่ลืมตาขึ้นมา อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้ดูมีชีวิตชีวาเลย
หัวหน้าห้องทดลองส่ายหัว ผู้ชายคนนี้ซื้อเกินไป เขาต้องการแค่เพียงที่จะฟื้นคืนชีพร่างจริงเท่านั้น ปกติแล้วมนุษย์โคลนและมนุษย์เทียมทุกคนจะได้รับวิญญาณและกลายเป็นมนุษย์คนใหม่แต่ร่างจริงๆนั้นยากมากเพราะวิญญาณของผู้หญิงคนนี้ได้หายไปนานแล้ว แม้ว่าเธอจะฟื้นขึ้นมาแต่มันจะเป็นเพียงแค่ร่างที่ไร้วิญญาณ
“จริงๆแล้วคุณแค่รู้สึกผิดต่อเธอ คุณรู้สึกผิดเมื่อมีคนใหม่เดินเข้ามาในหัวใจของคุณ มันทําให้คุณกลัวว่าจะลืมเธอ…”
“ฉันรู้ แต่มันก็ยากจริงๆที่จะปล่อยวาง แล้วคุณปล่อยมือจากเสี่ยวอี้ได้ไหมล่ะ?” เยฉางค่อยๆลูบไล้ใบหน้าของจางซินหยู่ ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง
“เธอกําลังจะกลายเป็นซอมบี้แล้ว…” หัวหน้าห้องทดลองถอนหายใจ
เมื่อเห็นเยฉางแนบหัวของเขาไปที่หน้าของจางซินหยู่ หัวหน้าห้องทดลองก็หันหลังกลับและเดินออกจากห้องทดลองไป
เย่ฉางหลั่งน้ําตาออกมาในขณะที่จางซินหยู่กัดคอของเขา ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นแต่เขาก็ยังคงกอดและลูบผมของเธอเบาๆ เย่ฉางนึกย้อนกลับไปในคืนที่ฝนตก จากนั้นเขาก็เริ่มบอกผู้หญิงที่ปากเต็มไปด้วยเลือดเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุด “ซินหยู่ เธอรู้ไหมว่าอาเฉียงโตขึ้นมากเลยนะตอนนี้เขาเป็นลูกผู้ชายเต็มตัวแล้ว ถ้าเธอเห็นเขาเธอจะต้องดีใจมากแน่ๆเลย โอ้! เธอยังไม่รู้จักหลินหลี่ สินะ เขาเป็นน้องชายที่ดีของฉันและอาเฉียงถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนปัญญาอ่อนนิดหน่อยก็ตาม …
เมื่อรู้สึกว่าร่างอันไร้วิญญาณของจางซินหยู่เริ่มบ้าคลั่งมากขึ้น เยฉางก็สะอื้น “ฉันขอโทษฉันขอโทษด้วยซินหยู่ ฉันไม่ได้ทําตามสัญญาที่ให้ไว้อีกครั้งแล้ว…”
เย่ฉางร้องไห้จนน้ําตาไหลเหมือนเด็กๆ เขารู้สึกว่าเธอคงไม่มีวันกลับมาหาเขาอีกแล้ว แต่เขาไม่สามารถตั้งคนที่เขารักได้ เขาไม่สามารถทําได้ เมื่อมองคนรักของเขาที่กําลังกัดและฉีกเนื้อเขาอย่างบ้าคลั่ง เขาก็ยกมือขึ้นแล้วเจาะเข้าไปในอกของเธอ เขามองเข้าไปในดวงตาสีแดงคู่นั้น “นี่นี่คือครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ…ลาก่อน ฉันจะรักษาสัญญาของฉันนับจากนี้เป็นต้นไปซินหยู่”
เลือดสีดําไหลออกมาจากถังเหมือนแม่น้ําที่ไหลทะลัก
เสียงร้องอันโศกเศร้าดังก้องไปทั่วห้อง
“คุณนี่มันเป็นคนที่ดื้อรั้นและบ้าคลั่งที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบมา” หัวหน้าห้องทดลองถอนหายใจช่วงเวลาต่อมาเยฉางที่เต็มไปด้วยคราบเลือดสีดําเดินอุ้มร่างผู้หญิงออกมาจากห้องทดลอง
“คุณจะยังคงทดลองต่อไปหรือไม่?” หัวหน้าห้องทดลองถาม
เย่ฉางส่ายหัว “ไม่ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว คราวนี้ฉันจะฝังเธอเอง ฉันจะไม่ผิดสัญญากับเธออีกแล้ว…”
จากนั้นเยฉางก็ออกจากห้องทดลองไป หัวหน้าห้องทดลองจ้องห้องทดลองที่สร้างขึ้นมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ “มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่บ้าคลั่งที่สุด และมันก็เป็นเพราะว่าความรัก แม้จะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่พวกเขาก็ยังคงต้องการลอง แต่มันเป็นการทรมานตัวเองเปล่าๆ”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เขาก็หยิบรูปจากกระเป๋าสตางค์ออกมา มันเป็นภาพของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่กําลังดูดจุกนมอยู่ “ฉันก็เหมือนกัน สําหรับคนที่เรารักนั้น เราจะทําทุกอย่างเท่าที่เราจะทําได้ใน อดีตฉันเคยทําสิ่งที่บ้าคลั่งและสกปรกยิ่งกว่านี้มาแล้ว ใช่ไหมอี้เอ๋อร์?”
ณ.สุสานจันทราในเขตตะวันออกของหลินไห่
เมื่อมองดูหลุมศพที่เขาขุดไว้นานแล้ว เย่ฉางก็วางศพลงอย่างช้าๆ ภายใต้แสงจันทร์เย่ฉางดูแก่ขึ้นมาก แต่เขาก็รู้สึกโล่งใจในขณะที่เขากําลังจะกลบดินกองสุดท้ายลงบนใบหน้าของเธอ
“เพื่อน”
เมื่อได้ยินเสียงของจางเจิ้งเฉียง เย่นางก็ยิ้มอย่างขมขืน “นายรู้แล้ว?”
“ฉันรู้มานานแล้วว่าหลุมศพนี้ว่างเปล่า” จางเจิ้งเฉียงเดินไปที่หลุมศพและมองดูใบหน้าที่คุ้นเคย
“นายเกลียดฉันไหม?” เย่ฉางก้มหัวลงด้วยความรู้สึกผิดมาก
“ฉันไม่เคยเกลียดนาย นายเป็นสมาชิกในครอบครัวเพียงคนเดียวของฉัน พี่สาวคงไปเกิดใหม่และเริ่มชีวิตใหม่ของเธอแล้ว และนายก็ควรทําเช่นเดียวกัน” จางเจิ้งเฉียงก้มลงและสัมผัสใบหน้าที่เย็นยะเยือกของพี่สาวตัวเอง จากนั้นเขาหลับตาที่เปียกน้ําแล้วผลักดินกองสุดท้ายลงไป
เยฉางยื่นมือออกมาเพื่อต้องการที่จะบัดดินออกจากใบหน้าของเธอ แต่เขาก็ทําไม่ได้
จางเจิ้งเฉียงกอดเยฉางแน่น “หยุดเถอะ! ฉันขอร้อง…”
“อาเฉียงฉันขอโทษ
ฉัน…”
จางเจิ้งเฉียงกอดเยฉางแน่นยิ่งขึ้น เมื่อรับรู้ถึงความรู้สึกของจางเจิ้งเฉียง เย่ฉางจึงหยุดพูด“จริงๆแล้วอาเฉียงโตเป็นผู้ใหญ่มากกว่าฉันอีก”
วันต่อมา
อูนาเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเผ่ฉาง ขณะที่เขากําลังทําอาหารเช้าอยู่ในครัว “นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเขายิ้ม อย่างน้อยตอนนี้ฉันก็ไม่รู้สึกว่าห่างไกลจากเขามากกว่าแต่ก่อน”
“นายไม่สามารถใช้เต้าหูและช็อคโกแลตเป็นซอสใส่ไข่ดาวได้!”
“แล้วนี่คืออะไร?”
“ซอสที่ทําจากเครื่องในปลาทุกชนิด
“ในที่สุดนายก็ได้นําทักษะการทําอาหารของนายจากเกมมาใช้แล้วใช่ไหม?”
“ไปให้พ้น ออกไปได้แล้ว ฉันจะทําเอง อย่าทําให้ครัวฉันสกปรก”
“เธออิจฉาฝีมือการปรุงอาหารของฉันสินะ”
“ฉันคิดว่านายควรไปดูพวกเขาฝึกซ้อมตอนเช้าดีกว่านะ”
เย่ฉางมาที่ชายหาดอย่างหงุดหงิด เย่เทียนที่กําลังดื่มนมถั่วเหลืองร้อนเห็นเขา และรู้สึกว่าพ่อของเธอนั้นดูแตกต่างจากเดิม แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าทําไม จากนั้นเธอก็รู้สึกเจ็บปวดเมื่อเธอกําลังเอื้อมมือไปหยิบขนมปัง
“มันเป็นของฉัน!” หลินหลี่คว้าขนมปังสีเหลืองทองอร่ามยัดเข้าไปในปากแล้วกลืนมัน จากนั้นเขาก็เดินออกไปอย่างหยิ่งยโส และต่อสู้กับจางเจิ้งเฉียงต่อ
“เมื่อไหร่เขาจะหยุดแกล้งฉัน?! ไอ้บ้าหลินหลี!” เย่เทียนกัดฟันแน่น เธอหยิบขนมปังอันธรรมดาแทนและกินมัน