War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 1628
ตอนที่ 1,628 : บังเอิญแท้…
ประลองเป็นตาย ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ตายไม่เลิกรา!!
“สวรรค์! ที่แท้ยอดฝีมืออันดับ 1 ในรายนามนภาของคฤหาสน์หลิงหนานหยวน หลินตง ผู้นี้ มีอันใดไม่พอใจในตัวท่านปรมาจารย์ต้วนกัน!?”
“มิใช่ว่าที่ประกาศท้าทายท่านปรมาจารย์ต้วนครั้งสุดท้าย ก็มิได้กล่าวถึงเรื่องประลองเป็นตายเลยหรอกหรือ…ตอนนี้ไม่รู้ท่านปรมาจารย์ต้วนจะรู้สึกเสียใจขึ้นมาแล้วหรือไม่?”
“นี่มันจักโหดร้ายกันเกินไปแล้ว! ผู้คนสู้กันเพียงให้รู้สูงต่ำก็พอ ใยต้องฆ่าแกงกันด้วยเล่า?”
……
เมื่อมีบางคนคืนสติจากอาการตะลึงหลังได้รับทราบประกาศที่จัตุรัสกลางเมือง พวกมันก็เริ่มโพล่งออกมา และนั่นเสมือนจุดชนวนบทสนทนาทันที
หลายคนเริ่มกังวลว่าต้วนหลิงเทียนยังจะมาประลองด้วยหรือไม่? เพราะอยู่ๆอีกฝ่ายกลับมาบอกว่าการประลองพรุ่งนี้จะเป็นการประลองเป็นตาย ไม่มีศพไม่เลิกราเช่นนี้!!
การประลองเป็นตาย ก็คือการประลองด้วยชีวิต!
และนั่นไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแม้แต่น้อย!
คนเรานั้นมีเพียงหนึ่งชีวิตเท่านั้น หากตายก็จบสิ้นกันแล้ว!
หากไร้ซึ่งความเคียดแค้นชิงชังจริงๆ ใยต้องกระทำถึงขั้นนี้?
ไม่นานบทสนทนาของเมืองหลวงประเทศฝูเฟิงก็เริ่มเปลี่ยนประเด็นไปอีกครั้ง
“ประลองเป็นตาย…ตอนแรกท่านปรมาจารย์ต้วนมิรู้ด้วยซ้ำว่าจะประลองกันด้วยกฏนี้ แล้วนี่ท่านปรมาจารย์ต้วนจะยังเข้าร่วมประลองกับหลินตงในวันพรุ่งนี้อยู่หรือไม่?”
“หากข้าเป็นท่านปรมาจารย์ต้วน ข้าคงมิกล้ามาหรอก…ลองอีกฝ่ายกล้าประกาศให้เป็นการประลองเป็นตายเช่นนี้ นั่นหมายความว่าย่อมมั่นใจในพลังฝีมือมาก หาไม่แล้วยังจะกล้าล้อเล่นกับชีวิตหรือ?”
“พลังฝีมือของปรมาจารย์ต้วนแน่นอนว่าย่อมแข็งแกร่ง แต่ข้าเกรงว่าอาจจะยังเทียบกับหลินตงมิได้…อย่างไรหลินตงก็เป็นอันดับ 1 ในรายนามนภา แถมยังถูกขนานนามว่าเป็นสู่เซียนที่แข็งแกร่งที่สุดในเขตอิทธิพลของคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวน! เรียกว่าในเขตอิทธิพลของคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวน…มันไร้พ่ายใต้ขอบเขตเซียน!!”
……
ผู้คนจำนวนมากรู้สึกว่าต้วนหลิงเทียนน่าจะหนีการประลองครั้งนี้ กระทั่งอาจจะหลบหนีไปจากประเทศฝูเฟิงทันทีที่รู้ว่าการประลองพรุ่งนี้เป็นการประลองเป็นตาย!
“ประลองเป็นตาย!?”
ในตระกูลซือถู ผู้ที่ล่วงรู้ข่าวคนแรกกลับเป็นซือถูฮ่าว!
“มีเรื่องบาดหมางแค้นเคืองอันใดกันแน่ ใยหลินตงนั่นถึงต้องท้าประลองเป็นตายกับท่านปรมาจารย์ต้วนเช่นนี้..เห็นได้ชัดว่ามันคิดฆ่าท่านปรมาจารย์ต้วนชัดๆ!!”
ใบหน้าซือถูฮ่าวกลายเป็นบิดเบี้ยวไม่น้อย
แต่เดิมที่ต้วนหลิงเทียนเลือกออกจากตระกูลซือถู ก็ทำให้มันรู้สึกผิดมากอยู่แล้ว
ตอนนี้พอมาได้ยินเรื่องที่หลินตงอยากประลองเป็นตายกับต้วนหลิงเทียน ปฏิกิริยาแรกของมันก็คือกังวล มันวิตกเกี่ยวกับความปลอดภัยของต้วนหลิงเทียนนัก!
ท่ายที่สุดแล้วการประลองเป็นตาย ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาล้อเล่นกันได้!
สองตาซือถูฮ่าวที่มารอฟังข่าวที่จัตุรัสทอประกายสว่างวาบ มันเร่งกลับไปยังคฤหาสน์ของซือถูหังทันที
ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะประกาศออกจากตระกูลซือถู และไม่ได้เป็นแขกกิตติมศักดิ์ของตระกูลซือถูแล้ว แต่อีกฝ่ายก็ไม่คิดจะออกจากตระกูลซือถูก่อนจะถึงวันที่ต้องจากประเทศฝูเฟิง
“ท่านปรมาจารย์ต้วน มิทราบท่านเคยมีเรื่องบาดหมางอันใดกับหลินตงหรือไม่?”
ซือถูฮ่าวที่เร่งรุดกลับมา พอพบต้วนหลิงเทียนก็เปิดประตูเห็นภูผาถามออกทันที
“ไม่มีนะ กระทั่งหน้ามันข้ายังไม่เคยเห็นเลยด้วยซ้ำ”
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา “ข้าพึ่งเคยได้ยินนามของมันก็ตอนมาถึงประเทศฝูเฟิงได้ไม่นาน ข้ารู้ว่ามันคืออันดับ 1 ในรายนามนภา อีกทั้งยังเป็นผู้สืบทอดของตระกูลหลิน ที่เป็นตระกูลบริวารของคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวน และเป็นยอดฝีมืออันดับ 1 ในขอบเขตสู่เซียน”
“ว่าแต่ผู้นำตระกูลซือถู ไฉนอยู่ๆท่านถึงมาถามข้าเรื่องนี้เล่า?”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบ ก็โค้งคิ้วถามกลับด้วยความสงสัย
“นี่มัน…มิสมเหตุสมผลเลย”
หลังจากที่ได้ยินคำถามทั้งใบหน้าสงสัยของต้วนหลิงเทียน ซือถูฮ่าวก็ขมวดคิ้วเป็นปมด้วยไม่เข้าใจว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่…
“ท่านพ่อ เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ?”
ซือถูหังกล่าวถามออกมาทันที
“เมื่อครู่ ทางจวนอ๋องเฉียนพึ่งประกาศเรื่องราวออกมาอีกเรื่องหนึ่ง การประลองระหว่างหลินตงกับท่านปรมาจารย์ต้วนพรุ่งนี้…จะเป็นการประลองเป็นตาย!”
ซือถูฮ่าวมองต้วนหลิงเทียน กล่าวออกมาชัดถ้อยชัดคำ
การประลองเป็นตาย!
หน้าซือถูหังเปลี่ยนไปมหันต์ทันใด “อะไรกัน! หลินตงนั่นมันคิดเอาชีวิตท่านปรมาจารย์ต้วนงั้นเหรอ!?”
ประลองเป็นตาย!
การประลองจะไม่สิ้นสุด หากไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายตก!
“การประลองเป็นตายงั้นเหรอ?”
พอได้ยินคำบอกของซือถูฮ่าว สองตาต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะทอประกายเรืองวูบขึ้นมา ลึกลงไปในแววตายังเผยความเย็นชาให้เห็น
ข่าวนี้นับว่าทำให้เขาตกใจเช่นกัน
“หากท่านปรมาจารย์ต้วนมิเคยรู้จักกับหลินตงมาก่อนเช่นนี้…ก็มีความเป็นไปได้ประการเดียว จวนอ๋องเฉียนอยากให้ท่านปรมาจารย์ต้วนตกตาย!”
ในฐานะที่เป็นผู้นำของตระกูลซือถู ไหวพริบปฏิภาณของซือถูฮ่าวย่อมไม่ใช่ชั่ว เพียงปราดเดียวก็มองเจตนาออก
“แล้วทำไมจวนอ๋องเฉียนต้องอยากฆ่าท่านปรมาจารย์ต้วนด้วยเล่า?”
แต่เรื่องนี้ซือถูฮ่าวยังไม่อาจขบคิดได้แตก
ซือถูหังเองก็อื้ออึงไปไม่ต่าง
ดูเหมือนต้วนหลิงเทียนจะเป็นคนเดียวที่ไม่ได้แปลกใจอะไร ยังคงสงบนิ่งไม่นำพา
แรงบันดาลใจจวนอ๋องเฉียนคืออะไร ไหนเลยเขายังไม่รู้? ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะ ‘ตราผนึกมาร’ แน่แท้ ‘พวกมันถึงกับไปตามตัวหลินตงยอดฝีมืออันดับ 1 ในรายนามนภาของคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวนเพื่อมาฆ่าข้าเลยงั้นเหรอ…จวนอ๋องนับว่าหน้าใหญ่ใจป้ำไม่เบา!’
“ข้ารู้”
ตอนนี้เองพลันมีเสียงคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านนอก เป็น ซือถูโฮ่ว อาวุโสสูงสุดของตระกูลซือถู
“ท่านปู่โฮ่ว ท่านรู้หรือว่าไฉนอ๋องเฉียนถึงอยากให้ท่านปรมาจารย์ต้วนตาย?”
ทันใดนั้นสองตาซือถูหังพลันเรืองสว่างขึ้นมา
จังหวะนี้ทั้งซือถูโฮ่วและต้วนหลิงเทียนเองก็หันไปมองซือถูโฮ่วด้วยความสนใจ
ซือถูฮ่าวเผยสีหน้าสงสัยด้วยไม่เข้าใจ
ส่วนต้วนหลิงเทียนนั้นขมวดคิ้วทั้งลอบวิตกในใจ ‘อย่าได้บอกข้าเชียวว่าเรื่องตราผนึกมารในมือข้ามันรั่วไหลออกมาแล้ว ถึงขั้นที่อาวุโสสูงสุดของตระกูลซือถูยังล่วงรู้ได้?’
อย่างไรก็ตามพอซือถูโฮ่วกล่าวบอกเหตุผลออกมา ต้วนหลิงเทียนก็รู้ได้ทันทีว่าเขาคิดมากไปเอง
แต่ทว่าเขากลับไม่คิดไม่ฝันเลย ว่าใต้หล้ายังจะมีเรื่องบังเอิญพรรค์นี้ได้!
จากวาจาที่ซือถูโฮ่วกล่าวบอก ดูเหมือนเรื่องที่อ๋องเฉียนคิดฆ่าเขาจะเป็นเพราะอีกฝ่ายต้องการชดใช้บุญคุณ ของคนผู้หนึ่งที่มันเคยติดค้างไว้ในอดีต!
คนผู้นั้นที่ว่าเคยทำงานรับใช้จวนอ๋องเฉียนอยู่พักหนึ่ง แต่ทว่าหลังเกิดเรื่องราวจนมีบุญคุณกับอ๋องเฉียน มันก็เลือกออกจากจวนอ๋อง ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ชายแดนตอนใต้ สร้างกลุ่มโจรเล็กๆขึ้นมากับพี่น้องร่วมสาบาน…
ทว่าเมื่อครึ่งปีที่แล้วน้องร่วมสาบานของอีกฝ่ายกลับถูกยอดฝีมือลึกลับฆ่าตาย!
ด้วยพลังฝีมือของยอดฝีมือลึกลับผู้นั้น มันรู้ตัวดีว่าไม่มีปัญญาล้างแค้นให้พี่น้อง จึงรอนแรมเดินทางหวนคืนสู่เมืองหลวงอีกครั้ง เพื่อทวงหนี้บุญคุณจากอ๋องเฉียน!
และมันต้องการให้อ๋องเฉียนฆ่ายอดฝีมือลึกลับผู้นั้นเป็นการตอบแทนหนี้บุญคุณ!
ยอดฝีมือลึกลับนั่นไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นต้วนหลิงเทียนเอง!
“เป็นพี่น้องของเจ้านั่นงั้นเหรอ…”
พอซือถูโฮ่วเล่าออกมา ต้วนหลิงเทียนก็นึกย้อนไปในความทรงจำ และไม่นานก็นึกถึงเรื่องราวที่เขาเดินทางมาถึงประเทศฝูเฟิงใหม่ๆได้
ตอนนั้นกลุ่มโจรโดยมีเฉินเหล่าซันนำมา ได้มาเรียกเก็บค่าคุ้มครองจากหมู่บ้านที่เขาบังเอิญผ่านไปถามทาง แต่สุดท้ายพวกมันก็ถูกเขาฆ่ายกก๊วน
หลังจากเขาฆ่าพวกมันไปแล้วก็ไม่ได้คิดจะเสียเวลากำจัดศพแต่อย่างใด
เพราะเขารู้สึกว่าลำพังกลุ่มโจรตามแนวชายแดน มันช่างไร้สำคัญเกินกว่าจะเป็นภัยคุกคามอะไรเขาได้!
‘ไม่คิดเลยว่าเฉินเหล่าซันนั่นมันจะเป็นพี่น้องร่วมสาบานอะไรกับคนที่มีบุญคุณกับอ๋องเฉียนซะได้’
จังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะลอบระบายลมหายใจออกมาอย่างทอดถอน ‘ให้มันได้ยังงี้สิ…ดูเหมือนหลังจากนี้แม้จะเป็นมด ข้าก็ต้องเก็บงานให้เรียบร้อย ไม่อาจดูแคลนใครได้อีก…’
“ที่แท้กลับเป็นเช่นนี้!”
หลังจากฟังเรื่องราวจากซือถูโฮ่ว ซือถูฮ่าวกับซือถูหังก็เข้าใจได้ทันที