War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 1938
ตอนที่ 1,938 : ความเอาแต่ใจของหยางชง
“นี่มัน…”
เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬที่เร่งรุดออกจากที่พักหลังได้ยินเสียงหลี่อันตะโกนเรียกหาต้วนหลิงเทียน พอได้ยินวาจาของชายชราร่างสูงที่ลอยข้างหลี่อันกล่าวกับต้วนหลิงเทียนต่างก็ตกใจกันไม่น้อย ทั้งหมดอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปพักหนึ่งค่อยรู้สึกตัว!
ชายชราผู้นี้กล่าวสั่งให้ต้วนหลิงเทียนสำเร็จโทษตัวเอง?
‘มันเป็นผู้ใดกัน…’
จังหวะนี้ในใจของเหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬทั้งหลายล้วนบังเกิดความอยากรู้อยากเห็นไม่น้อยว่าที่แท้ชายชราผู้นี้มีความเป็นมาอย่างไรกันแน่!
สำเร็จโทษตัวเอง?
ได้ยินคำของชายชราร่างสูงกล่าวสั่งตัวเองแบบนี้ ต้วนหลิงเทียนถึงกับอึ้งไปพักหนึ่ง หลังจากคืนสติแล้วสองตาเขาก็หดหยีลงมองชายชราด้วยแววตาเยียบเย็น ลึกลงไปในแววตายังเผยประกายหนึ่งสว่างวาบขึ้น
ตระหนักได้ถึงจิตสังหารของชายชราที่เผยออกทั้งแววตาวาจาที่อีกฝ่ายกล่าวกับตัว รวมถึงการที่อีกฝ่ายมาพร้อมกันกับหลี่อันแบบนี้…ตอนนี้ต่อให้ต้วนหลิงเทียนจะรู้สึกตัวช้าเพียงไหน แต่เขาก็สามารถคาดเดาตัวตนของชายชราผู้นี้ได้ออกแล้ว…!
อาวุโสลำดับที่ 5 แห่งวังอุดรไพศาล…หยางชง!
นอกจากนั้นมันยังเป็นบิดาบังเกิดเกล้าของ ‘หยางหวู่’ ที่เขาหักคอมันตายคามือ!
เท่าที่เขารู้มาหยางชงผู้นี้เป็นสหายสนิทของหลี่อัน
“หยางชง…ที่นี่ไม่ใช่วังอุดรไฟศาลอีกทั้งข้าก็ไม่ใช่ศิษย์ของวังอุดรไพศาล…เจ้าสั่งให้ข้าสำเร็จโทษตัวเอง ข้าเกรงว่ามันออกจะแปลกๆไปหน่อยไม่ใช่หรือ?”
ต้วนหลิงเทียนเหินร่างขึ้นไปบนฟ้าจนอยู่ในระดับเดียวกันกับหยางชงและหลี่อัน ค่อยมองกล่าวกับหยางชงด้วยสีหน้าแววตาเฉยเมยกล่าวถามออกไปเสียงเอื่อย
“หยางชง?”
และเมื่อต้วนหลิงเทียนพูดออกมาแบบนี้ ก็ถึงกับทำให้เหล่าศิษย์ที่เร่งรุดออกมาชมดูเรื่องราวถึงกับปั่นป่วนไปพักหนึ่ง
“ที่แท้มันคือหยางชง อาวุโสลำดับ 5 แห่งวังอุดรไพศาล! ยังเป็นยอดฝีมืออันดับที่ 146 ในรายนามยอดเซียน!”
“ข้าได้ยินมานานแล้วว่าอาวุโส 5 แห่งวังอุดรไพศาลกับอาวุโสหลี่อันของแท่นบูชาเต่าทมิฬของพวกเราเป็นสหายสนิทกัน…นี่นับว่าเป็นครั้งแรกจริงๆที่ข้าได้เห็นอาวุโส 5 ของวังอุดรไพศาลกับตา…ว่าแต่นั่นดูเหมือนมันจะเกลียดแค้นอันใดต้วนหลิงเทียนอยู่ใช่ไหม?”
“ต้วนหลิงเทียนพึ่งมาถึงแท่นบูชาเต่าทมิฬไม่ทันไรก็มีเรื่องมีราวกับอาวุโสหลี่อันแล้ว…เรื่องนี้ไม่เป็นความลับอันใด ทุกคนล้วนรู้กันดี…อย่างไรก็ตามเรื่องที่ไฉนต้วนหลิงเทียนถึงได้ไปมีเรื่องราวบาดหมางกับอาวุโสหลี่อันได้ หลายคนอาจจะยังไม่ทราบสาเหตุ…”
“สาเหตุอันใดหรือ?”
“ศิษย์พี่ท่านนี้ที่จริงวันนั้นตอนที่ต้วนหลิงเทียนมาถึงแท่นบูชาเต่าทมิฬเราวันแรก หยางหวู่บุตรชายคนรองของอาวุโสลำดับ 5 แห่งวังอุดรไพศาลคนนี้ ก็ได้ท้าทายยั่วยุต้วนหลิงเทียน หลังจากนั้นอาวุโสหลี่อันก็ปรากฏตัวออกมา แต่มิคาดเรื่องราวกลับบานปลาย ไปๆมาๆจึงได้เกิดการประลองเป็นตายขึ้น และสุดท้ายก็เป็นหยางหวู่ที่ตายตก…ยังตายตกต่อหน้าอาวุโสหลี่อัน”
“ที่แท้กลับมีเรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้น…เช่นนั้นก็มิแปลกอันใดที่อาวุโสหลี่อันจะเคียดแค้นต้วนหลิงเทียนนัก!ที่แท้ต้วนหลิงเทียนกลับฆ่าลูกชายของเพื่อนซี้ต่อหน้าต่อตานี่เอง!!”
“เรื่องนี้กล่าวไปก็มิอาจโทษต้วนหลิงเทียนได้!ความบาดหมางระหว่างหยางหวู่กับต้วนหลิงเทียนนั้น หยางหวู่ก็เป็นฝ่ายเริ่ม อีกทั้งกระทั่งเรื่องประลองเป็นตายก็เป็นมันที่เสนอขึ้นมาเอง เช่นนั้นเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนฆ่าหยางหวู่มันตายก็ไม่ถือว่ามีความผิดอันใดสักนิด! เป็นเจ้าโง่หยางหวู่นั่นมันรนหาที่ตายเองแท้ๆ!!”
…
เสียงกระซิบกระซาบพลันดังขึ้นระงม เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬบางส่วนที่แต่เดิมเพียงรู้ว่าต้วนหลิงเทียนบาดหมางกับอาวุโสหลี่อันแต่ไม่ทราบว่าต้นสายปลายเหตุคืออะไร ตอนนี้ต่างก็ได้รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ด้วยเหตุนี้พอนึกถึงวาจาที่อาวุโสลำดับ 5 ของวังอุดรไพศาลกล่าวกับต้วนหลิงเทียนเมื่อครู่ พวกมันก็รู้ทันทีว่าไฉนอีกฝ่ายถึงกล่าวออกเช่นนั้น…
เพียงแต่หยางชงผู้นี้กลับถือดีเกินไป!
ที่นี่ใช่วังอุดรไพศาลของมันหรือก็ไม่! มันจะมากร่างวางอำนาจทำอะไร! มันคิดจริงๆหรือว่าฐานะอาวุโสลำดับ 5 แห่งวังอุดรไพศาลของมันจะใช้ได้ผลกับที่นี่?
“ข้าจักให้โอกาสสุดท้ายแก่เจ้า…ภายใน 10 ลมหายใจให้เจ้าสำเร็จโทษตัวเองเสีย หาไม่แล้วอย่าได้กล่าวหาว่าข้าไม่เตือน!!”
หยางชงเอ่ยปากกล่าวคำออกมาอีกครั้ง คราวนี้ยังใช้กำหนดเวลา 10 ลมหายใจมาเร่งรัดต้วนหลิงเทียน
ในระหว่างกล่าวคำมันยังเผยทีท่าครอบงำผู้คนนัก!
ราวกับหากต้วนหลิงเทียนไม่สำเร็จโทษตัวเองภายใน 10 ลมหายใจจริงๆ มันจะลงมือล้างแค้นต้วนหลิงเทียนเองอย่างไรอย่างนั้น!
ได้ยินวาจานี้ของหยางชง ต้วนหลิงเทียนกลับบังเกิดสังหรณ์อัปมงคลขึ้นมาในใจประการหนึ่ง หากแต่เขาก็สะกดมันไว้ทันที ก่อนจะมองไปยังหยางชงด้วยใบหน้าเย้ยหยัน “นี่เจ้าชราจนหูตึงไปแล้วหรือไง?”
“หากหูของเจ้าตึงเช่นนั้นข้าจะบอกให้เจ้าฟังอีกครั้งชัดๆ!”
กล่าวถึงจุดนี้ใบหน้าต้วนหลิงเทียนเผยความดูหมิ่นออกมาชัดเจน “ที่นี่ไม่ใช่วังอุดรไพศาลของเจ้า!ฐานะอาวุโสลำดับ 5 แห่งวังอุดรไพศาลนั่นของเจ้าไม่ได้มีอำนาจอะไรทั้งสิ้น! ให้เวลาข้าสิบลมหายใจหรือ? ต่อให้ข้าร้อยลมหายใจข้าก็ไม่มีวันสำเร็จโทษตัวเองปัญญาอ่อนนั่น แล้วเจ้าจะทำอะไรได้?”
“หรือเจ้าคิดจะลงมือฆ่าข้าด้วยตัวเอง? อย่าได้ลืมไปเสียเล่าว่าที่นี่คือ1 ใน 4 แท่นบูชาจตุรลักษณ์ของลัทธิบูชาไฟ! ในแท่นบูชาเต่าทมิฬแห่งนี้ไม่ใช่อะไรที่เจ้าหยางชงจะมาวางท่าอะไรได้!!”
“ที่นี่เจ้าหยางชง ไม่มีคุณสมบัติที่จะชี้นิ้วสั่งให้ลูกศิษย์ของลัทธิบูชาไฟทำอะไร! ยังนับประสาอะไรกับสั่งให้สำเร็จโทษตัวเองโง่งมนั่นของเจ้า! หากชีวิตชราของเจ้ามันน่าเบื่อนักเจ้าก็ไปสำเร็จโทษตัวเองเองเถอะ!!”
ต้วนหลิงเทียนคราวนี้เรียกว่ากล่าวคำเสียงดังฉะฉาน น้ำเสียงยังแข็งกร้าวไร้มารยาทใดๆ!
อยู่ๆก็มีคนมาเคาะประตูหน้าบ้านแล้วสั่งให้เขาสำเร็จโทษตัวเอง…หากเขายอมกระทำนั่นไม่ใช่ตัวโง่งมสมองกลับรึไร?!
อีกทั้งจะให้เขาโอนอ่อนสุภาพต่อมัน?
ขอโทษที นั่นไม่ใช่ทางของคนอย่างต้วนหลิงเทียน
วาจาดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน ก็เป็นอะไรที่เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬเห็นด้วยทั้งหมด!
อีกทั้งหลังได้ยินคำกล่าวด้วยวาจาแข็งกร้าวไม่โอนอ่อนของต้วนหลิงเทียนนี้ เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬยังรู้สึกคึกคักฮึกเหิมนัก! กระทั่งอาวุโสหลี่อันต้วนหลิงเทียนยังไม่กลัว แล้วอย่างหยางชงนับเป็นตัวอะไร! มันไหวหรือไม่!?
หยางชงไม่คิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะก้าวร้าวใส่มันตรงๆเช่นนี้ พาลให้ใบหน้าชราเริ่มมืดคล้ำดำลงทันใด
ตอนนี้เองสีหน้าหลี่อันที่ลอยร่างข้างๆพลันเปลี่ยนไปเป็นแสยะยิ้มเย้ยหยัน “ต้วนหลิงเทียนเจ้าช่างกำแหงนัก! อาวุโสหยางชงนั้นเป็นแขกผู้มีเกียรติของแท่นบูชาเต่าทมิฬเรา! แต่เจ้าในฐานะศิษย์ของแท่นบูชาเต่าทมิฬกลับใช้ทีท่าเช่นนี้ปฏิบัติต่อแขกของแท่นบูชาเต่าทมิฬของพวกเราหรือ!? หรือที่แท้เจ้าไม่สนใจกฏและหน้าตาของลัทธิบูชาไฟของพวกเราแล้ว!?”
พอหลี่อันกล่าววาจาประโยคนี้ออกมาจบคำ เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬก็หันไปมองมันด้วยสายตาแปลกประหลาดทันที!
“ฮ่าๆๆๆๆ!!”
ต้วนหลิงเทียนที่เป็นผู้ถูกกล่าวถึงโดยตรงอดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดั่งลั่น! และนั่นก็ทำให้หน้าหลี่อันถมึงทึงขึ้นมาทันใด ลูกตายังท่วมท้นไปด้วยรังสีฆ่าฟัน!
หากมันไม่ต้องกริ่งเกรงโทษทัณฑ์ของลัทธิบูชาไฟกระทั่งกลัวถูกขับไล่ออกจากลัทธิบูชาไฟล่ะก็…มันคงทนรอลงมือฆ่าต้วนหลิงเทียนกระทั่งสับศพให้แหลกเป็นหมื่นชิ้นไม่ไหวแล้ว!!
“เจ้าหัวเราะอันใด!?”
หลี่อันตะคอกคำถามออกอีกครั้ง น้ำเสียงของมันครั้งนี้ยังยะเยือกปานผุดแทรกจากหล่มน้ำแข็ง! พาลให้ทุกผู้คนที่ได้ยินขนลุกเกรียวขึ้นมาทันใด!!
“ข้าหัวเราะอะไรน่ะเหรอ?”
ต้วนหลิงเทียนที่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาจนน้ำตาแทบเล็ด พอได้ยินคำถามนี้ของหลี่อัน ก็มองเย้ยมันด้วยสีหน้าราวกับมองตัวโง่งมแห่งยุค กล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงปรามาสดังๆ “อาวุโสหลี่อัน…นี่ข้าหัวเราะอะไรเจ้าไม่รู้จริงๆงั้นเหรอ ถึงยังกล้าถามข้าออกมาโง่ๆแบบนี้?”
“แขกผู้มีเกียรติของแท่นบูชาเต่าทมิฬบัดซบอะไรของเจ้า…เท่าที่ข้าเห็นมันเป็นแขกผู้มีเกียรติของเจ้าคนเดียวกระมังอาวุโสหลี่อัน!”
“ยังมีเรื่องกฏ? อาวุโสหลี่อันนี่เจ้าแน่ใจจริงๆงั้นเหรอที่จะมาถกเรื่องกฏของลัทธิบูชาไฟกับข้า!”
“ถึงแม้ตัวข้าเองก็ยังไม่สันทัดเรื่องกฏของลัทธิบูชาไฟมากเท่าใด…แต่เท่าที่ข้ารู้ ลัทธิบูชาไฟที่ยิ่งใหญ่ทั้งสืบทอดกันมานานนับหมื่นปีต้องมีกฏอันเข้มงวดไม่ใช่น้อย!!”
“และในบรรดากฏเหล่านั้น ไม่พ้นต้องมีกฏรองรับเรื่องที่คนในกล้าร่วมมือกับคนนอกใส่ร้ายกลั่นแกล้งคนในด้วยกันอยู่แน่!”
วาจานี้ที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมานั้นเผยเจตนาชัดเจน ความหมายก็คือตอนนี้หลี่อันกำลังร่วมมือให้ท้ายคนนอกเพื่อมารังแกตัวเขาที่เป็นคนใน!!
“ผู้ใดบอกเจ้าว่าข้ากำลังร่วมมือกับคนนอกกลั่นแกล้งรังแกคนใน!?”
สีหน้าหลี่อันเปลี่ยนไปอย่างมาก ด้วยไม่คาดจริงๆว่าต้วนหลิงเทียนจะกล้ากล่าวหามันด้วยข้อหาร้ายแรงเช่นนี้ต่อหน้าต่อตาผู้คนมากมาย ผลักไสให้มันเป็นจำเลยสังคมทันที! เกรงว่าหากเรื่องนี้แพร่ออกไปคงไม่เป็นผลดีกับมันแน่!!
กระทั่งในแท่นบูชาเต่าทมิฬก็ยังมีคนที่มันต้องหวั่นเกรงดำรงอยู่
ไม่ต้องกล่าวถึงในลัทธิบูชาไฟทั้งหมดด้วยซ้ำ!
“ต้วนหลิงเทียนเจ้ามันสามหาวนัก! นี่เจ้ารู้หรือไม่ว่าโทษของการปรักปรำใส่ร้ายผู้อาวุโสในลัทธิเช่นข้ามีโทษสถานใด!?”
หลี่อันเหลือบมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเยียบเย็น ดั่งงูพิษอันตรายที่จ้องจะทำร้ายผู้คนได้ตลอดเวลา!
“ปรักปรำ? ใส่ร้ายอาวุโสลัทธิบูชาไฟอย่างเจ้า?”
ต้วนหลิงเทียนระเบิดเสียงหัวเราะอีกครั้ง ก่อนจะมองกล่าวกับหลี่อันด้วยใบหน้าแจ่มใส “อาวุโสหลี่อันเจ้าบอกว่าข้าปรักปรำใส่ร้ายอาวุโสลัทธิบูชาไฟอย่างเจ้า? แต่ข้าไม่รู้จริงๆว่าข้าไปปรักปรำใส่ร้ายผู้อาวุโสลัทธิบูชาไฟอย่างเจ้าตอนไหน! และเรื่องนี้ที่แท้ความจริงเป็นเช่นไร ข้าเชื่อว่าทุกคนล้วนรู้ดี!เฮ่…เหล่าศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งหลายที่อยู่ตรงนี้สามารถเป็นพยานให้ข้าได้หรือไม่ ว่าข้ามันไปใส่ร้ายปรักปรำอาวุโสลัทธิบูชาไฟอย่างอาวุโสหลี่อันจริงหรือไม่!?”
ได้ยินวาจาที่หันมาถามไถ่แบบนี้ เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬทั้งหลายอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน
แต่แน่นอนว่าพวกมันเองก็กลัวจะพลอยซวยไปด้วยจึงไม่มีใครกล้าหัวเราะออกมาเสียงดัง
อันที่จริงหลังจากที่พวกมันได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน พวกมันก็รู้สึกมีอารมณ์ร่วมด้วยแต่แรก ยังรู้สึกของขึ้นมีน้ำโหกันอยู่บ้าง!
เพราะสิ่งที่หลี่อันกระทำก็คือการรวมหัวให้ท้ายคนนอกรังแกคนในจริงๆ! ถึงแม้พวกมันจะไม่ใช่ต้วนหลิงเทียน แต่ยังอดไม่ได้ที่จะโกรธเคืองแทนต้วนหลิงเทียนขึ้นมา!
หากหลี่อันรังแกต้วนหลิงเทียนด้วยตัวเอง พวกมันก็ได้แต่ ‘หวาดกลัว’ อำนาจโดยมิชอบของอีกฝ่ายเท่านั้น ไม่กล้าพูดอะไรมาก!
แต่ถ้าหลี่อันให้ท้ายอาวุโสลำดับ 5 ของวังอุดรไพศาลมารังแกต้วนหลิงเทียนล่ะก็ นับเป็นเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง เพราะพวกมันก็เป็นคนใน! เป็นศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬเหมือนกันกับต้วนหลิงเทียน!!
คนนอกมันก็แค่คนนอก!!
“เจ้า….เจ้า”
ได้ยินวาจาเสียดสีนี้ของต้วนหลิงเทียน หลี่อันถึงกับโกรธแค้น หากแต่ลิ้นกับจุกปากพูดอะไรไม่ออก!!
ตอนนี้พอมาลองคิดดูให้ดีๆ มันก็พบว่าตอนแรกต้วนหลิงเทียนดูเหมือนจะไม่ได้เอ่ยชื่อแซ่อะไร กระทั่งไม่ได้กล่าวหาว่ามันให้ท้ายคนนอกรังแกคนในจริงๆ!
การที่มันร้อนรนเช่นนี้ยังต่างอะไรกับกินปูนร้อนท้อง!!
“เจ้านับว่ามีฝีปากอยู่บ้างจริงๆ!”
ขณะนั้นเองหยางชงพลันมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนออกมาอย่างเฉยเมย “ต้วนหลิงเทียน 10 ลมหายใจอันเป็นโอกาสสุดท้ายที่ข้าให้เจ้าได้หมดลงแล้ว! ข้าหวังว่าเจ้าจักมิเสียใจกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”
“เสียใจ?”
ต้วนหลิงเทียนมองค่อนแคะ กล่าวเย้ยออกมาเสียงดัง “ข้าไม่มีอะไรต้องเสียใจ!”
“หากเพียงเจ้ามีพรสวรรค์รากวิญญาณสีเขียวข้าคงไม่กล้าพูดอยู่บ้าง…เพราะข้าก็กริ่งเกรงกฏของลัทธิบูชาไฟ!”
เผชิญหน้ากับวาจาท้าทายด้วยสีหน้าเย้ยหยันของต้วนหลิงเทียน แม้หยางชงจะระงับอารมณ์ไว้ได้แต่มันก็ยังมีโมโหไม่น้อย “อย่างไรก็ตาม เจ้าต้วนหลิงเทียนมันก็มิใช่ตัวอะไรนอกจากศิษย์ดาษๆที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีเหลืองเท่านั้น…ถึงแม้ข้าหยางชงจะจัดการเจ้าตรงๆไม่ได้ แต่ยังมีอย่างอื่นที่ข้าหยางชงผู้นี้กระทำได้!!”
“ถูกแล้ว! ตราบใดที่เจ้าต้วนหลิงเทียนยังหดหัวอยู่ในลัทธิบูชาไฟ แม้วันนี้ข้าจะทำอะไรเจ้าไม่ได้…แต่เจ้ารับประกันได้หรือไม่…ว่าญาติสนิทมิตรสหายทั้งครอบครัวอันใดของเจ้า ข้าหยางชงจะแตะต้องไม่ได้?”
ยามกล่าวประโยคนี้ออกมา วาจาของหยางชงก็เยียบเย็นนัก
และในวาจาก็เป็นการข่มขูต้วนหลิงเทียนตรงๆ!
มันทำอะไรเขาไม่ได้ก็จริง แต่ญาติสนิทมิตรสหายและครอบครัวเขาเล่า?
“ข้าเชื่อว่าด้วยไหวพริบปฏิภาณของเจ้า ย่อมรู้ดีว่าในฐานะผู้อาวุโสลำดับ 5 แห่งวังอุดรไพศาลของข้า ข้าย่อมมีเส้นสายและกลวิธีมากมาย ย่อมไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่ข้าจะสืบค้น ‘ภูมิหลัง’ ของเจ้า!”
หยางชงกล่าวออกด้วยน้ำเสียงเฉยชา “น่าเสียดายที่เจ้ากลับไม่รับโอกาสที่ข้ามอบให้ภายในเวลาที่กำหนด นั่นเท่ากับเจ้าตัดโอกาสในการปกป้องญาติสนิทมิตรสหายและครอบครัวของเจ้าทิ้งเอง! ข้าล่ะเสียใจแทนพวกมันจริงๆ ที่มีคนอย่างเจ้าเป็นสหายและครอบครัว!!”
“ต้วนหลิงเทียน ต่อให้ชาตินี้เจ้าจะหดหัวอยู่ในลัทธิบูชาไฟไปตลอดกาล แต่ข้าจะให้คนที่เกี่ยวข้องกับเจ้าทุกคนมันทุกข์ทรมานจนตายเสียดีกว่าอยู่! และจักมอบความเจ็บปวดทรมานของการสูญเสียทุกคนในชีวิตให้เจ้าได้ลิ้มรส!!”
“ข้า หยางชง! อาวุโสลำดับ 5 แห่งวังอุดรไพศาลพูดคำไหนคำนั้น!!”