War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 1987
ตอนที่ 1,987 : หยางเหวิน!
ที่พักของเหล่าศิษย์ฝ่ายในไม่เพียงแต่จะไร้การแบ่งแยกระดับชั้นอะไร ยังเป็นบ้านเดี่ยวพร้อมลานว่างอย่างดีถึง 3,000 กว่าหลัง ตระเตรียมไว้ให้ศิษย์ฝ่ายในโดยเฉพาะ!
บ้านเดี่ยวพร้อมลาน ต่างตั้งเรียงรายอย่างเป็นระเบียบอยู่ในหุบเขา มองไปให้ความรู้สึกโอ่อ่าภูมิฐานประการหนึ่ง
อย่างไรก็ตามด้วยความที่หุบเขากว้างใหญ่ บ้านเดี่ยวพร้อมลานทั้ง 3,000 หลังจึงไม่ได้แลดูแออัดแม้แต่น้อย กระทั่งยังมีพื้นที่ว่างระหว่างบ้านแต่ละหลังไม่น้อย!
ที่สำคัญในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็มีศิษย์ฝ่ายในเพียงแค่ 2,000 เศษๆเท่านั้น กระทั่งต่อให้ศิษย์ฝ่ายในทุกคนมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ก็ยังมีบ้านว่างอีกเกือบพันหลัง!
‘ให้ตายเถอะ สภาพแวดล้อมในการบ่มเพาะที่นี่ไม่ด้อยกว่าตำหนักเอกอุของเขตลงทัณฑ์แม้แต่น้อย…ไม่สิ! ต่อให้เป็นตำหนักเอกอุที่มีค่ายกลรวมวิญญาณ 10 ค่าย ก็ยังเทียบที่นี่ไม่ได้ด้วยซ้ำ!’
หลังจากพบบ้านลานที่ว่างอยู่ ต้วนหลิงเทียนก็เข้าไปจับจองเป็นเจ้าของทันที
และเมื่อเข้ามาภายในตัวบ้าน โดยเฉพาะห้องบ่มเพาะ ต้วนหลิงเทียนก็พบว่าพลังวิญญาณในห้องกลับหนาแน่นกว่าตำหนักเอกอุของเขตลงทัณฑ์ที่เขาเคยอยู่ด้วยซ้ำ!
‘สมควรเป็นเพราะที่นี่มันใกล้สายแร่หินเซียนระดับกึ่งสวรรค์สินะ…’
เรื่องนี้ต้วนหลิงเทียนย่อมเดาได้ไม่ยาก
‘หวังว่าการปิดด่านบ่มเพาะคราวนี้ ข้าจะก้าวถึงขอบเขตที่ 3 ของยอดใจกระบี่ได้สักที’
หลังปิดประตูหน้าเรียบร้อยดีแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็นำเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติออกมา ก่อนที่จะวูบร่างเข้าไปทันที คราวนี้เป้าหมายของเขาคือทำความเข้าใจเคล็ดความขั้นที่ 3 ของยอดใจกกระบี่ให้สำเร็จ!
ทุกวันนี้ด่านพลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียนได้มาถึงจุดรอคอยแล้ว และเป็นไปไม่ได้ที่จะทะลวงถึงขอบเขตเซียนนภาในช่วงเวลาสั้นๆ
นอกจากนั้นเขายังสามารถควบคุมเวทย์พลังขั้นสูงทั้ง 4 ได้พอสมควร แต่คิดบรรลุความสำเร็จขั้นต่อไปยังต้องใช้เวลาอีกสักพักเช่นกัน
ดังนั้นเขาจึงกลับมาให้ความสำคัญกับยอดใจกระบี่อีกครั้ง
และตอนนี้ยอดใจกระบี่ของเขาก็เรียกว่าเห็นประตูของด่านที่ 3 รำไร อีกไม่นานสมควรเปิดประตูดังกล่าว และบุกเข้าไปได้อย่างราบรื่น
“เฮ่ เจ้าหนุ่มคนเมื่อครู่ดูเหมือนว่าจะยังแต่งกายอยู่นุชดศิษย์ของแท่นบูชาเต่าทมิฬนี่?”
ต้วนหลิงเทียนไม่ทันรู้ตัวเลยว่าตอนที่เขาเดินหาบ้านว่างนั้น ก็มีศิษย์หลายคนที่สังเกตเห็นเขา
แน่นอนว่าศิษย์เหล่านี้ย่อมไม่ล่วงรู้ว่าเขาเป็นใคร
ทว่าไม่ถึงวัน ข่าวเรื่องราวอันน่าตื่นตระหนกก็แพร่ออกมาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิบูชาไฟ
ศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬ ต้วนหลิงเทียน ได้สำเร็จเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬ อันเป็นเวทย์พลังประจำแท่นบูชาเต่าทมิฬจนได้รับการนิรโทษกรรมจากเขตลงทัณฑ์ของเหมืองลำดับที่ 1 เป็นที่เรียบร้อย! และตอนนี้ก็ได้เข้าร่วมกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในฐานะศิษย์ฝ่ายในอย่างเป็นทางการ!!
ข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความปั่นป่วนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่น้อย
“ต้วนหลิงเทียน? นักรบมังกร 9 กรงเล็บ?”
“ศิษย์ที่หาญกล้าแข็งข้อกับอาวุโสหลี่อันของแท่นบูชาเต่าทมิฬและหยางชงอาวุโสลำดับ 5 ของวังอุดรไพศาลตั้งแต่มาถึงแท่นบูชาเต่าทมิฬวันแรกน่ะรึ?”
“เห็นว่าแม้พรสวรรค์รากวิญญาณของมันจะเป็นแค่สีเหลือง ทว่าไหวพริบปฏิภาณกลับเลิศล้ำถึงขั้นแตกฉานเวทย์พลังขั้นสูงถึง 3 สาย รวมถึงเรื่องที่มันเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บทำให้พลังฝีมือของมันเทียบได้กับครึ่งก้าวเซียนสวรรค์!”
“งั้นตอนนี้ในเมื่อมันสำเร็จเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬเพิ่ม ไม่ใช่ว่ามันสามารถสู้กับยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 1 เปลี่ยนได้เลยรึไง?”
“นั่นเป็นไปไม่ได้! เวทย์พลังปราการเต่าทมิฬแม้จะเป็นเวทย์พลังขั้นสูงแต่อย่างไรก็ยังเป็นเพียงเวทย์พลังป้องกันเท่านั้น ย่อมไม่ทำให้มันมีพลังล้นเหลืออะไร อย่างดีก็เพียงต้านทานรับมือเซียนสวรรค์ 1 เปลี่ยนได้เท่านั้น เรื่องที่จะเอาชนะยอดฝีมือเซียนสวรรค์ 1 เปลี่ยนยังเป็นอะไรที่เพ้อฝันนัก!”
“ข้าได้ยินมาว่าพลังฝึกปรือของมันบรรลุถึงขอบเขตเซียนปฐพีขั้นสูงสุดแล้ว…โชคร้ายนักที่พรสวรรค์รากวิญญาณของมันมีแค่สีเหลืองทำให้เป็นเรื่องยากที่จะลวงถึงขอบเขตเซียนนภาได้!”
“แม้พรสวรรค์ในเชิงยุทธ์กับไหวพริบจะเลิศล้ำ อนิจจาชั่วชีวิตคงยากจะประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่อันใดได้”
……
ภายในจัตุรัสกลางของเกาะหลักดินแดนศักดิ์สิทธิ์ วาจาทำนองนี้ดังขึ้นทุกทั่วหัวระแหง เหล่าศิษย์ต่างให้ความสนใจเรื่องนี้กันนัก
“ดูเหมือนว่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬ ที่มามองหาที่พักเมื่อวาน น่าจะเป็นต้วนหลิงเทียนที่ร่ำลือ!”
นอกจากนั้นยังมีเหล่าศิษย์ฝ่ายในบางคนที่กำลังมองไปยังบ้านเดี่ยวพร้อมลานว่างหลังหนึ่ง ที่พึ่งมีคนเข้าไปจับจองเมื่อวาน
เมื่อวานศิษย์ฝ่ายในเหล่านี้เห็นต้วนหลิงเทียนเดินเลือกบ้านพักกับตา ย่อมจดจำได้เป็นอย่างดี
จากหนึ่งเป็นสิบ จากสิบเป็นร้อย
ไม่ทันไรเหล่าศิษย์ฝ่ายในแทบทั้งหมดก็รู้ว่าต้วนหลิงเทียนพักอยู่ที่ใด
“ศิษย์น้องกลับตีความเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬสำเร็จแล้ว?” ซุนเต๋อที่พึ่งออกจากบ้านพักและคิดจะไปยัง หอภารกิจ ที่จัตุรัสกลาง เพื่อดูว่ามีงานอะไรเหมาะสมกับมันบ้าง ย่อมได้ยินข่าวดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ทันทีที่ได้ยินข่าวนี้มันก็ทราบได้ทันทีว่าต้วนหลิงเทียนได้มาถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และกลายเป็นศิษย์ฝ่ายในเรียบร้อยแล้ว!
ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์ของต้วนหลิงเทียนกลับเหมือนกับมัน!
“ไม่คิดเลยว่าในเวลาไม่ถึงครึ่งเดือนดี ศิษย์น้องต้วนหลิงเทียนจะกลายเป็นศิษย์ฝ่ายในเหมือนข้าได้…อีกทั้งยังเป็นเพราะเข้าใจเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬเหมือนข้าอีก! ป่านนี้ที่แท่นบูชาเต่าทมิฬไม่วุ่นวายกันใหญ่เพราะข่าวนี้แล้วรึไง?”
ซุนเต๋อกล่าวพึมพำออกมา ในสีหน้ายังฉายความประหลาดใจไม่หาย
ซุนเต๋อคนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากซุนเต๋อที่เคยครองตำหนักเอกอุในเขตลงทัณฑ์ของเหมืองลำดับที่ 1 ก่อนที่จะถูกต้วนหลิงเทียนท้าประลองแย่งชิงไป
อีกทั้งเป็นเพราะการประมือกับต้วนหลิงเทียน ทำให้มันได้รับแรงกดดันมหาศาลจนผลักดันให้มันบรรลุถึงเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬได้ในช่วงเวลาสำคัญ ในที่สุดก็ได้รับการนิรโทษกรรม
หลังออกจากเขตลงทัรฑ์ของเหมืองลำดับที่ 1 ซุนเต๋อก็มายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นศิษย์ฝ่ายในอย่างสมภาคภูมิ
และเป็นดั่งที่ซุนเต๋อคาดไว้ไม่มีผิด
ตอนนี้แท่นบูชาเต่าทมิฬเรียกว่าวุ่นวายกันยกใหญ่!
บางทีคำว่า ‘วุ่นวาย’ คงไม่พออธิบายสถานการณ์ของแท่นบูชาในปัจจุบัน
แท่นบูชาเต่าทมิฬนั้นหลังได้รับข่าวนี้จากเขตลงทัณฑ์ของเหมืองลำดับที่ 1 รวมถึงข่าวยืนยันที่มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ พวกมันก็ตื่นเต้นกันยกใหญ่!
“อะไรนะ!? ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนเข้าใจเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬของแท่นบูชาเต่าทมิฬเราด้วยเรอะ! แถมตอนนี้ก็ได้รับการนิรโทษกรรมกลายเป็นศิษย์ฝ่ายในของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว!?!”
“สวรรค์ช่วย! ในเวลาไม่ถึงครึ่งเดือน แท่นบูชาเต่าทมิฬเรากลับมีคนสำเร็จเวทย์พลังประจำแท่นถึง 2คน!?”
“นี่มันอะไรกัน…เวทย์พลังปราการเต่าทมิฬไม่เพียงแต่จะเป็นเวทย์พลังประจำแท่นบูชาเต่าทมิฬของพวกเราเท่านั้น แต่ยังเป็นถึงเวทย์พลังสายป้องกันที่ร้ายกาจที่สุดของลัทธิบูชาไฟไม่ใช่รึไง? ความยากในการตีความเป็นอะไรที่อีก 3 แท่นบูชาอย่างมังกรคราม นกไฟ พยัคฆ์ขาวเทียบไม่ติด…แต่กลับถูกศิษย์สองคนทำความเข้าใจได้สำเร็จติดๆกัน?”
“ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนเป็นปีศาจแปลงกายมารึไร? ถ้าหากพรสวรรค์รากวิญญาณของศิษย์พี่ต้วนไม่ใช่รากวิญญาณสีเหลืองล่ะก็…มารดามันเถอะ! ขอเพียงเป็นแค่รากวิญญาณสีเขียวน่ากลัวว่าความสำเร็จในภายภาคหน้าก็ไร้จำกัดแล้ว!!”
“ใช่! อนิจจาขีดจำกัดของพรสวรรค์รากวิญญาณที่มีช่างเป็นอุปสรรคอันหนักหนานัก!!”
“ข้าเองพอมาลองคิดดูก็เข้าใจอะไรได้…ตอนแรกข้ายังสงสัยอยู่เลยว่าไฉนศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนที่เป็นถึงนักรบมังกร 9 กรงเล็บถึงได้มาลัทธิบูชาไฟของพวกเรา เพราะในเผ่าพันธุ์มังกรฐานะนักรบมังกร 9 กรงเล็บย่อมไม่ต่างใดจากมังกรเทพยดา 8 กรงเล็บ หากอยู่ที่เผ่าพันธุ์มังกรต้องได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีแน่…แต่ตอนนี้ทั้งหมดดูเหมือนจะมีสาเหตุจากพรสวรรค์รากวิญญาณสีเหลืองล้วนๆ!”
“ข้าก็คิดเช่นนั้น ที่ศิษย์พี่ต้วนเลือกจะมาเข้าร่วมกับลัทธิบูชาไฟของพวกเรา เป็นเพราะเผ่ามังกรเองก็คงไม่แยแสศิษย์พี่ต้วนที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณต่ำต้อย คนจึงได้ระหกระเหินออกมาเช่นนี้….”
……
…
แท่นบูชาเต่าทมิฬนั้นเต็มไปด้วยน้ำเสียงสนทนากระหึ่ม หัวข้อสนทนาล้วนวนเวียนอยู่แต่กับเรื่องของต้วนหลิงเทียน
ไม่นานข่าวการรู้แจ้งเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬของต้วนหลิงเทียนจนได้รับการนิรโทษกรรมและกลายเป็นศิษย์ฝ่ายในของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อยแล้ว ก็ได้แพร่กระจายไปทุกแท่นบูชาจตุรลักษณ์
เรียกว่าตอนนี้แท่นบูชาจตุรลักษณ์ปั่นป่วนกันยกใหญ่!
ปงงงง!!
ณ ส่วนตะวันออกของแท่นบูชาเต่าทมิฬ เสียงหนึ่งพลันดังขึ้นจากในสวนของคฤหาสน์ที่พักหลังใหญ่ เป็นชายชราคนหนึ่งที่ทุบโต๊ะหินอ่อน ซึ่งคนงานในบ้านพึ่งยกมาเปลี่ยนใหม่ได้ไม่กี่วันแหลกเป็นฝุ่นอีกครั้ง…
คนงานในคฤหาสน์ทั้งหลายสงสัยกันนัก ไม่ทราบทำเลที่ตั้งนี้มีอาถรรพ์หรือที่แท้มีผีสางอันใดสิงอยู่กันแน่ ไยโต๊ะกี่ตัวๆถึงได้ประสบชะตาแหลกเป็นผงอยู่ร่ำไป…
แน่นอนว่าชายชราที่โมโหจนไปลงกับโต๊ะหินอ่อนผู้บริสุทธิ์ย่อมไม่ใช่ใครอื่น มันคืออาวุโสเพลิงเงินอันดับ 1 ของแท่นบูชาเต่าทมิฬ หลี่อัน!
“เรื่องพรรค์นี้…มันเป็นไปได้อย่างไรกัน!?”
“สารเลวน้อยนั่น…มัน…มันกลับเข้าใจเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬจนออกจากเขตลงทัณฑ์แล้วเข้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้จริงๆ?”
ในขณะกล่าวบ่นพึมพำด้วยความเหลือเชื่อ หน้าของหลี่อันก็อัปลักษณ์ปั้นยากนัก
มันไม่คิดไม่ฝันมาก่อนจริงๆ
ว่าต้วนหลิงเทียน คนที่มันอยากฆ่าทั้งสับร่างให้แหลกเป็นหมื่นชิ้นอยู่ทุกเช้าค่ำ จะสามารถแตกฉานเวทย์พลังประจำแท่นบูชาเต่าทมิฬที่ว่ากันว่าทำความเข้าใจได้ยากที่สุดเหมือนซุนเต๋อ!
กระทั่งยังเข้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์รับฐานะศิษย์ฝ่ายในเรียบร้อยแล้ว!
เป็นเพราะข่าวอันน่าตื่นตระหนกที่ได้รับทราบมาเพิ่มวันนี้ ทำให้หลี่อันได้ตระหนักถึงวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่อย่างที่มันไม่เคยสัมผัสถึงมาก่อนในชีวิต…
ในสายตาของเหล่าศิษย์ย่อมรู้กันว่าพรสวรรค์รากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนเป็นเพียงรากวิญญาณสีเหลือง ถึงแม้จะเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บกระทั่งแตกฉานเวทย์พลังขั้นสูงทั้ง 4 สาย แต่อนาคตก็มีจำกัด
อย่างไรก็ตามมันรู้ดีว่า…
พรสวรรค์รากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนไม่ใช่ รากวิญญาณสีเหลือง หากแต่เป็น รากวิญญาณสีฟ้า!
และเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ เว่ยเหอศิษย์เอกที่มันรักและเอ็นดูที่สุดถึงกับต้องสังเวยชีวิต! ตกตายภายใต้ดาบประหารของหอคุมกฏ!!
หลังจากที่ยืนหน้าดำคร่ำเครียดอยู่อีกพักหนึ่ง หลี่อันก็เงยหน้าถมึงทึงขึ้นมา สองตาทอประกายเยียบเย็นวูบวาบ “แต่มันเข้าไปอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน ทีนี้หยางเหวินกับศิษย์สายตรงของข้าอีก 2 คนจักได้มีโอกาสลงมือ!”
‘หยางเหวิน’ ที่หลี่อันกล่าวถึงนั้นไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นบุตรชายคนโตของอาวุโสลำดับ 5 แห่งวังอุดรไพศาล พี่ชายแท้ๆของหยางหวู่ ที่ต้วนหลิงเทียนหักคอตายคามือ!
หยางเหวินได้เข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นศิษย์ฝ่ายในตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนแล้ว
และทุกวันนี้ ด้วยความที่พลังฝึกปรือของมันก็ได้บรรลุถึงเซียนสวรรค์ 1 เปลี่ยนเรียบร้อย จึงทำให้มันได้ฐานะศิษย์ที่แท้จริงมาครอง!
ตั้งแต่แรก ตอนที่หยางเหวินรู้ว่าต้วนหลิงเทียนฆ่าน้องชายของมัน มันก็คับแค้นนัก ยังอยากจะบุกมาเอาเรื่องต้วนหลิงเทียนถึงแท่นบูชาเต่าทมิฬให้รู้แล้วรู้รอดไป!
ถึงแม้ว่ามันจะหวาดกลัวกฏของลัทธิบูชาไฟ และไม่อาจฆ่าต้วนหลิงเทียนได้โดยตรง แต่มันก็คิดจะทรมานต้วนหลิงเทียนให้เจียนตาย!
อนิจจาลัทธิบูชาไฟก็ยังมีกฏอันเข้มงวดนัก ศิษย์ฝ่ายในโดยเฉพาะอย่างยิ่งศิษย์ที่แท้จริงไม่เว้นกระทั่งอาวุโสเพลิงทองแดงหรือเพลิงเงิน ไม่อาจย้อนกลับมาก่อเหตุอะไรในแท่นบูชาจตุรลักษณ์อันเป็นการรังแกผู้น้อยได้โดยเด็ดขาด!
หาไม่แล้วจะถือว่าเป็นการละเมิดกฏของลัทธิบูชาไฟอย่างร้ายแรง ต้องโทษสถานหนัก!
“ป่านนี้ หยางเหวินสมควรรู้เรื่องต้วนหลิงเทียนแล้วกระมัง?”
ลูกตาหลี่อันเผยประกายดุร้ายสว่างวาบออกมา แลดูตื่นเต้นไม่น้อย!