War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 2027
ตอนที่ 2,027 : ขวางต่งหลิน!
เรื่องแบบนี้มันเป็นไปได้ยังไง!?
ไม่ใช่ต่งหลินคนเดียวที่คิดแบบนี้
ในวังชินหั่ว นอกจากตัวต้วนหลิงเทียนเองแล้ว สองตาทุกคนถึงกับถลึงมองต้วนหลิงเทียนไม่วาง กระทั่งเนิ่นนานยังไม่ละออกไปไหน!
สายตาเหล่านี้ไม่ขาดความตื่นตระหนกระคนอึ้งทึ่ง!
เพราะสำหรับพวกมัน…
ฉากเรื่องราวเบื้องหน้ามันอัศจรรย์ใจเกินไป!
“ระ…ระ…ราก รากวิญญาณสีน้ำเงิน! เป็นรากวิญญาณสีน้ำเงิน!!”
“ไฉนเป็นรากวิญญาณสีน้ำเงินไปได้เล่า!? ใช่ลูกแก้ววิญญาณมีปัญหาอันใดหรือไม่ ทำไมพรสวรรค์รากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนไม่ใช่รากวิญญาณสีเหลือง…มันเป็นสีน้ำเงินไปได้อย่างไร!?”
“ข้าคิดว่าลูกแก้ววิญญาณลูกนั้นสมควรมีปัญหา! เพราะรากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนได้รับการตรวจสอบถึง 2 ครั้งจนแน่ชัดแล้วในวันนั้น และสุดท้ายผลก็ออกมาเป็นรากวิญญาณสีเหลืองเท่านั้น!”
“ใช่! ลูกแก้ววิญญาณลูกนั้นสมควรมีปัญหาแน่!!”
….
เหล่าศิษย์ชั้นยอดในวังชินหั่วนั้นดั่งถูกผลของอุปทานหมู่หลอมใจก็ไม่ปาน พวกมันจึงฝังใจเชื่อเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนมีรากวิญญาณสีเหลืองมาช้านาน เช่นนั้นพวกมันยังไม่อาจเชื่อได้ว่าเรื่องราวที่เห็นจะเป็นความจริง!
นอกจากนั้นวันที่ต้วนหลิงเทียนทำการทดสอบพรสวรรค์รากวิญญาณที่แท่นบูชาเต่าทมิฬ อีกฝ่ายก็ทำการทดสอบซ้ำถึง 2 รอบ!
และผลการทดสอบทั้ง 2 รอบก็ล้วนออกมาเป็นสีเหลืองทั้งสิ้น!!
จังหวะนี้ผู้คนในวังชินหั่วจึงรู้สึกว่า….ลูกแก้ววิญญาณลูกนั้นสมควรมีปัญหา!
“ฮึ่ม! ลูกแก้ววิญญาณลูกนี้สมควรมีปัญหา! เจ้ากล้าใช้ลูกแก้ววิญญาณอีกลูกทดสอบหรือไม่! ข้าไม่เชื่อว่าศิษย์ดาดๆเช่นเจ้า ที่ได้รับการยืนยันจากผลการทดสอบไปแล้ว 2 ครั้งว่ามีรากวิญญาณสีเหลือง อยู่ๆจะมีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงินไปได้!”
เฉินเผิงที่ยืนอยู่ด้านหลังต่งหลินโพล่งคำออกมาอย่างดุร้ายเสียงเย็น ในวาจาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
“ศิษย์ดาดๆ?”
ได้ยินคำปรามาสของเฉินเผิง ต้วนหลิงเทียนหันไปมองกล่าวกับมันทันที “เฉินเผิงเจ้าว่าข้าเป็นศิษย์ดาดๆ…เช่นนั้นข้าขอถามเจ้าสักคำ เจ้ากล้าไปวิหารเป็นตายและลงนามในสัญญาประลองเป็นตาย เพื่อขึ้นไปเล่นบนสังเวียนเป็นตายกับศิษย์ดาดๆอย่างข้าสักรอบหรือไม่?”
เล่นบนสังเวียนเป็นตาย!
ได้ยินคำนี้ของต้วนหลิงเทียน ผู้คนทั้งหมดในวังชินหั่วอดไม่ได้ที่จะอึ้ง “ต้วนหลิงเทียนคิดท้าเฉินเผิงไปเล่นบนสังเวียนเป็นตายหรือ? เล่นบ้าอันใดกัน!?”
“เหอะๆ…ยังต้องถามอีกหรือไง ตอนหยางเหวินก็ทีนึงแล้ว ตอนแรกดูดีนักแต่สุดท้ายก็ถูกฆ่าตาย! เมื่อสิบวันก่อนเวินเยี่ยนก็ถูกต้วนหลิงเทียนผู้นี้ท้าไปประลองเป็นตายเช่นกัน แต่ยังดีที่เวินเยี่ยนไม่กล้า…มาตอนนี้คิดท้าประลองเป็นตายกับเฉินเผิงอีกแล้วหรือ?”
“เฉินเผิงต่อให้เป็นศิษย์ที่แท้จริงทั้งเป็นศิษย์ของอาวุโสหลี่อันอาวุโสเพลิงเงินอันดับ 1 ของแท่นบูชาเต่าทมิฬ แต่มันจะเอาปัญญาที่ไหนไปสู้ต้วนหลิงเทียน…พลังฝีมือของมันอ่อนด้อยกว่าเวินเยี่ยนมากมายนัก มันต้องกลัวและไม่กล้ารับคำท้าต้วนหลิงเทียนแน่นอน!”
“ยังต้องกล่าวอีกหรือ? ไฉนมันจะไม่กลัวได้! เว้นเสียแต่มันจะอยากตาย…หาไม่แล้วคงไม่กล้าลงนามในสัญญาเป็นตายกับต้วนหลิงเทียนหรอก!!”
….
เหล่าศิษย์ชั้นยอดในวังชินหั่วมั่นใจเต็มร้อยส่วน ว่าเฉินเผิงไม่มีวันกล้ารับคำท้าประลองเป็นตายของต้วนหลิงเทียนแน่นอน
ถึงแม้จะเป็นความจริงที่เฉินเผิงไม่กล้ารับคำท้า แต่พอมันได้ยินวาจาจากเหล่าศิษย์ทั้งหลาย ใบหน้ายังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนผ่าว นอนนี้มันรู้สึกอับอายขายขี้หน้าผู้คนนัก ยิ่งได้ยินมากเข้าสีหน้าก็เริ่มซีดลงเรื่อยๆ!
สุดท้ายเฉินเผิงที่หน้าเปลี่ยนสีก็ตีเนียนทำเป็นไม่รู้เรื่องราว คล้ายมันไม่ได้ยินคำท้าของต้วนหลิงเทียน
หากเป็นคนอื่น ต้วนหลิงเทียนคงคร้านจะแยแสและปล่อยไป
ทว่ามันคือเฉินเผิง! ไม่เพียงแต่เป็นศิษย์ของศัตรูเขาอย่างหลี่อัน มันยังเป็นตัวต้นเหตุให้เกิดเรื่องในวันนี้ขึ้นอีกด้วย!!
กับคนแบบนี้เขาไม่คิดจะปล่อยมันไปง่ายๆ!
“ทำไม? เจ้าไม่กล้ารึ?”
ต้วนหลิงเทียนมองเฉินเผิงด้วยสายตาดูแคลน กล่าวถามจี้ออกมาด้วยรอยยิ้มแสยะหยันหยาม “ไม่ใช่ว่าเจ้าบอกว่าข้าเป็นศิษย์ดาดๆรึไง แต่เจ้ากลับไม่กล้าแม้แต่จะลงนามในสัญญาประลองเป็นตายกับศิษย์ดาดๆงั้นเหรอ? นี่ไม่ใช่เจ้ากำลังยอมรับอยู่กลายๆรึไง…ว่าเจ้ามันไร้ค่ายิ่งกว่าศิษย์ดาดๆ?”
ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำ สีหน้าเฉินเผิงก็มืดดำนัก ในใจมันท่วมท้นไปด้วยโทสะอันยากระงับ
โทสะของมันยามนี้ประหนึ่งกองไฟที่ลุกโชนระอุ! อนิจจามันไม่กล้าระบายโทสะออกมาใส่ต้วนหลิงเทียน ทำได้แค่กล้ำกลื้นฝืนเก็บไว้เท่านั้น!!
“จึกๆๆ…ดูเหมือนเจ้าจะรู้ตัวดีว่าเจ้ามันเทียบไม่ได้แม้แต่ศิษย์ดาดๆ”
เมื่อเห็นเฉินเผิงที่คล้ายมีโมโหแต่ไม่กล้าพูดอะไรออกมา ต้วนหลิงเทียนก็ยิ้มกล่าวประชดออกไปด้วยน้ำเสียงรังเกียจ
“ในสายตาข้า เจ้าเฉินเผิงมันก็ไม่ต่างอะไรจากเศษสวะ! ตัวไร้ค่าดั่งสัดใส่ข้าวที่ใช้การไม่ได้!!”
ทันทีที่สิ้นคำกล่าวดูถูกเหยียดหยามของต้วนหลิงเทียน เฉินเผิงก็ไม่อาจเงียบเฉยได้สืบไป มันคำรามออกมาด้วยเสียงต่ำในลำคอ “ต้วนหลิงเทียน! เจ้าอย่าให้มันมากเกินไปนัก!!”
ถูกหยันหยามดูแคลนราวกับไม่ใช่ผู้คนต่อหน้าศิษย์ชั้นยอดมากมายแบบนี้ เฉินเผิงให้อดทนเก่งเพียงใดก็ไม่อาจทนไหวอีกต่อไป!
แน่นอนว่ามันยังแทบอดไม่ไหวจะรับคำท้าของต้วนหลิงเทียนให้รู้แล้วรู้รอด!
แต่พอเอาเข้าจริงๆมันก็ไม่กล้า!
“มากเกินไป? ฮ่าๆๆๆ!”
ต้วนหลิงเทียนหัวเราะออกมาด้วยความขบขันทันทีหลังได้ยินคำของเฉินเผิง หลังหัวเราะจบค่อยกล่าวออกเสียงเหยียดอีกรอบ “ข้ามากเกินไปแล้วจะยังไง? หากเจ้าคิดพิสูจน์ว่าเจ้าไม่ใช่สวะไร้ค่า เช่นนั้นเจ้าก็ไปลงนามในสัญญาประลองเป็นตายกับข้าเป็นไง…”
“ขอแค่เจ้ากล้า…ข้าแน่นอนว่าต้องให้โอกาสเจ้าพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ใช่แค่เศษสวะ!”
ทุกวาจาถ้อยคำของต้วนหลิงเทียนย่อมไม่ต่างใดจากราดน้ำมันรดลงกองไฟ พาลให้เฉินเผิงยิ่งมีโมโหหนักข้อ อนิจจาจนแล้วจนรอดมันก็ไม่กล้าทำอะไร
ใครใช้ให้มันหวาดกลัวการลงนามในสัญญาประลองเป็นตายกับต้วนหลิงเทียนจับใจเล่า!
“ฮึ่ม!”
ตอนนี้เองต่งหลินที่เงียบไปไม่กล่าวคำอยู่นาน เพียงแค่นเสียงสบถหนึ่งใส่ต้วนหลิงเทียน ก่อนที่จะก้าวอาดๆไปยังทางออกของวังชินหั่วหน้าตาเฉย…
เห็นการกระทำของต่งหลิน เหล่าศิษย์ชั้นยอดอดไม่ได้ที่จะอื้ออึงอยู่บ้าง
“อาวุโสต่งหลินคิดจะทำอะไรน่ะ…หรือจะจากไปเฉยๆแบบนี้?”
“เอ่อ…ไฉนเรื่องมันต่างจากที่ข้าคิดไว้นักล่ะ?”
“ต่างจากที่ข้าคิดไว้ด้วยอีกคน! ข้าหลงคิดว่าอาวุโสต่งหลินจะไม่เชื่อและเลือกที่จะให้ต้วนหลิงเทียนทดสอบพรสวรรค์รากวิญญาณซ้ำอีกรอบด้วยลูกแก้ววิญญาณใบใหม่เสียอีก…แต่ไม่คิดเลยว่าไม่เพียงไม่ให้ต้วนหลิงเทียนทดสอบซ้ำ ยังเลือกที่จะเดินจากไปดื้อๆแบบนี้…”
“หรืออาวุโสต่งหลินเชื่อแล้วว่าพรสวรรค์รากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนเป็นรากวิญญาณสีน้ำเงิน?”
“เหลวไหล! กระทั่งข้ายังรู้สึกว่าเรื่องนี้ยากจะเชื่อ ไฉนอาวุโสต่งหลินถึงเลือกที่จะเชื่อง่ายๆกัน! แต่ดูจากกท่าทีแล้วคล้ายมันเชื่อว่าต้วนหลิงเทียนมีรากวิญญาณสีน้ำเงินจริงๆ…”
……
เหล่าศิษย์ชั้นยอดเริ่มคุยกกันดังระงมอีกครั้ง พวกมันทั้งหลายไม่เข้าใจการกระทำนี้ขอต่งหลินจริงๆ
“อาวุโสต่งหลิน!”
กระทั่งเฉินเผิงก็คาดไม่ถึงว่าต้งหลินจะทำแบบนี้ จนเมื่อต่งหลินเดินห่างมันออกไปหลายก้าวแล้วจึงค่อยรู้สึกตัว หน้ามันเปลี่ยนสีทันใด เร่งกล่าวตะโกนร้องเรียกอีกฝ่ายทันที
อย่างไรก็ตามต่งหลินคล้ายไม่ได้ยินคำเรียกของมัน ยังคงเดินตรงแด่วไปยังทางออกวันชินหั่ว
ลูกแก้ววิญญาณใช่มี ‘ปัญหา’ อะไรหรือไม่?
ต่งหลินแน่นอนว่าสงสัยในเรื่องนี้อยู่เช่นกัน
อย่างไรก็ตามในอดีตมันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย ว่าลูกแก้ววิญญาณจะมีปัญหาอะไรทำนองนี้
นอกจากนั้น หลังมันได้เห็นความมั่นใจของต้วนหลิงเทียน รวมถึงทีท่าไม่ยี่หระตั้งแต่ต้นจนจบ มันก็ตระหนักได้ประการหนึ่ง…หากมันยังยืนกรานตรวจสอบเรื่องราวต่อไป ไม่พ้นผลการตรวจสอบพรสวรรค์รากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนต้องออกมาว่าอีกฝ่ายมีรากกวิญญาณสีน้ำเงินแน่!
และถ้าผลการตรวจสอบของต้วนหลิงเทียนได้รับการยืนยันว่าเป็นรากวิญญาณสีน้ำเงินจริงๆ เช่นนั้นข้ออ้างในการตัดสิทธิ์ต้วนหลิงเทียนของมันย่อมเป็นโมฆะ! ถึงตอนนั้นหากมันยังยืนกรานคิดตัดสิทธิ์ต้วนหลิงเทียนต่อไปเพื่อรักษาหน้า มันอาจจะถูกมองว่าใช้อำนาจโดยมิชอบในการกลั่นแกล้งผู้อื่น!!
ในฐานะอาวุโสหอคุมกฏ มันย่อมรู้ดีแก่ใจว่าต่อให้มันเป็นลูกชายของรองจ้าวหอคุมกฏ แต่มันก็ไม่อาจแบกรับข้อหาใช้อำนาจโดยมิชอบได้ไหว! มันต้องโดนลงโทษสถานหนักเป็นแน่!!
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่รองจ้าวหอคุมกฏไม่ได้มีแค่บิดามันคนเดียว ที่หอคุมกฏยังมีจ้าวหอคุมกฏที่มีอำนาจสูงสุดอยู่ด้วยอีกคน!
หากเรื่องใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของมันแพร่ออกไป ถึงตอนนั้นไม่พ้นจ้าวหอคุมกฏต้องพิโรธหนักแน่ กระทั่งบิดาของมันก็ไม่อาจช่วยเหลืออะไรมันได้!
ด้วยเหตุนี้มันจึงไม่คิดจะยืนกรานตรวจสอบพรสวรรค์รากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนต่อ
เพราะมันรู้สึกว่าไม่จำเป็นอีกต่อไป
แน่นอนว่านอกจากไม่จำเป็น มันยังตระหนักชัดว่ากระทำเช่นนั้นเป็นการเสี่ยงอันใหญ่หลวง!
ก็แล้วไปหากผลการตรวจสอบรากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนออกมาเป็นรากวิญญาณสีเหลือง แต่ถ้าออกมาเป็นรากวิญญาณสีน้ำเงิน คราวนี้มันได้ซวยหนักแน่!!
เมื่อเห็นว่าต่งหลินกระทั่งเสียงเรียกหาของเฉินเผิงยังเพิกเฉย เหล่าศิษย์ในวังชินหั่วอดไม่ได้ที่ตะลึง พวกกมันไม่คิดไม่ฝันจริงๆว่าต่งหลินกลับเลือกที่จะจากไปดื้อๆแบบนี้!
กระทั่งอาวุโสเพลิงทองแดงที่ประจำโต๊ะรับรองหลายคนก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ! ด้วยไม่คาดหวังจริงๆว่าต่งหลินเลือกที่จะกลับไปหน้าตาเฉยได้ในสถานการณ์แบบนี้!!
“ช้าก่อน!”
ทว่าในขณะที่ต่งหลินกำลังจะเดินถึงทางออกวังชินหั่วนั้น พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้น ทำลายความเงียบจากอาการอึ้งของผู้คนในวังชินหั่วไปทันที
หากใครตาดีจะเห็นว่าร่างต้วนหลิงเทียนไหววูบไปปานสายลมหอบหนึ่ง พริบตาก็บรรลุถึงเบื้องหน้าต่งหลิน ยืนขวางต่งหลินเอาไว้เบื้องหน้า!
ฉากนี้พาลให้จิตวิญญาณของเหล่าศิษย์ชั้นยอดในวังชินหั่วคึกคักอักโขขึ้นมาทันใด เพราะนี่เสมือนต้วนหลิงเทียนกำลังออกไปหยุดขวางต่งหลินเอาไว้ไม่ให้จากไป!!
ตอนแรกที่ต่งหลินจากไปดื้อๆ พวกมันก็อื้ออึงอยู่บ้าง เพราะไม่คิดว่าเรื่องราวจะจบลงง่ายๆเช่นนี้
แต่ไม่คิดเลยว่าอยู่ๆสถานการณ์กลับแปรเปลี่นไปในฉับพลัน!
ต้วนหลิงเทียนพุ่งไปขวางทางต่งหลิน!
เฉินเผิงที่ยืนอยู่ไกลห่าง เมื่อเรียกหาแล้วต่งหลินไม่สนใจ มันก็หน้าเสียยืนอึนอยู่ตรงนั้น ในใจยังอดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความผิดหวังทั้งหวาดกลัว
เพราะหากกต่งหลินจากไป มันคนเดียวย่อมไม่มีทางรับมือต้วนหลิงเทียนได้ไหว!
ตอนนี้เมื่อได้เห็นต้วนหลิงเทียนพุ่งร่างไปหยุดขวางต่งหลินเอาไว้ สองตาของมันก็เรืองสว่างขึ้นมาทันใด คล้ายอยากให้ต่งหลินเจอปัญหาด้วย!
และฉากเรื่องราวเบื้องหน้าก็สมใจมันจริงๆ
“ต้วนหลิงเทียน…”
เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนกล้าที่จะพุ่งมาขวางทางมัน ทันใดนั้นสองตาต่งหลินก็ทอประกายเรืองวูบ กล่าวออกมาด้วยoน้ำเสียงยะโส ท่าทางถือดีวางตัวสูงส่ง “อย่าได้บอกข้าเชียว ว่าเจ้าคิดขวางข้าเหมือนที่เจ้าขวางเวินเยี่ยน?”
ถึงแม้ต่งหลินจะได้ยินเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนขวางทางเวินเยี่ยนมาแล้ว แต่มันไม่คิดเลยจริงๆว่าต้วนหลิงเทียนจะมาขวางทางมันด้วยแบบนี้
บางทีพรสวรรค์และพลังฝีมือของมันอาจจะด้อยกว่าเวินเยี่ยน
อย่างไรก็ตามเบื้องหลังของมันคือบิดาที่เป็นถึงรองจ้าวหอคุมกฏ! ในลัทธิบูชาไฟแห่งนี้ฐานะของบิดามันเทียบได้กับอาวุโสเพลิงทอง!!
ทว่าด้วยสถานะที่พิเศษของหอคุมกฏ ทำให้บิดาของมันยังนับว่ามีอำนาจเหนือกว่าอาวุโสเพลิงทองส่วนใหญ่เสียอีก
เวินเยี่ยนอย่างไรก็เป็นแค่ศิษย์ของอาวุโสเพลิงทองเท่านั้น!
แต่มันเป็นถึงบุตรชายของรองจ้าวหอคุมกฏ!!
“อาวุโสต่งหลิน…ไฉนถึงได้รีบร้อนจากไปนักเล่า?”
เผชิญกับทีท่ากราดเกรี้ยวของต่งหลิน ต้วนหลิงเทียนเพียงถามออกไปเสียงเรียบด้วยสีหน้าเฉยเมย