War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 2168
ตอนที่ 2,168 : ต้วนหลิงเทียน เซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน?
“หากไม่เห็นกับตา เรื่องนี้ฆ่าข้าให้ตายข้าก็ไม่มีวันเชื่อ…ต้วนหลิงเทียนกลับสังหารเซี่ยคังฉวิน จ้าวราชสีห์ขนทอง 1 ใน 4 มหาธรรมราชาแห่งลัทธิอารามทมิฬได้จริงๆ จากพลังสังหารที่เผยให้เห็นเมื่อครู่ ยังเหนือล้ำกว่าขอบเขตพลังเซียนสวรรค์ 7เปลี่ยนเสียอีก…”
หนึ่งในผู้ฝึกตนไร้สังกัดกล่าวออกด้วยน้ำเสียงอื้ออึงอยู่ในลำคอ
ทว่าเสียงอู้อี้คล้ายดังอยู่ในลำคอของมัน เมื่อดังขึ้นในขณะที่ฉากเรื่องราวเงียบไปปานคนตาย ก็นับว่าดังพอให้ผู้ฝึกตนโดยรอบนับสิบๆได้ยินชัดถนัดหู…ทั้งหลายพลันดึงสติกลับเข้าร่างด้วยใบหน้าตื่นตระหนก
“เห็นด้วยเลย…จ้าวราชสีห์ขนทอง กล่าวไปจัดเป็นเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนชนชั้นยอดฝีมือคนหนึ่งหาไม่แล้วคงไม่สามารถติดอยู่ในอันดับที่ 18 ของรายนามยอดเซียนได้…”
“เช่นนั้นต่อให้เป็นสุดยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนที่ร้ายกาจที่สุด ก็ไม่มีทางฆ่ามันได้โดยไม่ลงมืออย่างน้อยร้อยกระบวนท่า…ยังนับประสาอะไรกับฆ่ามันให้ตายได้ง่ายๆราวเด็ดพริก!”
“หากจะอิงตามที่พี่ชายท่านนี้ว่า…เช่นนั้นต้วนหลิงเทียนก็แข็งแกร่งเทียบได้กับเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนเลยหรือ?”
“ต่อให้กระทั่งข้าเองยังไม่อยากจะเชื่อก็ตาม…แต่ข้าก็ทำได้แค่บอกเจ้าว่าใช่! เป็นเช่นนั้นจริงๆ!”
“ที่ข้าสงสัยคือ ทักษะกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนใช้ที่แท้มันคืออันใดกันแน่ เป็นเวทย์พลัง,วรยุทธ์เซียน หรือเพลงกระบี่ที่มันคิดค้นขึ้นเองกันแน่ ไฉนถึงได้ร้ายกาจนัก! ยิ่งไปกว่านั้นหากข้าดูไม่ผิด…กระบี่เล่มนั้นของมันแม้รูปลักษณ์จะธรรมดา แต่พลังอานุภาพเกรงว่าไม่น่าจะด้อยกว่ากระบี่ไร้ลักษณ์หรือกระบี่ 9สวรรค์ที่เป็นยอดศาสตราเซียนเลย…”
“นั่นสิ”
……
หลังจากที่ผู้ฝึกตนทั้งหลายรู้สึกตัวกันเลย ทั้งหลายก็เริ่มถกเรื่องราวกันยกใหญ่
หัวข้อที่พวกมันถกกันก็วนเวียนอยู่รอบๆต้วนหลิงเทียนเป็นธรรมดา ฟังจากที่พวกมันกล่าวกันหนาหูแล้ว ตอนนี้ทั้งหมดตัดสินกันไปว่าต้วนหลิงเทียนมีพลังฝีมือทัดเทียมกับเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน
หาไม่แล้ว ไหนเลยเซี่ยคังฉวิน จ้าวราชสีห์ขนทอง 1ใน 4 มหาธรรมราชาของลัทธิอารามทมิฬนั่น จะกลายเป็นตัวอ่อนแอขนาดนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าต้วนหลิงเทียนไปได้!?
นอกจากนี้พวกมันยังตระหนักได้อีกด้วยว่า กระบี่ที่อยู่ในมือต้วนหลิงเทียนนั้นไม่ใช่ธรรมดาเลยจริงๆ ต่อให้ไม่ใช่ยอดศาสตราเซียน แต่ก็สมควรมีพลังอานุภาพทัดเทียมกับยอดศาสตราเซียน!
หากเป็นปกติ ตอนนี้ผู้คนทั้งหลายไม่พ้นต้องบังเกิดความโลภอยากครอบครองกระบี่เล่มนี้ของต้วนหลิงเทียนไปแล้ว
ทว่าตอนนี้ไม่มีผู้ฝึกตนอิสระคนไหน บังเกิดความคิดช่วงชิงสักคน
จังหวะนี้ยังจะนับประสาอะไรกับกระบี่ของต้วนหลิงเทียนเล่มนั้น พวกมันแม้จะรู้ทั้งรู้ว่าในมือต้วนหลิงเทียนยังมีตราผนึกมารที่เป็นยอดศาสตราอีกชิ้น พวกมันยังไม่กล้าบังเกิดความคิดอุกอาจแย่งชิงอะไร
ล้อกันเล่นหรือ!
เห็นกันอยู่หลัดๆว่าพลังฝีมือต้วนหลิงเทียนตอนนี้เทียบได้กับเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน!
ตัวตนเช่นนี้อย่าว่าแต่ยอดศาสตราเซียนชิ้นสองชิ้น ให้มีติดตัวสัก 5-6 ชิ้น พวกมันยังไม่กล้าคิดละโมบแย่งชิง!
นั่นเพราะพวกมันรู้ดีว่าพวกมันไม่มีปัญญาแย่งชิงได้!
หากพวกมันก่อการใดๆอย่างโง่เขลา ไม่พ้นวันนี้ปีหน้าต้องเป็นวันครบรอบวันตายพวกมันแน่นอน!
แถมตอนนี้ยังมีหลายคนที่รู้สึกได้ว่าพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียน ไม่เพียงทัดเทียมกับเซียนสวรรค์ 8เปลี่ยนเท่านั้น กระทั่งยังไม่ใช่เซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนธรรมดาๆอีกด้วย!
“กระทั่งต่อให้เป็นพญามังกรเสื้อม่วง ผู้นำของ 4มหาธรรมราชา ข้ายังไม่คิดว่านางจะสามารถฆ่าเซี่ยคังฉวินได้ง่ายดายเช่นนี้…ข้าคิดว่าพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนสมควรสูงส่งกว่าพญามังกรเสื้อม่วง!”
“ข้าก็คิดเหมือนกับเจ้า! ด้วยพลังที่ต้วนหลิงเทียนพึ่งเผยให้พวกเราเห็นเมื่อครู่ สามารถติดอยู่ใน 10อันดับแรกของรายนามยอดเซียนได้แน่!!”
“ข้าไม่รู้จริงๆว่าตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่าน ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ไปพบพานกับอะไรมากันแน่…ไฉนพลังฝีมือกลับกลายเป็นสูงล้ำขึ้นมาจนน่าหวาดกลัวได้ถึงระดับนี้กัน?”
“บางทีไม่เพียงแต่มันจะสามารถรอดชีวิตอยู่ในระนาบเทียมของ 3 ปีศาจครึ่งก้าวเซียนอมตะนั่นได้เท่านั้น! แต่ยังได้พบมรดกรวมถึงสมบัติและทรัพยากรที่ 3 ปีศาจครึ่งก้าวเซียนอมตะนั่นเหลือทิ้งไว้ด้วย!!”
“อาจเป็นได้!!”
……
เสียงสนทนนาดังระงมไปทั่ว หัวข้อเรื่องราวแม้จะยังวนเวียนอยู่รอบๆตัวต้วนหลิงเทียน แต่ตอนนี้ที่ทุกคนต่างถกกันมากที่สุดเห็นจะเป็นที่มาพลังฝีมือของต้วนลิงเทียน
“เผ่าพันธุ์ปีศาจอาจบุกขึ้นมายังภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าแห่งนี้ได้ทุกเมื่อ เช่นนั้นขอให้ทุกคนระวังตัวด้วย”
ในขณะที่ผู้ฝึกตนอิสระยังคงถกเรื่องราวทั้งคาดเดากันไม่หยุด ต้วนหลิงเทียนก็กล่าววาจาทิ้งท้ายประโยคหนึ่งด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย จากนั้นก็วูบร่างจากไปดั่งสายลมกรรโชกหอบหนึ่ง…
เมื่อได้ยินวาจาทิ้งท้ายของต้วนหลิงเทียน และพบว่าต้วนหลิงเทียนเหินร่างจากไปแล้ว เหล่าผู้ฝึกตนอิสระทั้งหลายค่อยกลับมาครองสติอีกครั้ง
และในขณะเดียวกัน เรื่องราวทั้งหมดที่ต้วนหลิงเทียนประกาศออกมาโดยมีคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าเป็นหลักประกัน ก็ได้แพร่กระจายออกไปทั่วทั้งนครแห่งบาปในเวลาอันสั้น ก่อนที่จะเริ่มแพร่ออกไปในพื้นที่ใกล้เคียงนครแห่งบาปอย่างรวดเร็ว
นอกจากนั้น เรื่องที่เซี่ยคังฉวิน จ้าวราชสีห์ขนทอง 1ใน 4 มหาธรรมราชาของลัทธิอารามทมิฬตกตายด้วยน้ำมือของต้วนหลิงเทียนก็แพร่กระจายออกไปเช่นกัน
“อะไรนะ!? ต้วนหลิงเทียนนั่น เป็นชายชุดดำ ที่เคยมีชื่อเสียงในนครแห่งบาปเมื่อ 3 ปีก่อนงั้นเหรอ!?”
“หืม? ต้วนหลิงเทียนเข้าไปในระนาบเทียมที่คาดว่าเป็นคลังสมบัติของ 3 ครึ่งก้าวเซียนอมตะนั่นด้วย…แถมยังเป็นผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวที่ไม่ถูกฆ่าตายในนั้น?”
“ว่าอะไร? ต้วนหลิงเทียนที่ปรากฏตัวออกมาอีกครั้งหลังผ่านไป 3 ปี ได้กล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์ เปิดเผยว่า 3 ครึ่งก้าวเซียนอมตะนั่น…ที่แท้เป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจที่จงใจสร้างกับดักไว้ฆ่ายอดฝีมือเผ่าพันธุ์มนุษย์เรอะ?”
“มารดามัน! สถานที่ผีสางนั่นไม่ใช่คลังสมบัติจริงๆ แต่เป็นกับดักที่ 3 ปีศาจครึ่งก้าวเซียนอมตะสร้างไว้!เรื่องนี้ต้วนหลิงเทียนยังสาบานเป็นการรับรองความจริงแล้ว!?”
“แถมที่ระนาบเทียมแห่งนั้นเปิดออกสืบเนื่องมาจากค่ายกลที่พวกมันจัดตั้งไว้ในภูมิภาคเบื้องล่างเปิดการทำงาน…และค่ายกลนั่นมันจะเปิดทำงานก็ต่อเมื่อสัมผัสได้ถึงไอมารบริสุทธิ์ของเผ่าพันธุ์ปีศาจจากแดนเนรเทศ?”
“ปีศาจจากแดนเนรเทศบุกเข้ามาในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าของพวกเราแล้ว!?”
ข่าวลือทั้งหมดแพร่ไปทั่วภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าในเวลาอันสั้น และทำให้ผู้คนทั้งหมดถึงกับต้องตื่นตระหนกกันยกใหญ่
ไม่มีใครคิดใครฝันมาก่อนเลยว่าโศกนาฏกรรมเมื่อ 3 ปีก่อนกลับมีเบื้องหลังเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้…
ที่แท้ระนาบเทียมที่ทุกคนคิดว่าเป็นคลังสมบัติและอาจถูกทิ้งไว้ด้วย 3 ครึ่งก้าวเซียนอมตะนั่น ไม่ใช่คลังสมบัติอะไร แต่เป็นกับดักจริงๆ! ยังเป็นกับดักที่ 3 ปีศาจครึ่งก้าวเซียนอมตะจงใจเหลือทิ้งไว้!!
และเหตุผลที่ทำให้ 3 ปีศาจครึ่งก้าวเซีนอมตะสร้างกับดักไว้ก็คือ…ต้องการฆ่ายอดฝีมือเผ่าพันธุ์มนุษย์ เป็นของขวัญต้อนรับชนรุ่นหลังของเผ่าพันธุ์ปีศาจ ที่ได้รุกรานเข้ามายังดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าอีกครั้ง!!
“ที่แท้ปีศาจบุกเข้ามาแล้วจริงๆ…”
“เรื่องที่เคยคาดกันไว้ในอดีต ในที่สุดก็สามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้แล้ว…แต่กว่าจะยืนยันเรื่องนี้ได้ กลับทำให้ยอดฝีมือมนุษย์เราตกตายไปมากมายเหลือเกิน! วันหน้าหากพวกปีศาจมันบุกขึ้นมาภูมิภาคเบื้องบนจริง พวกเรายังจะเหลือกำลังต้านทานมันอีกหรือ?”
“3 ปีศาจครึ่งก้าวเซียนอมตะนั่นช่างโหดเหี้ยมอำมหิตนัก ก่อนที่พวกมันจะขึ้นสวรรค์ ยังไม่ลืมลงมือทิ้งท้ายสร้างความฉิบหายให้พวกเราอย่างร้ายกาจ…”
“โชคดีนักที่พวกเรามีต้วนหลิงเทียน…หาไม่แล้วพวกเราคงไม่มีวันได้รู้เลยว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจจากแดนเนรเทศได้บุกเข้ามาในภูมิภาคเบื้องล่างตั้งแต่เมื่อ 3ปีก่อน…แถมพวกมันอาจจะยกทัพเข่นฆ่าสังหารขึ้นมาภูมิภาคเบื้องบนได้ทุกเมื่อ!!”
“พวกเราต้องรีบเตรียมตัวรับมือให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้…ไม่งั้นหากพวกปีศาจเข่นฆ่าสังหารบุกขึ้นมาจริงๆแต่พวกเรายังไม่พร้อม คงได้ขำไม่ออกแน่!!”
……
วาจาทำนองเดียวกันนี้ตอนแรกก็เริ่มดังขึ้นในละแวกกนครแห่งบาป
แต่ไม่นานก็เริ่มดังขึ้นไปทั่ว
เมื่อพิจารณาจากความเร็วในการแพร่กระจายของเรื่องราวแล้ว เกรงว่าในเวลาไม่นานทั้งภูมิภาคเบื้องบนต้องพากันพูดถึงเรื่องนี้แน่นอน
นับว่าเป้าหมายของต้วนหลิงเทียนที่ตั้งใจไปแจ้งข่าวที่นครแห่งบาป มันประสบความสำเร็จอย่างเห็นได้ชัด
แน่นอนว่าในขณะที่ผู้คนทั่วภูมิภาคเบื้องบนได้รับทราบข้อเท็จจริงว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจจากแดนเนรเทศได้บุกเข้ามาในภูมิภาคเบื้องล่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…
กระทั่งพวกมันอาจจะบุกขึ้นมายังภูมิภาคเบื้องบนได้ทุกเมื่อ…
การกระทำอื่นๆที่เกิดขึ้นในวันนั้นของต้วนหลิงเทียนก็ได้แพร่กระจายออกมาเช่นกัน!
ที่แท้ย้อนกลับไปในตอนนั้นต้วนหลิงเทียนไม่ได้มียอดศาสตราเซียน 2 ชิ้น! จะมีก็แต่ตราผนึกมารที่เดิมทีเป็นของเขาอยู่แล้วเท่านั้น และเขาก็ได้รับมันกลับมาหลังฆ่า เซี่ยจง บุตรชายของ เซี่ยคังฉวิน จ้าวราชสีห์ขนทองแห่งลัทธิอารามทมิฬ!
“ฮึ่ม! ผู้อาวุโสสูงสุดของลัทธิอารามทมิฬ ผู้ยิ่งใหญ่ในใต้หล้าที่บรรลุถึงเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน ไม่คิดเลยว่าเพราะความโลภกลับลงมือโดยไม่สนวิธีการ กล้าประกาศความลวงต่อหน้าผู้คน…ที่มันลงทุนกระทำทั้งหมด ที่แท้ก็แค่เพราะมันไม่อยากให้พวกเราช่วงชิงยอดศาสตราเซียนจากกต้วนหลิงเทียน!?”
“ในสายตาข้า แต่ก่อนเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนเปรียบได้กับเทพเจ้าอันสูงส่งอยู่เหนือโลกีย์วิสัย…ข้าจึงเชื่อทุกวาจาถ้อยคำที่มันกล่าวอย่างไม่คลางแคลงสงสัย! มาวันนี้ข้าถึงได้ตาสว่าง…ว่าที่แท้ล้วนเป็นวิญญูชนจอมปลอม! ทั้งหมดที่มันกล่าวล้วนเป็นวาจาผายลมทั้งสิ้น!”
“เพราะความโลภเป็นเหตุ ถึงกับทำให้ตัวตนเช่นนั้นก่อการต่ำช้าเยี่ยงตัวสับปลับ!”
……
หลังจากข่าวที่ต้วนหลิงเทียนยืนยันความจริงด้วยคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์แพร่ออกมา ก็เสมือนฉุดดึงเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่นั่งบนบัลลังก์อันสูงส่งน่าเคารพนับถือให้จมปลักโคลนทันที…
วินาทีนี้ เหล่าผู้ฝึกตนทั่วทั้งแดนดินจึงตระหนักได้ว่า
ต่อให้เป็น ยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน ที่เสมือนยืนอยู่ ณ จุดสูงสุดของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า ก็ไม่ได้วิเศษวิโสเหนือกว่าพวกมันแต่อย่างไร ล้วนแล้วแต่ยังมีความโลภและความต่ำทรามเยี่ยงมนุษย์ปุถุชนทั้งสิ้น
และขณะเดียวกันข่าวอันน่าตื่นตระหนกเหมือนระเบิดลูกใหญ่ถล่มก็ยังแพร่ออกมาเขย่าขวัญผู้คนเช่นกัน
“อะไรนะ? หลังผ่านไปแค่ 3 ปี แต่พลังฝีมือต้วนหลิงเทียนกลับเทียบได้กับขอบเขตเซียนสวรรค์ 8เปลี่ยนแล้ว…กระทั่งเซี่ยคังฉวิน จ้าวราชสีห์ขนทอง 1 ใน 4 มหาธรรมราชาแห่งลัทธิอารามทมิฬผู้นั้น ยังไม่มีปัญญาจะตอบโต้?”
“สวรรค์! ข่าวนี้จริงหรือ!?”
“หากเป็นเรื่องจริง…ไม่ใช่ว่ามันจะน่าเหลือเชื่อเกินไปหน่อยหรือไง?”
“นั่นน่ะสิ เซี่ยคังฉวินผู้นั้นเป็นใคร…มันเป็นถึงจ้าวราชสีห์ขนทอง 1 ใน 4 มหาธรรมราชของลัทธิอารามทมิฬ พลังฝึกปรือบรรลุถึงเซียนสวรรค์ 7เปลี่ยนเชียวนะ! แถมยังติดอันดับที่ 18 ในรายนามยอดเซียนอีกด้วย…ตัวตนเช่นนี้แต่ต่อหน้าต้วนหลิงเทียนกลับไม่มีปัญญาแม้แต่จะตอบโต้? พวกเจ้าจะเชื่อก็เอาที่พวกเจ้าสะดวกเถอะ! แต่ข้าไม่มีวันเชื่อเรื่องเหลวไหลพรรค์นี้หรอก”
“เหอะๆ ไม่ใช่ข้าบอกไปแล้วหรือไร…ว่าข่าวนี้เป็นญาติข้าที่ลัทธิอารามทมิฬเป็นคนแจ้งมาเอง! ทั้งหมดล้วนเป็นความจริง!!”
“ใช่ ข้าก็ยืนยันได้ว่าเป็นเรื่องจริงเช่นกัน ข้าพึ่งกลับมาจากนครแห่งบาป ยังได้ยินผู้คนกล่าวถึงเรื่องนี้กันทั้งเมือง เพราะมีผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มากมายนัก…ต้วนหลิงเทียนมีพลังเทียบได้กับเซียนสวรรค์ 8เปลี่ยนจริงๆ แถม 3 กระบี่ที่ใช้สังหารเซี่ยคังฉวินนั่น กระบี่แรกกับกระบี่ที่ 2 เป็นการลงมือหยอกล้อเพียงตัดแขนเซี่ยคังฉวินก่อนเท่านั้น พอเซี่ยคังฉวินได้แต่หลบหนีด้วยความหวาดกลัว ต้วนหลิงเทียนจึงใช้กระบี่ที่ 3 ปลิดชีพมัน…”
“เพ้ย! ฟังเจ้าพูดเข้า! หากเป็นอย่างที่เจ้าพูดจริง เช่นนั้นมิได้หมายความว่าหากต้วนหลิงเทียนคิดจะสังหารเซี่ยคังฉวินจริงๆ ก็อาศัยเพียง 1 กระบี่ก็อยู่แล้วหรือไร?”
“ก็สมควรอยู่จริงๆนั่นล่ะ…”
……
เกี่ยวกับพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนนั้น หากเป็นผู้ที่อยู่ในละแวกนครแห่งบาปล้วนเชื่อกันทั้งสิ้น
สถานที่ห่างออกไป มีบ้างที่เชื่อ
ส่วนที่ห่างออกมาหรือภาคอื่นนั้นแทบไม่มีใครเชื่อข่าวดังกล่าวเลย…
เพราะสุดท้ายแล้ว จ้าวราชสีห์ขนทอง เซี่ยคังฉวิน 1ใน 4 มหาธรรมราชาแห่งลัทธิอารามทมิฬผู้นี้ ก็เป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในภูมิภาคเบื้องบนมานานหลายร้อยปีแล้ว…
เรียกว่าตรงข้ามกับต้วนหลิงเทียนอย่างสิ้นเชิง แม้ด้วยฐานะ ‘ศิษย์อัจฉริยะท้าทายสวรรค์แห่งลัทธิบูชาไฟ’ ของต้วนหลิงเทียนจะมีชื่อเสียงในภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าเช่นกัน แต่ก็เป็นแค่ชื่อเสียงในแง่พรสวรรค์ ไม่ใช่ในแง่พลังฝีมือและความแข็งแกร่ง…