War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 2183
ตอนที่ 2,183 : โอกาสสุดท้าย!
“ทำไมต้องตีเจ้า?”
ได้ยินคำถามของเจียงฉิน ต้วนหลิงเทียนหันไปเหลือบมองมัน ค่อยกล่าวออกอย่างไม่รีบไม่ร้อน “ก็ไม่ทำไม ข้าเห็นหน้าเจ้าแล้วรู้สึกขัดตา…แค่นั้น”
วาจาเฉยเมยนี้ของต้วนหลิงเทียน ทำให้ผู้คนอึ้งไปอีกรอบ
ตอนแรกพอทุกคนเห็นว่าเจียงฉินปรากฏตัวไม่ทันไร ต้วนหลิงเทียนพอยืนยันตัวคนเสร็จก็ลงมือลงไม้ทันที ทำให้ทั้งหมดคิดว่า…ไม่พ้นเจียงฉินต้องเคยทำให้ต้วนหลิงเทียนไม่พอใจอะไรมาก่อนในอดีตแน่นอน!
แต่ไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆว่าต้วนหลิงเทียนจะลงมือกับเจียงฉินเพราะสาเหตุนี้! ขัดตา!?
“เอ่อ…เพียงเห็นรองจ้าวหอเจียงขัดตา ก็ลงมือทำร้ายผู้คนเลยหรือ?”
“ต้วนหลิงเทียนผู้นี้…ไม่เอาแต่ใจไปหน่อยหรือไร?”
“แม้มันจะเอาแต่ใจแล้วอย่างไร มันมีทุนรอนให้เอาแต่ใจ…ตอนนี้ข้าเห็นชัดตาแล้ว ด้วยพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนเกรงว่าคงมีแต่จ้าวหอคุมกฏเราเท่านั้นที่อาจจะควบคุมมันได้ แต่ก็แค่ ‘อาจจะ’เท่านั้น”
“นั่นสิความแข็งแกร่งที่มันเผยออกมาช่างร้ายกาจยิ่ง…อาศัยหมัดเดียวสังหารเซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยน ยังแค่พลิกฝ่ามือก็ทุบตีเซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยนจนสิ้นท่าได้ง่ายๆ หากเป็นก่อนหน้ามีคนมาเล่าเรื่องนี้ ข้าคงคิดไปว่าผู้ลงมือถ้าไม่ใช่ท่านจ้าวลัทธิก็เป็นท่านจ้าวหอคุมกฏ หรือไม่ก็ท่านผู้พิทักษ์ทั้ง 3 เท่านั้น…”
“ข้าด้วย”
…
เหล่าผู้มามุงชมเริ่มกล่าวกระซิบกกระซาบกันอีกครั้ง วาจาของพวกมันเผยให้เห็นว่าทึ่งกับความแข็งแกร่งอันทรงพลังที่ต้วนหลิงเทียนเผยออกมาแค่ไหน
ส่วนอีกด้าน…
เจียงฉินที่ยังคิดไปว่ามันได้เผลอไปล่วงเกินต้วนหลิงเทียนตอนไหนมากันแน่ ต้วนหลิงเทียนถึงได้ลงมือทันทีที่ยืนยันตัวมันได้แบบนี้
เพราะหากเป็นแบบนั้นจริง ที่ต้วนหลิงเทียนลงมือทำร้ายมันแบบนี้ มันก็ยังพอทำใจรับได้
เพราะสุดท้ายเป็นเพราะมันมีสายตาไม่ยาวไกลพอ ถึงได้พลาดไปล่วงเกินดาวมฤตยูดวงนี้เข้า…
ทว่าตอนนี้พอมันมาได้ยินคำตอบของต้วนหลิงเทียน มันก็ถึงกับผงะไปแทบหงายหลัง จากนั้นมันก็มีโมโหนัก ยังโกรธจนตัวสั่น ถึงขั้นกระอักเลือดออกมาอีกคำ!
“เจ้า…เจ้า…เจ้า”
เจียงฉินโกรธจนแทบกระอักเลือดตาย มือชี้ไปยังต้วนหลิงเทียนทั้งกล่าวออกมาเสียงสั่นเอ่ยคำ ‘เจ้า’อยู่นาน แต่ก็พูดอะไรต่อไม่ออกสักคำ
มันยังจะพูดอะไรได้?
แล้วมันต้องพูดว่าอะไร?
จังหวะนี้เจียงฉินรู้สึกหนังศีรษะชาด้าน ไม่อาจนึกสิ่งใดได้ออก
สำหรับเรื่องแก้แค้นเอาคืนนั้น มันไม่กล้าพอ!
หากจะกล่าวว่า…การที่ได้ยินมาว่าต้วนหลิงเทียนสามารถสยบจ้าวแท่นบูชาพยัคฆ์ขาวในหนึ่งฝ่ามือ ทำให้มันไม่ทราบว่าที่แท้พลังฝีมือต้วนหลิงเทียนร้ายกาจเพียงใดล่ะก็…
ตอนนี้พอต้วนหลิงเทียนลงมือกับมันบ้าง ทำให้มันซึ้งไปถึงทรวงทันที ว่าความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนน่ากลัวถึงเพียงใด ‘บัดซบ มันไปทำอันใดมากันแน่…พลังระดับนี้ให้เป็นจ้าวหอก้ยังไม่แน่ว่าจะสู้มันได้ด้วยซ้ำ!’
‘ด้วยพลังฝีมือของมันระดับนี้ต่อให้จ้าวหอรับทราบเรื่องราวทั้งหมด ก็ไม่มีปัญญาทำอะไรมันได้แน่! ต่อให้รู้ว่ามันมีความผิดแต่จะตัดสินโทษมันอย่างไร…ไม่พ้นได้แต่เพิกเฉยการกระทำนี้ของมันแล้วทำเป็นหลับหูหลับตามองไม่เห็น…’
‘บางทีเผลอๆต่อให้วันนี้มันฆ่าข้าทิ้ง แต่มันก็อาจไม่เป็นอะไรด้วยซ้ำ…เพราะจากพลังฝีมือของมันน่ากลัวว่าจะไม่ได้ด้อยไปกว่าจ้าวหอคุมกฏ ที่สำคัญมันยังเป็นอัจฉริยะที่อายุไม่ถึง 50 ปีทีด้วยซ้ำ…แล้วใครจะเอาเรื่องมันเพื่อร้องขอความยุติธรรมให้ข้า…’
‘เทียบกับข้าแล้ว สำหรับลัทธิบูชาไฟแล้วคนอย่างมันถือเป็นตัวตนที่สำคัญอย่างยิ่ง…กระทั่งต่อให้มันจะฆ่ารองจ้าวหอคุมกฏทั้งหมดทิ้ง เผลอๆจ้าวหอคุมกฏ กับท่านจ้าวลัทธิยังไม่คิดตำหนิมันด้วยซ้ำ’
‘ส่วนคนอื่นๆ เกรงว่าคุณสมบัติจะตำหนิมันก็คงไม่มี….’
จังหวะนี้ในใจของเจียงฉิน ครุ่นคิดเรื่องราวไปมากมาย
และยิ่งคิดมากเท่าไหร่ ความโกรธในใจของมันก็ยิ่งจางหายไปเร็วไวเท่านั้น
เพราะมันรู้ดีแก่ใจว่าให้มันโกรธจนดิ้นตาย มันก็ไม่มีปัญญาทำอะไรต้วนหลิงเทียนได้! ไม่มีหนทางจัดการใดๆได้เลย!!
“ทำไม? รองจ้าวหอเจียงยังมีปัญหาอะไรกับข้าหรือ?”
ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองเจียงฉินอีกครั้งค่อยกล่าวถามเสียงเรียบ
ถึงแม้น้ำเสียงเขาจะเรียบเฉย ทว่ายามดังเข้าหูเจียงฉิน เสมือนฟ้าผ่าดังเปรี๊ยงทำให้เจียงฉินสะดุ้งตกใจ ดึงสติกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวได้ทันที เร่งส่ายหัวระรัวพลางกล่าวว่า “ไม่! ไม่มี! ไม่มีใด!!”
จังหวะนี้มันยังจะกล้าพูดว่า ‘มี’ หรือ?
หากมันกล้าตอบว่า มีปัญหา แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหากต้วนหลิงเทียนฆ่ามันทิ้งเพราะโมโห?
ทนอยู่อย่างอับอาย…ยังดีกว่าตายอย่างโง่งม!
เรื่องง่ายๆเพียงเท่านี้เจียงฉินย่อมรู้ดี
หลังกล่าวตอบออกไปด้วยความกลัว เจียงฉินก็สัมผัสได้ทันทีว่าตอนนี้มีสายตาแปลกๆหลายคู่กำลังมองมาที่มัน
จังหวะนี้มันรู้สึกอับอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีนัก! แต่มันก็ทำได้แค่อดทนกล้ำกลืนเท่านั้น!!
แต่ตอนนี้เจียงฉินคงไม่อาจคิด กระทั่งหลับยังไม่แม้แต่จะฝันถึง
ที่ต้วนหลิงเทียนทุบตีมันนั้น…ไม่ใช่เพราะเห็นมันแล้ว ‘ขัดตา’ อะไร แต่เป็นเพราะมันเป็นคนที่ไปจับเค่อเอ๋อและลูกสาวไปขังไว้ที่หอคุมกฏ ถือเป็นเกี่ยวข้องที่ทำให้เขาไม่ได้เห็นหน้าลูกเมีย!
หากไม่ใช่ว่าทั้งหมดที่เจียงฉินกระทำเป็นเพราะมันทำตามหน้าที่เพื่อรักษากฏของลัทธิบูชาไฟล่ะก็ เขาจะตีมันให้ตาย!
“เช่นนั้นก็ดี”
ต้วนหลิงเทียนมองจ้องเจียงฉินด้วยสายตาเย็นๆอีกครั้ง ก่อนที่จะเลิกสนใจมันแล้วหันไปกล่าวคำกับต่งหยวนจิ้นเสียงเบา “รองจ้าวหอต่ง…ตอนนี้ได้เวลาสะสางเรื่องราวระหว่างข้ากับเจ้าแล้ว”
ต้วนหลิงเทียนเปิดประตูเห็นภูผากล่าวออกทันที!
ทันใดนั้นทุกสายตาก็หันไปตกยังร่างต่งหยวนจิ้น
จุดประสงค์การมาที่นี่ของต้วนหลิงเทียนนั้น…ทั้งหมดรู้กันดีว่าจงใจมาหาต่งหยวนจิ้นโดยเฉพาะ! ก็ต้วนหลิงเทียนตะโกนลั่นเขตหวงห้ามถึงขนาดนั้น!
“ต้วนหลิงเทียน เจ้าอย่าลำพองใจให้มันมากนัก!”
ต่งหยวนจิ้นไม่ทันได้กล่าวคำอะไร ก็เป็นต่งหลินโพล่งคำออกมาเสียงดังปานคำราม
“ถึงข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะไปทำอะไรมาในช่วงไม่กี่ปีถึงได้มีพลังฝีมือสูงขึ้นขนาดนี้…แต่เจ้าคิดจริงๆหรือว่าพลังฝีมือของเจ้าจะร้ายกาจมากพอจะครอบงำได้ทั้งลัทธิบูชาไฟ?”
“ไม่ต้องกล่าวใดให้มาก ข้าบอกเจ้าไว้ตรงนี้เลยว่าหอคุมกฏของพวกเราไม่กลัวเจ้า! ขอเพียงใต้เท้าจ้าวหอเหลิ่งอิง จ้าวหอคุมกฏของพวกเรามาถึง เจ้าก็ไม่มีวันได้หยิ่งผยองอวดดีทำเป็นวางท่าอันใดได้อีก!”
ขณะที่กกล่าวปรามต้วนหลิงเทียน ต่งหลิน ก็ยกจ้าวหอคุมกฏอย่างเหลิ่งอิงขึ้นมาข่มขู่ต้วนหลิงเทียน
“จ้าวหอคุมกฏ เหลิ่งอิง?”
ได้ยินคำจองต่งหลิน สองตาต้วนหลิงเทียนก็หดหยีลงทันใด ยังเรืองประกายขึ้นมาวูบหนึ่ง
ไม่กี่ปีที่แล้วตอนที่เขามาทำงานที่หอคุมกฏ เขาเองก็ได้ยินเรื่องราวของจ้าวหอคุมกฏเหลิ่งอิงมาไม่น้อย จึงได้ทราบ่วาจ้าวหอคุมกฏเหลิ่งอิงคนนี้ พลังฝีมือแข็งแกร่งที่สุดรองจากจ้าวลัทธิและผู้พิทักษ์ทั้ง 3พลังฝึกปรือของมันอาจทะลวงถึงเซียนสวรรค์ 7เปลี่ยนได้ทุกเมื่อ
“มิผิด! ใต้เท้าจ้าวหอเหลิ่งอิงของหอคุมกฏพวกเรา คือสุดยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยน!!”
เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนหรี่ตาลง ต่งหลิน ก็คิดว่าต้วนหลิงเทียนหวาดกลัว จึงบังเกิดความมั่นใจขึ้นมาอีกครั้ง กกล่าวประกาศออกมาอย่างภาคภูมิ
“แล้วไง?”
ทว่าตอนนี้เองสายตาต้วนหลิงเทียนกลับมาเฉยเมยทั้งแฝงความดูแคลน มุมปากยกยิ้มหยันหนึ่งพลางกล่าวว่า “ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จ้าวหอคุมกฏเหลิ่งอิงไม่ได้อยู่ที่นี่ตอนนี้…ต่อให้มันอยู่ที่นี่จริง แต่เจ้าคิดหรือว่าข้าต้วนหลิงเทียนต้องกลัวมันด้วย?”
“วันนี้ต่อให้มันมาจริง ก็ไม่อาจเปลี่ยนชะตากรรมของพวกเจ้าพ่อลูกสกุลต่งได้!”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาเสียงแข็งแบบนี้ ทำให้สีหน้าของต่งหลินเปลี่ยนไปทันที
ต่งหยวนจิ้นเองก็อดไม่ได้ที่จะหยีตาลง ในใจสะท้านไปไม่น้อย
หรือพลังฝีมือต้วนหลิงเทียนจะสูงถึงขั้นไม่เห็นหัวจ้าวหอคุมกฏของพวกมัน?
จังหวะนี้อดไม่ได้ที่ต่งหยวนจิ้นจะลอบสูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บ ยังอดคิดไปในแง่ร้ายไม่ได้
ขณะเดียวกันต่งหยวนจิ้นก็คล้ายตัดสินใจอะไรได้ มันมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยทีท่าจริงจังเสียงเข้ม “ต้วนหลิงเทียนข้าจำได้ว่า แม้เจ้ากับลูกชายข้าจะมีเรื่องบาดหมางกันจริง ทว่ามิใช่ความบาดหมางนั่นก็แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆไม่ได้ร้ายแรงอันใดไม่ใช่หรือ…ข้าเองก็ไม่ได้ลงมือออกหน้าแทนลูกชายสักครั้ง”
“ที่เจ้ามาวันนี้สมควรเป็นเพราะคิดสะสางบัญชีหนี้แค้นเก่าก่อนใช่หรือไม่? แต่ว่านี่เจ้าคิดจะขุดคุ้ยเรื่องราวบาดหมางเล็กๆในอดีตขึ้นมา…เพื่อทำให้มันเป็นเรื่องราวใหญ่โตจริงๆ?”
วาจาต่งหยวนจิ้น นับว่าทำให้ทุกคนมองเรื่องราวต่างออกไปจากเดิมทันที
“อะไรกัน…ที่ต้วนหลิงเทียนบุกมายังเขตหวงห้ามของหอคุมกฏวันนี้ สุดท้ายเป็นเพราะความบาดหมางเล็กๆน้อยๆในอดีตที่เคยมีเรื่องมีราวกับอาวุโสต่งหลินงั้นหรือ?”
“นี่จะไม่ทำเกินไปหน่อยหรือไร? ความบาดหมางในกาลก่อน…มันร้ายแรงถึงต้องทำกันขนาดนี้เลย?”
“อาจเป็นเพราะเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว พลังฝีมือต้วนหลิงเทียนไม่สูงพอจะทำอะไรรองจ้าวหอต่งได้ จึงทำได้แค่เลือกที่จะอดทนเก็บงำความแค้นเอาไว้…ตอนนี้พอพลังฝีมือสูงพอที่จะเอาคืนรองจ้าวหอต่งได้ ความแค้นที่บ่มเพาะมาหลายปีย่อมระเบิดออกมาเป็นธรรมดา!”
“ฮึ่ม! หากรองจ้าวหอต่งเห็นว่าเรื่องราวความบาดหมางอะไรนั่น มันใหญ่โตถึงขั้นต้องฆ่ากันไปข้างจริงๆ ไม่สู้ออกหน้าลงมือฆ่ามันทิ้งไปตั้งแต่เมื่อไม่กี่ปีที่แล้วดีกว่าหรือ? หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ วันนี้มันยังจะมีลมหายใจอยู่ได้?”
“ตอนนี้ไม่ใช่ว่ารองจ้าวหอต่งกำลังเสียใจที่ไม่ได้ลงมือเก็บเรื่องราวให้เรียบร้อย…จนก่อให้เกิดภัยซ่อนเร้นครั้งใหญ่เช่นนี้อยู่หรอกนะ?”
…
เรียกว่าหลังจากที่ได้ยินคำพูดของต่งหยวนจิ้น ทำให้ทุกคนมีมุมมองต่อต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนไปทันที ทั้งหมดคิดว่าต้วนหลิงเทียนคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องหยุมหยิมในอดีต ล้างแค้นด้วยจิตใจคับแคบ!
“เป็นคนจิตใจคับแคบเช่นนี้ ให้มีพรสวรรค์สูงส่งแล้วจะอย่างไร…”
“นั่นสิ แม้จะมีพลังฝีมือสูงส่ง…แต่ข้าไม่เห็นชอบกับนิสัยใจคอเช่นนี้จริงๆ”
“ใช่ นี่มันไม่ทำกันเกินไปหน่อยหรือ…มันไม่คิดบ้างหรือไร ถ้าไม่กี่ปีที่แล้วรองจ้าวหอต่งคิดฆ่ามันจริงๆ มันจะยังมีชีวิตอยู่จนถึงวันนี้ได้?”
…
จังหวะนี้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบคุยกันอีกครั้ง ฟังจากวาจาของพวกมันยังคล้ายจะเข้าข้างต่งหยวนจิ้นมากกว่า
นี่มากพอจะเผยให้เห็นว่า…
วาจาก่อนหน้าของต่งหยวนจิ้น นับว่าประสบความสำเร็จในการชี้นำชักจูงความคิดผู้คนแล้วจริงๆ!เปลี่ยนจากมันที่ประมาทตัดหญ้าไม่ถอนรากถอนโคน เป็นต้วนหลิงเทียนที่จิตใจคับแคบ คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องราวบาดหมางไม่เป็นเรื่องในอดีต ทว่ากลับวางท่าราวกับจะมาล้างแค้นอย่างชอบธรรม…!
ถึงแม้ว่าต้วนหลิงเทียนจะไม่แยแสว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรก็ตามที
ทว่าการที่ต่งหยวนจิ้นพูดไม่กี่คำแล้วทำให้เกิดผลแบบนี้ก็ทำให้เขาไม่พอใจอยู่ดี
“ต่งหยวนจิ้น ข้าไม่คิดเลยว่าจะตายอยู่แล้วเจ้ายังจะดิ้นรนมาไม้นี้…”
ต้วนหลิงเทียนมองต่งหยวนจิ้นด้วยสายตาเย็นชา มุมปากยกยิ้มแสยะกล่าวออกด้วยน้ำเสียงเย้ยเยาะ “เอาสิ ในเมื่อเจ้าพูดราวกับเจ้ามันน่าเวทนาสงสารนัก…เช่นนั้นข้าจะให้โอกาสเจ้าสักครั้ง!”
“และถ้าหากเจ้าคว้าโอกาสนี้เอาไว้ได้สำเร็จ วันนี้ข้าจะไม่ฆ่าพวกเจ้าพ่อลูกทิ้ง…แต่ถ้าไม่ ก็อย่าได้โทษข้าต้วนหลิงเทียนว่าอำมหิต!”
เสียงต้วนหลิงเทียนนับว่าดังฟังชัดให้ทุกคนได้ยินถนัดหู
“โอกาสอะไร?”
ปากต่งหยวนจิ้นแม้กล่าวถามออกมา ทว่าในใจกลับบังเกิดสังหรณ์อัปมงคลประการหนึ่ง
และครู่ต่อมา ก็ต้องบอกเลยว่าลางสังหรณ์นี้ของมันแม่นจริงๆ
“ก็ไม่มีอะไรมาก แค่…ตราบใดที่เจ้ากล้าสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าต่อหน้าทุกคนในที่นี้ ว่าในอดีตครั้งที่ข้ายังอยู่ในลัทธิบูชาไฟ เจ้าไม่เคยส่งคนให้มาจับตาดูข้าเพื่อหาโอกาสฆ่าข้าทิ้ง! วันนี้ข้าจะไว้ชีวิตสุนัขของพวกเจ้าพ่อลูก!!”
เสียงกล่าวต้วนหลิงเทียนที่ดังสืบต่อออกมา ทำให้หน้าต่งหยวนจิ้นเปลี่ยนไปอย่างมาก!