War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 2298
ตอนที่ 2,298 : หายนะทัณฑ์สวรรค์ของต้วนหลิงเทียน?
แสงขาวที่ส่องสว่างวาบขึ้นมาปานจะย้อมโลกหล้านั้น ได้ปิดกั้นสายตาของทุกผู้คน ไม่เว้นประมุขเผ่าปีศาจมนุษย์ที่กำลังจะมองลอดเมฆหายนะไปยังเบื้องล่าง
และทันใดนั้นเอง
พร้อมๆกันกับที่ประกายสีม่วงพร้อมแสงขาวส่องสว่างวาบออกมา จนสายตาทุกผู้คนเบื้องล่างเมฆหายนะสู่สวรรค์ตาพร่าไม่อาจแลเห็นสิ่งใดได้ชั่วขณะนั้น
เปรี๊ยงงงงง!!!
เสียงอัสนีฟาดผ่าลั่นดังสะท้านปฐพีพลันอุบัติขึ้น!พาลให้แก้วหูทุกผู้คนสะท้านไปแทบดับ!!
หลังจากนั้น พวกมันก็หยีตาที่ค่อยๆหายจากอาการพร่ามัวจนแลเห็นได้รางๆ
สูงขึ้นไปบนฟ้า แพเมฆหายนะสู่สวรรค์นั่น…ปรากฏอัสนีสีม่วงเส้นหนาเท่าแขนผู้ใหญ่! ฟาดถล่มลงมาจากฟากสูงจี้ตรงไปยังร่างของจ้าววังเซียนสัญจร อวี่เหวินฮ่าวเฉิน ที่ลอยร่างตระหง่านกลางหาวใต้จุดศูนย์กลางของเมฆหายนะสู่สวรรค์!!
“เป็นหายนะทัณฑ์สวรรค์!!”
“อัสนีทัณฑ์สวรรค์สายแรก ฟาดผ่าลงมาแล้ว!!”
เมื่อเห็นฟ้าคำรามลั่นหล้า ทั้งอุบัติอัสนีฟาดเปรี๊ยงลงมาสะท้านแก้วหู ทุกผู้คนก็ตระหนักได้ทันที
อย่างไรก็ตาม ลูกตาของพวกมันจำต้องหดเล็กลงทันใด
นั่นเพราะพวกมันกำลังตกตะลึงกับสิ่งที่สองตาแลเห็น
ว่าในขณะที่อัสนีสีม่วงหนาเท่าแขนผู้ใหญ่ ได้ฟาดผ่าลงมาจากฟากฟ้าจี้ตรงเข้าหาอวี่เหวินฮ่าวเฉินนั้น ไม่ทันที่อัสนีจะฟาดบรรลุถึงและให้อวี่เหวินฮ่าวเฉินต่อต้านเอาชนะอะไร…
แสงสีม่วงทั้งประกายแสงสีขาวเจิดจ้าพลันสว่างวาบออกมาอีกครั้ง! เสียงสนั่นก็ดังขึ้นอีกครา!
เปรี๊ยงงงง!!
และแทบจะพร้อมกันกับที่เสียงอัสนีฟาดผ่าสนั่นลั่นปานฟ้าระเบิดดังขึ้นนั้น!
กลับมีอัสนีสีม่วงเส้นหนาเท่าแขนผู้ใหญ่อีกสาย ฟาดผ่าลงมาจากเมฆหายนะสู่สวรรค์!!
อัสนีสายนี้ไม่ว่าจะพลังอำนาจและขนาด กลับเหมือนกันกับเส้นสายอัสนีสายแรกที่ฟาดผ่าไปยังอวี่เหวินฮ่าวเฉินไม่ผิดเพี้ยน!!
ช่างน่าอัศจรรย์ใจนัก! มันกลับเป็นอัสนีทัณฑ์สวรรค์อีกสายหนึ่ง!!
“นี่มันอะไรกัน!?”
“อัสนีทัณฑ์สวรรค์สายแรกฟาดมายังไม่ได้ใกล้เคียงกับจะผ่าโดนร่างจ้าววังอวี่เหวินสักนิด ไฉนอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 2 จึงปรากฏขึ้น!?”
“นี่คงมิใช่อัสนีทัณฑ์สายที่ 2 หรอกนะ เพราะพลังอำนาจของมันนั้นหากจะเทียบกับอัสนีทัณฑ์สายแรกแล้วช่างเหมือนกันทุกประการ…นี่มันเกิดอะไรขึ้น!?”
“หรืออัสนีทัณฑ์แรกจักฟาดผ่า 2 ครั้ง?”
“เป็นไปไม่ได้! หายนะทัณฑ์สวรรค์นั้นมีเก้าชุดเก้ากระบวนรวมทั้งสิ้น 81 สาย! แต่ละอัสนีทัณฑ์นั้นแบ่งแยกออกชัดเจน อีกทั้งยังจะฟาดผ่าลงมาหลังเว้นช่วงระยะเวลาไปพักหนึ่ง…หากผ่าติดกันแบบนี้มิใช่จะจบในครึ่งวันหรือไร ใยยังต้องรอ 2-3 วัน!?”
“นั่นก็จริง…แต่เรื่องราวเบื้องหน้าจักให้อธิบายอย่างไรเล่า?”
…
ตอนนี้ไม่ใช่แค่คนอื่นๆ กระทั่งตัวจ้าววังเซียนสัญจรอย่างอวี่เหวินฮ่าวเฉินเองยังไม่อาจเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ถึงแม้จะเป็นชนชั้นรองจ้าววังและรองจ้าวตำหนักทั้งหมด ไม่เว้นตัวจ้าววังวิญญาณอสุราอย่างฉีหนานฟงเอง แม้ในห้วงคิดของพวกมันจะฉับไวเท่าทันอัสนีสวรรค์ หากแต่พวกมันก็ไม่อาจทำความเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าได้!
“ไฉนอัสนีทัณฑ์สายแรกของจ้าววังเซียนสัญจรกลับมีอัสนีที่มีพลังทัดเทียมกัน 2 สายเล่าท่านอาจารย์?”
เหนือขึ้นไปบนฟ้าสูงด้านหลังแพเมฆหายนะสู่สวรรค์ ประมุขเผ่าปีศาจที่ในที่สุดก็สามารถมองลอดเมฆหายนะสู่สวรรค์มายังเบื้องล่างได้สำเร็จ พอได้เห็นว่าอัสนีทัณฑ์แรกกลับฟาดผ่าออกไป 2 คำรบก็อึ้งไปอีกครั้ง อดถามอาจารย์ออกมาไม่ได้ราวกับเด็กน้อย…
เพราะจังหวะนี้มันไม่เข้าใจจริงๆ
ต้องทราบด้วยว่าตัวมันเองก็คือผู้ที่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์มาแล้ว ถึงได้บรรลุครึ่งก้าวเซียนอมตะอยู่แบบนี้! มันจึงรู้ดีว่าหลังอัสนีทัณฑ์สายแรกฟาดลงมา กว่าอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 2 จะฟาดผ่าลงมา ก็มีช่วงเวลารอคอยถึง ครึ่งชั่วยาม…
ยิ่งไปกวว่านั้นอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 2 ก็สมควรทวีความรุนแรงและทรงพลังยิ่งกว่าอัสนีทัณฑ์สายแรก!
ทว่าตอนนี้ไม่เพียงแต่เมฆหายนะสู่สวรรค์จะฟาดผ่าอัสนีทัณฑ์ลงไป 2 สายติดๆ กระทั่งอัสนีทัณฑ์สายที่ 2 กลับมีพลังอำนาจทัดเทียมกับสายแรกไม่ผิดเพี้ยน!
มันไม่อาจเข้าใจได้จริงๆ!
เรื่องราวตอนนี้มันช่างแตกต่างจากครั้งที่มันเผชิญหน้ากับหายนะทัณฑ์สวรรค์อย่างสิ้นเชิง พลิกคว่ำความรู้ความเข้าใจของมันไปหมดสิ้น!
“มิได้มีใดผิดแปลก เมื่อมีผู้ที่พร้อมเผชิญหน้ากับหายนะทัณฑ์สวรรค์ 2 คนมารวมตัวอยู่ในจุดเดียวกัน…ก็เป็นธรรมดาที่อัสนีทัณฑ์จะฟาดผ่าออกมา 2 ชุด”
ชายชราชุดเทา มิคาดคราวนี้กลับสามารถตอบคำถามของประมุขเผ่าปีศาจมนุษย์ได้!
ขณะเดียวกันสายตาของชายชราชุดเทาก็คล้ายจะมองผ่านแพเมฆหายนะสู่สวรรค์ ตัดระยะไปตกลงบนร่างของชายหนุ่มในชุดสีม่วงด้านล่าง…
ภายใต้เมฆหายนะสู่สวรรค์
ในขณะเดียวกันกับที่ทุกผู้คนกำลังสับสนงุนงงและไม่เข้าใจว่าไฉนอัสนีทัณฑ์แรกถึงมี 2 สาย
ทั้งหมดก็พบว่าอัสนีทัณฑ์สายที่ 2 นั้น ไม่ได้ฟาดผ่าลงไปทางอวี่เหวินฮ่าวเฉินแต่อย่างใด!
อัสนีทัณฑ์ที่ฟาดผ่าลงมา กับฟาดจี้ลงไปยังร่างอื่นที่อยู่ไกลจากอวี่เหวินฮ่าวเฉิน!
“นายท่านระวัง!!”
ต้วนหลิงเทียนที่กำลังจมจ่อมกับภวังค์รู้แจ้งฟ้าดิน อยู่ๆก็ได้ยินเสียงโพล่งตะโกนด้วยความร้อนใจของเผิงไหลดังขึ้น ทำให้เขาสะดุ้งตกใจจนหลุดออกจากภวังค์ทันที
หลังจากที่กลับมารู้สึกตัว เขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังขุมหนึ่งกำลังจี้เล็งมายังร่างเขา
“นี่มัน…”
ดุจละอองไฟวาบดับ ต้วนหลิงเทียนพลันตระหนักได้ถึงบางสิ่ง ทำให้เขาตื่นตระหนกนัก!
อัสนีทัณฑ์สวรรค์สีม่วงเส้นหนาเท่าแขนผู้ใหญ่กำลังฟาดผ่าลงมาทางเขา ด้วยสภาวะประหนึ่งมังกรเกรี้ยวกราด แหวกฟ้าลงมาก่อสำเนียงหวีดหวิว ราวกับปากกระหายเลือดหนึ่งที่กำลังจะกลืนร่างเขาในหนึ่งคำ!!
‘หายนะทัณฑ์สวรรค์!?’
‘ไม่ใช่มันต้องฟาดผ่าไปที่อวี่เหวินฮ่าวเฉินรึไง?!’
‘ไฉนมันฟาดผ่ามาที่ข้าได้? ข้าอยู่ใกล้เกินไปจนชักนำหายนะทัณฑ์สวรรค์มาด้วยงั้นเหรอ!?’
……
ในห้วงเวลาชั่วพริบตา ความคิดมากมายผุดขึ้นในหัวต้วนหลิงเทียน อัสนีเส้นเขื่องก็กำลังฟาดลงมาใกล้เขาทุกขณะ!
‘ไม่ได้การแล้ว! อยู่ตรงนี้ไม่ได้!!’
‘หากมันฟาดลงมาตรงนี้ซือหลิงกับเค่อเอ๋อและคนอื่นๆตายแน่!’
‘ในเมื่อมันเล็งฟาดมาที่ข้า เช่นนั้นข้าสมควรล่อมันได้!’
ต้วนหลิงเทียนตัดสินใจได้ในห้วงเวลาเสี้ยวพริบตา อานุภาพชีพจรเซียน 99 สายเผยให้เห็นความล้ำเลิศชัดเจน พลังเซียนต้นกำเนิดในร่างปะทุออกกฉับไว ใช้ออกด้วยปีกอีกาทองคำได้เท่าทันความคิด!
อย่างไรก็ตามปีกอีกาทองคำที่งอกออกมากลางหลังต้วนหลิงเทียนยามนี้ มันแตกต่างกับปีกอีกาทองคำก่อนหน้าอยู่บ้าง…
ปีกอีกาทองคำที่เขาสร้างขึ้นจากพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดนั้น มีสีทองเข้มนัก!
หากทว่าตอนนี้ปีกอีกาทองคำที่สร้างขึ้นด้วยพลังเซียนต้นกำเนิดของเขา กลับมีเพียงสีทองอ่อนๆ!
เหตุผลที่ไฉนบังเกิดความแตกต่างกันขนาดนี้ นั่นเพราะตอนนี้ในร่างต้วนหลิงเทียนเหลือพลังสุริยันเพียงน้อยนิดเท่านั้น ส่วนใหญ่ได้พุ่งออกจากร่างเขาหายขึ้นไปในเมฆหายนะสู่สวรรค์ ทำให้พลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดในร่างเขา แทบจะไม่แตกต่างใดจากพลังเซียนต้นกำเนิดทั่วไป
อย่างไรก็ตามพลังเซียนต้นกำเนิดที่ต้วนหลิงเทียนเร่งเร้าปะทุออกครานี้ เสมือนมันกำลังสั่นพ้องกับฟ้าดินอย่างรุนแรง! ทรงพลังอำนาจเหนือล้ำผิดจากกาลก่อนลิบลับ!
ต้วนหลิงเทียนนในฐานะผู้ที่ใช้ออกโดยตรง ย่อมสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวชัดเจน
‘เมื่อครู่ข้ากำลังสงสัยอยู่พอดี ว่าสำนึกรู้ฟ้าดินของข้าที่เพิ่มพูนขึ้นด้วยความเร็วสูงนั้น อยู่ๆไฉนกลับติดจุดรอคอยไม่ทะลวงไปเสียที…’
‘ที่แท้นั่นกลับไม่ใช่จุดรอคอยอะไร แต่น่าจะเป็นขีดจำกัด!’
‘จากสำนึกรู้ฟ้าดินของข้าตอนนี้ และการสั่นพ้องของฟ้าดินกับพลังเซียนต้นกำเนิดข้า…ดูเหมือนมันจะไม่แตกต่างจากการสั่นพ้องของพลังเซียนต้นกำเนิดกับฟ้าดินของอวี่เหวินฮ่าวเฉินเมื่อ 3 ปีก่อนแม้แต่น้อย!’
‘เช่นนั้นหมายความว่า…สำนึกรู้ฟ้าดินของข้าบรรลุถึงขีดจำกัดเท่าที่จะทำได้ในตอนนี้แล้ว?!’
เมื่อตระหนักได้ถึงระดับการสั่นพ้องกับพลังฟ้าดินยามใช้ออกด้วยพลังเซียนต้นกำเนิด ต้วนหลิงเทียนย่อมตระหนักได้ทันที
ว่าสำนึกรู้ฟ้าดินของเขา มิคาดมันได้บรรลุถึงขีดจำกัดอย่างงงๆ!!
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้ต้วนหลิงเทียนรู้สึกเสมือนตัวเองได้ใช้ ‘สูตรโกง’ ในการเล่นเกมเมื่อชีวิตที่แล้ว…
ต้องทราบด้วยว่า ตัวเขานั้นพึ่งจะทะลวงถึงเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนวันนี้หยกๆ!
หากแต่ภายในวันเดียวกัน สำนึกรู้ฟ้าดินของเขา กลับบรรลุถึงขีดจำกัดของตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน!
ต้องทราบด้วยว่าปกติแล้วผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนนั้น หลังทะลวงมาถึงด่านพลังได้สำเร็จ จำต้องใช้เวลาไม่น้อยเพื่อค่อยๆหยั่งถึงฟ้าดิน ทั้งเนิ่นนานกว่าจะเริ่มบังเกิดสำนึกรู้ต่อฟ้าดิน และกว่าจะเพิ่มพูนสำนึกรู้ดังกล่าวให้บรรลุถึงขีดจำกัด ไม่ทราบต้องใช้เวลากี่สิบกี่ร้อยปี…
ทว่าเขา ต้วนหลิงเทียน กลับใช้เวลาไม่ถึงวัน!!
แน่นอนว่าจากทั้งหมดที่กล่าวมา ย่อมเป็นอะไรที่ทำให้ต้วนหลิงเทียนสับสนและอื้ออึงไม่น้อย
นั่นเพราะเขาไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจอะไรเลยด้วยซ้ำ สำนึกรู้ฟ้าดินของเขากลับบรรลุถึงขีดจำกัด อย่างงงๆ!
‘ทั้งหมดเป็นเพราะพลังเซียนสุริยันที่พุ่งออกจากร่างข้าไป!!’
ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความสงสัยหนักหนา ว่าที่แท้พลังสุริยันเขามันขึ้นไปทำอะไรอยู่ด้านบนกันแน่…!
อย่างไรก็ตามด้วยภัยคุกคามจากอัสนีทัณฑ์สวรรค์ที่จี้เข้ามาเจียนผ่าหัวเขาอยู่รอมร่อ! ทำให้เขาไม่อาจคิดถึงเรื่องดังกล่าวได้อีกต่อไป!!
“ปีกอีกาทองคำ!!”
เพียงห้วงคิด ต้วนหลิงเทียนก็กางม่านพลังไร้สภาพปกคลุมพวกสตรีทั้ง 3 ก่อนกระตุ้นการทำงานของปีกอีกาทองคำที่งอกเงยกลางแผ่นหลัง ปีกเขื่องกระพือสะบัดฉับไว ส่งร่างเขาให้พุ่งทะยานแหวกฟ้าออกไปด้วยความเร็วสูง!!
‘ความรู้สึกตอนใช้ปีกอีกาทองคำตอนนี้ช่างต่างจากเมื่อก่อนราวกับหน้ามือเป็นหลังมือจริงๆ…ทุกอย่างกลับเสมือนเป็นธรรมชาติประหนึ่งปีกมันมีติดตัวข้ามาตั้งแต่เกิด โดยเฉพาะพลังเซียนต้นกำเนิดตอนนี้มันช่างควบคุมง่ายประหนึ่งแขนขา!!’
หลังจากที่สำนึกรู้ฟ้าดินของต้วนหลิงเทียนบรรลุขีดจำกัด พลังเซียนต้นกำเนิดในร่างของเขาก็กลายเป็นควบคุมได้ขึ้นง่ายดายประหนึ่งมันไม่ต่างใดจากแขนขา ทั้งพลังอำนาจยังเพิ่มพูนขึ้นไม่น้อยประหนึ่งได้รับพลังอำนาจหนุนเสริมจากฟ้าดิน!
หากจะบอกว่าตอนแรกที่เขาทดลองใช้พลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดในฝ่ามือหลังบังเกิดสำนึกรู้ฟ้าดินเล็กน้อย ทำให้เขารู้สึกเสมือนว่ายามใช้พลัง มันมีความเชื่อมโยงกับฟ้าดินเล็กน้อยล่ะก็
ตอนนี้ยามเขาใช้พลังเซียนต้นกำเนิดออกมา เขารู้สึกว่าการเชื่อมโยงระหว่างฟ้าดินกับพลังเขามันชัดเจนมาก! ที่สำคัญยามพลังปรากฏ ยังบังเกิดการสั่นพ้องยากมองเห็นกับฟ้าดินชัดเจน! ราวกับยามเขาเคลื่อนพลัง พลังฟ้าดินก็คล้อยตามพลังเขาไปด้วย!!
การเปรียบเทียบระหว่าง 2 อย่างนั้น ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันคนละโลก!!
ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม!!
…
เมื่อต้วนหลิงเทียนกระตุ้นใช้ปีกอีกาทองคำจนร่างพุ่งตัดฟ้าฉีกระยะออกจากกลุ่มเค่อเอ๋อ อัสนีทัณฑ์สวรรค์ก็คล้ายดั่งจะมีดวงตางอกเงย มันหักเหทิศทางกลางอากาศ ส่งเสียงแหวกฟ้าหวีดหวิวดังสนั่น จี้เข้าใส่เขาอย่างไม่ลดละ!
“มีอัสนีทัณฑ์สวรรค์อีกสายหรือ!?”
ด้วยเรื่องราวมันเกิดขึ้นในชั่วพริบตา ต้วนซือหลิง เค่อเอ๋อ และก่านหรูเยี่ยนที่พลังฝึกปรือไม่ถึงขั้นย่อมไม่อาจตระหนักได้ถึงเรื่องราวใดๆ ทั้งหมดเห็นเพียงมีอัสนีฟาดผ่าลงมาอีกสาย กระทั่งยังไม่รู้ว่าต้วนหลิงเทียนได้วูบร่างหายไปแล้วและทั้งหมดก็เพราะต้วนหลิงเทียนกางม่านพลังกั้นสายลมแรงที่อาจทำร้ายพวกนางได้ไว้
ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น อวี่เหวินฮ่าวเฉิน ก็กำลังจะเผชิญหน้ากับอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายแรก
ทั้งหมดเห็นเพียงอวี่เหวินฮ่าวเฉินยกมือขึ้นสะบัดออกไปส่งๆ ปลดปล่อยพลังเซียนต้นกำเนิดที่สั่นพ้องกับพลังฟ้าดินอย่างรุนแรง ก่อเกิดเป็นมวลพลังมหาศาลพุ่งไปหักหาญกับอัสนีฟ้าที่กำลังฟาดมาอย่างกล้าแข็ง เป่าทำลายเส้นสายอัสนีจนสลายหายไปอย่างง่ายดาย!!
‘อัสนีเส้นนี้ไม่ใช่อัสนีทัณฑ์สวรรค์ของอวี่เหวินฮ่าวเฉินแน่แล้ว…’
‘หรือมันจะเป็นอัสนีทัณฑ์สวรรค์ของข้าจริงๆ…’
‘แล้ว…เรื่องแบบนี้มันเป็นไปได้ยังไง?’
ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะไม่ทราบว่าไฉนถึงเกิดเรื่องราวทำนองนี้ขึ้นได้ แต่เขาก็ทำได้แค่ยอมรับความจริงตรงหน้า
และเมื่อมั่นใจแล้วว่าด้วยระยะห่างขนาดนี้อัสนีทัณฑ์สวรรค์ไม่ควรส่งผลกระทบอะไรให้พวกเค่อเอ๋อกับลูกสาวเขา เขาก็หยุดร่างลงทันที
“พัง!”
ทันใดนั้นสองตาต้วนหลิงเทียนทอประกายเยียบเย็น ฝ่ามือสะบัดตบฟาดออกไปปานมังกรสะบัดหาง!
ทันใดนั้นพลังเซียนต้นกำเนิดมหาศาลขุมหนึ่งก็พุ่งออกจากฝ่ามือต้วนหลิงเทียนไปราวคลื่นสมุทรสุดไพศาล!
ยังเป็นคลื่นสมุทรสุดไพศาลที่สั่นพ้องกับพลังฟ้าดินอย่างรุนแรง!
มววลพลังดั่งคลื่นสมุทรสุดไพศาลพริบตาก็ฟาดทำลายไปปะทะกับอัสนีทัณฑ์สวรรค์ ก่อนที่จะเป่ามันเป็นจุนไม่เหลือแม้แต่กระแสอัสนีเพียงเสี้ยว…
อัสนีทัณฑ์สวรรค์สายแรกทั้ง 2 ชุด ก็ถูกต้วนหลิงเทียนกับอวี่เหวินฮ่าวเฉินทำลายลงไปได้สำเร็จ
ยิ่งไปกว่านั้นกระบวนการสยบอัสนีทัณฑ์ของทั้งคู่ ยังแลดูง่ายดาย สบายๆราวกับเดินชมสวนหลังบ้าน…