War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 2347
ตอนที่ 2,347 : พลังอำนาจทัดเทียมเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์?
“มันน่าจะเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า…”
เผชิญหน้ากับคำถามซักไซ้ของผู้คนรอบกาย ชายวัยกลางคนในชุดอาลักษณ์ด้วยไม่อาจฟันธงชี้ชัดจึงส่ายหน้าพลางกล่าวออกมาอย่างไม่แน่ใจ
“บังเอิญ?”
“ใต้หล้าไหนเลยมีเรื่องบังเอิญพรรค์นี้ได้? ชายชราในชุดหรูหรานั่นไม่เพียงใช้ดาบ แต่ยังมีนามว่าเฉินอี้หรู แถมยังใช้ออกด้วยกระบวนท่าดาบสยบโลกาเหมือนเฉินอี้หรูที่ท่านเล่า!”
“นั่นสิ ใต้หล้าไหนเลยจะมีเรื่องบังเอิญพรรค์นี้ได้?”
“ข้าคิดว่า…เฉินอี้หรูผู้นั้น สมควรเป็นเฉินอี้หรูผู้ได้ฉายาว่า เฉิน 3 ดาบ ยอดฝีมืออันดับที่ 2 ในรายนามยอดเซียนเมื่อ 5,000 ปีก่อนจริงๆ!”
…
เมื่อเห็นอาลักษณ์กลางคนส่ายหัวไปมากล่าวตอบว่าอาจเป็นเรื่องบังเอิญ ผู้คนรอบกายของมันก็กล่าวขัดออกมาทันที
ชื่อไม่เพียงตรงกัน
อาวุธที่ชำนาญยังเป็นดาบเหมือนกัน
กระทั่งกระบวนท่าดาบยังเรียกหาเหมือนกัน…
เพียงหนึ่งหรือสองยังบอกได้ว่าบังเอิญ แต่เหมือนกันทุกประการเช่นนี้ คำบังเอิญไม่อาจกล่าวออกจริงๆ…
“อันที่จริงตัวข้าเองก็ไม่คิดว่าใต้หล้าจะมีเรื่องบังเอิญพรรค์นี้ได้เหมือนพวกเจ้า…”
เผชิญกับสีหน้าท่าทางไม่เห็นด้วยรอบกาย ชายวัยกลางคนชุดอาลักษณ์อดไม่ได้ที่จะยิ้มแหยๆกล่าวสืบต่อว่า “แต่ที่ข้ากล่าวเช่นนั้นเพราะว่า เฉินอี้หรูหรือเฉิน 3 ดาบที่เคยรั้งอยู่ในอันดับที่ 2 ของรายนามยอดเซียนเมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว ได้ถูกลงบันทึกไว้ว่ายามเมื่อหายนะทัณฑ์สวรรค์ของมันปรากฏเมื่อ 4,000 กว่าปีก่อน ตัวมันได้ล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์และตายตกไป…”
“หืม? ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ล้มเหลวรึ?”
ทันทีที่อาลักษณ์วัยกลางคนเปิดปากกล่าวคำออกมาอีกครั้ง วาจาของมันก็ทำให้ผู้คนโดยรอบสะอึกกันเป็นแถว…
เพราะในสายตาของพวกมัน
ล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ ย่อมหมายถึงความตาย!!
หากเฉินอี้หรูหรือคือเฉิน 3 ดาบที่ล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์เมื่อ 4,000 ปีก่อนจริง นั่นหมายความว่าชายชราผู้นี้ไม่มีทางเป็นเฉินอี้หรูคนนั้นได้เลย!
“น้องชายเจ้าแน่ใจรึ…ว่าเฉิน 3 ดาบที่โด่งดังเมื่อ 5,000 ปีก่อนล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์และตกตายไปแล้วจริงๆ?”
ไม่นานก็มีหลายคนมองอาลักษณ์ชายวัยกลางคน ทั้งกล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“พี่ชายท่านนี้ เชิญท่านดูด้วยตาตัวเองเถอะ…”
อาลักษณ์ชายวัยกลางคนไม่ตอบคำ เพียงสะบัดมือคราหนึ่ง บังเกิดม้วนคัมภีร์ที่แผ่กลิ่นอายเก่าแก่โบราณออกมา ก่อนที่จะคลี่กาง แล้วผายมือให้ทั้งหลายดูชมให้ชัดๆถึงหัวเรื่องบนม้วนคัมภีร์ “รายนามยอดเซียนย้อนหลังไปจนถึง 4,000 ปีก่อน”
หลังจากไล่สายตากวาดมองดูก็พบว่ามีบันทึกเรื่องเฉินอี้หรู หรือเฉิน 3 ดาบที่ตกตายเพราะล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์เมื่อ 4,000 ปีก่อนอยู่จริง!
เมื่อเห็นบันทึกในคัมภีร์โบราณกับตา ผู้คนโดยรอบก็นิ่งไปเป็นแถบ
“พวกเจ้าว่าเป็นไปได้หรือไม่…ว่าเฉินอี้หรูผู้นี้ ก็คือทายาทของเฉินอี้หรูในอดีต เพื่อรำลึกถึงเกียรติภูมิของบรรพชน จึงตั้งชื่อตัวเองและกระบวนท่าตาม?”
ไม่นานก็มีคนคาดเดาไปในทำนองดังกล่าว
“จริงด้วย! เรื่องนี้เป็นไปได้! หากเป็นเพราะสาเหตุนั้น ก็ไม่แปลกที่ชายชราผู้นั้นจะมีกระบวนท่า ดาบสยบโลกา!!”
หลายคนพยักหน้าเห็นด้วย
“เฮอะ!”
จังหวะนี้ชายวัยกลางคนอันเป็นข้ารับใช้ทั้งสองของเฉินอี้หรูที่ฟังเรื่องราวอยู่นานไม่อาจทนฟังได้อีกต่อไป พวกมันพ่นลมสบถเสียงเย็นออกมาพร้อมเพรียง พาลให้บรรยากาศโดยรอบเหมือนจะเย็นลงถนัดตา
จากนั้นก็เป็นชายวัยกลางคนร่างกำยำเชิดหน้ากล่าววาจาค่อนแคะออกมาอย่างถือดี “เพื่อรำลึกถึงเกียรติภูมิของบรรพชนเมื่อ 5,000 ปีที่แล้วจึงตั้งชื่อเฉินอี้หรูทั้งกระบวนท่าตาม? เลอะเทอะนัก! หากมิรู้ความก็อย่าได้กล่าววาจาผายลมซี้ซั้ว!!”
วาจาท้ายประโยคของชายวัยกลางคนร่างกำยำ น้ำเสียงยังเจือไว้ด้วยโทสะไม่น้อย
“ใครบอกพวกเจ้ากันว่าล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์แล้วจักต้องตาย? ไอ้พวกกบน้อยก้นบ่อ!!”
ชายวัยกลางคนสูงผอมปานลำไผ่เองก็แค่นสบถสำทับออกมาด้วยน้ำเสียงดูแคลน
เหล่าผู้ชมที่ได้ยินวาจาค่อนแคะเสียดสีทั้งตำหนิก็ไม่มีใครหาญกล้าหืออืออะไร เพราะตอนที่พวกมันถามไถ่เรื่องราวจากเซียนสวรรค์ที่รอดชีวิต พวกมันจึงได้รับทราบมาแล้วว่าชายวัยกลางคนทั้ง 2 ที่หนึ่งบึกบึนหนึ่งผอมสูงทั้งคู่ก็คือข้ารับใช้ข้างกายชายชราที่มีพลังน่ากลัวก้าวข้ามขอบเขตครึ่งก้าวเซียนอมตะ!!
อีกทั้งในบรรดาทั้ง 2 ชายวัยกลางคนร่างกำยำราวหมีควายนั่นก็บรรลุถึงเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน! ที่ร้ายกว่าก็คือชายวัยกลางคนผอมสูงปานลำไผ่นั่น มันถึงกับเป็นเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน!!
ดังนั้นทุกคนจึงไม่มีใครหาญกล้าเข้าไปใกล้ทั้งคู่ ด้วยกลัวจะสร้างความขุ่นเคืองให้จนโดนดี
ตอนนี้พอมาได้ยินเสียงเย้ยเยาะขอชายวัยกลางคนที่ร่างปานลำไผ่ พวกกมันจึงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
“หมายความว่าอย่างไรกัน…หรือชายชราผู้นั้นจักเป็นเฉินอี้หรู เฉิน 3 ดาบอันลื่อชื่อที่ติดอันดับ 2 ในรายนามยอดเซียนเมื่อ 5,000 ปีก่อนจริง?”
“ล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ใครว่าจักต้องตาย…นี่มันหมายความว่าอะไร?”
…
ตอนนี้ไม่ว่าจะด้วยคำพูดของชายวัยกลางคนร่างหนาก็ดี ร่างสูงชะลูดผอมแห้งก็ดี นับว่าทำให้ใจของทุกคนปั่นป่วนนัก
และสิ่งที่ทำให้พวกมันตกใจเหลือเชื่อมากที่สุดก็คือคำของชายวัยกลางคนร่างผอมสูงปานลำไผ่นั่น!
“ใครบอกพวกเจ้ากันว่าล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์แล้วจักต้องตาย? ไอ้พวกกบน้อยก้นบ่อ!!”
คำนี้เสมือนได้เปิดประตูสู่โลกใหม่ให้พวกมันอย่างสิ้นเชิง…
ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ล้มเหลว ไม่จำเป็นต้องตายเหรอ?
ทันใดนั้นทุกผู้คนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง ก็หันไปมองชายวัยกลางคนร่างผอมสูงปานลำไผ่ด้วยสายตาไถ่ถามอย่างกล้าๆกลัวๆ ก่อนที่จะมีผู้กล้าเหินออกมาประสานมือคารวะอย่างนอบน้อมกล่าวถามออกไปว่า
“ใต้เท้าผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้…เมื่อครู่ใต้เท้าบอกว่าหากล้มเหลวในการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องตายหรือขอรับ? มิทราบใต้เท้าช่วยสละเวลาอันมีค่าของท่าน เมตตาบอกกล่าวความจริงให้ผู้น้อยผู้โง่เขลารับทราบได้หรือไม่?”
ผู้ที่หาญกล้าออกมากล่าวถามก็ไม่ใช่ใคร เป็นอาลักษณ์ชายวัยกลางคนที่จดจำเฉินอี้หรูอันเป็นตัวตนเมื่อ 5,000 ปีก่อนได้ และหยิบยกคัมภีร์เก่าแก่อันเป็นรายนามยอดเซียนย้อนหลัง 4,000 ปีออกมา!
ถึงแม้ว่าตัวมันเองจะไม่ทันได้รับทราบถึงพลังฝึกปรือของชายวัยกลางคนทั้ง 2 ว่าสูงต่ำเพียงใด เพราะมันพึ่งมาถึงได้ไม่นาน
แต่ในสายตาของมัน
ข้ารับใช้ทั้ง 2 ผู้นี้ ลองสามารถติดตามรับใช้ตัวตนที่มีพลังอำนาจก้าวข้ามขอบเขตครึ่งก้าวเซียนอมตะได้ ย่อมมิใช่สัดใส่ข้าวใช้การมิได้แน่นอน! น่ากลัวว่าพลังฝึกปรือจักสูงล้ำด้วยซ้ำ!!
เช่นนั้นแม้มันจะหาญกกล้าออกมาไถ่ถาม แต่กริยาท่าทางก็นอบน้อมสุภาพเป็นที่สุด ไม่กล้าใช้กริยาหยาบคายแม้แต่น้อย
และเมื่ออาลักษณ์ชายวัยกลางคนเป็นผู้กล้ากล่าวถามแทนใจของทุกคนโดยรอบออกมา ทุกสายตาก็หันไปจับจ้องมองร่างชายวัยกลางคนผอมสูงปานลำไผ่ทันที แววตายังเร่าร้อนเต็มไปด้วยความอยากรู้นัก!
“ย่อมได้!”
ชายวัยกลางคนที่แลคล้ายลำไผ่ผู้นี้ พอได้เห็นสายตาอยากรู้อยากเห็น รวมทั้งทีท่านอบน้อมของผู้ถามก็รู้สึกภาคภูมิใจขึ้นมา ยังเพลิดเพลินกับความรู้สึก ‘สำคัญ’ ไม่น้อย มันวางมาดกล่าวคำออกมาปานนักปราชญ์ “เซียนสววรรค์ 9 เปลี่ยนที่สำนึกรู้ฟ้าดินถึงขีดจำกัด เมื่อคว้าโอกาสชักนำหายนะสู่สวรรค์ได้สำเร็จ ยามข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์นั้น ถึงแม้ว่าจักล้มเหลว แต่ก็มิจำเป็นต้องตายตกเสมอไป…เพราะสามารถใช้เคล็ดถอดจิตลี้ร่างหลบเลี่ยงความตาย และกลายเป็นร่างวิญญาณที่ดำรงอยู่ท่ามกลางฟ้าดิน!”
“และหลังจากละทิ้งร่าง กลับกลายเป็นร่างวิญญาณแล้ว…ด้วยเป็นตัวตนที่ขัดลิขิตสวรรค์ สวรรค์จึง…ฯลฯ”
ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นทั้งนอบน้อม ชายวัยกลางคนร่างผอมสูงปานลำไผ่ ก็เล่าเรื่องราวออกมาด้วยมาดราวนักปราชญ์
“เช่นนั้นโลกหล้าจึงมีตัวตนที่เรียกว่าเซียนอมตะเสเพล…เซียนอมตะเสเพลนั้น ทุกคนจำต้องเผชิญหน้ากับหายนะทัณฑ์สวรรค์ทุกๆรอบ 1,000 ปี และหายนะทัณฑ์สวรรค์จักฟาดลงทั้งสิ้น 10 รอบ! จึงกลายเป็นที่มาของระดับขั้นในขอบเขตเซียนอมตะเสเพล และหากเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ สามารถข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์รอบที่ 10 อันเป็นรอบสุดท้ายไปได้ ก็จักได้รับโอกาสที่ 2 จากสวรรค์ เพื่อขึ้นสู่ระนาบเทวโลก กลายเป็นเซียนอมตะที่แท้จริง!”
วาจาที่ชายวัยกลางคนร่างผอมสูงกกล่าวอธิบายออกมานั้น เรียกว่าทำลาย ‘สามัญสำนึก’ ของทุกชีวิตโดยรอบที่รับฟังอยู่จนหมดสิ้น ทำให้พวกมันอดไม่ได้ที่จะสับสนทั้งอื้ออึง พากันนิ่งค้างตะลึงงันอยู่นานกว่าจะดึงสติกลับร่างได้สำเร็จ!
เซียนอมตะเสเพล?
ในช่วงเววลา 10,000 ปีหลังกลายเป็นเซียนอมตะเสเพล จำต้องเผชิญหน้ากับหายนะทัณฑ์สวรรค์ 10รอบ?
ในกระบวนการดังกล่าว ยังสามารถตกตายลงได้ทุกเมื่อ?
ทว่าหลังจากข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ทั้ง 10รอบได้สำเร็จ ก็จักได้รับโอกาสที่ 2 สามารถขึ้นสู่สวรรค์! เยื้องย่างสู่ระนาบเทวโลกได้สำเร็จ?
อีกทั้งเซียนอมตะเสเพล 1 ทัณฑ์ พลังฝีมือทัดเทียมกับเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน?
เซียนอมตะเสเพล 2 ทัณฑ์มีพลังทัดเทียมกับครึ่งก้าวเซียนอมตะ!?
เซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์…
……
จังหวะนี้เหล่าผู้ที่รอดชีวิตมาได้จากการปะทะกันระหว่างเฉินอี้หรูกับต้วนหลิงเทียน รวมถึงเหล่าชาวเมืองที่แห่แหนกันมาจากทุกทั่วสารทิศก็ได้รับฟังเรื่องราวสะท้านขวัญ ที่ทำให้ทัศนที่มีต่อโลกฝึกตนของพวกมันพลิกคว่ำคะมำหงายกันถ้วนหน้า!!
ประตูสู่โลกใหม่ เสมือนเปิดอ้าออกตรงหน้าพวกมัน…!
“ที่แท้ในโลกนี้กลับยังมีตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพลอยู่อีก!”
“เซียนอมตะเสเพล…ช่างเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งนัก พลังอำนาจเทียบได้กับเซียนอมตะที่แท้จริง!!”
“ลำพังเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์ก็มีพลังเหนือล้ำกว่าครึ่งก้าวเซียนอมตะแล้ว…ข้าล่ะหลงคิดว่าตัวตนครึ่งก้าวเซียนอมตะคือตัวตนทรงพลังสูงสุดในแดนดินเสียอีก มาบัดนี้ข้าจึงรู้สึกเสมือนตัวเองเป็นนกบน้อยก้นบ่อน้ำจริงๆ”
…
พอหลายคนเริ่มได้สติกลับคืน ต่างก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาเป็นแถว
“ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง…งั้นนับจากเวลาที่ใต้เท้าเฉินอี้หรูล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ราว 4,000 ปีก่อน ในเมื่อหายนะทัณฑ์สวรรค์จักฟาดลงทุกๆรอบ 1,000 ปี ด้วยความที่ท่านยังอยู่ตรงนี้ย่อมหมายความว่าได้ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ไปแล้ว 4 รอบ จึงกลายเป็นเซียนอมตะเสเพล 4ทัณฑ์!!”
อาลักษณ์ชายวัยกลางคนพยักหน้าอย่างเข้าใจเรื่องราว ค่อยกล่าวสรุปปิดท้าย
เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์!
ขณะเดียวกันเหล่าผู้ที่รอดชีวิตจการปะทะกันระหว่างเฉินอี้หรูกับต้วนหลิงเทียนก่อนหน้าที่มีไม่กี่คนนั้น บัดนี้ก็ได้รับทราบความหมายของคำ ‘เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์’ ที่พวกมันสงสัยคลางแคลงแต่แรกจนกระจ่างแจ้งแก่ใจ!
เป็นดั่งที่เฉินอี้หรูกล่าวไว้ก่อนหน้าจริงๆ…
ความแข็งแกร่งของเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์นั้น เหนือล้ำกว่าครึ่งก้าวเซียนอมตะมากโข!
“ช้าก่อนท่านทั้งหลาย…ในเมื่ออดีตผู้พิทักษ์ลัทธิบูชาไฟ ต้วนหลิงเทียน คนนั้นสามารถรอดชีวิตจากเพลงดาบสยบโลกาของใต้เท้าเฉินอี้หรูที่เป็นถึงเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ได้…มิใช่หมายความว่ามันก็มีความแข็งแกร่งทัดเทียมกับเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์หรือไร!?”
ไม่นานก็เริ่มมีบางคนฉุกกคิดถึงเรื่องนี้ โพล่งกล่าวออกมาด้วยความตื่นตระหนก
“นั่นเป็นไปมิได้…มิใช่ใต้เท้าเฉินอี้หรูเป็นผู้กล่าวบอกเองหรอกหรือว่าต้วนหลิงเทียนยังเป็นแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะเท่านั้น ด้วยระดับพลังของใต้เท้าไหนเลยจะมองอ่านพลังฝึกปรือต้วนหลิงเทียนผิดได้?”
บางคนกล่าวแย้ง
“ฮึ่ม!”
ขณะเดียวกัน ด้านชายวัยกลางคนทั้ง 2 ที่เป็นข้ารับใช้ของเฉินอี้หรูที่ได้ยิน ก็พ่นลมเสียงเย็นกล่าวขัดขึ้นอย่างประจวบเหมาะ
“จริงอยู่ที่มีเพียงเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์เท่านั้นที่จะมีพลังอำนาจฉีกเปิดความว่างเปล่า กระทั่งยามปลอดปล่อยพลังยังทำให้ความว่างเปล่าแตกเป็นแถบริ้วยิบย่อย…”
“และนอกเหนือจากนี้ต่อให้เป็นเซียนอมตะเสเพล 3ทัณฑ์ที่แข็งแกร่งเพียงใด หากไม่ใช้อันใดหนุนเสริมก็ไม่มีทางมีพลังอานุภาพถึงขั้นทลายว่างเปล่า!”
“แต่ทว่าใดๆในหล้าล้วนมีข้อยกเว้น…หากมีสมบัติสวรรค์หรือเวทย์พลังจากระนาบเทวโลก กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์ ก็อาจมีพลังอำนาจถึงขั้นฉีกเปิดความว่างเปล่าได้!”
กล่าวถึงจุดนี้ชายวัยกกลางคนร่างกำยำก็หันไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาลึกซึ้งค่อยกล่าวออกด้วยน้ำเสียงประหวั่น “ถึงตัวข้าเองตอนนี้จะยังมิมั่นใจว่าต้วนหลิงเทียนที่แท้เป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะจริง หรือเป็นเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์กันแน่ แต่มิต้องสงสัยเลยว่าตอนนี้พลังของมันสามารถทัดเทียมได้กับเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์จริงๆ หากดูจากการลงมือก่อนหน้า!”
สิ้นคำที่กล่าวออกด้วยน้ำเสียงจริงจังของชายวัยกลางคนร่างกำยำ
ทุกสายตาก็หันไปมองจ้องต้วนหลิงเทียนไกลตาด้วยสายตาครั่นคร้าม “ต้วนหลิงเทียนผู้นั้น…กลับมีความแข็งแกร่งสูงส่งทัดเทียมกับเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์จริงๆหรือ!?”
“ต้วนหลิงเทียน”
และในขณะที่ทุกคนกำลังมองจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาอยากรู้ ในที่สุดเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์อย่างเฉินอี้หรูที่ไม่ทราบใจลอยคิดอะไรไปอยู่นาน ในที่สุดก็ดึงสติกลับคืนมาได้สำเร็จ
และทุกคนก็เห็นได้ชัด ว่ายามมองไปยังต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง สายตาของมันคล้ายลุกโชนขึ้นมาดั่งเพลิงไฟ!
ราวกับมันบังเกิดความปรารถนาบางสิ่งจากต้วนหลิงเทียน…!