War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 2365
ตอนที่ 2,365 : ความตกตะลึงของ 7 ทวาราเที่ยงแท้
“ไม่ว่าชาติที่แล้วเค่อเอ๋อจะเป็นใครก็ช่าง แต่ชาตินี้ของนางคือภรรยาข้า ต้วนหลิงเทียน! ไม่มีใครหน้าไหนพรากนางไปจากข้าได้!!”
“เว้นแต่…ข้าตาย!!”
วาจาเด็ดเดี่ยวของต้วนหลิงเทียน ยังคงดังก้องในหูของก่านหรูเยี่ยนซ้ำไปซ้ำมา และทำให้สายตาที่ก่านหรูเยี่ยนใช้มองต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนไปเป็นลึกซึ้ง…
‘หากมันคิดกับข้าเช่นนี้บ้าง…ต่อให้ข้าต้องตายตอนนี้ก็ไม่เสียใจแล้ว’
ในใจก่านหรูเยี่ยนอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความคิดแบบนี้ขึ้นมา
“ข้ายังมีเรื่องที่ต้องไปสะสางอีกมาก…เช่นนั้นข้าไปก่อนแล้วกัน”
ก่านหรูเยี่ยนลุกขึ้นยืน ค่อยกล่าวลาต้วนหลิงเทียน
“อืม”
ต้วนหลิงเทียนเพียงพยักหน้าเบาๆโดยไม่ได้หันกลับมามอง เพราะสายตาเขายังคงมองจ้องเค่อเอ๋อ ที่กำลังสอนกระบี่ให้ต้วนซือหลิงในลานไม่วาง ราวกับโลกในสายตาเขามีเพียงเค่อเอ๋อคนเดียวเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ต้วนหลิงเทียนจึงไม่ทันสังเกตเห็นสายตาที่หม่นแสงไปของก่านหรูเยี่ยน ยังไม่เห็นความสะทกสะท้อนที่เผยออกมาวูบหนึ่ง
หลังจากที่ก่านหรูเยี่ยนเหินร่างออกจากเกาะไป นางก็ดิ่งร่างลงสู่เกาะสักดิ์สิทธิ์เบื้องล่างทันที
“ตอนนี้ที่ข้าทำให้เจ้าได้คงมีแค่เรื่องเดียวเท่านั้น…”
ขณะเหินร่างลงไป ก่านหรูเยี่ยนพลันกล่าวพึมพำออกมา สองตายังเผยประกายเยียบเย็นวาบหนึ่ง
ไม่นานทั้งเขตในและเขตนอกของลัทธิบูชาไฟ ก็ได้ยินคำสั่งอำมหิตหนึ่ง ไม่ว่าผู้ใดก็ตามที่เคยล่วงเกินต้วนหลิงเทียน หรือสร้างความขุ่นเคืองให้ต้วนหลิงเทียนในอดีตไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง จะถูกตัดสินโทษตายทันที!
แล้วมรสุมโลหิตก็เริ่มต้นขึ้น…
แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนเองก็ไม่ได้รู้เรื่องนี้เลย
เพราะตอนนี้ในสายตาของเขา คนที่เคยสร้างความขุ่นเคืองให้เขาในอดีตนั้น ไม่ได้ต่างอะไรจากมดตัวกระจ้อยที่ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เขาจะไปหาความเรื่องเก่าอะไร
หากแต่ก่านหรูเยี่ยนก็รู้เรื่องนี้ดี จึงตัดสินใจทำเพื่อต้วนหลิงเทียน กำจัดคนเหล่านั้นแทนต้วนหลิงเทียน!
ในขณะเดียวกัน
เรื่องราวของอดีตผู้พิทักษ์ลัทธิบูชาไฟอย่างต้วนหลิงเทียน กลับกลายเป็นผู้สืบทอดนามหมอกพิรุณ ผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้ก็เริ่มแพร่กระจายออกไปดั่งมหาพายุ! พริบตาก็กวาดพัดไปทั่วภาคตะวันตก นับว่าสร้างความสะท้านสะเทือนให้ภาคตะวันตกครั้งใหญ่!!
“อดีตผู้พิทักษ์ลัทธิบูชาไฟ หรือศิษย์อัจริยะท้าทายสวรรค์อันดับ 1…ที่แท้เป็นถึงผู้สืบทอดหมอกพิรุณ ผู้นำของ 7 ทวาราเที่ยงแท้? ”
“เรื่องนี้เป็นความจริงแน่เหรอ?”
ไม่ว่าใครก็ตามในภาคตะวันตก แรกได้ยินข่าวดังกล่าวพวกมันก็ไม่เชื่อหูตัวเองทั้งนั้น
นั่นเพราะนี่เป็นเรื่องใหญ่เกินไป!
7 ทวาราเที่ยงแท้กับ 3 ลัทธิใหญ่เป็นศัตรูที่ต้องฆ่าล้างกันไปข้าง นี่ไม่ใช่ความลับอะไรในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า
แต่ทว่ามาตอนนี้กลับมีคนมาบอกพวกมันว่า…อดีตผู้พิทักษ์หลิงเทียนของลัทธิบูชาไฟ เป็นถึงผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 หมอกพิรุณ! ยังเป็นผู้นำของ 7 ทวาราเที่ยงแท้!!
นี่เป็นเรื่องที่พวกมันยากจะเชื่อได้ลงคอ!
“ข่าวที่ว่ามาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิบูชาไฟโดยตรง เช่นนั้นสมควรเป็นความจริงไม่ผิดแน่”
หากแต่มีหลายคนนักที่สามารถยืนยันเรื่องนี้ได้
ทันใดนั้นเหล่าคนที่สงสัย ก็ไม่คิดแคลงใจสืบไป “หากข่าวนี้มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จริง เช่นนั้นก็เป็นความจริงไม่ผิดแน่…”
“หากแต่ข้ายังรู้สึกว่ามันรน่าเหลือเชื่อนัก กระทั่งยังเหมือนฝันไปก็ว่า…อดีตผู้พิทักษ์หลิงเทียนน่ะเหรอ เป็นผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้?”
ข่าวดังกล่าวแน่นอนว่าทำใหทั้งภาคตะวันตกพากันตกตะลึงกันไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม ข่าวที่ทำให้พวกมันต้องตกตะลึงยิ่งกว่า กลับแพร่ตามออกมาทีหลัง
“ต้วนหลิงเทียน หลังเปิดเผยฐานะผู้สืบทอดหมอกพิรุณ ผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้แล้ว ก็ทำการประหารจ้าวลัทธิบูชาไฟ ถังซวน ต่อหน้าอาวุโสระดับสูงของลัทธิ! อีกทั้งเวลายังพึ่งผ่านไปไม่กี่ปี แต่พลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียนบรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะเป็นที่เรียบร้อย!?”
ข่าวที่ปรากฏออกมาระลอกที่ 2 นั้น เรียกว่าเสมือนแผ่ดินไหวครั้งใหญ่ถล่มภาคตะวันตกก็ไม่ปาน
“ท่านจ้าวลัทธิ…ถูกฆ่าตายแล้วจริงๆ?!”
“ท่านจ้าวลัทธิน่ะหรือตกตายด้วยน้ำมืออดีตผู้พิทักษ์หลิงเทียน…เรื่องแบบนี้มันเป็นไปได้ยังไงกัน?”
“ตอนนั้นผู้พิทักษ์หลิงเทียนก็พึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นอันดับ 1 ใต้เซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนเท่านั้น เพราะยังมิได้บรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 9เปลี่ยน…แต่ในเวลาแค่ไม่กี่ปี ไม่เพียงทะลวงถึงเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน กระทั่งยังกลายเป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะไปแล้ว? แถมยังร้ายกาจถึงขั้นฆ่าท่านจ้าวลัทธิได้!?”
“เรื่องนี้ใช่ล้อกันเล่นหรือไม่?”
“คนที่ไม่แม้แต่จะทะลวงถึงเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนเมื่อ 4 ปีก่อน…แต่ 4 ปีต่อมากลับกลายเป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะ? ไม่น่าเชื่อ!!”
ตอนแรกที่ผู้คนในภาคตะวันตกได้ยินเรื่องต้วนหลิงเทียนบรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะและฆ่าถังซวนจ้าวลัทธิบูชาไฟไปแล้ว พวกมันทั้งหลายไม่มีใครเชื่อข่าวนี้เลย
หากแต่ให้พวกมันไม่เชื่อแล้วจะทำอะไรได้ เพราะพวกมันไม่อาจเปลี่ยนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น…
ความจริงก็คือความจริง เป็นสิ่งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง!
“หรือว่า เป็นต้วนหลิงเทียนคนนั้นได้ปกปิดพลังฝีมือของตัวเองเอาไว้ตั้งแต่แรก…ด้วยมีฐานะผู้สืบทอดหมอกพิรุณ จึงงำประกายปกปิดพลังไว้อย่างแยบคายเพื่อลอบแฝงตัวเข้าลัทธิบูชาไฟ?”
“คงได้แต่อธิบายแบบนั้นทางเดียว…เพราะในเวลาเพียง 4 ปี จะให้ผู้ที่เป็นแค่เซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนกลายเป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!!”
“ข้าไม่คิดเลยว่าในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีชนชั้นผู้นำของทั้ง 3 ลัทธิใหญ่ กลับต้องจบชีวิตลงด้วยน้ำมือคนของ 7 ทวาราเที่ยงแท้หมดสิ้น…หรือ 7 ทวาราเที่ยงแท้คิดจะต่อต้านสวรรค์กัน?”
เหล่าคนในภาคตะวันตกบังเกิดความรู้สึกหน่วงหนักยากอธิบายนัก
หลายคนยังอดย้อนคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาไม่ได้ นึกถึงชนชั้นผู้นำของลัทธิชะตาฟ้าและลัทธิอารามทมิฬที่ตกตายเพราะน้ำมือของ 7 ทวาราเที่ยงแท้…จ้าวอารามของลัทธิอารามทมิฬ ก็ถูกผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 7 ธุลีแดง ของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ลวงไปฆ่าจนตาย
ผู้นำของลัทธิชะตาฟ้า ก็ถูกผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 2 ความลับสวรรค์ที่ความเป็นมายังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้ฆ่าตายด้วยคำสาปอันน่าสะพรึงกลัว
และมาตอนนี้ผู้นำของลัทธิบูชาไฟ ก็มาถูกผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 หมอกพิรุณฆ่า!
“ฟ้าของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋ากำลังจักเปลี่ยนสีแล้ว…”
หลังจากที่ข่าวดังกล่าวแพร่ออกไป ไม่เพียงแต่คนของภาคตะวันตกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนของภูมิภาคเบื้องบนทั้งหลายที่อดไมได้ที่จะบังเกิดความคิดเช่นนี้ออกมา
ยิ่งเวลาผ่านไปข่าวดังกล่าวก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วภูมิภาคเบื้องบน และปฏิกิริยาตอบสนองของผู้คนก็ล้วนเป็นดุจเดียวกันกับคนของภาคตะวันตกไม่ผิดเพี้ยน
“อดีตผู้พิทักษ์หลิงเทียน เป็นผู้สืบทอดนามหมอกพิรุณ ผู้นำของ 7 ทวาราเที่ยงแท้?”
“หลังผ่านไปไม่กี่ปี ยามปรากฏตัวอีกครั้ง ไม่เพียงแต่จะเปิดเผยพลังฝึกปรือครึ่งก้าวเซียนอมตะออกมา ยังสังหารได้กระทั่งจ้าวลัทธิบูชาไฟถังซวนคนนั้น! นั่นเท่ากับชนชั้นผู้นำของ 3 ลัทธิล้วนตกตายด้วยน้ำมือคนของ 7 ทวาราเที่ยงแท้หมดสิ้น!”
“หากทว่าหลังต้วนหลิงเทียนฆ่าถังซวนจนทำให้ลัทธิบูชาไฟตกอยู่ในวิกฤตการณ์ถึงขั้นล่มสลาย กลับเป็น 4 ผู้พิทักษ์ที่เลือกจะแต่งตั้งศิษย์ของผู้พิทักษ์ชิงหั่ว ‘ก่านหรูเยี่ยน’ พี่สาวภรรยาของต้วนหลิงเทียนให้ขึ้นดำรงตำแหน่งจ้าวลัทธิคนใหม่…ทำให้ลัทธิบูชาไฟรอดพ้นหายนะมาได้!”
“ลัทธิบูชาไฟยังออกประกาศให้ทั้งแดนดินรับทราบ ว่าจากนี้เป็นต้นไปจะไม่ตั้งตัวเป็นศัตรูของ 7 ทวาราเที่ยงแท้อีกต่อไป…!”
……
ทันทีที่ข่าวดังกล่าวแพร่ไปทั่วภูมิภาคเบื้องบน ก็ไม่แปลกใจเลยที่มันจะสร้างความตื่นตระหนกครั้งใหญ่ให้ผู้คน
“มารดามัน! ไอ้พวกลัทธิบูชาไฟนั่น…ช่างไร้ศักดิ์ศรีสิ้นดี!!”
ในเขตที่พักระดับสูงของลัทธิอารามทมิฬ เมื่ออาวุโสสูงสุดอย่างหล่างเชียนจินได้รับรู้ข่าวนี้ สีหน้ามันก็มืดดำคล้ำลงปานจะคั้นได้เป็นน้ำหมึก!
“ลัทธิบูชาไฟ…ดี…ดี…ดีมาก!!”
ในเขตที่พักระดับสูงของลัทธิชะตาฟ้า มหาปุโรหิตอย่าง โม่เชวียน* สีหน้าก็มืดดำทั้งยังอัปลักษณ์ปั้นยากนัก ยังรำพันออกด้วยน้ำเสียงเยียบเย็นกับตัวฟังดูน่ากลัวคล้ายผุดแทรกขึ้นมาจากหล่มน้ำแข็ง
(ตอน 2358 พิมพ์ชื่อมันไปว่า ม่อซวน แต่ตอนก่อนๆ จะเป็นโม่เชวียน…ถ้าเจอสองชื่อนี้คือคนๆเดียวกัน)
“จะ…เจ้าต้วนมัน…มันเป็นผู้สืบทอดหมอกพิรุณ ผู้นำของ 7 ทวาราเที่ยงแท้เราจริงๆ?”
ที่ไหนสักแห่งในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า ปรากฏร่างฝาแฝดชายคู่หนึ่งที่ได้แต่หันหน้ามองสบตากันเองด้วยความตะลึงหลังจากได้รับทราบข่าวใหญ่ที่พึ่งแพร่ออกมาทั่วแดนดิน
แฝดทั้ง 2 ก็ไม่ใช่ใครอื่น พวกมันคือผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 6 คนคู่ หนานกงเฉิน และหนานกงยี่
“ไม่คิดเลย…ไม่คิดเลยจริงๆ!!”
หลังจากนั้นไม่นาน หนานกงยี่ที่รู้สึกตัวก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
แม้หนานกงเฉินจะไม่ได้พูดอะไร แต่ความตกใจที่ฉายออกบนใบหน้าก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าหนานกงยี่แม้แต่นิดเดียว
“นะ…น้องหลิงเทียน เป็นผู้สืบทอดหมอกพิรุณ!? ผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้ของพวกเรา!?”
หลังได้รับทราบข่าวจากโลกภายนอก กู่ลี่เองก็ถึงกับตะลึงตาตั้ง เนิ่นนานกว่าที่มันจะฟื้นตัวกลับมา
หลังจากที่ดึงสติกลับเข้าร่างได้แล้วกู่ลี่ก็อดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ยังรู้สึกว่าโลกใบนี้มันช่างแคบ…แคบยิ่งนัก!
“นายนอย…ในที่สุดก็รู้ฐานะตัวเองแล้วหรือ?”
เยว่อู๋หยิ่ง ผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 4 เงาทมิฬ พอได้ทราบข่าวเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนคือผู้สืบทอดหมอกพิรุณก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวรำพันออกมากับตัวเบาๆ
“อะไรกัน! ผู้สืบทอดหมอกพิรุณคือพี่ใหญ่หลิงเทียนเหรอ!? เป็นไปได้ยังไง!?”
หานเฉวี่ยไน่ถึงกับอึ้งค้างไปอยู่นานเมื่อได้รับทราบข่าวนี้ ยังยกมือขยี้ตาอยู่หลายรอบเพื่อให้แน่ใจว่าอ่านรายงานข่าวที่ส่งมาไม่ผิด!
เพราะนางไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่าผู้สืบทอดหมอกพิรุณ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดและยังเป็นผู้นำของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ จะกลับกลายเป็นพี่ใหญ่หลิงเทียนของนางไปซะได้!
“บ้าจริง! ข้ายังเคยยกผู้สืบทอดหมอกพิรุณมาเทียบกับพี่ใหญ่หลิงเทียนอยู่เลย…แต่ไม่คิดเลยจริงๆว่าพี่ใหญ่หลิงเทียนกับผู้สืบทอดหมอกพิรุณจะเป็นคนๆเดียวกันไปได้!!”
ตอนนี้หานเฉวี่ยไน่อดไม่ได้ที่จะเผยยิ้มเหยเก
หลังจากยิ้มแห้งๆไปพักหนึ่ง สองตาหานเฉวี่ยไน่ก็ลุกวาวฉายชัดถึงความตื่นเต้น “ในเมื่อผู้สืบทอดหมอกพิรุณคือพี่ใหญ่หลิงเทียน…งั้นวันหน้าข้าก็ท้าสู้พี่ใหญ่หลิงเทียนได้แล้วสิ!?”
“โอย…แต่ตอนนี้ต้องรีบกลับไปฝึกจริงจังแล้ว…พี่ใหญ่หลิงเทียนกลับทะลวงถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะเข้าไปแล้ว แต่ตอนนี้ข้ายังย่ำต๊อกอยู่ที่เซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนอยู่เลย…”
คิดถึงจุดนี้ทีท่าคึกคักของหานเฉวี่ยไน่ก็สลดลงเล็กน้อย หากแต่ไม่นานก็กลับมาฮึกเหิมและคิดว่าหลังจากนี้จะเริ่มตั้งหน้าตั้งตาบ่มเพาะพลังอย่างเอาจริงเอาจัง
“พี่ใหญ่ต้วน…”
ณ ยอดเขาสูงชันให้บรรยากาศสันโดษ ปรากฏร่างสตรีในชุดแดงเพลิงยืนมองขอบฟ้าไกลตาทิศทางหนึ่งอย่างเหม่อลอย ไม่นานร่างบางก็โจนทะยานขึ้นฟ้าตัดอากาศไปปานเทพธิดาอัคคี…
สตรีนางนี้ก็คือเฟิ่งเทียนหวู่นั่นเอง
ยังเป็นผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 5 หงส์ฟ้าจรัสแสง
ต่างจากผู้สืบทอด 7 ทวาราเที่ยงแท้คนอื่นๆ เฟิ่งเทียนหวู่เองก็ได้รู้มานานแล้วว่าผู้สืบทอดหมอกพิรุณก็คือพี่ใหญ่ต้วนของนาง…
หากแต่เพราะผู้เฒ่าพยากรณ์กำชับไว้ว่าไม่ให้นางบอกเรื่องนี้กับใคร นางก็เลยไม่ได้บอกคนอื่นๆ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานางได้ไปเยือนภาคตะวันตกหลายครั้ง ถึงขั้นกระทั่งปลอมตัวเป็นศิษย์ของลัทธิบูชาไฟ เพื่อเข้าไปสืบเรื่องราวในลัทธิบูชาไฟ แต่นางกลับหาต้วนหลิงเทียนไม่เจอ…
กระทั่งไม่อาจได้ยินข่าวคราวใดๆของต้วนหลิงเทียนได้เลย…
ราวกับพี่ใหญ่ต้วนของนางอยู่ดีๆ ก็อันตรธานหายไปในอากาศ!
ด้วยเหตุนี้นางจึงเป็นห่วงความปลอดภัยพี่ใหญ่ต้วนของนางอยู่ตลอดเวลา…