War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 2384
ตอนที่ 2,384 : ชื่อเสียงขจรขจาย
“ต้วนหลิงเทียน…หากเจ้าไม่ตายข้าไม่ขออยู่เป็นผู้คน! หากเจ้าไม่ตายข้าไม่ขออยู่เป็นผู้คน!!”
ถึงแม้ตี้เฉินจะคำรามออกมาด้วยโทสะหลังออกจากลัทธิบูชาไฟได้สักพัก แต่เสียงที่ดังกระหึ่มของมันก็ทำให้คนในลัทธิบูชาไฟไม่เว้นต้วนหลิงเทียนได้ยินชัดเจนดี
“ตี้เฉินผู้นั้น…เกรงว่าจากไปครานี้คงไม่คิดเลิกราง่ายๆแน่!”
“ข้าเพียงหวังว่ามันจักมิเอาความแค้นมาลงกับลัทธิบูชาไฟเรา…หาไม่แล้วลัทธิบูชาไฟเรามิอาจรองรับโทสะมันได้เลย!”
…
ระดับสูงของลัทธิบูชาไฟหลายคนได้แต่กระซิบกระซาบกันด้วยสีหน้าหวาดกลัว พวกมันทำหน้าราวกับลัทธิบูชาไฟกำลังจะถึงกาลอวสาน!
ยังมีระดับสูงของลัทธิบูชาไฟบางคนหันมองไปทางต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาคาดโทษ อนิจจาพวกมันไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว…
ในสายตาของพวกมัน
หากไม่ใช่เพราะต้วนหลิงเทียนบีบคั้นให้ตี้เฉินคุกเข่าโขกหัวแบบนั้น อีกฝ่ายคงไม่อาฆาตแค้นจนทำให้ลัทธิบูชาไฟของพวกมันต้องตกอยู่ในอันตรายไปด้วย…
ทว่าดูเหมือนพวกมันจะลืมเลือนไปหมดสิ้นแล้ว
เรื่องคุกเข่าโขกหัวขอขมานั้น เป็นตี้เฉินมันเสนอออกมาเอง มันคิดหยามหมิ่นเกียรติของต้วนหลิงเทียน ต้วนหลิงเทียนก็เพียงให้มันได้กินยาตำหรับเดียวกันเท่านั้น!
ด้านก่านหรูเยี่ยนกับเฉินอี้หรูก็ได้แต่มองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเปี่ยมกังวล
คนอื่นอาจมองว่าพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนนั้นอาจไม่ได้ทัดเทียมแค่เซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์เท่านั้น เพราะตอนตี้เฉินยกตัวตนของบิดาที่เป็นเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์มาข่มขู่ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้แลดูหวั่นเกรงเลย!!
หาไม่แล้วไฉนต้วนหลิงเทียนถึงไม่สนใจภัยคุกคามจากเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์?!
ทว่าก่านหรูเยี่ยนกับตี้เฉินนั้นทราบดี
พลังความแข็งแกร่งที่ต้วนหลิงเทียนพึ่งเผยออกมา…นั่นเป็นทั้งหมดแล้ว! และก็เทียบได้แค่เซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์เท่านั้น! หากต้องเผชิญหน้ากับเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ขึ้นมาจริงๆ แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนย่อมไม่ใช่คู่มือ!
ด้วยเหตุนี้ทั้งคู่จึงอดกังวลเรื่องต้วนหลิงเทียนไม่ได้
“ข้าจะรอเจ้า!”
ในขณะที่ทุกสายตาหันไปมองร่างต้วนหลิงเทียน สีหน้าต้วนหลิงเทียนยังคงสงบเฉยเมย เพียงปริปากกล่าวคำออกมา 4 พยางค์เท่านั้น
4 พยางค์ที่กล่าวออก ก็ไม่ได้เสียงดังอะไรมากมาย
อย่างไรก็ตามมันแฝงเร้นไว้ด้วยพลังขุมหนึ่ง ทำให้เสียงกล่าวครั้งนี้ของต้วนหลิงเทียนมันแพร่ไปเหนือกว่าความเร็วเสียงทั่วไป กระทั่งไปถึงงหูตี้เฉินที่มุ่งหน้าไปสู่ทิศตะวันออกชัดเจน หาลให้มีโทสะมากยิ่งขึ้น!
‘ต้วนหลิงเทียนข้าจะให้เจ้าตาย! ข้าจะให้เจ้าตาย!!’
ตี้เฉินยังคงคำรามในใจอย่างเกรี้ยวกราด
ไม่ทันรู้ตัว การฆ่าต้วนหลิงเทียนกลับกลายเป็นเรื่องที่ตี้เฉินยึดติด ไม่ต่างอะไรจากมารในใจไปเสียแล้ว…
และมารในใจนี้ นับเป็นสิ่งต้องห้ามอันร้ายแรงสำหรับเซียนอมตะเสเพลที่ต้องเผชิญหน้ากับหายนะทัณฑ์สวรรค์อย่างไม่ต้องสงสัยเลย!
ถึงแม้ตี้เฉินเองก็รู้เรื่องนี้ดีแก่ใจ แต่มันก็อดไม่ได้จริงๆ เพราะความอัปยศอดสูที่มันได้รับมาวันนี้เป็นอะไรที่มันไม่อาจทานทนรับไหว!!
นับเป็นครั้งแรกในชีวิตที่มันคุกเข่าโขกหัวให้ใครแบบนี้
และก็ไม่ใช่เรื่องยากที่มันจะเดาได้ว่า…
คงใช้เวลาไม่นาน ข่าวเรื่องที่มันคุกเข่าโขกหัวให้ต้วนหลิงเทียนที่ลัทธิบูชาไฟต้องแพร่กระจายออกไปทั้งแดนดินอย่างที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แน่นอน
ถึงตอนนั้นมันไม่พ้นต้องกลายเป็นตัวตลกในหัวข้อสนทนาของทุกคน!
ซู่มมม!!
หลังตี้เฉินเหินร่างจากไปแล้ว เซียนอมตะเสเพล 3ทัณฑ์ก็จากไปเช่นกัน ก่อนไปมันก็อดหันมองไปทางต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาหวาดกลัวไม่ได้ จนเมื่อพบว่าต้วนหลิงเทียนไม่คิดจะไล่ตามมาสังหารมันก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที
สำหรับการจากไปของเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์ข้ารับใช้ตี้เฉินนั้น ต้วนหลิงเทียนเพียงมองอีกฝ่ายจากไปอย่างไม่แยแสเท่านั้น
เขาไม่คิดจะหยุดตี้เฉิย ด้วยเหตุนี้นับประสาอะไรกับลิ่วล้อไร้ราคา
จากนั้นเหล่าระดับสูงของลัทธิบูชาไฟก็แยกย้ายกันจากไป คงเหลือเพียงต้วนหลิงเทียน เฉินอี้หรู และก่านหรูเยี่ยนเท่านั้นที่ยังรั้งอยู่ในจุดเกิดเหตุ
กระทั่งชายวัยกลางคนร่างกำยำที่ติดตามรับใช้ข้างกายก่านหรูเยี่ยน ก็ยังถอยห่างออกไปไม่กล้ารบกวนทั้ง 3
“เจ้าไม่ควรทำแบบนั้นเลย…เจ้าไปบีบคั้นให้ตี้เฉินมันอับอายขนาดนี้ บิดามันยังจะปล่อยเจ้าไปได้หรือ?”
ก่านหรูเยี่ยนถอนหายใจ
“เป็นมันแส่หาความอัปยศเอง!”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “หากมันไม่คิดยัดเยียดความอัปยศนั่นให้ข้า ตอนแรกข้าก็ไม่คิดจะสนใจอะไรมันนัก…แต่ในเมื่อมันเลือกที่จะทำแบบนั้น ข้าก็แค่ให้มันรับผิดชอบคำพูดและชดใช้การกระทำของมันแค่นั้น!”
ขณะกล่าวในแววตาต้วนหลิงเทียนก็เผยประกายตาเยียบเย็น
คนอื่นไม่ทำให้เขาขุ่นเคือง เขาก็ไม่คิดทำให้คนอื่นขุ่นขึ้ง
แต่หากใครร้ายมา เขาย่อมร้ายตอบ!
นี่เป็นนิสัยของต้วนหลิงเทียน!
“แต่บิดามันเป็นถึงเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์!”
ก่านหรูเยี่ยนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงกังวล
“แล้วไง”
สายตาต้วนหลิงเทียนยิ่งมายิ่งเย็นชา “หรือเพราะแค่บิดามันเป็นเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ แล้วข้าต้องก้มหน้ายอมรับความอัปยศอดสูที่มันยัดเยียดมาให้? มันก็แค่เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์เท่านั้น ยังไม่มีคุณสมบัติมากพอให้ข้าต้วนหลิงเทียนต้องก้มหัวให้!”
“เจ้า…หรือพลังเจ้าตอนนี้…ทัดเทียมกับเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์แล้วเหรอ?”
ก่านหรูเยี่ยนเบิกตาโพลง
เฉินอี้หรูเองก็หันขัวบไปจับจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาตื่นๆ
“ยังไม่”
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา ก่อนที่สองตาจะทอประกายเรืองวูบกล่าวสืบต่อว่า “แต่ก็อีกไม่นานนักหรอก…”
ถึงแม้ก่านหรูเยี่ยนกับเฉินอี้หรูจะติดใจคำพูดนี้ของต้วนหลิงเทียนและสงสัยไม่น้อยวว่าต้วนหลิงเทียนหมายความว่าอย่างไรกันแน่ แต่ในเมื่อต้วนหลิงเทียนไม่มีทีท่าว่าจะอธิบายให้ฟัง ทั้งคู่ก็ทำอะไรไม่ได้
“กลับกัน เป็นเจ้าต่างหากที่จะซวย”
ตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนหันมองไปทาก่านหรูเยี่ยน ค่อยกล่าวออกด้วยสีหน้าท่าทีจริงจัง “เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างเผ่ามังกรกับลัทธิบูชาไฟ ตี้เฉินแน่นอนว่าไม่อาจทำอะไรลัทธิบูชาไฟได้…แต่กับผู้นำอย่างเจ้า…มันทำได้แน่นอน!”
“เพราะแค่เรื่องสังหารหรือเปลี่ยนตัวจ้าวลัทธิ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตที่กระทบถึงรากฐานลัทธิ…”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวถึงจุดนี้ สีหน้าก็เคร่งขึ้นไม่น้อย “หลังจากนี้เจ้าอย่าอยู่ที่ลัทธิบูชาไฟ…จะดีกว่า”
“ไม่ให้ข้าอยู่ที่ลัทธิบูชาไฟ…แล้วจะให้ข้าไปไหนได้…”
ได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน ใจก่านหรูเยี่ยนก็สะท้านไป สักพักก็ได้แต่คลี่ยิ้มขื่นขมออกมา “และหากข้าออกไป ข้าก็ต้องพาท่านอาจารย์ไปด้วย…ตี้เฉินมันรู้ความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับอาจารย์ดี หากมันคิดเล่นงานข้าแต่มาแล้วไม่เจอ ไม่พ้นมันต้องเอาไปลงกับท่านอาจารย์แน่…”
“งั้นเจ้ากับอาจารย์ก็ตามข้ากลับไปภาคเหนือเถอะ…เค่อเอ๋อกับซือหลิงเองก็คิดถึงเจ้าไม่น้อย”
ต้วนหลิงเทียนเสนอ
ขามายังลัทธิบูชาไฟ ต้วนหลิงเทียนมากันกับเฉินอี้หรูแค่ 2 คน
ทว่าขากลับนั้น มีทั้งสิ้น 5 คน
นอกจากก่านหรูเยี่ยนที่เพิ่มมาแล้ว ก็มีผู้พิทักษ์ชิงหั่ว และชายวัยกลางคนร่างกำยำที่เป็นอดีตผู้ติดตามเฉินอี้หรู ที่บัดนี้ได้กลายเป็นผู้ติดตามของก่านหรูเยี่ยนไปแล้ว…
ส่วนชายวัยกลางคนร่างผอมสูงปานลำไผ่นั้น ได้ถูกคนของเผ่ามังกรป่นร่างเป็นละอองเลือดไปแล้ว…
หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนพาทุกคนย้อนกลับมาถึงฐานที่มั่นชั่วคราวของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ ภาคตะวันตกก็ยากที่จะสงบลงได้
“ต้วนหลิงเทียนได้ย้อนกลับไปยังลัทธิบูชาไฟ และสยบตี้เฉินมังกรเทพยดาสีทอง 7 กรงเล็บที่ด่านพลังมีถึงเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ได้อย่างราบคาบ! ยังถึงกับทำให้ตี้เฉินนั่นต้องคุกเข่าโขกหัวขอความเมตตา!!”
“ความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนอย่างน้อยๆก็ต้องเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์…เผลอๆอาจจะร้ายกาจกว่านั้นด้วยซ้ำ!”
“สมแล้วที่เป็นผู้สืบทอดนามหมอกพิรุณ ผู้นำแห่ง 7ทวาราเที่ยงแท้…ยุคก่อนอาวุโสเซียนกระบี่ฟงชิงหยางร้ายกาจอย่างไร ยุคนี้ผู้สืบทอดอย่างต้วนหลิงเทียนก็ร้ายกาจเช่นนั้น!!”
…
หลังจากที่ข่าวดังกล่าวเริ่มแพร่ไปทั่วภาคตะวันตก ก็ทำให้อารมณ์ความรู้สึกของผู้คนเสมือนถูกเขย่าอย่างแรง!
หลังจากนั้นไม่ใช่แค่ในภาคตะวันตกเท่านั้น ข่าวเรื่องนี้ได้เริ่มแพร่กระจายออกไปทุกทั่วหัวระแหงของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าภูมิภาคเบื้องบน
กระทั่งรอบนี้ยังใช้เวลาไม่ถึงครึ่งเดือนด้วยซ้ำ ก็ล่วงรู้ไปทั้งภูมิภาคเบื้องบนแล้ว!
สาเหตุที่ไฉนข่าวเรื่องนี้ถึงได้แพร่ไปไวนัก เพราะมันเกี่ยวข้องกับความอัปยศของเซียนอมตะเสเพลเผ่ามังกร!
ดังนั้นแล้วเซียนอมตะเสเพลพเนจรทั้งหลาย จึงช่วยกันกระจายข่าวออกไปอย่างสะใจ ทำให้ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งเดือนก็รู้กันไปทั่วภูมิภาคเบื้องบน!
“ให้ตายเถอะ…ชื่อเสียงของผู้สืบทอดหมอกพิรุณรุ่นนี้กำลังจะทะยานฟ้าในคราเดียวแล้วจริงๆ!”
“แต่ข้าล่ะไม่อยากจะเชื่อจริงๆว่าในเผ่ามังกรกลับมีเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ดำรงอยู่…ต้องรู้ด้วยว่าลำพังแค่เซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์ก็ร้ายกาจกว่าครึ่งก้าวเซียนอมตะแล้ว เช่นนั้นเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์มันทรงพลังขนาดไหนกัน?”
“เซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์จะทรงพลังขนาดไหนมันก็เท่านั้น สุดท้ายก็มิใช่ต้องคุกเข่าโขกหัวเพื่อร้องขอชีวิตต่อหน้าต้วนหลิงเทียนหรือไร?”
“ฮัยยา ต้วนหลิงเทียนผู้นั้นช่างทำให้ผู้คนหวาดกลัวแทบตายแล้ว! ครั้งสุดท้ายก็ฆ่าเซียนอมตะเสเพล 4ทัณฑ์ที่เป็นบรรพบุรุษของลัทธิบูชาไฟได้ง่ายๆ ครานี้ยังปราบเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ของเผ่ามังกรได้ราบคาบถึงขั้นต้องคุกเข่าโขกหัวร้องขอชีวิต!!”
…
วาจาทำนองเดียวกันนี้ดังขึ้นแทบจะทุกมุมของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าภูมิภาคเบื้องบน
“ที่ถูกต้วนหลิงเทียนบีบคั้นให้คุกเข่าโขกหัวร้องขอชีวิตนั่น…ใช่เรียกว่าตี้เฉินจริงๆหรือ?”
“เท่าที่ข้ารู้มา แซ่ตี้ มิใช่ว่าได้รับการยกเว้นไว้เป็นพิเศษ เพื่อให้เผ่ามังกรเทพยดาสีทองใช้หรือไร?”
“ข้าได้ยินว่ายามตี้เฉินอะไรนั่นสู้กับต้วนหลิงเทียน มันก็ได้คืนร่างที่แท้จริงเช่นกัน และร่างที่แท้จริงของมันก็คือมังกรเทพยดาสีทอง 7 กรงเล็บ”
…
ไม่นานความสนใจของหลายๆคนก็เริ่มมุ่งเป้าไปที่ความเป็นมาของตี้เฉิน
ในบรรดาเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายของภูมิภาคเบื้องบน นับว่าตอนนี้ยากจะมีใครสงบอยู่ได้แล้วจริงๆ
“ผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้อย่างต้วนหลิงเทียน ถึงกับบีบคั้นให้ตี้เฉินนั่นมันคุกเข่าโขกหัวได้จริงๆ?”
“สัตว์ประหลาด! นี่มันสัตว์ประหลาดชัดๆ!!”
“สมควรใช้คำสัตว์ประหลาดจริงๆ ต้วนหลิงเทียนผู้นี้อย่างไรก็ยังอายุไม่ถึงร้อยปีด้วยซ้ำ…ยังไม่ถึงร้อยปี! ทว่าพลังฝีมือกลับเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์แล้ว! นี่หากให้เวลามันอีก 2-3 ปีในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋ายังจะมีผู้ใดสู้มันได้บ้าง?”
“แค่ในตอนนี้ข้าว่าก็หาคนจัดการต้วนหลิงเทียนได้ยากแล้วล่ะ…เพราะมิมีใครกล้ายืนยันได้เต็มปากว่าพลังฝีมือต้วนหลิงเทียนเป็นเพียงเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์จริงๆ”
“นั่นสิ ครั้งสุดท้ายที่มันฆ่าหลี่ปิง พวกเราก็หลงคิดว่ามันมีพลังเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์…คราวนี้หลังผ่านไปแค่เดือนกว่ามันกลับเผยพลังทัดเทียมเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์ออกมา…บางทีพลังที่แท้จริงของมันอาจร้ายกาจกว่านั้นมาก!!”
“ต้วนหลิงเทียนคนนี้ ลงมือคราใดพาลให้ผู้คนตกตะลึงได้อยู่ร่ำไป! บัดนี้ยังมิมีผู้ใดล่วงรู้ว่าก้นบึ้งของมันลึกเพียงใด!!”
“อย่างไรเสียมันก็คือผู้สืบทอดเซียนกระบี่ฟงชิงหยาง…อย่าได้ลืมไปว่าในปีนั้นเซียนกระบี่ฟงชิงหยางฆ่าได้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์”
“ต้วนหลิงเทียนสามารถเป็นผู้สืบทอดตัวตนเช่นนั้นได้…ถึงแม้จะร้ายกาจสู้ไม่ได้ แต่ก็คงไม่อ่อนด้อยไปกว่ากันมากนัก…ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ พวกเรามิอาจไปตอแยยั่วยุได้เด็ดขาด!!”
…
ต้วนหลิงเทียนไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตอนนี้บรรดาเซียนอมตะเสเพลทั้งแดนดิน เห็นเขาเป็นดั่งพยัคฆ์หนุ่มอันร้ายกาจ ไม่เพียงครั่นคร้ามยังอิจฉาเขาไม่น้อย…
ณ ภาคตะวันออก มหาภูผาสิบหมื่นที่ตั้งเผ่ามังกร
“เซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์? เผ่ามังกรของพวกเรามีเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์อยู่ด้วยหรือ?!”
“ตี้เฉิน…นี่มิใช่นามของผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่ามังกรพวกเราเมื่อ 6,000 ปีที่แล้วหรือไร…ท่านยังมีชีวิตอยู่อีกหรือ? แถมยังกลายเป็นเซียนอมตะเสเพลอีกด้วย!?!”
…