War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 2390
ตอนที่ 2,390 : เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ ติงอี่เจียน!
“ขอรับนายท่าน!”
ได้ยินคำถามของต้วนหลิงเทียน เฉินอี้หรูย่อมไม่กล้าละเลย เร่งขานรับออกมาทันที
“มันเป็นใครกัน?”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกมา สองตายังทอแสงเยียบเย็นนัก
“มันเรียกว่า ติงอี่เจียน เป็นเหมือนกับข้า…เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์!”
เฉินอี้หรูกล่าวว่า “สารเลวนี่มิต่างอันใดจากโจรเด็ดบุปผามากราคะ ขอเพียงพบเห็นสตรีดีงามที่ใดจำต้องฉุดคร่ามาย่ำยีอยู่ร่ำไป…เมื่อ 30 ปีก่อนข้าทนเห็นมันก่อเรื่องชั่วต่อหน้าต่อตาไม่ได้จึงยื่นมือเข้าขวาง แต่พวกเราก็มิอาจหาตัวผู้แพ้ผู้ชนะได้ เพราะพลังฝีมือมันกับข้าใกล้เคียงกันมาก…”
“ที่แท้มันเป็นเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์นี่เอง…”
พอได้ยินคำของเฉินอี้หรู มู่อีอีกก็ตระหนักเรื่องราวได้ทันที “มิน่าแปลกใจเลยที่ข้ามิอาจใช้วิชาทำนายค้นหาเบาะแสมันได้…”
ในที่สุดมู่อีอีก็ตระหนักแล้วว่าไฉนไม่เพียงแต่วิชาทำนายนางจะไม่ได้ผล กระทั่งใช้เครือข่ายธุลีแดงยังมืดแปดด้าน ไม่อาจหาเบาะแสผู้ที่ฆ่าชิวมู่ชิงได้เลย…
ที่แท้อีกฝ่ายเป็นถึงเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์!
เป็นธรรมดาว่าเมื่อพลังด้อยกว่าก็ยากจะทำนายทายทักอีกฝ่าย และก็ไม่น่าแปลกใจที่ไฉนเครือข่ายของธุลีแดงที่กระจายอยู่ทั่วแดนดินจะหาไม่เจอ เพราะเส้นสายของเครือข่ายธุลีแดงยื่นไปไม่ถึงแวดวงเซียนอมะเสเพล…
“เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์?”
สองตาต้วนหลิงเทีนยิ่งมายิ่งเย็นลง “แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าปกติมันอยู่ที่ไหน?”
“หากคำนวณจากเวลา…กว่าที่หายนะทัณฑ์เซียนอมตะเสเพลรอบต่อไปของมันจะมาถึง ก็สมควรเหลือเวลาอีกราวๆ 100 กว่าปี ช่วงนี้หากมิเกิดเหตุผิดพลาดอันใด มันสมควรอยู่ในสถานที่บ่มเพาะของตัวเอง เพื่อเตรียมตัวเฝ้ารอหายนะรอบต่อไปที่จักฟาดลง…”
เฉินอี้หรูกล่าว “และสถานที่บ่มเพาะของมันก็บังเอิญตั้งอยู่ในภาคเหนือแห่งนี้อีกด้วย…”
“พาข้าไป!”
สองตาต้วนหลิงเทียนทอประกายเยียบเย็นอำมหิต
แต่ต้นจนจบต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้แปลกใจอะไรเรื่องที่เฉินอี้หรูบอกว่าสถานที่บ่มเพาะของติงอี่เจียนอยู่ในภาคเหนือ เพราะเขารู้มาว่าปกติแล้วเซียนอมตะเสเพลไร้สังกัด ก็ชมชอบมาอาศัยอยู่กันในภาคเหนือ เพราะสถานที่แห่งนี้มันเปลี่ยวร้าง ไม่ค่อยมีผู้คนแวะเวียนสัญจร ดั่งจะตัดขาดจากโลกหล้า…
กระทั่งเนี่ยหวู่เทียน ยอดฝีมืออันดับ 1 ในรายนามยอดเซียน ก็อาศัยอยู่อย่างสันโดษในภาคเหนือก่อนที่จะขึ้นสู่ระนาบเทวโลก…
“ขอรับนายท่าน”
เฉินอี้หรูขานรับด้วยเคารพ
ขณะเดียวกันต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองกล่าวกับผู้เฒ่าพยากรณ์ “อาจารย์ลุงพยากรณ์ ข้าคิดเข้าแดนลับเซียนกระบี่ที่ว่าหลังล้างแค้นให้สหายข้า!”
เขากับผู้เฒ่าพยากรณ์ได้นัดกันไว้แล้ว…
ว่าตราบใดที่ศิษย์ส่วนตัวของผู้เฒ่าพยากรณ์หรือผู้สืบทอดความลับสวรรค์ มู่อีอี กลับมาถึง ต้วนหลิงเทียนจะเปิดทางเข้าสู่แดนลับเซียนกระบี่ทันที…
ทว่าตอนนี้ดูเหมือนการเข้าสู่แดนลับเซียนกระบี่จำต้องล่าช้าออกไปเล็กน้อย
“ไปเถอะ…”
ผู้เฒ่าพยากรณ์ย่อมเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของต้วนหลิงเทียนดี จึงพยักหน้าเห็นด้วย
หลังจากนั้นต้วนหลิงเทียนก็หันไปบอกกล่าวเค่อเอ๋อกับเฟิ่งเทียนหวู่และคนอื่นๆ ก่อนที่จะออกจากยอดเขาไปพร้อมเฉินอี้หรู และมุ่งหน้าไปยังธารน้ำแข็งที่ตั้งอยู่ในภาคเหนือตอนบน
ภาคเหนือนั้น ปกติแล้วก็มีหิมะตลอดทั้งปี
และทางตอนบนของภาคเหนือนั้น ประหนึ่งโลกน้ำแข็งก็ไม่ปาน ธารน้ำที่จับตัวแข็งเป็นแพหนาใสกระจ่างปานผลึกแก้วบางจุดก็ถูกหิมะขาวทับทมกันนานจนกลายเป็นโลกหิมะน้ำแข็งอย่างสมบูรณ์…
“คนเยอะไม่เบา…”
ภายใต้การนำทางของเฉินอี้หรู ต้วนหลิงเทียนที่มาถึงภาคเหนือตอนบนก็พบเจอผู้คนไม่น้อย
อย่างไรก็ตามที่เขาเห็นนั้นล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่อยู่ในขอบเขตเซียนสวรรค์ทั้งสิ้น
‘จนถึงตอนนี้จะว่าไป ข้าก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนนับสิบๆ ยังดีที่พวกมันไม่ลงมือจนเผยตัวอะไรกัน ไม่งั้นรายนามยอดเซียนได้ปรับแก้กันตาแตกแน่…’
ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวในใจ
แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนเองก็รู้ดี ว่าทันทีที่ตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพลถูกเปิดเผยการดำรงอยู่ต่อโลกหล้า รายนามยอดเซียนก็ได้สูญเสียความ ‘ขลัง’ ไปทันที!
ถึงแม้จะมีคนกล่าวถึงเรื่องนี้เป็นครั้งคราว แต่ทั้งหมดก็ถกกันแตเรื่องว่าเซียนอมตะเสเพลในแดนดินมีมากน้อยเท่าไหร่ แล้วพลังฝีมือร้ายกาจเพียงไหน ไม่มีใครสนยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์อีกต่อไป
“นายท่าน ด้านหน้าเป็นหนึ่งในสถานที่ๆเหล่าเซียนอมตะเสเพลในแดนเหนือมักมารวมตัวกันขอรับ”
ไม่นานหลังจากนั้นเสียงเฉินอี้หรูก็ดังขึ้นเข้าหูต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ทำให้เขาคืนสติและหันมองไปยังด้านหน้าทันที
ครู่ต่อมาต้วนหลิงเทียนก็พบว่าท่ามกลางธารน้ำแข็งสุดไพศาล ปรากฏจวนใหญ่โตตั้งตระหง่านอยู่…
เหนือจวนกว้างใหญ่ ปรากฏม่านพลังโปร่งใสปิดกั้นหิมะที่โถมกระหน่ำลงมาจากฟ้าได้อย่างหมดจด…
“สถานที่บ่มเพาะของติงอี่เจียน ก็อยู่ในจวนหลังนี้ขอรับ…”
เมื่อเสียงเฉินอี้หรูดังขึ้นอีกครั้ง สองตาต้วนหลิงเทียนอดเผยประกายดุร้ายขึ้นมาไม่ได้ ยังเร่งถามเฉินอี้หรูออกมาทันที “สถานที่บ่มเพาะของมันอยู่ส่วนไหนของจวน?”
“ที่นี่ขอรับ!”
เฉินอี้หรูเหินนำต้วนหลิงเทียนไปอีกพักหนึ่งก็หยุดลงกลางหาวแล้วผายมือลงไปยังบ้านลานใหญ่โตเบื้องล่างที่ตั้งอยู่ในมุมหนึ่งของจวนหลังใหญ่…
“ลองดูว่ามันอยู่หรือไม่…”
สองตาต้วนหลิงเทียนทอประกายเรืองวูบกล่าวออก
ด้วยสำนึกเทวะของเขาในปัจจุบัน ยังเป็นสำนึกเทวะในขอบเขตครึ่งก้าวเซียนอมตะ ทำให้คิดจะใช้สำนึกเทวะระดับนี้ตรวจสอบเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำ…
จริงอยู่ที่เขาสามารถตรวจพบที่อยู่ของอีกฝ่ายได้ แต่หากอีกฝ่ายเลือกจะแผ่พุ่งสำนึกเทวะของมันออกมาทำลายสำนึกเทวะเขาล่ะก็…ถึงตอนนั้นวิญญาณของเขาก็ต้องบาดเจ็บอย่างช่วยไม่ได้!
ด้วยเหตุนี้ต้วนหลิงเทียนจึงให้เฉินอี้หรูลงมือแทน
“ทราบ”
เฉินอี้หรูขานคำด้วยเคารพ ก่อนที่จะแผ่สำนึกเทวะออกไปครอบคลุมบ้านลานหลังใหญ่เบื้องล่างทันที เพื่อหาว่าเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ ติงอี่เจียน อยู่ที่นี่หรือไม่…
“ปฐมเวทย์กลืนกิน!”
ในขณะที่เฉินอี้หรูกำลังแผ่สำนึกเทวะออกไปค้นหาติงอี่เจียน ต้วนหลิงเทียนก็เริ่มใช้ปฐมเวทย์กลืนกินเพื่อดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบอย่างไม่เกรงใจ…
เรียกว่าพริบตาพลังวิญญาณฟ้าดินในบรรยากาศพื้นที่แถบนี้ก็สาบสูญไปอย่างน่าใจหาย…
“เกิดอะไรขึ้น? ไฉนอยู่ๆพลังวิญญาณฟ้าดินถึงได้จางหายไปเช่นนี้?”
“นี่มันอะไรกันแน่? ไฉนพลังวิญญาณฟ้าดินถึงกลายเป็นเบาบางขนาดนี้ได้?!”
“บัดซบเอ๊บ ฝีมือผู้ใดกัน บิดากำลังจะทะลวงด่าน…อั๊ค!!”
…
โดยมีต้วนหลิงเทียนเป็นจุดศูนย์กลาง รัศมีการกลืนกินของเขานับว่ากว้างใหญ่ไม่น้อย เรียกว่าสถานที่บ่มเพาะของเซียนอมตะเสเพลในแดนเหนืออย่างจวนมหึมาหลังนี้ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ กระทั่งเหล่าผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้ๆจวนก็พลอยซวยไปด้วย…
การที่พลังวิญญาณฟ้าดินในบรรยากาศอันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการบ่มเพาะพลังอยู่ดีๆก็หายไป…แน่นอนว่ามันสร้างผลกระทบอย่างหนักสำหรับผู้กำลังบ่มเพาะ! ยิ่งคนที่กำลังรวบรวมพลังเพื่อทะลวงด่านด้วยแล้วคิดร่ำไห้ยังไร้น้ำตา!!
ขณะเดียวกันทั้งหลายก็อดสงสัยไปไม่ได้
อยู่ดีๆพลังวิญญาณฟ้าดินจะสาบสูญไปได้อย่างไร หากไม่มีใครทำอะไรบางอย่าง?
และในขณะที่เหล่าผู้ฝึกตนไร้สังกัดรวมถึงเซียนอมตะเสเพลอิสระมากมายถูกขัดจังหวะในการบ่มเพาะ สำนึกเทวะของเฉินอี้หรูที่แผ่ลงไปตรวจสอบบ้านลานหลังใหญ่เบื้องล่างในที่สุดก็ได้เรื่อง “นายท่าน…ติงอี่เจียนกำลังบ่มเพาะพลังอยู่ในบ้านของมันจริงๆขอรับ!”
และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่เฉินอี้หรูหันไปรายงานกับต้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้ม
“เฉินอี้หรู!!”
เสียงตะโกนด้วยความเกรี้ยวกราดดังลั่นขึ้นมาจากบ้านลานเบื้องล่าง ทันใดนั้นก็ปรากฏร่างที่แลดูเดือดดาลหนึ่งพุ่งทะยานทะลุหลังคาขึ้นมาบนฟ้าด้วยท่าทางดุร้ายเอาเรื่อง พริบตาก็มาหยุดลอยห่างต้วนหลิงเทียนและเฉินอี้หรูไม่ไกล
เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาของผู้มาใหม่ชัดเจน สองตาต้วนหลิงเทียนก็ฉายแววแข็งกร้าวดุร้ายออกมา จิตสังหารยังทะลักออกมาอย่างยากจะปกปิด
เป็นเพราะชายที่พึ่งมาปรากฏตัวเบื้องหน้าเขา มีใบหน้าเดียวกันกับชายในภาพเหมือนที่มู่อีอีหยิบออกมาไม่ผิดเพี้ยน!
คนร้ายที่ข่มเหงทั้งฆ่าชิวมู่ชิง!
“หืม?”
เมื่อชายหนุ่มที่ถูกเปิดเผยฐานะว่าเป็น ติงอี่เจียน เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ ได้เห็นว่าเฉินอี้หรูที่มันกำลังมีโมโหด้วยนั้น ลอยร่างอยู่ด้านหลังชายหนุ่มชุดม่วงคนหนึ่งด้วยทีท่าว่าง่าย สีหน้าท่าทีของมันก็อดเปลี่ยนไปไม่ได้
เพราะมันสามารถคาดเดาตัวตนของชายหนุ่มผู้นี้ได้ทันที!
เรื่องที่เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์อย่างเฉินอี้หรูได้ติดตามรับใช้ชายหนุ่มร้ายกาจ ไม่ใช่ความลับใดๆในแวดวงเซียนอมตะเสเพลอีกต่อไป กระทั่งมันเองก็ได้ยินเรื่องนี้มามากกว่าหนึ่งครั้ง…
และนายท่านของเฉินอี้หรูก็คือ…ผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้ ต้วนหลิงเทียน!
นามต้วนหลิงเทียนนี้ ไม่กี่เดือนก่อนได้โด่งดังถึงขีดสุดในแวดวงเซียนอมตะเสเพล เพราะนี่คือตัวตนที่สามารถบีบคั้นให้เซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ ตี้เฉิน แห่งเผ่ามังกรถึงขั้นต้องคุกเข่าโขกหัวขอชีวิต!
ว่ากันว่าพลังฝีมือที่ต้วนหลิงเทียนเผยออกวันนั้น ยังเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์! ถึงได้ทรงพลังมากพอจะบีบคั้นตี้เฉินได้!!
“จะ…เจ้าคือ ต้วนหลิงเทียน ผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้งั้นหรือ?!”
เช่นนั้นเมื่อติงอี่เจียนเดาความเป็นมาของชายหนุ่มชุดม่วงเบื้องหน้าได้ออก ทีท่าเดือดดาลมีโมโหเฉินอี้หรูของมันก็มลายหายไปทันที ในใจยังเต็มไปด้วยความวิตกกังวลนัก!
ล้อกันเล่นหรือไร!?
ต้วนหลิงเทียน ผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้ พลังฝีมืออย่างน้อยๆก็สมควรเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์! กระทั่งหลายคนยังกล่าวว่าพลังฝีมือที่แท้จริงอาจจะเหนือกว่าเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์ด้วยซ้ำ!
กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์อย่างตี้เฉินแห่งเผ่ามังกรยังถูกบีบคั้นให้คุกเข่าโขกหัว แล้วนับประสาอะไรกับเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์เช่นมัน?
‘ต้วนหลิงเทียนคนนี้คงไม่ได้มาหาข้า เพราะเรื่องที่ข้าเคยมีเรื่องกับเฉินอี้หรูเมื่อ 30 ปีที่แล้วหรอกนะ…’
อันที่จริงแม้ต้วนหลิงเทียนไม่สนใจจะตอบคำถามยืนยันตัวตนของติงอี่เจียน แต่ด้านติงอี่เจียนก็แทบจะยืนยันตัวตน ต้วนหลิงเทียน ได้อย่างมั่นใจแล้ว ด้วยเหตุนี้ทำให้ในใจของมันมากล้นไปด้วยความวิตกกังวล
“ท่านผู้นำต้วน…”
เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนเอาแต่มองจ้องมาด้วยสายตาเยียบเย็นไร้แยแส ใจของติงอี่เจียนก็สั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัว ขณะเดียวกันมันก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาด้วยทีท่ายอมจำนน “ในตอนนั้นข้ากับเฉินอี้หรูเพียงมีเรื่องบาดหมางกันเล็กน้อยเท่านั้น…”
“สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนั้น…ข้า…ข้ายินดีขอขมาเฉินอี้หรู และสัญญาว่าในอนาคตหากข้าเจอมัน ข้ายินดีจะอ้อมไปใช้เส้นทางอื่น…”
เรียกว่าติงอี่เจียนได้ก้มหัวลงอย่างสิ้นเชิง ไม่เหลือความหยิ่งยองถือดีของเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์อยู่เลย…
ทั้งหมดเป็นเพราะพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนทำให้มันตกตะลึงมากเกินไป!
“นั่นเฉินอี้หรูนี่?”
ขณะเดียวกัน ตอนนี้ก็เริ่มมีผู้คนทยอยกันออกจากเคหสถานมากมาย เพราะพลังวิญญาณฟ้าดินอยู่ๆก็เบาบางลง อีกทั้งพวกมันยังสังเกตเห็นเฉินอี้หรูที่กำลังลอยร่างเผชิญหน้ากบติงอี่เจียนแทบจะทันที
เฉินอี้หรูเองก็เคยมาบ่มเพาะพลังที่นี่ ทำให้เซียนอมตะเสเพลแถวนี้หลายคนจดจำมันได้
“เอ๋? เจ้าเฉินอี้หรูมันกลับมาแล้วจริงๆรึ?”
“ชายหนุ่มชุดม่วงที่ลอยอยู่ด้านหน้าเฉินอี้หรูนั่น…หรือจะเป็นต้วนหลิงเทียน ผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้?”
…
หลังจากที่มีเซียนอมตะเสเพลหลายคนออกมาจากที่พักแล้วจดจำเฉินอี้หรูได้ พวกมันยังตระหนักอีกด้วยว่าตอนนี้เฉินอี้หรูลอยติดตามอยู่ด้านหลังชายหนุ่มชุดม่วงด้วยท่าทีว่าง่ายนัก!
จังหวะนี้ใจทุกคนอดไม่ได้ที่จะสะท้านไปทันใด ยังเดาอัตลักษณ์ของชายหนุ่มชุดม่วงออกได้ทันที!