War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 2432
ตอนที่ 2,432 : จำได้กี่กระบี่?
เมื่อเงาร่างสีดำสำแดง 13 กระบี่บงกชฟ้าออกมาครบ 30 รอบ ในที่สุดจางยี่ก็สามารถมองเห็นวิถีกระบี่แรกในบรรดา 13 กระบี่ได้สำเร็จ!
‘ใน่ที่สุดข้าก็เห็นมันได้ชัดเจน!’
เมื่อตระหนักได้ว่าตนเองมองกระบี่แรกออกอย่างสมบูรณ์แล้ว จางยี่ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นยินดีถึงขีดสุด
ต้องทราบด้วยว่ามันเจียนจะหมดหวังอยู่รอมร่อ…
ทว่าพอมันมองเห็นวิถีกระบี่แรกได้ชัดแล้วเท่านั้นล่ะ ใจที่จมดิ่งลงก้นบึ้งเพราะเจียนหมดหวังของมัน จึงบังเกิดเรี่ยวแรงและความฮึกเหิมขึ้นมาอีกครั้ง!
ราวกับมันได้เกิดใหม่ในชั่วพริบตา!
ถึงแม้มันจะรู้ดีแก่ใจ
หากคิดบรรลุ 13 กระบี่บงกชฟ้าให้สมบูรณ์ อย่างน้อยๆก็ต้องจดจำเพลงกระบี่ทั้ง 13 กระบวนท่าให้ได้ขึ้นใจเสียก่อน…
หาไม่แล้วก็ได้แต่ใช้ออกด้วยพลังกระบี่ตามกระบวนท่าที่จดจำได้เท่านั้น!
‘มีเวลาทั้งสิ้น 3 วัน 3 คืน…ใน 3 วันนี้ข้าไม่ฝันถึงเรื่องจดจำได้ทั้ง 13 กระบวนท่า ขอเพียงในบรรดา 13 กระบี่บงกชฟ้า ข้าจดจำได้สัก 6 หรือ 7 กระบี่ก็พอ!’
ความทะเยอทะยานของจางยี่ไม่ได้มากมายอะไร เพราะมันหวังแค่สามารถมองเห็นวิถีกระบี่ที่ 6 กับ 7 ให้ชัดเจนได้เท่านั้นเป็นพอ…
และถึงแม้จะเห็นชัดแค่กระบี่ที่ 6 มันก็พึงพอใจมากแล้ว
เพราะสุดท้ายลำพังแค่กระบี่ที่ 5 ของ 13 กระบี่บงกชฟ้า ก็มีพลังอำนาจทัดเทียมกับเวทย์พลังทั่วไปของระนาบเทวโลก!
หากสามารถบรรลุถึงกระบี่ที่ 6 กระทั่งกระบี่ที่ 7 ได้ล่ะก็ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพลังอำนาจของมันต้องสูงขึ้นกว่าเดิมแน่!
ถึงแม้จะใช้เวลาไปราวๆ 1 เค่อเท่านั้นในการมองวิถีกระบี่แรกของ 13 กระบี่บงกชฟ้า…
อย่างไรก็ตามจางยี่รู้ดีแก่ใจ
13 กระบี่บงกชฟ้านั้น กระบี่ถัดไปกลับรวดเร็วเหนือกว่ากระบี่ก่อนหน้าทุกครั้ง! เวลาที่มันต้องใช้เพื่อมองวิถีกระบีในกระบวนท่าที่ 2 น่ากลัวว่าต้องใช้มากกว่า 1 เค่อหลายเท่า!!
และเป็นจางยี่ประเมินไว้ไม่มีผิด!
เพราะราวๆ 1 ชั่วยามต่อมา มันถึงจะมองเห็นวิถีกระบี่ของกระบวนท่าที่ 2…
และตอนนี้เองด้านหานเฉวี่ยไน่ ก็พึ่งจะมองวิถีกระบี่แรกได้ออก…
สำหรับหลิ่วเสวียนั้นนางต้องใช้เวลามากกว่าเฉวี่ยไน่ถึง 2 เค่อกว่าจะมองวิถีกระบี่แรกของ 13 กระบี่บงกชฟ้าได้ออก…
‘กระบี่ที่ 10! ในที่สุดข้าก็เห็นมันชัด!!’
ในเวลาเดียวกัน ด้านต้วนหลิงเทียนนั้นได้มองเห็นถึงวิถีกระบี่ที่ 10 เรียบร้อย!
เหลือเพียง 3 กระบี่สุดท้ายเท่านั้น ที่เขายังมองเห็นมันไม่ชัด
ยังดีที่พวกจางนี่ทั้ง 3 ไม่อาจล่วงรู้ความคืบหน้าของต้วนหลิงเทียน หาไม่แล้วพวกมันได้กระอักเลือดแน่!
พวกมันทั้ง 3 พยายามจนแทบสิ้นหวัง แต่ก็พึ่งจะมองออกแค่วิถีกระบี่แรกกับกระบี่ที่ 2 เท่านั้น…
ต้วนหลิงเทียนกลับข้ามหัวพวกมันไปไกลลิบโลก ล่อมองออกได้กระทั่งวิถีกระบี่ที่ 10 เข้าไปแล้ว!
นอกจากนั้นเรื่องนี้ยังหมายความว่า…
ตราบใดที่ต้วนหลิงเทียนสามารถมองวิถีกระบี่อีก 3 กระบวนที่เหลือได้สำเร็จล่ะก็ เขาจะถือว่าจดจำเวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้าได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์!
ถึงตอนนั้นแม้จะไร้แผ่นศิลาอะไร แต่เขาก็สามารถย้อนทบทวนในความคิด เพื่อตีความเวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้าได้ด้วยตัวเองทุกเวลา!
และแน่นอนว่ากระบวนการจดจำทั้ง 13 กระบี่บงกชฟ้า ต้องทำให้ได้ภายในเวลา 3 วัน 3 คืน!
อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากความคืบหน้าในปัจจุบันของต้วนหลิงเทียน เรื่องที่จะจดจำได้ครบทั้ง 13 กระบี่ก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น และแน่นอนว่าทันกำหนดเวลา 3 วัน 3 คืนแน่นอน..
‘เรื่องนี้คิดไปทั้งหมดต้องยกความดีความชอบให้ยอดใจกระบี่ของผู้อาวุโสฟงชิงหยางล้วนๆ…หาไม่แล้วข้าคงไม่มีทางมองเห็นกระบวนท่ากระบี่ทั้งหมดได้ครบ 13 กระบี่ทันเวลาแน่…’
เรื่องนี้ต้วนหลิงเทียนเองก็ชัดเจนในใจ
ที่เขาสามารถมองวิถีกระบี่ของทั้ง 10 กระบวนออกได้ในเวลาไม่นาน ยอดใจกระบี่มีส่วนช่วยเหลืออย่างมาก
‘มองจากอัตราความคืบหน้า…ในเวลาครึ่งวันข้าคงมองกระบี่ทั้ง 13 กระบวนท่าออกจนหมด!’
คิดถึงจุดนี้ ต้วนหลิงเทียนก็มั่นใจนัก
อย่างไรก็ตามจินตนาการนั้นสวยหรู แต่พอมาดูความเป็นจริงช่างโหดร้าย…
หลังจากผ่านเวลาครึ่งวันไปเนิ่นนาน ต้วนหลิงเทียนก็ยังพึ่งมองวิถีกระบี่ออกถึงกระบวนท่าที่ 12 เท่านั้น…
‘กระบวนท่าสุดท้ายของ 13 กระบี่บงกชฟ้ามันจะเร็วไปไหนกัน มันจะเร็วเกินจริงไปหน่อยแล้ว!!’
‘เป็นข้าดูเบามันแล้วจริงๆ…’
พอตระหนักได้ถึงเรื่องนี้ต้วนหลิงเทียนก็ไม่กล้านิ่งนอนใจอีกต่อไป เขาตั้งสมาธิแน่วแน่ พยายามมองวิถีกระบี่สุดท้ายของ 13 กระบี่บงกชฟ้าให้ออก…
ผ่านพ้นไปอีกครึ่งวัน…
‘ขาดอีกแค่นิดเดียว…อีกแค่นิดเดียวข้าก็เห็นวิถีกระบี่สุดท้ายได้ชัดเจนแล้ว…’
สุดท้ายแล้วต้วนหลิงเทียนก็ใช้เวลาไปอีกครึ่งวัน จึงจะมองเห็นวิถีกระบี่ของ 13 กระบี่บงกชฟ้าได้ออก…
เรียกว่าตอนนี้เขาจดจำกระบวนท่าของเวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้าได้สำเร็จแล้ว
นอกจากนั้นเรื่องนี้หมายความว่า
ตอนนี้ต่อให้แผ่นศิลาจะหายไป แต่เขาก็สามารถย้อนทบทวนในความคิด เพื่อตีความและทำความเข้าใจเวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้าได้ตลอดเวลา…
‘ในที่สุด…’
ต้วนหลิงเทียนที่รู้สึกโล่งใจ ได้ลืมตาขึ้นก่อนจะดึงมือกลับออกมาจากแผ่นศิลา
ทันใดนั้นเขาลองคิดให้ร่างสีดำปรากฏขึ้นในใจและสำแดงเวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้าออกมาดู และก็พบว่าร่างสีดำพลันปรากฏและสำแดงเวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้าได้ไม่แตกต่าจากแผ่นศิลาแม้แต่น้อย หลังเงาร่างสีดำสำแดงกระบวนท่าอยู่ไม่กี่รอบก็หายไปจากใจราวอากาศธาตุ เพราะต้วนหลิงเทียนหยุดคิด…
และตอนนี้พอกวาดตามองไปรอบกายเขาก็ได้เห็น…
ไม่ว่าจะเป็นหานเฉวี่ยไน่ จางยี่หรือหลิ่วเสวียก็กำลังหลับตาทำหน้านิ่วคิ้วขมวดโดยมือข้างหนึ่งยังแตะแผ่นศิลาไม่วาง ดูท่าแต่ละคนกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อมองวิถีกระบี่แต่ละกระบวนท่าของเวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้า!
‘ยังเหลือเวลาอีกวันครึ่ง…หวังว่าทุกคนจะมองวิถีกระบี่ออกให้ได้มากที่สุด’
ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวในใจ
ด้วยเพราะเขามีประสบการณ์ผ่านมันมาก่อน เขาจึงรู้ดีว่าคิดจะมองแต่ละกระบวนท่าของ 13 กระบี่บงกชฟ้าให้ออกนั้นมันยากเย็นขนาดไหน
และไม่ใช่ว่าเขาดูแคลนพวกหานเฉวี่ยไน่ทั้ง 3
แต่เขารู้สึกจริงๆว่าพวกหานเฉวี่ยไน่ทั้ง 3 คงยากที่จะมอง 13 กระบี่บงกชฟ้าได้ครบถ้วนทั้ง 13 กระบวนเพลง อย่างดีก็อาจจะได้แค่ 10 กระบวนแรกเท่านั้น…
ต้องทราบด้วยว่า 13 กระบี่บงกชฟ้านั้นแต่ละกระบี่ยิ่งมายิ่งไวฟ้าผ่า!
‘เรื่องนี้ข้าเองก็ช่วยอะไรทุกคนไม่ได้เลย…ทั้งหมดได้แต่ต้องพยายามด้วยตัวเองแล้ว’
ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวในใจอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนที่จะไปหาที่นั่งลงเพื่อทำความเข้าใจ 13 กระบี่บงกชฟ้าสืบต่อ
ตอนนี้เขาเพียงจดจำกระบวนท่าของ 13 กระบี่บงกชฟ้าได้แล้วเท่านั้น แต่ยังไม่ได้ตีความและทำความเข้าใจเคล็ดพลังของมัน
มาตอนนี้เขาจึงเริ่มตีความหยั่งรู้มันอย่างตั้งใจ
วันครึ่งผ่านพ้นไปในพริบตา
วู้ม….
เสียงแผ่วเบาหนึ่งดังขึ้น แผ่นศิลาที่ทั้ง 3 กำลังเอามือทาบแตะอยู่นั้น พลันอันตรธานหายไปในอากาศ แม้กระทั่งฉากเรื่องราวรอบกายทั้งหมดยังแปรเปลี่ยนไปอีกครั้ง
คราวนี้ทั้ง 4 มาปรากฏตัวในห้องโถงพระราชวังอันโอ่อ่าแสนวิจิตร
และที่น่าประทับใจก็คือ พระราชวังอันเป็นสมบัติสถานระดับสวรรค์ที่เซียนกระบี่บงกชฟ้าหลี่ไป๋สร้างไว้แห่งนี้ มันกลับอยู่ลึกลงมาจากผืนดิน…พระราชวังใต้ดิน!
“หืม?”
ตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนที่นั่งตีความเวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้าไม่ไกลจากทุกคนพลันรู้สึกตัว เขาลุกขึ้นยืนแล้วหันไปมองรอบๆทันที
“นี่มันผ่านไปอีกวันครึ่งแล้วเหรอ?”
มาตอนนี้เขาพึ่งตระหนักได้ ว่าเขานั่งตีความเวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้าอยู่เป็นเวลาวันครึ่งโดยไม่ทันรู้ตัว
‘แต่ถึงจะผ่านไปแค่วันครึ่ง…ทว่าตอนนี้ข้าก็บรรลุกระบี่แรกของ 13 กระบี่บงกชฟ้าเรียบร้อยแล้ว! แม้แต่กระบี่ที่ 2 ข้าก็เข้าใจไปกว่าครึ่ง ของเวลาอีกแค่ 2 วันข้าต้องทำความเข้าใจมันได้ครบถ้วนสมบูรณ์แน่!’
พอคิดถึงเรื่องนี้ต้วนหลิงเทียนก็อารมณ์ดีนัก
ขณะเดียวกันเขาก็เริ่มหันมองไปยังพวกหานเฉวี่ยไน่ทั้ง 3 ที่พึ่งจะคืนสติแล้วลืมตาขึ้นมา “พวกเจ้าเป็นไงบ้างแล้วในบรรดา 13 กระบี่บงกชฟ้า…พวกเจ้าจดจำกันได้กี่กระบี่”
“พี่ใหญ่หลิงเทียนข้าจำได้แค่ 4 กระบี่เองอ่า…”
เฉวี่ยไน่ที่พึ่งฟื้นสติ พอได้ยินคำถามของต้วนหลิงเทียนนางก็ยิ้มออกมาด้วยสีหน้าสลด “ดูเหมือนว่าจนแล้วจนรอดข้าก็ไม่เหมาะกับการใช้กระบี่เป็นอาวุธจริงๆ…ดูท่าชะตาคงลิขิตมาให้ข้าไม่มีวาสนากับ 13 กระบี่บงกชฟ้าแล้วล่ะ”
13 กระบี่บงกชฟ้านั้น หากแตกฉานแค่ 4 กระบี่แรกนั้น แม้จะรวมผสานทั้ง 4 กระบวนเข้าด้วยกันเพื่อให้พลังทับซ้อนกันจนมีอานุภาพไม่ใช่ชั่ว แต่ก็เทียบได้กับเวทย์พลังจู่โจมขั้นสูงสุดของระนาบโลกียะเท่านั้น
ดังนั้นต่อให้หลังจากนี้หานเฉวี่ยไน่คิดทำความเข้าใจ 13 กระบี่บงกชฟ้าจริง แต่อย่างดีนางก็สำแดงออกได้แค่ 4 กระบวนแรกเท่านั้น
เพราะนางจดจำมาได้แค่นี้!
ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะจดจำทั้ง 13 กระบี่บงกชฟ้าได้ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่จนกว่าเขาจะเข้าใจมันถ่องแท้จนบรรลุขั้นตอนไร้ตำหนิ เขาก็ไม่อาจแบ่งปันเวทย์พลัง 13 กระบี่ชิงเหลียนนี้ให้กับผู้อื่นได้…เรื่องนี้ก็คล้ายๆกับเวทย์พลังของระนาบโลกียะ!
“แล้วพวกเจ้าล่ะ”
ต้วนหลิงเทียนหันไปมองถามจางยี่กับหลิ่วเสวียอีกครั้ง
“ข้าจำได้แค่ 3 กระบี่…”
รอยยิ้มเหยเกทั้งช่วยไม่ได้คลี่กางขึ้นบนหน้าหลิ่วเสวีย
และเพียงจดจำมาได้แค่ 3 กระบวนของ 13 กระบี่บงกชฟ้าแบบนี้ ต่อให้นางตีความทำความเข้าใจมันจนถ่องแท้ แต่อานุภาพก็ยังนับว่าอ่อนด้อยกว่าเวทย์พลังที่นางมี…
ดังนั้นนางจึงไม่คิดที่จะเสียเวลาทำความเข้าใจอะไร 13 กระบี่บงกชฟ้าอีกต่อไป..
“ส่วนข้าจดจำได้ 6 กระบี่…พูดไปแล้วก็น่าเสียดายแท้ หากมีเวลาให้ข้าสักอีกชั่วยามหรือชั่วยามครึ่ง ข้ามั่นใจว่าต้องจดจำกระบี่ที่ 7 ได้แน่”
จางยี่ระบายลมหายใจออกมาอย่างทอดถอน
อย่างไรก็ตามมันพอใจกับผลลัพธ์แบบนี้แล้ว
ต้องทราบด้วยว่าแม้จะเป็นแค่ 6 กระบี่แรก แต่หากมันบรรลุได้ถ่องแท้ ในอนาคตมันจะมีเวทย์พลังที่เหนือกว่าเวทย์พลังทั่วไปในระนาบเทวโลกไว้ใช้งาน
“จดจำได้ 6 กระบี่นับว่าไม่เลวเลย”
ต้วนหลิงเทียนแต่เดิมที่ไม่คิดว่าจางยี่จะประสบผลเลิศล้ำอะไร หลังจากได้ฟังผลลัพธ์ของหานเฉวี่ยไน่กับหลิ่วเสวีย แต่ไม่คิดเลยว่าจางยี่จะทำให้เขาประหลาดใจได้แบบนี้
เพียงเรื่องนี้ก็บอกให้เขารู้ได้ทันที…
พรสวรรค์ในเชิงกระบี่ของจางยี่ไม่ธรรมดา!
“6 กระบี่!?”
และพอได้ฟังคำตอบของจางยี่ หานเฉวี่ยไน่กับหลิ่วเสวียก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ ด้วยเพราะทั้งคู่ไม่คิดเลยว่าจะห่างชั้นกับจางยี่มากขนาดนี้!
“ขอแสดงความยินดีด้วยจางยี่…ขอเพียงเจ้าเชี่ยวชาญได้ถึงแค่กระบี่ที่ 5 ของ 13 กระบี่บงกชฟ้า วันใดที่เจ้าบรรลุครึ่งก้าวเซียนอมตะ ด้วยมีกระบี่เซียนอมตะที่เข้าได้รับมาก่อนหน้า ความแข็งแกร่งของเจ้าสมควรเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์…”
หลิ่วเสวียมองกล่าวแสดงความยินดีกับจางยี่ “นอกจากนั้นด้วยมรดกต่างๆของสำนักเทียนซือเจ้า…ยามนั้นความแข็งแกร่งของเจ้าอย่างน้อยๆก็น่าจะเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์!”
กล่าวจบสองตาของหลิ่วเสวียก็เต็มไปด้วยความอิจฉา
“โชคดี ข้าแค่โชคดี!”
จางยี่กล่าวออกมาอย่างถ่อมตัว
“พี่ใหญ่หลิงเทียนแล้วท่านเล่า…ท่านจดจำ 13 กระบี่งกชฟ้าได้กี่กระบี่กันหรือ?”
ในขณะที่จางยี่กล่าวออกมาอย่างถ่อมตัว หานเฉวี่ยไน่พลันหันไปมองถามต้วนหลิงเทียนกลับด้วยสองตาเป็นประกาย
และทันทีที่คำถามของหานเฉวี่ยไน่ดังเข้าหูจางยี่กับหลิ่วเสวีย ทั้งคู่ก็หันขวับไปจับจ้องต้วนหลิงเทียนเพื่อรอฟังคำตอบทันที
ในสายตาของทุกคนตอนนี้เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นนัก
พวกมันอยากรู้ว่า
ใน 13 กระบี่บงกชฟ้าต้วนหลิงเทียนจะจดจำได้กี่กระบี่!