War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 2464
ตอนที่ 2,464 : มรดกสถานต้าหลัวจินเซียนบังเกิดความเปลี่ยนแปลง!
‘มันสู้?’
ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นการกระทำของอู่เซี่ยว!
ตอนแรกเขาคิดว่าอู่เซี่ยนจะเปิดตูดหนีไปเสียอีกเมื่อเจอกระบวนท่าสังหารของเขา!
หากเป็นแบบนั้นอย่างไรมันก็ไม่มีทางหนีพ้น และสุดท้ายต้องถูกห่ารังสีพลังทั้งศาสตราหลายสิบทะลวงทำลายร่างจนแหลกสลายไม่มีเหลือแน่นอน!
แต่ที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ…
อู่เซี่ยวผู้นี้ไม่เลือกหันหลังหนี แต่เลือกจะปะทุพลังชั่วชีวิตออกมาปานระเบิดพลังครั้งสุดท้ายพุ่งเข้าใส่ห่ารังสีกระบี่ของเขา!
‘อู่เซี่ยวผู้นี้นับว่าไม่ใช่ชนชั้นเบาปัญญา’
‘สมแล้วที่มันถูกยอมรับว่าเป็นเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์อันดับ 1 ของระนาบโหมหลัว…ไม่ธรรมดาจริงๆ!’
แม้ตอนนี้อู่เซี่ยวกับเขาจะยืนอยู่คนละฝั่ง แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะถูกใจความกล้าหาญและการตัดสินใจของอู่เซี่ยว…
เพราะเขารู้
มีเพียงอู่เซี่ยพาตัวเข้าจุดอับก่อน ถึงจะเกิดหนทางรอดชีวิตสายหนึ่ง!
หากอู่เซี่ยวเลือกจะหลบหนีไปอย่างโง่เขลา ไม่พ้นต้องถูกห่าพลังของเขาป่นร่างจนตกตายอย่างโง่งมได้อย่างง่ายดายแน่นอน!
ทว่าตอนนี้อู่เซี่ยวเลือกจะปะทุพลังชั่วชีวิตออกมา แล้วพุ่งสวนเข้าหาห่าพลังของเขา ถึงแม้จะไม่อาจต้านทานกระบวนท่าได้อย่างหมดจด แต่อย่างน้อยๆก็ต้องลดทอนพลังทำลายไปได้มากมาย
ถึงตอนนั้นอาศัยพลังจากกระบวนท่าที่อ่อนโทรมย่อมไม่พอเข่นฆ่าอู่เซี่ยว!
อย่างดีก็ทำให้มันแค่สาหัสปางตาย!
“การลงมือของต้วนหลิงเทียนหาได้ง่ายดายไม่!!”
ตอนนี้เองเหล่าเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์คนอื่นๆที่อยู่ในเหตุการณ์ก็อดไม่ได้ที่จะย่นคิ้วกล่าวออกเสียงขรึม
“มิผิด กระบวนท่าสังหารของต้วนหลิงเทียน…มิใช่อันใดที่เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ไร้ซึ่งยอดสมบัติสวรรค์จะปลดปล่อยออกมาได้!”
“กล่าวได้ว่าพลังกระบวนท่าสังหารของต้วนหลิงเทียน มันไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ทั่วไปลงมือเต็มกำลัง!!”
“ให้ตายเถอะ พลังกระบวนท่าของมันทัดเทียมกับยอดฝีมือเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ที่มียอดสมบัติสวรรค์ลงมือเต็มกำลังเชียวหรือ!?”
…
หลังจากที่เหล่าเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ทั้งหลายตระหนักได้ถึงเรื่องนี้ สีหน้าของพวกมันก็เปลี่ยนเป็นจริงจังทั้งตึงเครียด! พอมองไปยังต้วนหลิงเทียนอีกครั้งแววตายังอดฉายถึงความหวาดกลัวออกมาไม่ได้!!
เดิมทีหลังฟังจากข่าวลือพวกมันก็คิดว่า…
ถึงแม้พลังฝีมือต้วนหลิงเทียนจะร้ายกาจดั่งคำร่ำลือ แต่อย่างดีก็คงเทียบได้กับพวกมันเท่านั้น!
แต่มาตอนนี้พวกมันตระหนักได้ว่า…
ความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนนั้นได้ก้าวข้ามพวกมันไปแล้ว! อีกฝ่ายกลับมีพลังอำนาจทัดเทียมกับเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ทั่วไป!
“อู่เซี่ยวผู้นั้น…ใยมิใช่รนหาที่ตาย?”
และในขณะที่เหล่าเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ทั้งหลายกำลังตกตะลึงกับพลังอันน่ากลัวของต้วนหลิงเทียน พวกมันก็พบว่าตอนนี้อู่เซี่ยวได้เลือกปะทุพลังชั่วชีวิตบุกฝ่าเข้าไปหาห่ารังสีกระบี่ของต้วนหลิงเทียน!
พวกมันจึงอดคิดไปไม่ได้ว่า เป็นอู่เซี่ยวกำลังรนหาที่ตายแท้ๆ!!
แม้พลังของอู่เซี่ยวจะเหนือกว่าพวกมัน
อย่างไรก็ตามยังไม่มากพอถึงจุดที่จะต้านทานรับมือการโจมตีของเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ทั่วไป!
กระทั่งนี่ยังเป็นการโจมตีที่ทัดเทียมกับการลงมือเต็มกำลังของเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ทั่วไป!!
“เจ้าอู่เซี่ยวมันฉลาดมิเบาเลยทีเดียว!”
ทว่าไม่นานเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์คนหนึ่งได้หดหยีตาลง ก่อนที่สองตาหดหยีดังกล่าวจะเบิกกว้างพร้อมทอประกายเรืองวูบ ด้วยคล้ายตระหนักถึงใดได้ สุดท้ายจึงอดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมมาพลางทอดถอนใจ
“มิผิด..มันนับว่าฉลาดเลือกยิ่ง!”
หลังจากนั้นไม่นนานเหล่าเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ที่เหลือก็คล้ายตระหนักใดได้เช่นกัน
สาเหตุที่ตอนแรกไฉนมันคิดไปว่าอู่เซี่ยวกำลังรนหาที่ตาย เพราะพวกมันลองเอาตัวเองไปแทนที่อู่เซี่ยวและคิดว่าจะรับมือสถานการณ์นี้อย่างไร ซึ่งเวลาที่มีให้พวกมันคิดก็เพียงแค่ชั่วพริบตาดุจละอองไฟวาบเท่านั้น!
สุดท้ายพวกมันจึงคิดไปว่าด้วยพลังที่มี สมควรทำได้แค่พยายามปะทุพลังชั่วชีวิตหลบหนีไปเท่านั้น ไม่อาจแข็งขืนต้านทานห่าพลังสังหารดังกล่าวของต้วนหลิงเทียนได้แน่นอน!
ปงงงง!!
เสียงระเบิดดังสนั่นลั่นหล้ากึกก้องออกมาอย่างสะท้านสะเทือน เป็นอู่เซี่ยวที่ปะทุพลังชั่วชีวิตต้านทานการลงมืออันทรงพลังของต้วนหลิงเทียนตรงๆ ใช้ออกด้วยพลังทั้งความสามารถที่มีทั้งหมดของผู้ที่ได้ชื่อว่าเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์อันดับ 1 ของระนาบโหมหลัวออกมาสุดชีวิตอย่างไม่หวาดกลัวความตาย!!
ปะทะหักหาญซึ่งๆหน้า!!
ปง! ปง! ปง! ปง!
….
แทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่อู่เซี่ยวปะทุพลังชั่วชีวิตต้านทานห่ารังสีกระบี่และเหล่าศาสตราที่ถูกต้วนหลิงเทียนควบคุม เสียงระเบิดดังสนั่นปานฟ้าถล่มก็อุบัติขึ้น คลื่นเสียงน่าพรั่นพรึงกำจายออกไปฉับไวสะท้านแก้วหูผู้คนแทบแตก!!
ครืน! ครืน! ครืน! ครืน! ครืน!
….
นาอกจากนั้น คลื่นลมอันวิปริตรุนแรงที่หอบคลื่นกระแทกอันน่าพรั่นพรึงก็กำจายออกไปจากจุดศูนย์กลางการปะทะดั่งวงคลื่นอำมหิต โถมทำลายไปทั่วสารทิศ!!
เหล่าเซียนอมตะเสเพลที่พลังฝึกปรืออ่อนด้อย เร่งรุดหลบหนีกันจ้าละหวั่น!
ด้านหานเฉวี่ยไน่กับจางยี่ หากไม่ได้ต้วนหลิงเทียนสะบัดมือส่งพลังไร้สภาพขุมหนึ่งไปปกคลุมป้องกันเอาไว้ น่ากลัวหากไม่ถูกคลื่นพลังป่นร่างตายคาที่ อย่างดีก็ถูกซัดทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสปลิวละลิ่วไปไม่ต่างว่าวสายป่านขาด!
เพราะสุดท้ายแล้วคลื่นกระแทกที่ซัดกวาดทำลายออกไปโดยรอบนั้น ก็มีพลังอานุภาพเทียบได้กับการลงมือเต็มกำลังของเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์!!
เปรี๊ยงงงง!!
ในขณะที่อุบัติคลื่นกระแทกมหาประลัยกวาดทำลายล้างออกไปทั่วสารทิศ การลงมือด้วยพลังทั้งหมดของต้วนหลิงเทียน ที่บัดนี้ได้ถูกอู่เซี่ยวลดทอนทำลายไปบางส่วน ในที่สุดก็ซัดกระแทกเข้าร่างอู่เซี่ยวอย่างจัง!
พริบตาร่างอู่เซี่ยวก็ปลิดปลิวละลิ่วออกไปปานดาวตก!
“อั๊คค…!!”
อู่เซี่ยวที่ถูกซัดทำร้าย อาการก็บาดเจ็บสาหัสนัก โลหิตมันกระอักออกเป็นทาง คนปลิวละลิ่วกระเด็นออกไปด้วยความเร็วสูงล้ำ
หลังจากปลิดปลิวไปครู่หนึ่ง สองตาอู่เซี่ยวพลันทอประกายจ้า! มันกัดฟันแน่นจนกรามแทบแตก พยายามรีดเค้นทุกเศษพลังที่หลงเหลือในร่างสาหัสยับเยินออกมาปะทุใช้ออกสุดชีวิต!
จากนั้นก็อาศัยพลังที่ต้วนหลิงเทียนซัดทำร้ายเพื่อล่าถอย!
ซู่มมมม!!
เรียกว่าความเร็วอู่เซี่ยวที่ปลิวถอยไปตอนนี้โดยอาศัยพลังต้วนหลิงเทียนหนุนเสริมส่งตัว ยังรวดเร็วกว่าการใช้พลังทั้งหมดของมันในสภาพสมบูรณ์พร้อมเคลื่อนไหวเองเสียอีก!!
เรียกว่าความเร็วของมันพุ่งไปจนแทบจะเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์!
“คิดหนี? แต่จะหนีได้งั้นเหรอ?”
ต้วนหลิงเทียนคล้ายไม่แปลกใจอะไรที่เห็นอู่เซี่ยวอาศัยพลังสะท้อนหลบหนี
ทันใดนั้นค่ายกลกระบี่เหนือศีรษะพลันทอแสงสว่างวาบหนึ่ง ก่อนที่จะวูบลงมาอยู่ใต้ฝ่าเท้า ก่อนที่คนจะท่องค่ายกลกระบี่พุ่งออกไปด้วยความเร็วอัศจรรย์! ระหว่างทางก็ดูดกลืนศาสตราที่ปลิวกระเด็นจากการปะทะเมื่อครู่กลับมามาหมุนวนอีกครั้ง!!
เรียกว่าตอนนี้ค่ายกลกระบี่ใต้เท้าไม่ต่างกระสวยอวกาศที่พาร่างต้วนหลิงเทียนท่องทะยานแหวกความว่างเปล่า! พุ่งไล่จี้อู่เซี่ยวที่หนีไปด้วยความเร็วแทบทัดเทียมเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์จนทันได้ง่ายดาย!!
‘สำนึกพลังกระบี่จากขอบเขตที่ 5 ของยอดใจกระบี่อย่างใจกระบี่รวมหนึ่งช่างเลิศล้ำนัก มันพร้อมพรั่งไปทั้งการโจมตีและเคลื่อนไหวจริงๆ…เสมือนข้าได้รับวรยุทธ์เซียนอมตะสายจู่โจมทั้งท่าร่างในเวลาเดียวกัน!’
ต้วนหลิงเทียนได้ค้นพบสิ่งนี้มาตั้งแต่วันแรกที่ลองใช้เคล็ดพลังดังกล่าวแล้ว
เคล็ดพลังจากขอบเขตที่ 5 ของยอดใจกระบี่ ไม่เพียงสามารถนำไปผสานกับ 13 กระบี่บงกชฟ้าเพื่อเพิ่มพูนอำนาจการโจมตีได้ เขายังสามารถประยุกต์ใช้พลังจู่โจมจากเวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้า ให้เปลี่ยนเป็นพลังฉุดดึงหนุนเสริมความเร็ว!!
เรียกว่าตอนนี้เขาเสมือนใช้ 13 กระบี่บงกชฟ้าที่มีความเร็วในการจู่โจมสูงล้ำแทนเวทย์พลังเสริมท่าร่าง!!
เป็นธรรมดาว่าหากอาศัยเวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้าอย่างเดียวคงไม่อาจนำมาใช้ในรูปแบบนี้ได้ เพราะมันเป็นเวทย์พลังสายกระบี่ประเภทจู่โจม!
อย่างไรก็ตามเนื่องจากสำนึกกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนบรรลุหลังเข้าถึงขอบเขตที่ 5 ของยอดใจกระบี่อย่างใจกระบี่รวมหนึ่ง ด้วยการใช้มันเป็น ‘สื่อกลาง’ เขาจึงใช้ 13 กระบี่บงกชฟ้าในรูปแบบเวทย์พลังเสริมท่าร่างได้เช่นกัน!
กล่าวอีกอย่างได้ว่า…
ความเร็วในการเคลื่อนที่ของต้วนหลิงเทียนตอนนี้ทัดเทียมกับความเร็วของเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์!
ฟู่มมม!!
ด้วยความเร็วที่ทัดเทียมกับเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ ต้วนหลิงเทียนย่อมไล่ตามอู่เซี่ยวได้ในเวลาอันสั้น ทำให้สีหน้าอู่เซี่ยวเปลี่ยนไปมหันต์!
‘วรยุทธ์เซียนอมตะที่มันเชี่ยวชาญ…ที่แท้กลับทำได้ทั้งจู่โจมและเสริมท่าร่าง!?’
จังหวะนี้อู่เซี่ยวย่อมตระหนักได้ทันทีว่านี่มันเรื่องอะไร
และเป็นอะไรที่มันไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลย!
ตอนที่มันตัดสินใจยอมบาดเจ็บสาหัสและหมายอาศัยพลังต้วนหลิงเทียนหลบหนีมา เพราะมันไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะมีความเคลื่อนไหวรวดเร็วเท่าเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์!
หากเป็นแบบนั้นต้วนหลิงเทียนย่อมไม่มีวันไล่ตามมันได้ทัน!
อย่างไรก็ตามมันไม่อาจคิด กระทั่งหลับยังไม่อาจฝันถึง…
ว่าวรยุทธ์เซียนอมตะของต้วนหลิงเทียนสามารถใช้ได้ทั้งการโจมตีและเสริมท่าร่าง!
ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!
…
เมื่อไล่ตามอู่เซี่ยวได้ทัน ต้วนหลิงเทียนก็ไม่คิดเกรงใจ ปรากฏรังสีกระบี่พุ่งทะยานออกมาจากค่ายกระบี่ที่เป็นดั่งวังวนรังสีกระบี่ใต้ฝ่าเท้า ซัดทำร้ายเข้าใส่อู่เซี่ยวดั่งห่าพิรุณกระหน่ำอีกครั้ง!
และคราวนี้อู่เซี่ยวย่อมไม่เหลือพลังมากพอจะต้านทานรับมืออะไรได้อีก จึงถูกห่ารังสีกระบี่ที่กระหน่ำเข้ามาป่านห่าพิรุณกลืนกินทำลายจนร่างสลายหายไปในความว่างเปล่า…
ตัวตนอย่างเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์อันดับ 1 แห่งระหนาบโหมหลัว อันตรธานหายไปง่ายดายเพียงเท่านี้…
‘หากที่นี่ไม่มีเซียนอมตะเสเพลคนอื่นๆ บางทีข้าอาจเหลือทางรอดให้เจ้า…น่าเสียดายที่ตอนนี้ข้าทำได้แต่ฆ่าเจ้าเพื่อเชือดไก่ให้ลิงดูเท่านั้น’
หลังฆ่าอู่เซี่ยวแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็หยีตาลอบกล่าวในใจ
ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของอู่เซี่ยวที่เผยออกมาเมื่อครู่ กล่าวไปในระดับหนึ่งนับว่าถูกใจเขาไม่น้อย
หากไม่ใช่เพราะเขาคิดเชือดไก่ให้ลิงดู หมายสะกดเซียนอมตะเสเพลคนอื่นๆให้ดับความคิดตอแยกับเขา ไม่แน่ว่าเขาอาจจะปล่อยอู่เซี่ยวไปก็ได้…
ทว่าตอนนี้เพื่อขู่ให้เซียนอมตะเสเพลคนอื่นๆล้มเลิกความคิดวุ่นวายกับเขาให้เสียเวลา เขาก็ได้แต่ฆ่าอู่เซี่ยวทิ้งเท่านั้น!
และการเข่นฆ่าอู่เซี่ยว ย่อมไม่ทำให้ต้วนหลิงเทียนรู้สึกผิดแม้แต่น้อย!
เพราะสุดท้ายแล้วอู่เซี่ยวก็เป็นฝ่ายที่โผล่มาขวางทางและคิดเข่นฆ่าเพื่อชิงยอดสมบัติสวรรค์จากเขาและคนของเขาก่อน…
“อะ…อู่เซี่ยว ตะ…ตกตายไปทั้งแบบนั้น?”
“เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์อันดับ 1 ของระนาบโหมหลัว…ตกตายคามือครึ่งก้าวเซียนอมตะจริงๆ?”
“นิ…นี่จักเป็นไปได้อย่างไรกัน!? ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ ทั้งที่เป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะแท้ๆ ไฉนมันกลับทรงพลังถึงขั้นนี้ได้!?”
…
ในบรรดาเหล่าเซียนอมตะเสเพลที่ชมดูเรื่องราวอยู่รอบๆ ก็มีแค่เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์แค่ไม่กี่คนเท่านั้น ที่สามารถมองชมเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้ชัดถนัดตา และเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์อีกสิบกว่าคนก็เพียงเห็นเรื่องราวรางๆเท่านั้น…
ส่วนเซียนอมตะเสเพลที่เหลือโดยรอบเพียงมองเห็นเรื่องราวบางส่วน ยากจะเห็นได้ชัดว่าเกิดอะไรบ้างกันแน่
ตอนนี้พอมาเห็นอู่เซี่ยวตกตายคามือต้วนหลิงเทียน พวกมันจึงอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนกตกใจกับผลลัพธ์อันเหนือความคาดหมายดังกล่าว!
อีกทั้งตอนนี้กระทั่งเหล่าเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ที่เหลือ ยามมองไปยังต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ในแววตาก็ฉายชัดออกมาถึงความหวาดกลัว!
เพราะนั่นคือ ครึ่งก้าวเซียนอมตะ ที่ทรงพลังถึงขั้นเข่นฆ่าเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ได้!
และความสามารถในการสังหารเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ได้ ก็มากพอจะเผยให้รู้ว่าพลังความแข็งแกร่งของเขาเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์!
ครึ่งก้าวเซียนอมตะที่ทัดเทียมเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์..
เรื่องนี้จะให้คิดอย่างไร!?
“กระทั่งครั้งสุดท้ายที่แดนลับต่างสวรรค์เปิดออก ฟงชิงหยางจากระนาบเซียนที่ได้รับมรดกของต้าหลัวจินเซียนไปครองคราวนั้น…ไม่ใช่ว่าก่อนที่จะได้รับมรดกยังไม่ร้ายกาจเท่านี้เลยหรอกเหรอ?”
“อันที่จริงพลังของต้วนหลิงเทียนนตอนนี้…ข้าว่าทัดเทียมกับฟงชิงหยางหลังได้รับมรดกต้าหลัวจินเซียนไปครองแล้วด้วยซ้ำ!”
“ข้าได้ยินมันบอกไว้คราวก่อน…เห็นว่ามันเป็นผู้สืบทอดของฟงชิงหยางผู้นั้น!”
…
หลังหายจากอาการตกตะลึง เหล่าเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายอดไม่ได้ที่จะสนทนากันอีกครั้ง
ฟังจากคำพูดของพวกมัน ดูเหมือนตอนนี้ทั้งหมดมั่นใจแล้วว่าพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนในตอนนี้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าตอนที่ฟงชิงหยางดื้บทอดมรดกจากต้าหลัวจินเซียนแล้วเลย…
“ไปกันเถอะ”
อย่างไรก็ตามตอนนี้ต้วนหลิงเทียนไม่มีเวลาทั้งกะจิตกะใจจะมาสนใจฟังบทสนทนาอะไรของพวกมันทั้งสิ้น เพียงทักหานเฉวี่ยไน่กับจางยี่ และเตรียมจะพาทั้งคู่เข้าสู่มรดกสถานต้าหลัวจินเซียนเบื้องหน้า
แต่ทว่าในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกับพวกทั้ง 3 กำลังจะเข้าไปนั้นเอง
ซัววว!!
เมฆหมอกหนาทึบที่ปกคลุมมรดกสถานต้าหลัวจินเซียนอยู่ กลับบังเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นมาอย่างกะทันหัน! พวกมันเริ่มสั่นไหวแปรปรวนอย่างผิดปกติ!!