War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 2491
ตอนที่ 2,491 : เค่อเอ๋อปรากฏตัว
“ถ้าอย่างนั้นข้าก็อยากเห็นนัก… หากเจ้าไม่คิดร่วมมือกับเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของเผ่าปีศาจ แล้วเจ้าจะฆ่าข้าอย่างไร!
ได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน ประมุขเผ่ามังกรได้แต่ปรามาสออกมาด้วยน้ำเสียงค่อนแคะมุมปากยังอดยิ้มเยาะขึ้นมาไม่ได้ “เพราะจากพลังฝีมือที่เจ้าเผยออก ข้าเกรงว่าวันนี้เจ้าคงไม่มีวันฆ่าข้าได้!”
กระทั่งตอนนี้คนของเผ่ามังกรโดยรอบยังอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวไปมา
“ต้วนหลิงเทียนผู้นี้เห็นท่านประมุขเราเป็นลูกพลับสุกหรือไร? ต่อให้ท่านประมุขเราจะไม่มียอดสมบัติสวรรค์ แต่อย่างไรก็เป็นถึงเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ที่แท้จริง ครึ่งก้าวเซียนอมตะที่เพียงมีพลังทัดเทียมเช่นมันจักเอาปัญญาสามารถจากที่ไหนทำอะไรท่านได้?”
“นั่นสิ และจากที่ข้าดูต้วนหลิงเทียนนั่นสมควรใช้ไม้ตายก้นหีบออกมาหมดสิ้นแล้ว แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่เสมอกับท่านประมุขเท่านั้น…ด้วยพลังของมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฆ่าท่านประมุข หากมันไม่ใฝ่ต่ำหันไปร่วมมือกับเผ่าปีศาจ ข้าไม่เห็นทางที่มันจะฆ่าท่านประมุขเราได้อย่างที่พูด!”
“จริง! ยิ่งมาได้ยินคำพูดของต้วนหลิงเทียนว่ามันไม่คิดจะร่วมมือกับปีศาจแน่นอน ข้าจึงอดไม่ได้ที่จะสงสัย…ว่ามันไปเอาความมั่นใจมาจากที่ใดกันแน่ถึงได้กล้าพูดออกมาว่าจะฆ่าท่านประมุขแบบนี้!?”
…
เหล่าคนของเผ่ามังกรต่างไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมต้วนหลิงเทียนถึงลั่นวาจาออกมาแบบนั้น
เพราะดูจากพลังฝีมือที่ต้วนหลิงเทียนเผยออกจนถึงตอนนี้ พวกมันไม่เห็นทางที่ต้วนหลิงเทียนจะทำอย่างที่ปากว่าได้เลย
หากแต่ทีท่าเปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจของต้วนหลิงเทียนนั่น ทำให้พวกมันไม่เข้าใจจริงๆ
และในขณะที่ประมุขเผ่ามังกรมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยทีท่าดูถูกรังเกียจนั้นเอง
“เค่อเอ๋อ!”
ทันใดนั้นเอง อยู่ๆต้วนหลิงเทียนก็เงยหน้าขึ้นไปบนฟ้าก่อนที่จะตะโกนออกมาอย่างกะทันหัน ทำราวกับมีใครกำลังซ่อนตัวอยู่หลังม่านเมฆบนฟ้าสูง!
“เค่อเอ๋อ?”
และเสียงตะโกนเรียกหาฟังดูอ่อนโยนของต้วนหลิงเทียน ยังทำให้คนของเผ่ามังกรบางส่วนตกใจ
“มีผู้ใดอยู่ข้างบนงั้นหรือ!?”
หลังจากนั้นทั้งหมดก็เงยหน้ามองขึ้นไปบนฟ้าตามสายตาต้วนหลิงเทียนทันที ยังแผ่สำนึกเทวะออกไปก่อนใดอื่นอย่างไม่รู้ตัว
ทว่าไม่พบใคร
“ไม่เห็นมีผู้ใดอยู่เลย…”
“หากมีคนไฉนข้าจึงไม่พบ?”
“ต้วนหลิงเทียนมันใช่กำลังเสแสร้งทำเป็นลึกลับหรือไม่?”
…
ในขณะที่คนเผ่ามังกรหลายคนกำลังคิดว่าต้วนหลิงเทียนกำลังเสแสร้งวางมาดลึกลับ
“ผู้ใด?!”
ประมุขเผ่ามังกรพลันจับสัมผัสได้ถึงใครบางคนหลังม่านเมฆอย่างคลุมเครือตั้งแต่ได้เห็นต้วนหลิงเทียนแหงนมองตะโกนขึ้นไป ทำให้สีหน้าท่าทีมันเปลี่ยนไปทันที!
“มีคนจริงๆหรือ?!”
ทันใดนั้นสมาชิกเผ่ามังกรไม่เว้นอาวุโสสูงสุดทั้ง 2 ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจหลังเห็นทีท่าของประมุขเผ่า
จากนั้นพวกมันก็พยายามเพ่งมองสำรวจม่านเมฆ คล้ายจะค้นหาให้พบว่ามีคนอยู่จริงๆหรือ
ซัววว!!
และภายใต้สายตาของทุกคน อยู่ดีๆม่านเมฆก็แหวกเปิดออกเป็นช่อง
สองตาของพวกมันทอประกายเรืองวูบขึ้นมาทันใด
และก่อนที่จะมีใครทันได้ตอบสนองเรื่องราว
ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อไหร่ หากแต่ข้างกายต้วนหลิงเทียนตอนนี้กลับมีร่างอรชรหนึ่งลอยล่องอยู่ มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นสตรี!
“นางเป็นใครกัน?”
“เร็ว!”
อาวุโสสูงสุดทั้ง 2 ของเผ่ามังกรพอได้เห็นร่างบา สองตาของพวกมันก็อดไม่ได้ที่จะหดหยี สีหน้าท่าทียังเปลี่ยนเป็นตึงเครียดทันใด!
นั่นเพราะสตรีนางนี้รวดเร็วเกินไป!
สตรีนางนี้มาปรากฏตัวข้างกายต้วนหลิงเทียนได้อย่างไรพวกมันไม่อาจทราบได้เลย เรียกว่าแต่ต้นจนจบพวกมันไม่อาจแลเห็นร่องรอยความเคลื่อนไหวใดๆ!
เรื่องนี้เผยให้รู้ว่า…
ความเร็วของสตรีนางนี้ รวดเร็วเกินกว่าที่สายตาของพวกมันจะจับภาพได้ทัน!
เรื่องนี้หมายความว่าอะไร พวกมันย่อมรู้ดีเป็นธรรมชาติ!!
“กระทั่งยามท่านประมุขเคลื่อนไหววด้วยความเร็วสูงสุด พวกเรายังพอมองเห็นเงาร่างท่านได้…แต่สตรีนางนี้มาโผล่ตรงนั้นได้อย่างไร ข้ากลับมิอาจแลเห็นหรือสัมผัสได้เลย!”
“ข้าก็เหมือนกัน!”
หลังอาวุโสสูงสุดทั้ง 2 ส่งเสียงผ่านพลังคุยกัน พวกมันก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ
“ดังนั้นมีความเป็นไปได้แค่ 2 ประการเท่านั้น…หนึ่งคือพลังฝีมือของสตรีนางนี้อยู่เหนือขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์…อย่างที่สองสตรีนางนี้พึ่งมาถึงและพวกเรามิทันได้สังเกต”
“หากเป็นไปได้ข้าขอให้เป็นอย่างที่สองมากกว่า…หากเป็นอย่างแรกจริงมันก็เหลือเชื่อเกินไป!”
“แต่ถึงจะเป็นอย่างที่สอง…แต่ความแข็งแกร่งของสตรีนางนี้ย่อมไม่ใช่เล่นๆแน่นอน!”
…
ในขณะที่อาวุโสสูงสุดทั้ง 2 กำลังส่งเสียงผ่านพลังคุยกัน เหล่าสมาชิกคนอื่นๆของเผ่ามังกร ก็กำลังมองไปยังสตรีที่ลอยอยู่ข้างๆชายหนุ่มชุดม่วงไกลๆ ด้วยสายตากังวล
“นางเป็นผู้ใดกันแน่?”
เรียกว่าตอนนี้ทุกสายตาจับจ้องมองชมรูปร่างหน้าตาสตรีผู้มาใหม่ข้างๆต้วนหลิงเทียนไม่วางตา
ด้วยรูปโฉมอันไร้ที่ติของสตรีนางนี้ ให้กล่าวว่างดงามล่มเมืองก็ไม่เกินเลย อีกทั้งท่าทางยังแลดูบริสุทธิ์อ่อนโยน พาลให้หลายคนอดไม่ได้ที่จะมองจนตาลอยอยู่บ้าง!
อย่างไรก็ตามมีไม่น้อยในบรรดาเผ่ามังกรที่อยู่รอบๆ กำลังชักสีหน้าเคร่งขรึม!
นั่นเพราะพวกมันไม่อาจแลเห็นได้เลย ว่าสตรีนางนี้มาได้อย่างไร!
“สตรีนางนี้เป็นใครกันแน่!? ไฉนความเร็วของนางถึงได้สูงล้ำนัก! ข้าอย่างไรก็เป็นเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ แต่ข้าไม่อาจเห็นได้ด้วยซ้ำว่านางมาปรากฏตัวตรงนั้นได้อย่างไร…อย่างไรก็ตามข้ามั่นใจเต็มสิบส่วนว่านางพึ่งลงมาจากฟ้าสูงแน่นอน!”
“นางคือเค่อเอ๋อที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวถึงหรือ?”
“ที่ต้วนหลิงเทียนมั่นใจว่าจะเข่นฆ่าท่านประมุขของพวกเราได้ โดยไม่พึ่งเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของเผ่าปีศาจ…หรือจะมีบ่อเกิดมาจากโฉมงามนางนี้?”
“ปะ…เป็นไปได้หรือไม่ ว่าสตรีนางนี้จักเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ด้วย!?”
…
ในขณะที่มองจ้องสตรีข้างกายต้วนหลิงเทียน ยิ่งมาเสียงกระซิบของสมาชิกเผ่ามังกรก็ยิ่งฟังดูหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ
หลายคนคาดเดาไปว่า
สตรีนางนี้ เป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ไม่ผิดแน่!
มิฉะนั้นทำไมต้วนหลิงเทียนถึงได้มั่นใจนัก?
“เจ้าเป็นผู้ใดกัน?”
ขณะเดียวกัน ด้านประมุขเผ่ามังกรเองก็มองถามไปยังสตรีข้างกายต้วนหลิงเทียนด้วยทีท่าหวั่นเกรง
ถึงแม้ว่าก่อนหน้าสำนึกเทวะของมันจะตรวจจับการคงอยู่ของนางได้ หากแต่ความรู้สึกที่สำนึกเทวะมันได้รับนั้น…ช่างคลุมเครือเหลือเกินทำให้มันตระหนักได้ถึงความไม่ธรรมดาของนางทันที!
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลงมาจากฟ้าสูงของนางช่างรวดเร็วนัก! กระทั่งตัวมันเองยังมองไม่ชัดเจน เห็นเพียงร่างเงาเลือนรางเท่านั้น!!
เรื่องนี้หมายความว่า…
ความเร็วของสตรีนางนี้เหนือล้ำกว่ามัน!
และมันก็ตัดสินได้ทันที
สรีนางนี้สมควรเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์เหมือนมันเต็มสิบส่วน!
สำหรับเรื่องที่ไฉนความเร็วของนางถึงได้สูงจนน่าเหลือเชื่อนั้น มันเชื่อว่าอีกฝ่ายสมควรมียอดสมบัติสวรรค์ที่ส่งเสริมความเร็วในครอบครอง!
ด้วยคำถามดังกล่าวของประมุขเผ่ามังกร ทำให้บรรยากาศโดยรอบเงียบลงชั่วคราว
เป็นธรรมดาว่าสตรีที่พึ่งมาปรากฏตัวข้างกายของต้วนหลิงเทียนไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเค่อเอ๋อภรรยาเขานั่นเอง
เพราะในตอนที่ต้วนหลิงเทียนโยนยอดสมบัติสวรรค์ไปให้ประมุขเผ่ามังกรนั้น เขาได้อาศัยจังหวะที่ไม่ทันมีใครสนใจลอบบดขยี้ป้ายหยกสื่อสาร แจ้งเค่อเอ๋อที่อยู่ในภาคเหนืออันไกลห่างแต่แรก
เพราะเขาเองก็รู้ตั้งแต่แรกว่าเป็นเรื่องยากนักหากคิดจะฆ่าประมุขเผ่ามังกร!
อันที่จริงก่อนที่จะมาบุกเผ่ามังกรถึงถิ่นวันนี้ เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าประมุขเผ่าจะเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์
ต่อมาพอได้รู้ว่าประมุขเผ่ามังกรเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ ทว่าเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย เพราะเขาก็ไม่ได้คิดจะปะทะกับประมุขเผ่ามังกรหรือแม้แต่เห็นเผ่ามังกรทั้งเผ่าเป็นศัตรูแต่แรก
เนื่องเพราะเขาได้ล้างแค้นอย่างชอบธรรม ตราบใดที่วันหน้าเผ่ามังกรไม่คิดเป็นศัตรูกับเขาและ 7 ทวาราเที่ยงแท้อีกต่อไป เขาเองก็ไม่คิดจะยุ่งวุ่นวายอะไรอีก
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือ
ประมุขเผ่ามังกรนั่น ยืนกรานจะฆ่าเขาเพื่อล้างแค้นให้ตี้ฮ่วน!
กระทั่งยังบังเกิดความละโมบหมายยึดครองยอดสมบัติสวรรค์เขา!
นั่นยังพอทำเนา
แต่สิ่งที่ทำให้ต้วนหลิงเทียนรู้สึกรับไม่ได้มากที่สุดก็คือ…
ประมุขเผ่ามังกรผู้นี้ หลังจากได้ปะทะกับเขาและตระหนักว่ามันไม่อาจทำอะไรเขาได้ มันก็ถึงกลับเอาคนของ 7 ทวาราเที่ยงแท้มาขู่เขาหน้าด้านๆ…
ว่าหากเขาไม่มอบยอดสมบัติสวรรค์ให้…มันจะไปตามราวีคนของเขา หลังจากที่เขาขึ้นสวรรค์ไปแล้ว!
ตั้งแต่วินาทีนั้น ในใจต้วนหลิงเทียนก็ได้ตัดสินโทษประหารให้ประมุขเผ่ามังกรเรียบร้อย!
เขาจึงไม่ลังเลใดๆ เลือกที่จะบดขยี้ป้ายหยกเพื่อเรียกเค่อเอ๋อทันที!
ขณะเดียวกัน เขาก็ได้โยนกระบี่เซียนอมตะไปให้อีกฝ่าย
สำหรับเหตุผลที่เขากระทำเช่นนี้ เพียงเพราะต้องการจะดูว่า…
หลังจากที่ได้ยอดสมบัติสวรรค์ไปแล้ว ประมุขเผ่ามังกรจะกลับคำพูดหันมาฆ่าเขาทั้งราวีคนของเขาต่อหรือไม่!
หากประมุขเผ่ามังกรกลับคำพูด และคิดเข่นฆ่าคนของเขาสืบต่อจริง เช่นนั้นวันนี้ก็ไม่ใช่มันเท่านั้นที่ตาย แต่สายธารโลหิตจะเจิ่งนองแดงฉานไปทั่วเผ่ามังกร! เพราะเขาจะฆ่าล้างบางพวกมันให้หมด!!
ประมุขเผ่ามังกรย่อมไม่เคยคิดเคยฝัน
ว่าการที่ต้วนหลิงเทียนให้ความร่วมมือแต่โดยดีและส่งมอบยอดสมบัติสวรรค์ให้แต่แรก ไม่ใช่เพื่อจะแกล้งมันแต่อย่างใด เพียงแค่ทดสอบความซื่อสัตย์ของมันเท่านั้น!
หากมันยังไร้สัจจะไม่รักษาคำพูด วันนี้ทั้งเผ่ามังกรได้ร่วมกลบฝังไปพร้อมกับมันแน่!
“พี่เทียน…แค่ฆ่ามันคนเดียวหรือ?”
หลังจากที่เค่อเอ๋อปรากฏตัวนางก็เหลือบไปมองประมุขเผ่ามังกรด้วยสายตาไร้แยแส จากนั้นค่อยหันมามองถามต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาอ่อนโยนผิดกับเมื่อครู่ราวสวรรค์และโลก…
เรียกว่าตอนนี้คล้ายโลกทั้งใบในสายตาเค่อเอ๋อ คงเหลือแต่เพียงต้วนหลิงเทียนผู้เดียว…
“อย่างน้อยๆมันก็ยังรักษาคำพูด…หลังจากที่ข้าส่งมอบกระบี่เซียนอมตะให้มัน มันยังตั้งใจจะทำตามสัญญาเรื่องที่จะไม่ทำร้ายคน 7 ทวาราเที่ยงแท้อีกต่อไป เช่นนั้นฆ่ามันคนเดียวก็พอ”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า
หลังจากนั้นต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองประมุขเผ่ามังกร พลางกล่าวออกมาเสียงเรียบ “เจ้านับว่ายังโชคดีที่ไม่คิดกลับกลอกวาจาผิดคำสัญญา…”
วาจาของต้วนหลิงเทียนได้เผยให้ประมุขเผ่ามังกรรู้เรื่องหนึ่ง
ที่แท้อีกฝ่ายโยนกระบี่ให้มันไม่ใช่เพราะคิดหยอกล้ออันใด แต่เพื่อทดสอบว่ามันจะผิดคำพูดหรือไม่!
“ต้วนหลิงเทียนผู้นี้…ไม่ใช่เพราะมันมีความสามารถช่วงชิงอาวุธกลับ จึงโยนยอดสมบัติสวรรค์ให้ท่านประมุข แต่ส่งมอบให้เพราะสาเหตุนี้งั้นหรือ!?
“ข้าหลงคิดว่าที่มันกระทำเช่นนั้นเพียงเพราะคิดกลั่นแกล้งท่านประมุข…แต่ฟังคำพูดของมันแล้ว หรือมันคิดทดสอบความซื่อสัตย์ของท่านประมุขจริงๆ?”
“ยังหมายความว่า…มันตัดสินโทษตายให้ท่านประมุขแต่แรก?”
…
สมาชิกเผ่ามังกรก็ไม่ใช่ชนชั้นโง่เขลาอะไร ย่อมตระหนักเรื่องราวได้ทันทีหลังได้ยินคำพูดของต้วนหลิงเทียน