War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 2498
ตอนที่ 2498 : อยู่หรือตายด้วยกัน!
เมื่อได้ยินคำพูดของเค่อเอ๋อสีหน้าของอวิ๋นชิงเหยียนก็มืดคล้ำดำลงทันที
ในตอนนั้นมันมีโอกาสได้จัดแจงเรื่องทำให้เค่อเอ๋อกลับชาติมาเกิดแล้วแท้ๆ กระทั่งยังจงใจส่งให้นางกลับมาเกิดในระนาบโลกียะอันห่างไกล
จุดประสงค์ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อไม่ให้นางอยู่ในสายตาของตระกูล และตัวมันจะได้มีโอกาสใช้เวลาอยู่กับเค่อเอ๋อ
ที่มันตั้งใจไว้ก็คือ มันจะใช้เวลาร่วมกับเค่อเอ๋อและพิชิตใจนางก่อนที่ความทรงจำของเค่อเอ๋อจะกลับคืนมา
แต่ทว่ามันคิดไม่ถึงเลยจริงๆ
ว่าเมื่อมันกลับมาหาเปี่ยวเม่ยที่กลับชาติมาเกิดใหม่คนนี้ มันกลับต้องมาพบว่าอีกฝ่ายไม่เพียงแต่จะมีสามีแล้วกระทั่งยังให้กำเนิดลูกสาวแก่อีกฝ่าย!
(เปี่ยวเม่ย = ลูกพี่ลูกน้องฝ่ายแม่ที่เป็นผู้หญิงและมีอายุน้อยกว่า)
‘ระยำเอ๊ย! หากข้ารู้ว่าผลมันจะลงเอยแบบนี้ ปีนั้นข้าไม่กลับไปจัดการเรื่องนั้นเสียก็ดี!’
ย้อนกลับไปในอดีต อวิ๋นชิงเหยียนมีธุระต้องย้อนกลับไปจัดการ ทำให้เมื่อมันตระเตรียมเรื่องเค่อเอ๋อกลับชาติมาเกิดเสร็จ มันก็กลับไปจัดการเรื่องราวทันที
แน่นอนว่าในสายตาของอวิ๋นชิงเหยียนตัวมันก็ไม่ได้จากไปนานเลย
อีกทั้งมันยังได้ตระเตรียมคนในระนาบโลกียะแห่งนี้เอาไว้เรียบร้อย มันจึงค่อนข้างวางใจ…
ทว่าช่างเป็นอะไรสุดที่มันจะคิดคาดฝันถึงนัก เพราะเมื่อมันย้อนกลับมาอีกครา ไม่เพียงคนที่มันตระเตรียมไว้จะถูกฆ่าตายไปแล้ว แต่แผนพิชิตใจเปี่ยวเม่ยก่อนจะได้รับความทรงจำกลับคืนก็ล่มไม่เป็นท่า!
เรื่องนี้ทำให้มันรู้สึกยากจะยอมรับนัก!
“เปี่ยวเม่ยเจ้าสมควรรู้…ท่านลุงกับท่านน้าย่อมไม่มีวันยอมให้เจ้าอยู่กินกับมนุษย์ต้อยต่ำเยี่ยงมดเช่นมันแน่ กระทั่งหากพวกท่านรู้ว่ามันทำให้เจ้าต้องมีมลทิน ไม่พ้นมันต้องถูกฆ่าทิ้งทันที!”
อวิ๋นชิงเหยียนกล่าวออกเสียงหนัก
“นี่เป็นเรื่องภายในตระกูลเซี่ยของข้า ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเจ้า!”
เค่อเอ๋อกล่าวออกเสียงเย็น
“เปี่ยวเม่ยเจ้าอย่าได้ลืมไป…มารดาของข้า ป้าของเจ้าเองก็เป็นคนของตระกูลเซี่ย ในฐานะที่ข้าเป็นลูกชายข้าก็นับได้ว่าเป็นคนของตระกูลเซี่ยเช่นกัน ดังนั้นไฉนข้ายังไม่มีธุระจัดการดูแลได้?!”
หลังกล่าวจบคำ อวิ๋นชิงเหยียนก็หันไปมองต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ในแววตายังฉายชัดถึงเจตนาฆ่าฟันเหนือคำบรรยาย ราวกับทนรอสับร่างต้วนหลิงเทียนให้เป็นชิ้นๆไม่ไหวแล้ว!
“เจ้ายังกล้าพูดได้ไม่อายปาก…”
เค่อเอ๋อยิ้มเยาะ “เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่า เรื่องที่เจ้าทำอยู่มิใช่เป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของเจ้าเอง?”
“อวิ๋นชิงเหยียนข้าแนะนำให้เจ้ายอมแพ้และเลิกเสียเวลากับข้าได้แล้ว…ไม่ว่าจะเป็นชาติที่แล้วหรือชาตินี้ ตัวข้าไม่มีวันสนใจเจ้ายิ่งไม่มีวันอยู่กับเจ้า! ในเมื่อข้าในชาติที่แล้วได้ตกตายไป เช่นนั้นสัญญาตบแต่งของชาติที่แล้วก็ย่อมสิ้นสุดลง!”
เค่อเอ๋อกล่าวออกคำออกมาด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
ทันใดนั้นสีหน้าท่าทีอวิ๋นชิงเหยียนก็มืดดำลงถึงขีดสุด “ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องแต่งกับข้าอะไร…อย่างไรเสียวันนี้เจ้าก็ต้องกลับไปพร้อมข้า! ไมว่าจะท่านลุงหรือท่านน้า ล้วนถามเรื่องการกลับชาติมาเกิดของเจ้ากับข้าหลายต่อหลายครั้งแล้ว เห็นได้ชัดว่าทั้งคู่ล้วนเป็นห่วงเป็นใยเจ้าอย่างยิ่ง!”
“ไร้สาระ!”
ได้ยินคำของอวิ๋นชิงเหยียน เค่อเอ๋ออดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะออกมา “หากเจ้าใส่ใจท่านพ่อกับท่านแม่ข้าจริง เจ้าจะจัดการให้ข้าเกิดใหม่ที่ระนาบโลกียะแห่งนี้ตั้งแต่ตอนนั้นหรือ? หากข้าเดาไม่ผิด…ตลอดหลายปีที่ผ่านเจ้าคงยังมิได้บอกท่านพ่อกับท่านแม่ของข้าเรื่องที่ข้ากลับมาเกิดใหม่ในระนาบโลกียะแห่งนี้ใช่หรือไม่?”
กล่าวถึงท้ายประโยค สายตาที่เค่อเอ๋อใช้มองอวิ๋นชิงเหยียนก็แหลมคมทั้งกระจ่างปานจะมองออกทุกสิ่ง!
และเมื่อเห็นสีหน้าของอวิ๋นชิงเหยียนมืดลงแถมคิ้วขดย่น เค่อเอ๋อก็หัวเราะออกมาพลางกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าข้าจะเดาถูกสินะ!”
“เป็นเจ้าเดาไม่ผิด…”
คิ้วของอวิ๋นชิงเหยียนเริ่มคลายตัว สีหน้ามืดคล้ำยังเริ่มหายไป จากนั้นมันก็พูดออกมาเบาๆว่า “แต่ไม่ว่าจะยังไง วันนี้เจ้าก็ต้องกลับไปพร้อมข้า!”
“นางเป็นภรรยาข้า! เจ้าอาศัยอะไร…ไฉนนางต้องกลับไปพร้อมกับเจ้า!”
ต้วนหลิงเทียนที่ไม่ได้พูดอะไรมาตลอด อดไม่ได้ที่จะกังวลเมื่อได้ยินอวิ๋นชิงเหยียนกล่าวเรื่องจะพาตัวเค่อเอ๋อไป สีหน้าเขายังกลายเป็นปั้นยากขึ้นมาทันที
ครั้งก่อนตอนเค่อเอ๋อถูกก่านหรูเยี่ยนพาตัวไปจากภูมิภาคเบื้องล่าง เขาทำได้แต่ยืนดู…
วันนี้ฉากเรื่องราวในอดีตคล้ายกำลังจะฉายซ้ำรอย…
หากแต่คราวนี้เขาไม่มีวันยืนมองเค่อเอ๋อถูกพรากไปอีกแน่ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม…!
เพราะครั้งหนึ่ง เขาเคยสัญญากับเค่อเอ๋อ…
ว่าตราบใดที่เขายังมีลมหายใจ จะไม่มีวันแยกจากนางอีก!
“ข้าอาศัยอะไร?”
ได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน ทีท่าอวิ๋นชิงเหยียนไม่ได้เปลี่ยนไป หากแต่เมื่อมองต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ใบหน้าของมันกลับฉายชัดถึงความดูแคลน มุมปากยังยกยิ้มแสยะเหยียดหยาม
“สำหรับเจ้า ข้าคือตัวตนอันไร้เทียมทาน!”
“กระทั่งข้าไม่แม้แต่จะขยับนิ้ว…อาศัยเพียงหนึ่งห้วงคิดก็ทำให้เจ้าไม่ตายดี กระทั่งยังไม่เหลือแม้แต่ขี้เถ้า!”
ทันใดนั้นแววตาของอวิ๋นชิงเหยียนก็เย็นลง
ครู่ต่อมา
เปรียะ! เปรียะ! เปรียะ! เปรียะ!
…
เสียงปริแตกพลันดังขึ้น ความว่างเปล่าที่คืนตัวแล้วรอบกายต้วนหลิงเทียน เริ่มแตกสลายอีกครั้ง!
ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
…
ทันใดนั้นพลังมหาศาลอันน่ากลัวก็เริ่มกระแทกกระทั้นเข้าร่างเขา ทำให้พลังที่เขาพยายามโคจรในเส้นชีพจรเซียน 99 สายแหลกสลายไม่มีเหลือ!
พลังที่อยู่ๆก็ผุดโผล่ขึ้นมาจากความว่างเปล่า จนทำให้ความว่างแตกสลายเป็นเสี่ยงนั้น…ช่างทรงพลังนัก! หากทว่ายามพวกมันกระแทกเข้าร่างต้วนหลิงเทียนกลับไม่ได้ซัดทำร้ายจุดสำคัญ เพียงแค่ส่วนอื่นของร่างกายไม่มีจุดใดอยู่ดี!!
“อั๊ค–”
“อ๊อค–”
…
ต่อหน้าพลังมหาศาลที่กระหน่ำเข้ามา ต้วนหลิงเทียนไม่อาจเร่งเร้าโคจรพลังใดๆได้เลยด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับใช้ทักษะต่อต้าน ตอนนี้เขาคล้ายหุ่นกระบอกตัวหนึ่ง ทำได้แค่ปล่อยให้พลังอันมหาศาลซัดกระแทกทำร้ายตามใจ
ทั่วร่างต้วนหลิงเทียนปรากฏรอยฟกช้ำอันน่ากลัว โลหิตยังกระอักออกปากราวน้ำพุ ราวกับจะกระอักออกมาให้หมดตัว!
และทุกคราที่ต้วนหลิงเทียนกระอักโลหิตออกมา ลมหายใจของเขาก็อ่อนโทรมลงทุกที!
สุดท้ายต้วนหลิงเทียนก็บาดเจ็บเจียนตาย กระทั่งเศษพลังที่ใช้ลอยตัวในอากาศยังไม่เหลือ เมื่อไร้พลังผนึกร่าง คนก็เริ่มหล่นร่วงลงจากฟ้า ตกกระแทกลงบนยอดเขาแห่งหนึ่ง แน่นิ่งไปแทบไม่เหลือลมหายใจใดๆ…
“อวิ๋น! ชิง! เหยียน!”
เห็นฉากนี้ร่างเค่อเอ๋อก็สั่นสะท้านไปด้วยโทสะ ใบหน้างามเปี่ยมล้นไปด้วยความเย็นชา
ขณะที่สองตาของนางก้มไปมองสบร่างต้วนหลิงเทียนที่สาหัสบนยอดเขามันช่างเต็มไปด้วยความเจ็บปวดราวใจจะขาดรอนๆ หากแต่เมื่อหันไปมองอวิ๋นชิงเหยียนก็มากล้นไปด้วยจิตสังหารปานจะหั่นศพอวิ๋นชิงเหยียนให้แหลกเป็นหมื่นชิ้น!
แต่ต้นจบจบที่เค่อเอ๋อไม่เคลื่อนไหวใดๆเป็นเพราะ…
ในขณะที่อวิ๋นชิงเหยียนลงมือกับต้วนหลิงเทียน มันก็ลงมือกับเค่อเอ๋อด้วยเช่นกัน แต่เป็นธรรมดาว่ามันไม่ได้ลงมือรุนแรงอะไรกับเค่อเอ๋อ เพียงใช้พลังสะกดร่างเค่อเอ๋อเอาไว้ไม่ให้ขยับเขยื้อนเท่านั้น
และไม่ว่าจะการลงมือเล่นงานต้วนหลิงเทียนหรือผนึกร่างเค่อเอ๋อ อวิ๋นชิงเหยียนก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเลย เพียงลอยร่างอยู่เฉยๆเท่านั้น
อย่าว่าแต่ต้วนหลิงเทียนที่ทำได้แค่เป็นกระสอบทรายให้อีกฝ่ายลงมืออย่างไร้หนทางต่อต้าน กระทั่งเค่อเอ๋อที่มีพลังเทียบได้กับจินเซียนของระนาบเทวโลกยังไม่อาจแข็งขืน…
เช่นนั้นพลังความแข็งแกร่งของอวิ๋นชิงเหยียนเป็นเช่นไร จึงได้ประจักษ์…
อย่างไรก็ตามอวิ๋นชิงเหยียนไม่แยแสวาจาเย็นชาที่ตะโกนออกของเค่อเอ๋อ มันโรยตัวลงไปยังยอดเขาที่ต้วนหลิงเทียนร่วงตกลงไป พริบตาก็ลุมาถึงข้างร่างต้วนหลิงเทียนที่กำลังนอนบาดเจ็บสาหัสอยู่
“เจ้าถามว่า…ข้าอาศัยอะไร จึงจะพาภรรยาของเจ้าไปงั้นเหรอ?”
อวิ๋นชิงเหยียนก้มลงไปนั่งยองๆมองต้วนหลิงเทียนที่ตอนนี้พยายามเงยหน้าขึ้นมาอย่างยากลำบาก ด้วยสายตาเย้ยหยันพลางยิ้มบางๆกล่าวว่า “ตอนนี้เจ้ายังคิดเช่นนั้นอยู่หรือไม่?”
“อาศัยสวะที่อ่อนแอเยี่ยงมดปลวกเจ้า…หาญกล้ามาตะโกนต่อหน้าข้า? ข้าว่าเจ้าคงเบื่อชีวิตมากแล้วกระมัง?”
กล่าวถึงท้ายประโยคน้ำเสียงของอวิ๋นชิงเหยียนก็เยียบเย็นนัก
ไม่ว่าอาการบาดเจ็บจะสาหัสเพียงใด ถึงขั้นกระทั่งร่างกายยังขยับไม่ได้แต่ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ร้องออกมาสักแอะ
หากแต่ตอนนี้พอได้ยินวาจาเสียงเย็นของอวิ๋นชิงเหยียน ต้วนหลิงเทียนก็กัดฟันกล่าวออกด้วยน้ำเสียงแหบแห้งเย็นชา “อวิ๋นชิงเหยียนหากเจ้าแน่จริงก็ฆ่าข้าเสียวันนี้…หาไม่แล้ววันหน้าข้าจะให้เจ้าเสียใจ!”
เพียะ!
แทบจะทันทีที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำ อวิ๋นชิงเหยียนก็สะบัดมือตบต้วนหลิงเทียนไปฉาดหนึ่ง ค่อยกล่าวออกด้วยน้ำเสียงไม่แยแส “อาศัยสวะเยี่ยงมดเช่นเจ้า ยังกล้าพูดว่าหากวันนี้ข้าไม่ฆ่าเจ้า ตัวเจ้ายังจะมีปัญญาทำให้ข้าต้องเสียใจในภายหลัง?”
“อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเจ้าด่วนตายนัก ข้าอวิ๋นชิงเหยียนจักสงเคราะห์ให้!”
ทันใดนั้น อวิ๋นชิงเหยียนก็เผยยิ้มแสยะเย็นชา เตรียมลงมือสังหารต้วนหลิงเทียนทิ้งให้จบๆ!
ก่อนหน้านี้หากไม่ใช่เพราะเปี่ยวเม่ยที่กลับชาติมาเกิดใหม่ เกรงว่าชายหนุ่มชุดม่วงเบื้องหน้าคงตกตายไปแต่แรกแล้ว
มดปลวกสวะในระนาบโลกียะอันต้อยต่ำนี่ ไม่เพียงแต่ทำให้เปี่ยวเม่ยที่กลับชาติมาเกิดใหม่ของมันต้องมัวหมอง กระทั่งยังทำให้เปี่ยวเม่ยที่กลับมาเกิดใหม่ของมันคลอดลูกให้…!
เรื่องนี้เป็นอะไรที่มันสุดจะทนแล้ว!!
หากทำได้ มันก็แทบอดรอไม่ไหวจะฉีกร่างอีกฝ่ายให้เป็นชิ้นๆ!
“อวิ๋นชิงเหยียน!”
ในเวลาเสี้ยวพริบตาก่อนที่อวิ๋นชิงเหยียนกำลังจะฆ่าต้วนหลิงเทียนทิ้ง เสียงตะโกนเยียบเย็นของเค่อเอ๋อพลันดังขึ้น “หากเจ้าฆ่าพี่เทียน ข้าจะฆ่าตัวตายพี่เทียนไปทันที!”
วูบ!
ได้ยินวาจาประโยคนี้ของเค่อเอ๋อ สีหน้าอวิ๋นชิงเหยียนพลันบิดเบี้ยวไปทันใด มันหยุดความคิดสังหารคน เร่งเงยหน้าขึ้นไปมองเค่อเอ๋อบนฟ้า กล่าวถามออกไปเสียงหนักว่า “เปี่ยวเม่ยตัวเจ้ามีฐานะสูงส่งเพียงใด…แต่ตอนนี้ เจ้ากระทั่งยินดีตกตายไปพร้อมมดปลวกสวะเยี่ยงมัน?”
“มัน…คู่ควรแล้วหรือ?”
หลังกล่าวถามจบคำ อารมณ์ของอวิ๋นชิงเหยียนก็ปั่นป่วนนัก
เปี่ยวเม่ยของมันคนนี้เป็นโฉมงามแสนเย็นชาไม่แยแสบุรุษหน้าไหน กระทั่งชาติก่อนของนาง…ไม่ว่าตัวมันจะทำอะไรอีกฝ่ายก็เฝ้าแต่จะผลักไสมันให้ไกลห่างออกไปนับพันลี้ และถึงแม้จะมีสัญญาวิวาห์ด้วยกัน แต่อีกฝ่ายยังเลือกหนทางตายดีกว่าต้องแต่งกับมัน!
อย่างไรก็ตาม วันนี้เปี่ยวเม่ยที่กลับชาติมาเกิดของมัน กลับยินดีละทิ้งชีวิตเพื่อบุรุษคนหนึ่ง…
จังหวะนี้ในใจมันเต็มไปด้วยความอิจฉาถึงขีดสุด
เพราะอะไร?
เพราะอะไรสตรีนางหนึ่งที่ไม่เคยยอมรับตัวมัน กระทั่งไม่สนใจใยดีมันแม้แต่น้อยไม่ว่ามันจะพยายามเท่าไหร่ก็ตาม ยังถึงขั้นยอมตายแต่ไม่ยอมอยู่กับมัน…กลับสละได้กระทั่งชีวิตเพื่อบุรุษอื่น?
หากบุรุษผู้นั้นเหนือล้ำกว่ามันทุกด้าน ตัวมันก็พอเข้าใจและยอมรับได้…
แต่ปัญหาก็คือ…
บุรุษตรงหน้าของมันเป็นเพียงมดอ่อนแอในระนาบโลกียะอันแสนต้อยต่ำ สิ่งมีชีวิตที่มันอาศัยเพียงหนึ่งห้วงคิดก็ฆ่าให้ตายได้ โดยไม่ต้องลำบากขยับแม้แต่ปลายนิ้วด้วยซ้ำ…
“เขาคือบุรุษที่ข้า เซี่ยหนิงเสวี่ย รัก…ไม่ว่าจะอีกกี่ชาติภพ ข้าเซี่ยหนิงเสวี่ยพร้อมจะอยู่และตายไปด้วยกันกับเขา!”
“เขาอยู่ข้าอยู่ เขาตายข้าตาย!”
เค่อเอ๋อกล่าวออกมาอีกครั้ง น้ำเสียงยังเย็นชาทั้งแน่วแน่นัก!