War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 2572
ตอนที่ 2,572 : ทะยาน!
ณ ดาราจักรคลื่นสวรรค์ วังคลื่นสวรรค์
ตั้งแต่ที่ได้รับทราบว่าชายหนุ่มชุดม่วงนามต้วนหลิงเทียนที่เข่นฆ่าสังหารบรรพบุรุษขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของพวกมันไป…ที่แท้เป็นเพียงครึ่งก้าวเซียนอมตะ เหล่าผู้คนในวังคลื่นสวรรค์ก็บังเกิดความเศร้าโศกทั้งหดหู่ใจนัก!
เพราะพวกมันรู้สึกว่า บรรพบุรุษของพวกมันตกตายอย่างไร้ความเป็นธรรมเหลือเกิน!
หากบรรพบุรุษของพวกมันล่วงรู้แต่แรกว่าต้วนหลิงเทียนเป็นแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะล่ะก็ แค่เศษพลังวิญญาณก็เข่นฆ่าอีกฝ่ายได้แล้ว!
และถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะลงมือตอบโต้ได้ทันท่วงทีและฆ่าบรรพบุรุษของพวกมันได้ แต่อย่างน้อยๆต้วนหลิงเทียนนั่นก็ต้องตกตายลงเช่นกัน ไม่ใช่ยังอยู่ดีมีสุขแบบนี้…
เหตุการณ์ดังกล่าวประหนึ่งหนามตำใจคนวังคลื่นสวรรค์นัก ทุกครั้งที่นึกถึงพวกมันก็ปวดใจเหลือเกิน
จนเมื่อข่าวที่สะเทือนไปทั้งระนาบเหยียนหวงแพร่มาถึง หนามตำใจดังกล่าวของคนวังคลื่นสวรรค์ก็สลายหายวับไปกับตา
“ต้วนหลิงเทียนผู้นั้น แม้จะเป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะ…แต่กลับหยุดอำนาจจิตสังหารของบรรพบุรุษตระกูลกงซุนอย่างกงซุนเวิ่นเทียนได้งั้นหรือ กระทั่งยังบีบคั้นให้กงซุนเวิ่นเทียนผู้นั้นฆ่าตัวตายได้อีกด้วย?”
“ช้าก่อน! กงซุนเวิ่นเทียนของตระกูลกงซุนนั่น…มิใช่ยอดฝีมืออันดับ 1 ของระนาบเหยียนหวพวกเราหรือไร!?”
“เป็นมัน!”
“สวรรค์! กระทั่งยอดฝีมืออันดับ 1 ในระนาบเหยียนหวงทั้งเป็นผู้บ่มเพาะร่างวิญญาณควบแน่น ตัวตนที่แข็งแกร่งกว่าท่านบรรพบุรุษวังคลื่นสวรรค์ของพวกเรา ยังไม่อาจฆ่าต้วนหลิงเทียนคนนั้นได้ สุดท้ายยังถูกบีบให้ฆ่าตัวตายอีก?”
“เช่นนั้น…ท่านบรรพบุรุษของพวกเราก็มิได้ตายอย่างไร้ความเป็นธรรมแล้วสิ?”
“ดูเหมือนว่าจะใช่”
“เห็นว่าทั้งหมดเป็นเพราะคนตระกูลกงซุนเห็นต้วนหลิงเทียนใช้ทักษะพิสดารชิงยอดสมบัติสวรรค์จากท่านบรรพบุรุษวังคลื่นสวรรค์เราก่อนจะฆ่าทิ้ง ทำให้พวกมันบังเกิดจิตคิดละโมบยอดทักาะ จึงจับตัวสหายต้วนหลิงเทียนไป หมายบีบคั้นต้วนหลิงเทียนที่เป็นเพียงครึ่งก้าวเซียนอมตะอันมีพลังวิญญาณอ่อนด้อยให้ยอมจำนน…”
“แต่เกรงว่าคราวนี้ ต่อให้พวกมันหลับก็คงไม่เคยฝันถึง…ว่าต้วนหลิงเทียนที่พวกมันคิดว่าจะฆ่าให้ตายได้ง่ายๆด้วยทักษะวิญญาณ…สุดท้ายกลับทำร้ายไม่ได้แม้แต่ปลายผม!”
“สมน้ำหน้าพวกมันนัก…”
…
พอได้ทราบเรื่องนี้ คนของวังคลื่นสวรรค์ก็ไม่มีใครเศร้ากับการตายของบรรพบุรุษพวกมันอีก ไม่คิดว่าบรรพบุรุษของวังคลื่นสวรรค์พวกมันจะตายอย่างไร้ความเป็นธรรมอะไรต่อไป
เพราะสุดท้ายแล้วกระทั่งยอดฝีมืออันดับ 1 ของระนาบเหยียนหวง กงซุนเวิ่นเทียนผู้เป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ที่บ่มเพาะร่างวิญญาณควบแน่น ยังถูกต้วนหลิงเทียนบีบคั้นจนตาย!
ต้วนหลิงเทียนร้าจกาจขนาดไหน แค่นี้ก็พอนึกภาพออก…
“ว่าแต่ต้วนหลิงเทียนผู้นั้นที่แท้เป็นสัตว์ประหลาดจากที่ใดกันแน่? อาศัยพลังฝึกปรือครึ่งก้าวเซียนอมตะกลับสยบได้ทั้งระนาบเหยียนหวงของพวกเราแล้ว…”
เหล่าคนของวังคลื่นสวรรค์ไม่เหลือความทุกข์ใจอีกต่อไป ยังหันไปตื่นตระหนกกับความร้ายกาจของต้วนหลิงเทียนแทน
ดาราจักรเชียนจี นิกายถัง
ข่าวที่ต้วนหลิงเทียนบีบคั้นให้กงซุนเวิ่นเทียน ทั้งฆ่ากงซุนหงได้ในชั่วพริบตาไม่นานก็แพร่มาถึงนิกายถังเช่นกัน
“ระนาบเหยียนหวงของพวกเรา ไม่มีเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ตกตายมาเนิ่นนานแล้ว…แต่ไม่คิดเลยว่าครึ่งก้าวเซียนอมตะจากระนาบเซียนคนนั้น พอมาถึงระนาบเหยียนหวงได้ไม่ทันไรก็เข่นฆ่าเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ไปถึง 3…”
“แถมหนึ่งในนั้น…ยังเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของระนาบเหยียนหวง”
“ต้วนหลิงเทียนผู้นั้นเป็นใครกันแน่ ไฉนถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้?”
“ข้าได้ยินมาว่าต้วนหลิงเทียนที่ว่าเคยมาเยือนนิกายถังเราด้วย…เห็นว่าเป็นสหายของอัจฉริยะรุ่นเยาว์อันดับ 1 ของนิกายถังเรา ถังเซี่ยวเซี่ยว”
“พูดจริงรึ?”
“ไม่ผิดแน่ เพราะข้าเองก็ได้ยินอาวุโสพูดถึงเรื่องนี้ไม่น้อย”
…
นิกายถังเองก็แตกตื่นเพราะข่าวนี้ไม่น้อย
“ต้วนหลิงเทียนคนนั้น…ที่แท้…กลับร้ายกาจขนาดนี้เชียวหรือ?”
พอประมุขนิกายถึงอย่างถังชงได้รับทราบเรื่องราว มันก็อึ้งไปพักหนึ่งถึงจะค่อยๆฟื้นตัว
หลังได้สติกลับมาแล้ว ความเหลือเชื่อทั้งยากอธิบายก็เริ่มปรากฏให้เห็นบนใบหน้า
ตอนแรกที่มันได้ยินว่าต้วนหลิงเทียนฆ่าบรรพบุรุษวังคลื่นสวรรค์ ตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ได้ มันก็ตกตะลึงมากแล้ว
แต่ขณะเดียวกันมันก็คิดว่าต้วนหลิงเทียนโชคดีอย่างมากที่ฆ่าอีกฝ่ายได้…
เพราะสุดท้ายแล้วบรรพบุรุษวังคลื่นสวรรค์คนนั้นก็เป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ที่บ่มเพาะร่างวิญญาณควบแน่น แต่ดันไม่ได้ใช้ทักษะวิญญาณกับต้วนหลิงเทียน!
ทว่าจากข่าวที่มันไดรับจากดาราจักรกู่เฉวียนคราวนี้…
ต้วนหลิงเทียนกลับไม่แยแสอำนาจจิตสังหารของกงซุนเวิ่นเทียน ยอดฝีมืออันดับ 1 ในระนาบเหยียนหวงแม้แต่น้อย!
เพราะไม่เพียงแต่สลายอำนาจจิตสังหารนั่นได้อย่างง่ายดาย ยังบีบคั้นให้อีกฝ่ายสิ้นหนทางจนต้องฆ่าตัวตาย!
“สหายของเซี่ยวเซี่ยวน้อยผู้นี้…เป็นเซียนอมตะกลับชาติมาเกิดหรือไร หาไม่แล้วไฉนกลับมีพลังร้ายกาจได้ขนาดนี้ทั้งๆที่ยังเป็นแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะ?”
ใจถังชงตกตะลึงอยู่นานกว่าจะหาย
ดาวแซทเทิล ดาราจักรคอสเตอร์
ณ สถานีที่มีค่ายกลเคลื่อนย้ายระหว่างดวงดาวจัดตั้งไว้ ต้วนหลิงเทียนเองก็พึ่งใช้งานมันไปกลับโลกเมื่อไม่นานมานี้
แม้มันจะถือว่าเป็นดาราจักรที่ค่อนข้างล้าหลังในระนาบเหยียนหวง แต่ก็ยังมีพ่อค้าแวะเวียนผ่านมาไม่น้อย
“ทุกคนดูเร็ว! คลิปวิดีโอนี่ผมได้มาจากพ่อค้าระหว่างดวงดาวคนหนึ่ง…เห็นว่าพี่เค้าใช้กล้องถ่ายมาจากสิ่งที่เรียกว่ายันต์บันทึกภาพของผู้ฝึกตนอีกที…ลองดูกันนะ ว่าคนในคลิปที่ผมลงคุ้นหน้ากันรึเปล่า?”
หลังจากวิดีโอคลิปหนึ่งถูกโพสลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ก มันก็ถูกส่งต่อๆกันไปจากหนึ่งเป็นสิบจากสิบเป็นร้อย…
และไม่นานทั่วทั้งดาราจักรคอสเตอร์ก็ถึงกับต้องอึ้ง
“เชี่ย! นี่มันไอ้หนุ่มผู้ฝึกตนชุดม่วงคนนั้น…ที่ทำลายเรือรบระดับภัยพิบัติของตระกูลการ์นิเย่ แถมยังฆ่าผู้นำตระกูลการ์นิเย่ไปไม่ใช่รึไง?”
“ชัดเลย…เห็นว่าตาแก่ในคลิปนั่นน่ะ เป็นถึงบรรพบุรุษของดาราจักรผู้ฝึกตนระดับสูงของระนาบเหยียนหวงเรา บรรพบุรุษของวังคลื่นสวรรค์ ตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ในตำนานที่ทรงพลัง!”
“หา! เมนต์บนว่าไงนะ เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์เลยเหรอ….นั่นไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่พังยานรบระดับโลกาวินาศได้แค่ดีดนิ้วรึไง ไอ้หนุ่มชุดม่วงนั่นมันฆ่าสัตว์ประหลาดระดับนั้นได้เลยหรอ?”
“โคตรน่ากลัวเลย…เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์นั่น แค่คนเดียวก็กวาดล้างดาราจักรที่มีอารยธรรมระดับ SSS ได้ง่ายดายแล้วไม่ใช่รึไง…แต่ผู้ฝึกตนหนุ่มชุดม่วงนั่นถึงกับฆ่าตัวตนระดับนี้ๆได้เลยเหรอ?”
“โชคดีนะที่มันไม่ได้โมโหคนของตระกูลการ์นิเย่ของดาราจักรคอสเตอร์เรามากมายอะไร…ไม่งั้นด้วยพลังระดับเทพของมันคงทำลายดาราจักรคอสเตอร์พวกเราได้ง่ายๆ…”
“โชคดี +1”
…
ผู้คนในดาราจักรคอสเตอร์ที่พึ่งได้รับทราบเรื่องราวการลงมือของต้วนหลิงเทียนที่ฆ่าบรรพบุรุษของวังคลื่นสวรรค์ไปก็แตกตื่นกันยกใหญ่
แต่พวกมันยังไม่รู้
ว่าในขณะที่พวกมันกำลังหวาดกลัวผู้ฝึกตนที่ร้ายกาจยิ่งกว่าสัตว์ประหลาดนั่นอยู่ สัตว์ประหลาดที่ว่ากลับได้ลงมือเข่นฆ่าตัวตนที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในระนาบเหยียนหวงของพวกมันไปแล้ว!
และพอถึงวันที่ได้รู้ ไม่พ้นทั้งดาราจักรคอสเตอร์ต้องตื่นตระหนกกันครั้งใหญ่แน่
ณ ดาราจักรที่มีวังเซียนหยวนตั้งอยู่
มุมหนึ่งของวังเซียนหยวน
“ในที่สุดมันก็ใกล้จะกินอิ่มซะที…”
ต้วนหลิงเทียนได้เฝ้ารออยู่เป็นเวลา 3 วัน 3 คืนเต็มๆตระหนักได้ว่า ความเร็วในการดูดกลืนพลังเซียนอมตะชักนำขึ้นสวรรค์ของชิ้นส่วนโลหะไม่สมบูรณ์ ได้ช้าลงกว่าเดิมมาก
“ชิ้นสวนโลหะแตกๆนี่มันคืออะไรกันแน่นะ…”
มาตอนนี้ต้วนหลิงเทียนรู้สึกได้ชัดเจน ว่าชิ้นส่วนโลหะประหลาด ไม่ใช่อะไรที่ธรรมดาถึงที่สุด…
ล้อกันเล่นหรือไร!
สิ่งที่สามารถกลืนกินพลังเซียนอมตะชักนำขึ้นสวรรค์ได้เป็นเวลา 3 วัน 3 คืนเต็มๆ…จนทำให้การขึ้นสู่ระนาบเทวโลกของเขาที่สมควรจบลงในชั่วอึดใจถึงกับต้องล่าช้ามานานแบบนี้ มันจะยังธรรมดาได้อีกหรือ?
“น้องหลิงเทียน”
“ต้วนหลิงเทียน!”
ด้วยได้รับการแจ้งเตือนจากต้วนหลิงเทียน ซูหลี่ กับเซียนหยวนจื่อก็เร่งรุดมาหาทันที
“ดูจากระดับความเร็วในการกลืนกินพลังของมันตอนนี้…คงอีกไม่กี่สิบลมหายใจมันก็คงหยุดกลืนกินพลังเซียนอมตะชักนำขึ้นสวรรค์แล้วล่ะ ถึงตอนนั้นข้าก็จะขึ้นไปได้เสียที”
ต้วนหลิงเทียนหันไปมองเซียนหยวนจื่อกับซูหลี่ด้วยรอยยิ้มบางๆ พลางกล่าวว่า “พี่จื่อ ซูหลี่…ข้าจะรอพวกท่านอยู่ที่ระนาบเทวโลก…”
“น้องหลิงเทียน”
หลังได้ฟังคำต้วนหลิงเทียน เซียนหยวนจื่อพลันชักหน้าเข้มกล่าวออกเสียงเครียด “ระนาบเทวโลก อย่างไรก็มิได้ง่ายดายเหมือนระนาบโลกียะเรา”
“ตอนนี้ในระนาบโลกียะเจ้าอาจร้ายกาจที่สุดแล้ว…แต่เจ้าต้องทราบด้วยว่าเมื่อเจ้าขึ้นไปถึงระนาบเทวโลก ตัวเจ้านั้นเปรียบเสมือนเด็กน้อยพึ่งตั้งไข่…”
“บนระนาบเทวโลกนั้นตัวตนขอบเขตจินเซียนมีเกลื่อนกลาด กระทั่งยังมีตัวตนทรงพลังที่เหนือกว่าจินเซียนมากมาย กระทั่งแค่สัตว์ร้ายบางตัวในป่ายังเป็นถึงต้าหลัวจินเซียน และมีกระทั่งเหนือกว่านั้นด้วยซ้ำ…!”
“เช่นนั้นเมื่อขึ้นไปถึงระนาบเทวโลกแล้ว มิว่าจักทำสิ่งใดขอให้เจ้าจงระวังทุกย่างก้าว…”
ในฐานะที่เป็นคนของวังเซียนหยวน เซียนหยวนจื่อได้อ่านบันทึกมากมากมายที่ตกทอดมาจากยอดคนในอดีตของวังเซียนหยวน เช่นนั้นมันจึงมีความเข้าใจในระนาบเทวโลกไม่น้อย
“ข้าทราบพี่จื่อ”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับ
เรื่องนี้เขาเตรียมตัวเตรียมใจไว้ตั้งนานแล้ว
ในระนาบโลกียะเขาอาจร้ายกาจจนไม่มีใครกล้าหือ แต่เมื่อขึ้นไปถึงระนาบเทวโลก เขายังไม่อาจนับเป็นตัวอะไรได้…
“ต้วนหลิงเทียน ถนอมตัวด้วย”
ซูหลี่ไม่พูดเยอะ แค่สายตาที่มองจ้องต้วนหลิงเทียนหนักแน่นก็มากพอจะบอกความเป็นห่วงในใจของมันหมดสิ้น
มันกับต้วนหลิงเทียนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ยังเด็ก พวกมันรู้ดีว่ากว่าจะมีวันนี้ได้แต่ละคนผ่านเรื่องยากลำบากมาขนาดไหน
เช่นนั้นมันเองก็หวงแหนมิตรภาพและสหายที่รู้จักกันตั้งแต่ยังเด็กนัก
“อืม”
ต้วนหลิงเทียนก็พยักหน้ารับอย่างเคร่งขรึม
อารมณ์เขาก็ไม่ต่างอะไรจากซูหลี่มากนัก
เวลาไม่กี่สิบลมหายใจ ผ่านพ้นไปในพริบตา
“ในที่สุดมันก็กินอิ่มแล้ว…”
อย่างที่ต้วนหลิงเทียนคาดการณ์ไว้ก่อนหน้าไม่มีผิด หลังผ่านไปไม่กี่สิบลมหายใจ ในที่สุดชิ้นส่วนโลหะไม่สมบูรณ์ในมือเขา ก็หยุดกลืนกินพลังเซียนอมตะชักนำขึ้นสวรรค์…
วู้มม!!
ทันใดนั้นพลังเซียนอมตะชักนำขึ้นสวรรค์รอบกายเขาก็ทวีความหนานแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ…
เมื่อพลังเซียนอมตะที่ครอบคลุมร่างเขามากถึงระดับหนึ่ง ก็ทำให้สติของเขาเริ่มพร่าเลือน
อย่างไรก็ตามสายตาต้วนหลิงเทียนยังคงกระจ่างคล้ายพยายามครองสติเต็มที่
ซัวว!!
หากทว่าไม่ทันไรสายตาที่กระจ่างก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ร่างซูหลี่กับเซียนหยวนจื่อก็กลับกลายเป็นพร่ามัว…
จากนั้นไม่ทันไร ร่างทั้งคู่ก็อันตรธานหายไป แสงสว่างรอบข้างยังถูกความมืดมิดเข้ามาแทนที่ในชั่วพริบตา…
ทั้งหมดบังเกิดขึ้นในฉับพลัน!
และวินาทีนี้ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกว่าสติสัมปชัญญะเขาเลือนรางเต็มที…
สุดท้ายก็ดับวูบไป…