War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 2597
ตอนที่ 2,597 : แม่ทัพคนใหม่
“วันนี้ ต้วนหลิงเทียนที่พบป้ายประจำตัวของอดีตแม่ทัพหวงจี่ปิ่งที่ตกตายไปได้นำมันมาคืนเรียบร้อย…เช่นนั้นข้า เฉินเฉวียนป้า ในฐานะผู้บัญชาการของกองทัพมังกรดำ! จึงขอกระทำตามสัญญาที่ให้ไว้ แต่งตั้งเขาให้ดำรงตำแหน่งแม่ทัพคนใหม่แห่งกองทัพมังกรดำแทนเชียนฟูฉาง หวงจี่ปิ่ง!”
หลังกล่าวถามชื่อต้วนหลิงเทียนแล้ว ผู้บัญชาการกองทัพมังกรดำ เฉินเฉวียนป้า ก็กล่าวคำผสานไว้ด้วยพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดอันแข็งแกร่ง ทำให้ดังสนั่นไปทั่วทั้งค่ายของกองทัพมังกรดำ!
ไม่ว่าใครก็ตามขอเพียงอยู่ในพื้นที่ค่ายทัพมังกรดำ ล้วนได้ยินวาจาประกาศนี้ดังชัดถนัดหู!
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
แทบจะทันทีที่เสียงประกาศของเฉินเฉวียนป้าดังจบคำ ปรากฏร่าง 3 ร่างพุ่งมาจากกระโจมแม่ทัพรอบๆ หยุดยืนอยู่ไม่ไกลต้วนหลิงเทียน เฉินเฉวียนป้า และเจี่ยนชิวผิง!
“ท่านผู้บัญชาการ!”
“ท่านผู้บัญชาการ!”
…
ทั้ง 3 ร่างที่พึ่งออกมาจากกระโจมแม่ทัพ พอมาถึงก็ทักทายเฉินเฉวียนป้าก่อนใดอื่น จากนั้นค่อยหันไปมองทางต้วนหลิงเทียน
“แม่ทัพต้วนหลิงเทียนข้าเรียกว่า หู่จี๋ เป็นแม่ทัพของกองทัพมังกรดำเหมือนกันกับท่าน…วันหน้าช่วยชี้แนะข้าด้วย”
ชายชราแลดูใจดีคนหนึ่งในบรรดาทั้ง 3 เป็นผู้ริเริ่มกล่าวทักทายต้วนหลิงเทียนก่อนใคร
“จ้าวต่งชิ่ง”
ชายหนุ่มอันมีใบหน้าเย็นชา พยักหน้าให้ต้วนหลิงเทียนเบาๆ พลางกล่าวบอกนามออกมาด้วยน้ำเสียงเฉยเมย ตั้งแต่ตอนที่มันปรากฏตัวจนถึงตอนนี้หน้ามันไม่เปลี่ยนสีแม้แต่น้อย กระทั่งหลังกล่าวบอกชื่อจบก็เงียบไป ช่างสงวนวาจาราวมีค่าดั่งทองคำ!
“ขอแม่ทัพต้วนหลิงเทียนอย่าได้ถือสา…แม่ทัพจ้าวไม่ค่อยเจรจาเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไร เพียงท่านรู้จักกับแม่ทัพจ้าวไปสักพักจะคุ้นชินไปเอง”
คนสุดท้ายเป็นชายวัยกลางคน มันกล่าวทักต้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้มมากอัธยาศัย “ส่วนข้าเรียกว่า ไช่เหวินอวี้ เป็นแม่ทัพของกองทัพมังกรดำเช่นเดียวกัน…จากนี้ไปหวังว่าแม่ทัพต้วนจักคอยชี้แนะข้าด้วย”
“ข้าเรียกว่า ต้วนหลิงเทียน และต่อไปขอแม่ทัพทั้ง 3ดูแลชี้แนะข้าให้มาก”
ต้วนหลิงเทียนตอบกลับแม่ทัพทั้ง 3 ด้วยรอยยิ้ม
“พวกเจ้าทั้ง 3…ต้วนหลิงเทียนผู้นี้เป็นเพียงเซียนอมตะสวรรค์จันทร์ม่วงเท่านั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะนั่งอยู่ในตำแหน่งแม่ทัพได้นานเพียงใด พวกเจ้ามิต้องกระตือรือร้นฝากเนื้อฝากตัวนักหรอก เพราะด้วยระดับพลังฝึกปรือเพียงเท่านั้น อย่างดีก็เป็นได้แค่ไป่ฟูฉางเท่านั้นล่ะ”
ตอนนี้เองเจี่ยนชิวผิงที่อยู่ข้างๆ ก็จงใจกล่าวเตือนแม่ทัพทั้ง 3 ผู้มาใหม่
“เซียนอมตะสวรรค์จันทร์ม่วง?”
ได้ยินคำพูดของเจี่ยนชิวผิง ชายชรานามหู่จี๋ก็ขมวดคิ้วยู่ย่น ใบหน้าใจดีเปื้อนยิ้มของมันกลายเป็นไร้แยแสในพริบตา
แม่ทัพอย่างไช่เหวินอวี้ ที่กล่าววาจาทักทายต้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้มมากอัธยาศัยอยู่หยกๆ รอยยิ้มของมันก็ชะงักค้างไปทันใด สายตาที่มองมายังต้วนหลิงเทียนเพิ่มความดูแคลนออกมาหลายส่วน
มีเพียงแม่ทัพหน้านิ่งไม่ค่อยพูดอย่าง จ้าวต่งชิ่ง เท่านั้นที่มองต้วนหลิงเทียนด้วยความแปลกใจเล็กน้อย และไม่ได้เผยอารมณ์ใดอื่นออกมา
เทียบกับท่าทีของแม่ทัพอีก 2 คน สีหน้าของมันแทบไม่เปลี่ยนไปเลย
หลังจากนั้น หู่จี๋ กับไช่เหวินอวี้ก็หันไปเอ่ยปากขอตัวจากเฉินเฉวียนป้า ผู้บัญชาการทัพมังกรดำเล็กน้อย ค่อยเหินร่างจากไป แต่ต้นจนจบไม่มีใครหันมามองต้วนหลิงเทียนอีกเลย
ราวกับหากมองต้วนหลิงเทียนมากเกินไป พวกมันจะเสียเนื้ออย่างไรอย่างนั้น…
มีเพียงจ้าวต่งชิ่งเท่านั้น ที่หลังจากร่ำลาเฉินเฉวียนป้าแล้ว ก็กล่าวลาต้วนหลิงเทียนโดยการพยักหน้าให้เบาๆ ค่อยเหินร่างจากไป…
ต้วนหลิงเทียนไม่ได้แปลกใจอะไรท่าทีเหินห่างแกมดูแคลนของหู่จี๋กับไช่เหวินอวี้…
เพราะทันทีที่เจี่ยนชิวผิงเอ่ยเรื่องระดับพลังฝึกปรือเขาขึ้นมา ไม่ต้องบอกเขาก็ทราบได้ทันทีว่าต้องเกิดเรื่องราวทำนองนี้ขึ้นมาแน่ๆ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ จ้าวต่งชิ่ง คนนั้น! แม้จะรู้ว่าเขาเป็นเพียงเซียนอมตะสวรรค์จันทร์ม่วง แต่สีหน้าท่าทียังคงเหมือนเดิมไม่ได้เลือกปฏิบัติแต่อย่างใด
จังหวะนี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะประทับใจจ้าวต่งชิ่งผู้นั้นอยู่บ้าง
“แม่ทัพต้วนหลิงเทียน”
ตอนนี้เองเฉินเฉวียนป้าก็เอ่ยทักต้วนหลิงเทียนขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่จะชี้นิ้วไปยังกระโจมหลังหนึ่ง “นั่นคือกระโจมที่อดีตแม่ทัพหวงจี่ปิ่งพักอาศัย…ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตราบใดที่เจ้ายังเป็นแม่ทัพของกองทัพมังกรดำข้า…กระโจมหลังนี้ก็จักเป็นของเจ้า”
หลังต้วนหลิงเทียนได้ยินคำพูดของเฉินเฉวียนป้า สองตาของเขาก็ลุกวาวขึ้นมาทันที
ต้องทราบด้วยว่าที่เขามายังค่ายของกองทัพมังกรดำ ทั้งหมดเป็นเพราะสภาพแวดล้อมในการบ่มเพาะ!
และทันทีที่เฉินเฉวียนป้าเอ่ยคำนี้ออกมา ก็เสมือนว่าเขาได้รับสถานที่บ่มเพาะของกกองทัพมังกรดำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยังเป็นสถานที่บ่มเพาะที่ดีที่สุดในค่ายมังกรดำอีกด้วย!
เพราะให้มองไปทั่วอาณาเขตเมืองเฉวี่ยโยว แต่สภาพแวดล้อมในการบ่มเพาะของที่นี่ก็เพียงด้อยกว่าสถานที่บ่มเพาะส่วนตัวของเจ้าเมืองเฉวี่ยโยวเท่านั้น!
และเป็นธรรมดาว่าสถานที่แห่งนี้ก็มีสภาพแวดล้อมในการบ่มเพาะ ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าสถานที่บ่มเพาะส่วนตัวของเจ้าเมืองเฉวี่ยโยวมากนัก
อย่างน้อยๆตอนนี้มันก็ทำให้เขาพอใจไปอีกสักพัก
“แม่ทัพเจี่ยนชิวผิง”
ไม่นานสายตาของเฉินเฉวียนป้าก็เบนไปตกยังร่างแม่ทัพเจี่ยนชิวผิงอีกครั้ง เอ่ยออกเสียงเบา “ตอนนี้เจ้าพาแม่ทัพต้วนไปพบทหารใต้บังคับบัญชาของเขาในค่ายทัพมังกรดำของพวกเราเสีย…เพราะอย่างไรเจ้าก็ถือว่าคุ้นเคยกับทหารเหล่านั้นดี”
“รับทราบ ท่านผู้บัญชาการ!”
ตอนนี้ถึงในใจของเจี่ยนชิวผิงจะบังเกิดความไม่ยินยอมมากเพียงใด แต่มันก็ทำได้แค่ตอบรับคำสั่งออกไปด้วยท่าทีเชื่อฟัง
จากนั้นเฉินเฉวียนป้าก็กลับกระโจมของตัวเอง
เจี่ยนชิวผิงก็มองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตารังเกกียจกล่าวออกเสียงเย็นว่า “ข้าล่ะไม่รู้จริงๆว่าท่านผู้บัญชาการคิดอันใดอยู่กันแน่…สุดท้ายเจ้าก็ไม่อาจอยู่ในตำแหน่งแม่ทัพได้นาน”
“ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว…ข้าไม่เห็นความจำเป็นที่เจ้าจะต้องไปพบทหารของอดีตแม่ทัพหวงจี่ปิ่งเลย”
ประโยคท้าย เจี่ยนชิวผิงเผยความในใจออกมา
“แม่ทัพเจี่ยนพูดแบบนี้…หรือคิดจะขัดคำสั่งผู้บัญชาการเฉิน?”
ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองเจี่ยนชิวผิงเอ่ยถามห้วนๆ
ได้ยินคำถามของต้วนหลิงเทียน หน้าเจี่ยนชิวผิงก็เปลี่ยนสีทันที มันถลึงตามองต้วนหลิงเทียนอย่างดุร้าย ก่อนที่จะทำเสียงฮึดฮัดแล้วเหินร่างนำออกไปทันที
มันก็แค่พูดไปอย่างนั้น
เพราะให้มันมีความกล้ามากกว่านี้อีกสิบเท่า มันก็ไม่กล้าขัดคำสั่งผู้บัญชาการ!
“ต้วนหลิงเทียนในเมื่อเจ้าเข้าร่วมกองทัพมังกรดำแล้ว ต่อไปเจ้าต้องเรียกใต้เท้าผู้บัญชาการว่าใต้เท้าผู้บัญชาการ…หากเจ้ากล้าเรียกใต้เท้าผู้บัญชาการว่าผู้บัญชาการเฉินอีก ก็เสมือนเจ้าไม่เคารพท่าน!”
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนเหินร่างติดตามมาเงียบๆ เจี่ยนชิวผิงก็กล่าวบอกต้วนหลิงเทียนออกมาด้วยน้ำเสียงแฝงความนัย
อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนไม่แยแส
และต้วนหลิงเทียนไม่เพียงไม่ตอบคำถามมันเท่านั้น คิ้วยังไม่กระตุกแม้แต่นิดเดียว เรียกว่าสีหน้าท่าทีของเขาไม่เปลี่ยนไปเลย!
ทันใดนั้นสีหน้าเจี่ยนชิวผิงก็มืดลงอีกรอบ
สุดท้ายมันก็เลิกวุ่นวายอะไรกับต้วนหลิงเทียน เพียงเหินร่างนำต้นหลิงเทียนไปยังค่ายทหารใต้บังคับบัญชากว่าพันเงียบๆ ทำตามคำสั่งของผู้บัญชาการเฉินเฉวียนป้าอย่างเคร่งครัด
ค่ายทัพมังกรดำนั้นแบ่งพื้นที่ออกเป็น 11 ส่วน
พื้นที่ส่วนหนึ่งจะเป็นตำแหน่งที่ตั้งกระโจมผู้บัญชาการและแม่ทัพทั้ง 10 ที่ต้วนหลิงเทียนพึ่งจากมา โดยปกติแล้วแม่ทัพทั้ง 10 กับผู้บัญชาการก็จะฝึกฝนบ่มเพาะอยู่ที่นั่นหากไม่ได้ออกจากค่ายไปไหน
ส่วนพื้นที่อีก 10 ส่วนที่เหลือของกองัทพมังกรดำ ก็จะเป็นค่ายของกองกำลังทหารนับพัน!
และกองกำลังทหารนับพันแต่ละกองนี้ ก็เป็นทหารใต้บังคับบัญชาของแม่ทัพแต่ละคน!
ตอนนี้เจี่ยนชิวผิงก็พาต้วนหลิงเทียนมายั่งค่ายทหารนับพันแห่งหนึ่ง ที่ในอดีตเคยเป็นทหารภายใต้บังคับบัญชาของหวงจี่ปิ่ง
และในขณะเดียวกันกับที่ต้วนหลิงเทียนเหินร่างติดตามเจี่ยนชิวผิงไปยังค่ายทหารของตัวเองนั้น
ไม่ว่าจะสูงหรือต่ำในค่ายมังกรดำ ตอนนี้ก็ฮือฮากันไม่น้อย
และทั้งหมดเป็นเพราะถ้อยคำที่เฉินเฉวียนป้า ผู้บัญชาการของกองทัพมังกรดำพึ่งประกาศออกมาก่อนหน้า!
“ต้วนหลิงเทียน? แม่ทัพคนใหม่?”
“คนที่ชื่อต้วนหลิงเทียนนั่น ช่างโชคดียิ่งนักที่พบเจอป้ายประจำตัวของแม่ทัพที่หวงที่ตาย…เลยได้กลายเป็นแม่ทัพของกองทัพมังกรดำเราได้ทันที”
“ไม่รู้ว่าพลังฝีมือของมันร้ายกาจขนาดไหน…หากพลังฝีมืออ่อนด้อยล่ะก็ ต่อให้มันจะได้เป็นแม่ทัพของกองทัพมังกรดำเราจริง แต่ข้าเชื่อว่ามันรักษาตำแหน่งแม่ทัพได้ไม่นานนักหรอก”
“ใช่”
“แต่ข้าคิดว่า…ลองมันหาป้ายขอแม่ทัพหวงกลับมาคืนได้ แสดงว่าย่อมมีดีไม่ใช่น้อย”
“ใช่แล้ว ต้องทราบด้วยว่าก่อนหน้านี้หลังจากที่ใต้เท้าผู้บัญชาการเราประกาศออกไป ไม่ทราบมีกี่คนต่อกี่คนที่ออกไปตามหาป้ายของแม่ทัพหวง พลังฝีมือของบางคนก็มิใช่ต่ำทรามเลย แต่สุดท้ายกลับไม่มีผู้ใดพบเจอ”
“ใช่! ต้วนหลิงเทียนผู้นี้คงไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน!”
…
ไม่ว่าใครในทัพมังกรดำตอนนี้ก็สนใจต้วนหลิงเทียนไม่น้อย
บางคนเชื่อว่าต้วนหลิงเทียนสมควรมีพลังฝีมือกล้าแข็งมากพอจะนั่งในตำแหน่งแม่ทัพของกองทัพมังกรดำพวกมันได้อย่างไม่สั่นคลอน แต่บางคนเชื่อว่าที่ต้วนหลิงเทียนพบเจอป้ายของแม่ทัพหวงจี่ปิ่งที่ตกตายไปนั้น ล้วนเป็นเพราะมีโชคเฉยๆ แต่พลังฝีมืออาจจะไม่สูงพอรักษาตำแหน่งแม่ทัพไว้ได้นาน
“หากมันไม่แกร่งพอ…ไม่นานมันต้องถูกแทนที่แน่”
“ใช่ ตอนนี้ในกองัทพมังกรดำเราก็มีไป่ฟูฉางที่บรรลุถึงขอบเขตจินเซียนตะวันแดง 3 คน…แถมหนึ่งในนั้นหลังออกจากการปิดด่านมา ก็มีแนวโน้มว่าจะเอาชนะและชิงตำแหน่งแม่ทัพเจี่ยนชิวผิงได้สูงนัก!”
“มันพึ่งมาถึงแท้ๆ…หากไป่ฟูฉางอีก 2 คนไม่ปิดด่านบ่มเพาะล่ะก็ ไม่แน่ว่าอาจจะมาท้าทายมันเพื่อหยั่งถึงพลังฝีมือของมันเร็วๆนี้”
“ข้าล่ะอยากดูชมเสียจริง!”
…
ในค่ายมังกรดำ มีทหารหลายคนที่ชมชอบเรื่องราวท้าชิงตำแหน่งเป็นที่สุด พวกมันจึงอยากรู้อยากเห็นนัก ว่าไป่ฟูฉางที่พึ่งบรรลุด่านพลังจินเซียนทั้ง 3 จะเป็นผู้ใดที่มาท้าชิงต้วนหลิงเทียนก่อน
“แต่ไม่รู้…ว่าแม่ทัพคนใหม่ของพวกเราร้ายกาจแค่ไหน”
“นั่นสิ หากพลังฝีมือไม่สู้อดีตแม่ทัพของพวกเรา…เกรงว่าวันเวลาของพวกเราในค่ายทัพมังกรดำคงไม่ดีเหมือนวันวาน”
“ข้าหวังว่ามันจะไม่ทำให้พวกเราต้องผิดหวัง..”
…
ขณะเดียวกันทางด้านทหารที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของหวงจี่ปิ่งนับพัน ก็มารวมตัวกันเพื่อรอดูแม่ทัพคนใหม่
ฟังจากเสียงคุย เห็นได้ชัดว่าพวกมันเองก็กังวลกันไม่น้อย