War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 2981
ตอนที่ 2,981 : ความเกี่ยวข้องระหว่างผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดกับดินแดนแห่งทวยเทพ!
อย่างไรก็ตามแม้พลังชีวิตอันมหาศาลจะหดหายกลับเข้าร่างกายเขาไปหมดแล้ว ทว่าต้วนหลิงเทียนยังสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่อัดแน่นไปทั่วร่างชัดเจน!
ก็แค่มันไม่ได้เอ่อล้นออกมาเหมือนเมื่อครู่ แต่รวมรั้งเอาไว้ภายในร่างของเขาแทน!
เรียกว่าต้วนหลิงเทียนรู้สึกสดชื่นเปี่ยมล้นไปด้วยพลังชีวิตอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ยังรู้สึกเสมือนได้เกิดใหม่ก็ไม่ปาน!
‘กิ่งหลักพฤกษาเทพกำเนิดชีพ…ที่แท้มันคืออะไรกันแน่!?’
‘ข้ารู้สึกเสมือนทุกอณูทั่วร่าง…ได้ถูกเติมเต็มไปด้วยพลังชีวิต! ไม่สิมันท่วมท้นไปด้วยพลังชีวิตเลยต่างหาก!!’
‘ถ้างั้น…ร่างกายของข้าใช่มีความสามารถในการฟื้นฟูสภาพเดิมอันน่ากลัวเหมือนกิ่งหลักพฤกษาเทพกำเนิดชีพด้วยหรือไม่!?’
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังคิดไปด้วยความตกตะลึง ฉากเรื่องราวในวันงานประมูลที่เมืองหลวงตันจี้ก็ฉายขึ้นในหัวเขาอีกรอบ
ตอนนั้นเป็นชายชราบนเวทีได้ยกมือขึ้นต่างมีดดาบ สับฟันลงกลางกิ่งหลักพฤกษาเทพกำเนิดชีพ ทว่าตัวกิ่งที่ถูกฟันจนแทบขาดกลาง เจียนจะหักร่วงลงมาอยู่รอมร่อนั้น…ในเวลาแค่ไม่กี่ลมหายใจมันก็ฟื้นฟูกลับมาสู่สภาพสมบูรณ์ดังเดิม!
พอคิดถึงจุดนี้ ต้วนหลิงเทียนก็มองจ้องไปยังแขนซ้ายของเขา ความคิดหนึ่งบังเกิดขึ้นมา และยากที่จะระงับห้ามเอาไว้ได้…
วินาทีต่อมา เขาก็ยกมือขวาขึ้น ปรากฏพลังคมกล้าขุมหนึ่งฉาบฝ่ามือไว้จนไม่ต่างอะไรจากมีดดาบ จากนั้นก็ฟันฉับลงไปที่แขนซ้ายของตัวเองทันที! แน่นอนแค่เฉือนฟันจนลึกถึงกระดูกเท่านั้น เขายังไม่บ้าพอจะตัดแขนตัวเองเล่น!!
และโดยปกติแล้วบาดแผลที่ลึกถึงกระดูกแบบนี้ ถึงจะไม่ใช้พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดคอยประสานเชื่อมรักษา แต่ด้วยร่างกายของยอดเซียนอมตะขั้นสูงสุด ใช้เวลาเพียงแค่วันเดียวมันก็สมานตัวได้เอง
อย่างไรก็ตาม ต้วนหลิงเทียนที่กำลังมองบาดแผลที่แขนซ้ายของตัวเองอยู่ สองตาจำต้องเบิกโพลงขึ้นมาปานเห็นผีกลางวันแสกๆ!
เพราะแผลลึกถึงกระดูกนั่น…พึ่งจะผ่านไปแค่ 2 ลมหายใจเท่านั้น บาดแผลก็สมานตัวและปิดสนิทไม่เห็นร่องรอยแล้ว!
กล่าวได้ว่าในเวลาเพียงแค่ 2 ลมหายใจเท่านั้น แผลที่เดิมปกติจะหายได้ในเวลาหนึ่งวัน กลับหายดีคล้ายไม่เคยมีแผลมาก่อน!
“นี่มัน…”
ต้วนหลิงเทียนตกตะลึงพรึงเพริดไปแล้วจริงๆ เดิมทีเขาแค่จะทดลองดูขำๆเท่านั้น แต่ไม่คิดเลยว่าเขากลับมีความสามารถในการฟื้นฟูรักษาตัวเองเหมือนกิ่งหลักพฤกษาเทพกำเนิดชีพจริงๆ!
“ตั้งแต่วินาทีแรกที่กิ่งหลักพฤกษาเทพยอมรับเจ้าเป็นนาย มันก็ได้แบ่งปันพลังชีวิตอันมหาศาลและความสามารถในการรักษาฟื้นฟูตัวเองให้กับเจ้าแล้ว…”
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังอึ้งกับความสามารถรักษาอันน่ากลัวนี่ เสียงเด็กน้อยที่คล้ายยังไม่หย่านมหนึ่งก็ดังขึ้นในหัวอย่างประจวบเหมาะ “อย่างไรเสียมันก็เป็นถึง 1 ในกิ่งหลักของพฤกษาเทพกำเนิดชีพ ความสามารถเท่านี้ยังจะนับเป็นอะไรได้…”
“ 1 ในกิ่งหลักพฤกษาเทพกำเนิดชีพ…แล้วพฤกษาเทพกำเนิดชีพมีกิ่งหลักแบบนี้กี่กิ่งหรือ?”
ต้วนหลิงเทียนเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“พฤกษาเทพกำเนิดชีพนั้น นอกจากลำต้นแล้ว ล้วนมีกิ่งหลักทั้งสิ้น 80 กิ่ง…และลำต้นก็ถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด เจ้าจะนับรวมว่ามันเสมือนกิ่งหลักที่ใหญ่ที่สุด และมองเป็นกิ่งที่ 81 ก็ได้ ซึ่งบังเอิญเท่ากันกับจำนวนของระนาบเทวโลกพอดี”
“และสิ่งที่เจ้าได้รับมาตอนนี้ก็คือ 1 ใน 80 กิ่งหลัก ที่ไม่ได้มีพลังมากเท่าลำต้น”
“และเจ้าเองก็สมควรเห็นแล้วว่าลำพังแค่ 1 ใน 80 กิ่งหลักยังมีความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองน่ากลัวขนาดนี้…เจ้าคงนึกภาพออกได้ไม่ยาก ว่าหากเป็นตัวลำต้นที่ทรงพลังที่สุดและเป็นดั่งแกนหลักของพฤกษาเทพกำเนิดชีพ มันจะมีพลังชีวิตน่าสะพรึงกลัวถึงเพียงใด”
ขณะที่ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินกล่าวถึงเรื่องนี้ น้ำเสียงของมันก็สั่นไม่น้อย เห็นได้ชัดว่าหวั่นเกรงความสามารถในการฟื้นฟูและพลังชีวิตอันน่าพรั่นพรึงของพฤกษาเทพกำเนิดชีพไม่น้อย
“สิ่งที่ข้าได้มาก็คือ 1 ใน 81 กิ่งหลักของพฤกษาเทพกำเนิดชีพ กล่าวให้ชัดยังเป็นแค่ 1 ใน 80 กิ่งหลักที่ด้อยกว่าตัวลำต้นที่สำคัญที่สุด?”
ต้วนหลิงเทียนรู้สึกตกใจอย่างบอกไม่ถูก
เดิมทีเขาคิดว่ากิ่งหลักของพฤกษาเทพกำเนิดชีพที่เขาได้มา ท่าทางจะต้องมีความสำคัญอะไรไม่น้อยสำหรับพฤกษาเทพกำเนิดชีพแน่นอน เพราะมันถึงกับมีพลังชีวิตและความสามารถในการฟื้นฟูน่ากลัวขนาดนี้
แต่ไม่คิดเลยว่าที่แท้มันยังเป็นแค่ 1 ใน 80 กิ่งหลักของพฤกษาเทพกำเนิดชีพเท่านั้น แถมยังเป็นแค่กิ่งหลักที่ไม่อาจเทียบกับลำต้นได้เลย
“อย่างไรเสียแม้ที่เจ้าได้รับมาจะเป็นแค่กิ่งเล็กๆกิ่งหนึ่งของพฤกษาเทพกำเนิดชีพ…แต่กล่าวได้ว่าตัวเจ้านั้นมีโชควาสนาไม่ใช่เล่นๆ และนี่ยังเป็นโชควาสนาที่คนทั่วไปไม่อาจมีได้!”
ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินกล่าว “เจ้าเองก็คงเห็นความสามารถในการฟื้นฟูของกิ่งเล็กๆของพฤกษาเทพกำเนิดชีพกับตาตัวเองไปแล้ว เช่นนั้นเจ้าลองจินตนาการถึงพฤกษาเทพกำเนิดชีพต้นสมบูรณ์ดูเถอะ ข้าบอกเจ้าไว้ตรงนี้เลย…ว่ามันไม่ใช่อะไรที่ใครคิดจะทำลายมันก็ทำได้ง่ายๆ!”
“นอกจากนี้พฤกษาเทพกำเนิดชีพนั้น ให้มองไปทั่วแดนดิน เกรงว่าคงมีแต่ระนาบทวยเทพเท่านั้นที่มี…ที่สำคัญในแต่ละระนาบทวยเทพ ยังมีต้นพฤกษาเทพกำเนิดชีพอยู่แค่ต้นเดียวเท่านั้น”
พอปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินกล่าวถึงจุดนี้ ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวขัดด้วยความสงสัย
“ระนาบทวยเทพ มันคืออะไรหรือ?”
แม้ปากจะถามไปแบบนั้น แต่ในใจต้วนหลิงเทียนพลันคิดถึงดินแดนแห่งทวยเทพ ที่เค่อเอ๋อและญาติสนิทมิตรสหายเขาถูกจับขังอยู่
หรือดินแดนแห่งทวยเทพที่ว่า…ก็คือระนาบทวยเทพที่ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินกล่าวถึง?
และที่ไฉนเขาคิดไปแบบนี้ ก็เพราะเขาประสบกำพลังอำนาจของคนจากดินแดนแห่งทวเทพมาด้วยตาตัวเอง
อาศัยแค่ข้ารับใช้คนหนึ่งของอวิ๋นชิงเหยียนที่จับตัวครอบครัวเขาและบีบคั้นพาเค่อเอ๋อไป ก็ทรงพลังมากพอจะไล่ต้อนเซียนกระบี่ฟงชิงหยาง ที่ได้กลายเป็นจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนไปแล้ว ต้องหนีตายเข้าสู่นรกอสุรา 1 ใน 7 แดนต้องห้ามของระนาบเทวโลกทั้งมวลเพื่อเอาตัวรอด!
และฟงชิงหยางที่สามารถเป็นถึงจักรพรรดิสวรรค์ของจี้เมี่ยเทียนได้ กล่าวได้ว่าก็คือยอดฝีมือระดับแนวหน้าคนหนึ่งของระนาบเทวโลกทั้งมวลแล้ว!
“ระนาบทวยเทพก็คือ ระนาบอิสระที่แตกต่างจากระนาบโลกียะและระนาบเทวโลกอย่างสิ้นเชิง…และยังเป็นระนาบที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้แข็งแกร่งที่สุด!”
ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนพลันฉุกคิดถึงสิ่งที่ ‘เซี่ยเจี๋ย’ อาสามของเค่อเอ๋อในชาติที่แล้วกล่าวบอกเขาขึ้นมา
ทำให้ตอนที่ได้ยินปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินเอ่ยถึง ระนาบทวยเทพ เขาจึงคิดถึงดินแดนแห่งทวยเทพที่เคยได้รับทราบมาก่อนทันที
“อะไรกันเจ้าหนู…นี่เจ้าไม่เคยได้ยินเรื่องระนาบทวยเทพมาก่อนหรือ?”
เมื่อเห็นว่าสีหน้าต้วนหลิงเทียนคล้ายมืดลงเล็กน้อย ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินที่กล่าวถาม ก็คล้ายจะตระหนักอะไรได้ “เอ่อ จะว่าไปที่เจ้าจะไม่รู้จักก็ไม่แปลกหรอก…เพราะตอนนี้ระดับของเจ้ายังนับว่าห่างไกลเกินกว่าจะล่วงรู้ถึงการคงอยู่ของระนาบทวยเทพมากนัก”
“ระนาบทวยเทพ…คือระนาบที่อยู่เหนือขึ้นไปจากระนาบเทวโลกงั้นหรือ?”
ต้วนหลิงเทียนเอ่ยถาม
“ทำนองนั้น”
ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินตอบ
“ทำนองนั้น ท่านหมายความว่าอะไร?”
ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้ว
“ระนาบทวยเทพนั้น กล่าวไปแล้วมีขนาดเล็กกว่าระนาบเทวโลกมาก…อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของตัวตนที่อยู่ในระนาบทวยเทพ ไม่ใช่อะไรที่ยอดฝีมือในระนาบเทวโลกจะทาบติด”
ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินกล่าวสืบต่อ “ตั้งแต่สมัยโบราณ ระนาบทวยเทพนั้นจะมีจำนวนอยู่ที่ 18 ระนาบเท่านั้น…และทั้ง 18 ระนาบ กล่าวกันว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด 18 คนสร้างขึ้นมา มันจึงมีความแตกต่างจากระนาบเทวโลกและระนาบโลกียะทั้งมวล เพราะอย่างแรกนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยฝีมือผู้คน ส่วนสองอย่างหลังนั้นไม่ใช่อะไรที่ผู้คนสร้างขึ้น”
“ผู้แข็งแกร่งที่สุด…”
ใจต้วนหลิงเทียนสะท้านไปทันใด ดูเหมือนว่าดินแดนแห่งทวยเทพที่เค่อเอ๋อกับครอบครัวเขาถูกจับไปขัง จะเป็นแค่ 1 ใน 18 ดินแดนแห่งทวยเทพเท่านั้น
“ในระนาบทวยเทพนั้น เดิมทีก็มีแค่ญาติสนิทมิตรสหายของผู้แข็งแกร่งที่สุดทั้ง 18 คนอยู่อาศัยเท่านั้น อย่างไรก็ตามญาติหรือสหายกระทั่งลูกหลานที่ว่าก็ไม่มีใครคิดจะอยู่ในนั้นตลอด สุดท้ายจึงเริ่มออกไปท่องเที่ยวยังระนาบเทวโลกต่างๆ และพอรู้อีกทีแต่ละคนบ้างก็พาคู่รักสหายสนิทหรือคนรู้จักอันใดกลับเข้ามาในระนาบทวยเทพ กระทั่งสุดท้ายก็เกิดการลงหลักปักฐาน อาศัยอยู่อย่างจริงจัง…”
“เช่นนั้นพอเวลาผ่านไปนานเข้า ระนาบทวยเทพของผู้แข็งแกร่งที่สุดทั้งหลายก็เริ่มเต็มไปด้วยผู้คน…กระทั่งคนที่ได้รับทราบเรื่องการดำรงอยู่ของมันก็ยังอยากจะเข้าไปอาศัยอยู่ในนั้น ทั้งหมดเพื่อทลายพันธการที่เป็นดั่งโซ่ตรวน และบรรลุถึงขอบเขตที่เหนือกว่าจักรพรรดิอมตะ กลับกลายเป็นเทพเจ้า!”
“เนื่องเพราะในระนาบทวยเทพนั้น มีตัวตนที่อยู่เหนือขอบเขตจักรพรรดิอมตะดำรงอยู่มากมาย…และทั้งหมดถูกเรียกขานกันว่า เทพเจ้า!”
“พลังอำนาจความแข็งแกร่งของเหล่าเทพเจ้า สุดที่จักรพรรดิอมตะจะทาบติด…กล่าวได้ว่าเทพเจ้าบางคนยังสามารถบดขยี้จักรพรรดิอมตะที่แข็งแกร่งที่สุดให้แหลกเป็นธุลีด้วยนิ้วเดียวอย่างง่ายดาย!”
หลังจากที่ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินกล่าวถึงจุดนี้ น่ำเสียงของมันก็เคร่งขึ้นเล็กน้อย ยังกล่าวเป็นเชิงเตือนต้วนหลิงเทียน “เช่นนั้นจักรพรรดิอมตะหรือตัวตนจักรพรรดิสวรรค์ที่เจ้าเข้าใจว่ายิ่งใหญ่เหนือใดในใต้หล้า ก็ไม่ใช่ว่าจะแข็งแกร่งที่สุด…สุดท้ายแล้วเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน!”
หลังจากนั้นด้วยการถามไถ่ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินเพิ่มเติม ต้วนหลิงเทียนจึงได้รับทราบรายละเอียดเกี่ยวกับระนาบทวยเทพหรือดินแดนแห่งทวยเทพที่เขารู้จักมากขึ้น
และดินแดนการล่มสลายแห่งทวยเทพบ้านเกิดเค่อเอ๋อ ก็เป็นแค่ 1 ใน 18 ดินแดนแห่งทวยเทพเท่านั้น
อีกทั้งยังมีเหตุผลสำคัญยิ่งยวดประการหนึ่งที่ทำให้ระนาบทวยเทพนั้นมีจำกัดอยู่ที่ 18 ระนาบมาตั้งแต่สมัยโบราณ ทั้งๆที่ผู้แข็งแกร่งที่สุดนั้น ไม่ได้มีแค่ 18 คน!
ทั้งหมดเป็นเพราะ มหาสหัสโลกธาตุแห่งนี้สามารถรองรับระนาบทวยเทพได้พร้อมกันเพียง 18 ระนาบเท่านั้น
ยามเมื่อมีผู้แข็งแกร่งที่สุดคนใหม่ถือกำเนิดขึ้น และสามารถเข่นฆ่าผู้แข็งแกร่งที่สุดที่เปิดระนาบทวยเทพได้ ก็จะสามารถทำลายระนาบทวยเทพของอีกฝ่าย จนเปิดระนาบทวยเทพแห่งใหม่ของตัวเองขึ้นมาได้
แต่หากสู้ไม่ได้แล้วตกตายเสียเอง ก็ทำได้แค่ตกตายไปอย่างโง่งม ไม่ต้องคิดฝันจะเปิดระนาบทวยเทพของตัวเองอันใด
นอกจากนั้นในบรรดา 18 ระนาบทวยเทพนั้น ทุกๆ 6 ระนาบจะอยู่ในห้วงเดียวกัน และยังเป็นดั่งระนาบคู่ขนานกับอีกห้วง และทุกๆรอบหมื่นปี สองห้วงจักโคจรมาบรรจบ ระนาบคู่ขนานของเหล่าทวยเทพก็เสมือนได้ชนกัน และสถานการณ์ดังกล่าวจะดำรงอยู่เป็นเวลา นานนับพันปี
ในช่วงเวลาที่ระนาบทวยเทพบรรจบกัน ห้วงมิติที่เชื่อมต่อระหว่างระนาบเทวโลกกับระนาบทวยเทพจะกลายเป็นปั่นป่วนวุ่นวายยากข้ามผ่าน จึงเสมือนระนาบทวยเทพได้ถูกตัดขาดออกจากระนาบเทวโลก
ทำให้ในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้คนจากระนาบทวยเทพไม่อาจมายังระนาบเทวโลกได้ และผู้คนในระนาบเทวโลกก็ไม่อาจเดินทางไประนาบทวยเทพได้เช่นกัน!
‘ดูเหมือนเรื่องที่ข้ามีเวลาพันปี จะเกิดขึ้นจากการปะทะกันของระนาบทวยเทพกับระนาบทวยเทพคู่ขนานทั้งหลาย…’
‘นอกจากนี้ในช่วงที่ระนาบทวยเทพปะทะกัน ก็เสมือนห้วงเวลาแห่งสงครามล้างผลาญ เค่อเอ๋อจึงไม่ถูกบังคับให้แต่งงานอะไรในช่วงเวลาตึงเครียดแบบนี้’
‘อย่างไรก็ตามหากห้วงเวลาแห่งสงครามผ่านพ้นไป เมื่อสถานการณ์ของระนาบทวยเทพเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง เค่อเอ๋อไม่พ้นต้องพบเจอกับการบีบคั้นให้แต่งงานเป็นแน่…บิดาของเค่อเอ๋อหรือไม่ก็อวิ๋นชิงเหยียนนั่น ไม่พ้นต้องนำชีวิตครอบครัวและสหายของข้าขึ้นมาบีบคั้นข่มขู่เค่อเอ๋อให้ยอมจำนน!’
คิดถึงจุดนี้สองตาต้วนหลิงเทียนก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน สองหมัดยังกำแน่นจนข้อขาว เล็บจิกเข้าเนื้อกลางฝ่ามือจนนเลือดซิบ ‘อ่อนแอเกินไป! ข้ายังอ่อนแอเกินไป!!’
‘ระนาบทวยเทพ สถานที่ของเหล่าเทพเจ้า…ที่นั่นมีตัวตนทรงพลังสุดที่จักรพรรดิอมตะจะทาบติดดำรงอยู่มากมาย!’
พอได้รับทราบเรื่องราวการคงอยู่ของระนาบทวยเทพ ต้วนหลิงเทียนก็ยิ่งสำเหนียกถึงความกระจ้อยร่อยของตัวเองมากขึ้น
ถึงแม้ระนาบทวยเทพจะไม่ได้ใหญ่โตเหมือนระนาบเทวโลก หากแต่พลังวิญญาณฟ้าดินในบรรยากาศ นับว่ามากมายมหาศาลและบริสุทธิ์เหนือกว่าระนาบเทวโลกมากมาย!
ในระนาบเทวโลกนั้น เป็นการยากที่จะให้กำเนิด เทพเจ้า ขอบเขตที่อยู่เหนือกว่าจักรพรรดิอมตะ
หากแต่ภายในระนาบทวยเทพ ตัวตนขอบเขตเทพเจ้านั้น…สามารถถือกำเนิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย!
และนี่คือความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดระหว่างระนาบเทวโลกกับระนาบแห่งทวยเทพ
“ฮี่ๆๆ…เจ้าหนู แล้วเจ้ารู้หรือไม่เล่า ว่าผู้แข็งแกร่งที่สุดที่สามารถเปิดระนาบทวยเทพได้นั้นถือกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไร?”
ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินกล่าวถามพลางหัวเราะอย่างมีเลศนัย
“แล้วมันถือกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไรหรือ?”
ต้วนหลิงเทียนเอ่ยถามด้วยความอยากรู้
“ผู้แข็งแกร่งที่สุดนั้น ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่มีเทพแห่งธาตุทั้ง 5 ขั้นสุดท้ายอย่างน้อยๆ 1 ธาตุอยู่ข้างกาย…และความแข็งแกร่งของพวกมัน ส่วนใหญ่แล้วก็มาจากเทพแห่งธาตุทั้ง 5 ขั้นสุดท้ายที่อยู่ข้างกายพวกมันนั่นล่ะ!”
ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินกล่าวออกมาด้วน้ำเสียงหยิ่งผยอง
“เทพแห่งธาตุทั้ง 5 ขั้นสุดท้าย?”
ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะสับสนอยู่บ้าง
ด้วยเพราะตัวเขาเองก็มีเทพแห่งธาตุทั้ง 5 ถึง 3 ธาตุอยู่ข้างกาย เขาก็เลยล่วงรู้เป็นธรรมดาว่ามันเป็นการยากเย็นแค่ไหนที่จะยกระดับพัฒนาเทพแห่งธาตุให้บรรลุถึงขั้นสุดท้าย!
“ถูกต้อง!!”
ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดิน กล่าวสืบต่อด้วยน้ำเสียงราวกับตัวมันคือผู้ยิ่งใหญ่ “เทพทั้ง 5 ธาตุในขั้นสุดท้ายนั้น สามารถช่วยส่งเสริมให้ร่างต้นสามารถกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดได้!”
“และเมื่อผู้แข็งแกร่งที่สุดถือกำเนิดขึ้นแล้ว เทพแห่งธาตุทั้ง 5 ขั้นสุดท้ายที่อยู่กับผู้แข็งแกร่งที่สุดคนนั้น ก็จะก่อร่างกายของตัวเองขึ้นมาโดยอาศัยความช่วยเหลือจากพลังลี้ลับไม่ทราบแหล่งที่มาที่จักปรากฏขึ้นยามผู้แข็งแกร่งที่สุดถือกำเนิดขึ้น!”
“ในขณะเดียวกัน พลังส่วนเกินของเทพแห่งธาตุทั้ง 5 ขั้นสุดท้ายที่หลงเหลือจากการก่อเกิดร่างกาย ก็จะกระจัดกระจายไปทั่วสวรรค์และโลก กลับกลายเป็นเทพแห่งธาตุทั้ง 5 ขั้นแรกจำนวนนับไม่ถ้วน…”