War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 3029
WSSTH ตอนที่ 3,029 : ความทรงจำที่หายไป
ต้วนหลิงเทียนที่พบว่าอยู่ๆตัวเองก็มาปรากฏบริเวณหน้าประตูทางเข้าแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับต่ำ ก็สับสนไม่น้อย
ความทรงจำสุดท้ายที่เข้าจำได้ก็คือ…เขาได้พบเจอกับคนที่อ้างตัวว่าเป็นสุมาฉุน จากตระกูลระดับ 7 อย่างตระกูลสุมา และหลังจากที่สังหารมันได้ เขาก็พบว่าคะแนนสะสมของตัวเองเพิ่มขึ้นเป็น 11 แต้ม
และหลังจากนั้น ก็ไม่มีอะไรที่เขาจำได้อีกต่อไป
รู้ตัวอีกที เขาก็ถูกส่งออกมาด้านนอกแบบนี้แล้ว
‘ข้าจำได้ว่าหลังฆ่าสุมาฉุนไป แต้มในป้ายหยกสะสมคะแนนของข้าก็เพิ่มขึ้นเป็น 11 แต้ม…’
ต้วนหลิงเทียนเริ่มตรวจสอบคะแนนสะสมในปายหยกเขาทันที
และการตรวจสอบครั้งนี้ ก็ทำให้เขาอึ้งไปพักหนึ่ง ‘คะแนนพวกนี้…มันมาได้ยังไงกัน!?’
ไม่อึ้งก็คงไม่ได้ เพราะตอนนี้ต้วนหลิงเทียนพบว่าในป้ายหยกสะสมคะแนนของเขา กลับมีคะแนนสะสมอยู่ถึง 286 แต้ม!
286 แต้ม สิ่งนี้หมายความว่าอะไร?
นี่เผยให้เห็นว่าตัวเขาได้ฆ่าคนจนได้รับคะแนนสะสมมาถึง 285 แต้ม! เพราะตอนเข้าไปในแดนสวรรค์ใต้โบราณ เขาก็มีคะแนนสะสมแค่ 1 แต้มเท่านั้น!!
‘ในคะแนนสะสม 285 แต้มที่ข้าได้มา…ส่วนที่ข้าจำที่มาของมันได้ก็มีแค่ 10 แต้มเท่านั้น…แล้วอีก 275 แต้มมันมาจากไหนกัน?’
ไม่ว่าจะย้อนนึกเท่าไหร่ ต้วนหลิงเทียนก็จดจำไม่ได้เลยว่าแต้มเหล่านี้เขาได้มาอย่างไรกันแน่
และในขณะที่ต้วนหลิงเทียนครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ เสียงอุทานหนึ่งก็ดังขึ้นเข้าหูเขาพอดี
“ไฉนคะแนนสะสมของข้าถึงได้เพิ่มขึ้นมากนักเล่า…ข้าจำได้ข้ามีแค่ 12 แต้มเท่านั้นนี่นา”
“นั่นสิ ข้าเองก็จำได้ว่าข้าเก็บคะแนนสะสมได้ 11 แต้ม แต่ตอนนี้ในป้ายหยกสะสมคะแนนข้ากลับมีคะแนนสะสม 23 แต้ม…”
“คะแนนสะสมของข้าเพิ่มขึ้นได้อย่างไรกันแน่นะ…อีกทั้งไฉนข้ารู้สึกเสมือนลืมอะไรบางอย่างไป นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก”
“ข้าก็เหมือนกัน”
…
ผู้คนที่อยู่รอบๆต้วนหลิงเทียนเริ่มกล่าวออกมาด้วยความสงสัย หลายคนยังรู้สึกประหลาดใจกับคะแนนสะสมของตัวเองที่เพิ่มขึ้นมา และงุนงงที่ไม่ทราบว่าตัวเองกลับออกมาจากแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับต่ำได้อย่างไร
‘ข้าก็รู้สึกเสมือนความทรงจำของข้าขาดหายไปเช่นกัน…’
ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวในใจ
ขวับๆ!
ตอนนี้เอง ร่างชายหนุ่มในชุดสีเทาคนหนึ่งที่ลอยค้างกลางหาว ได้พยายามหันรีหันขวางยกใหญ่ ยังแผ่สำนึกเทวะออกไปตรวจสอบรอบๆอย่างร้อนใจ สีหน้าของมันเปลี่ยนไปจนดูแทบไม่ได้
ชายหนุ่มชุดเทาคนนี้ หากต้วนหลิงเทียนสังเกตเห็นย่อมจดจำอีกฝ่ายได้ทันที
เพราะมันไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นอัจฉริยะปีศาจจากประเทศตงหมิง ผู้ฝึกตนอิสระ หลิงเจวี๋ยอวิ๋น
“ใครกันที่แผ่สำนึกเทวะออกมาอย่างอุกอาจ…หลิงเจวี๋ยอวิ๋นรึ?”
“หลิงเจวี๋ยอวิ๋น…ช้าก่อน ใช้คนเดียวกับที่ได้อันดับ 1 ในตารางจัดอันดับตอนนี้หรือไม่!? ข้าได้ยินมาว่ามันเป็นผู้ฝึกตนอิสระของดินแดนพันประเทศไม่ใช่หรือไร? โอ สวรรค์อายุมันยังไม่ถึงร้อยปีจริงๆ!!”
“อะไรนะ เจ้านั่นได้อันดับ 1 เรอะ! แถมยังอายุไม่ถึงร้อยปี…หมายความว่าคนที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในแดนสวรรค์ใต้โบราณครั้งนี้อายุไม่ถึงร้อยปีงั้นเหรอ!?”
“ถึงแม้ข้าไม่รู้ว่ามันทำได้อย่างไร…แต่การเข้าไปในแดนสวรรค์ใต้โบราณครั้งนี้ นับว่ามันเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!”
…
ผู้ที่กำลังสับสนกับเรื่องราว หลังได้ยินคำอุทานก็หันไปมองหลิงเจวี๋ยอวิ่นทันที ทำให้หลิงเจวี๋ยอวิ๋นกลายเป็นจุดสนใจของทุกคน
อีกทั้งเหล่าผู้ที่ออกมา แม้จะสับสนงุนงง แต่ก็มีไม่น้อยที่เห็นตารางจัดอันดับแล้ว จึงล่วงรู้ว่าผู้ที่ได้อันดับ 1 มีนามว่า หลิงเจวี๋ยอวิ๋น!
อย่างไรก็ตาม ตัวหลิงเจวี๋ยอวิ๋นนั้น ไม่ได้แสสายตาผู้คนมากมายแม้แต่น้อย ยิ่งไม่สนใจคะแนนหรืออันดับอะไรทั้งสิ้น ตอนนี้มันเหมือนคนหูหนวก ใบหน้ายังเริ่มเปลี่ยนเป็นสีซีด กล่าวพึมพำเบาๆกับตัวให้ได้ยินคนเดียว “พี่สาวหงเอ้อไปไหนแล้ว…นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!?”
“หรือจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพี่สาวหวงเอ้อในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับต่ำ?”
สีหน้าหลิงเจวี๋ยอวิ๋นยิ่งมายิ่งเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์ปั้นยาก
“นอกจากนั้นข้ารู้สึกเสมือนสูญเสียความทรงจำบางส่วนไป…ความทรงจำที่ข้าเสียไปคืออะไรกัน ไฉนข้าถึงนึกไม่ออก!?”
หลังจากนั้นหลิงเจวี่ยอวิ๋นที่ตรวจดูคะแนนสะสมในป้ายหยกของตัวเอง พอพบว่ามีคะแนนสะสมอยู่ถึง 298 แต้ม มันก็อึ้งไปคล้ายตัวโง่งมอยู่บ้าง
“คะแนนสะสมพววกนี้โผล่มาจากไหนกัน? ข้าจำได้ว่าข้ามี 14 แต้มเท่านั้น…ดูเหมือนความทรงจำของข้าจะเริ่มหายไปหลังจากจุดนี้อีกด้วย!”
แววตาหลิงเจวี๋ยอวิ๋นยิ่งมายิ่งฉายถึงความร้อนรนเป็นกังวล มันจำไม่ได้จริงๆว่าคะแนนสะสมมาจากไหน และเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่ ที่สำคัญที่สุดก็คือพี่สาวหวงเอ้อของมันหายไปไหนแล้ว!!
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนและคนอื่นๆกำลังแตกตื่น เสียงของผู้อาวุโสตระกูจ่างซุนอยย่าง จ่างซุนฉงฉี พลันดังขึ้น
“พววกเจ้าทุกคนอย่าได้แตกตื่น หรือกังวลอันใด”
“ในประวัติศาสตร์แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับต่ำ มีคนที่ถูกส่งกลับออกมาอย่างพวกเจ้าโดยที่สูญเสียความทรงจำไปทุกครั้ง และทุกคนล้วนเสมือนได้เผชิญหน้ากับโชควาสนาบางประการมา…และโชควาสนาที่ว่าก็คือโชควาสนาที่ประเสริฐที่สุดในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับต่ำ”
“และไม่ว่าเป็นผู้ใด ไร้ซึ่งข้อยกเว้น ล้วนมิอาจจดจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เลย…จะอย่างไรก็ตามทุกคนล้วนมีจุดที่คล้ายกันประการหนึ่ง นั่นก็คือคะแนนสะสมในป้ายหยกของตัวเองเพิ่มขึ้น อีกทั้งในแหวนพื้นที่ยังมีสมบัติมากมายที่มิรู้ว่าได้มากจากไหนเก็บอยู่”
“นอกจากนั้นยังมีบางคนที่ตระหนักว่า ตัวเองได้ก้าวถึงหน้าประตูสู่กฏแห่งเวลาแล้ว”
ทันทีที่ได้ยินวาจาประโยคสุดท้ายของจ่างซุนฉงฉี ทุกคนไม่เว้นต้วนหลิงเทียนที่ถูกส่งออกมาจกแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับต่ำ สองตาก็ลุกวาวฉายแสงจ้าขึ้นมาทันใด
กฎแห่งเวลา?
กฏแห่งเวลานั้นเป็นกฏที่พิสดารและยากหยั่งถึงที่สุดใน 4 สูงสุดท่ามกลางสวรรค์และโลก หากเข้าใจกฏแห่งเวลาได้จริง สำหรับุทกคนแล้วนี่ย่อมเป็นเรื่องอันประเสริฐที่สุด!
“กฎแห่งเวลา?!”
ทันทีที่ได้ยินคำพูดของจ่างซุนฉงฉี ทันใดนั้นอยู่ๆความทรงจำบางส่วนก็ปรากฏขึ้นในหัวต้วนหลิงเทียน
และความทรงจำที่ว่า ก็เสมือนการตระหนักถึงอะไรบางอย่างของความหมายแห่งเวลา อันเป็นความลึกซึ้งของกฏแห่งเวลา
เวลานั้น บ้างช้า บ้างเร็ว บ้างหยุดนิ่ง…ฯลฯ
‘หรือว่า…นี่ก็คือกฏแห่งเวลา?’
ใจต้วนหลิงเทียนสะท้านไปทันที
และทันใดนั้น เสียงเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมของปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินก็ดังขึ้นในหัวเขาอย่างประจวบเหมาะ “เจ้าหนู ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับต่ำ มีค่ายกลสกัดกั้นความทรงจำจัดตั้งเอาไว้ ทำให้ตัวเจ้าสูญเสียความทรงจำไปส่วนหนึ่ง”
“ให้มันได้ยังงี้สิ…ข้าต้องเหนื่อยเล่าให้เจ้าฟังจริงๆหรือเนี่ย? เอาล่ะๆ เจ้าตั้งใจฟังให้ดีๆล่ะ ข้าจะเล่าแค่รอบเดียวเท่านั้น”
เสียงปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินคล้ายรำคาญเล็กน้อยที่ต้องมานั่งเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด
“เจ้าฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว รบกวนช่วยบอกเสี่ยวเฟิงให้ข้าที ว่าข้าไม่เป็นอะไร…ความทรงจำของเสี่ยวเฟิงเองก็สมควรหายไป และตอนนี้พอพบว่าวิญญาณของข้ามิได้อยู่ในทะเลวิญญาณ ไม่พ้นต้องร้อนใจแย่แล้ว”
ตอนนี้เองเสียงไพเราะทว่าแฝงเร้นไปด้วยความเย็นชาน่าเกรงขามของสตรีนางหนึ่งพลันดังขึ้นในหัวต้วนหลิงเทียน และต้นตอของเสียงสมควรมาจากทะเลวิญญาณภายในดวงจิตของเขา!
“เจ้าเป็นใคร?”
ได้ยินเสียงของปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินนั้นไม่เป็นอะไร เพราะเขารู้แต่แรกว่ามีอีกฝ่ายอยู่ในร่าง แต่สำหรับเสียงสตรีที่ไหนก็ไม่รู้อยู่ๆมาดังขึ้นจากด้านในทะเลวิญญาณของเขา ทำให้หน้าต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนสีไปทันที
สตรีนางนี้มาอยู่ในทะเลวิญญาณของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ และทำได้อย่างไร!?
ทะเลวิญญาณนั้นเป็นสถานที่อยู่ของวิญญาณเขา อีกทั้งโดยปกติแล้วทองเทพสุดลี้ลับก็คอยแผ่พลังปกปักษ์ดวงจิตของเขาไม่ใช่หรือไร ไหนเลยจะมีอะไรทะลวงฝ่าเข้าไปถึงทะเลวิญญาณของเขาได้?
ทว่าตอนนี้ อยู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นจากภายในทะเลวิญญาณของเขา สิ่งนี้หมายความว่าชีวิตของเขาตกอยู่ในกำมืออีกฝ่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะไม่ให้เขาตื่นตระหนกได้อย่างไร?
“เฮ่ๆ เจ้าไม่ต้องชักหน้าเบี้ยวขนาดนั้น เดี๋ยวพอเจ้าฟังข้าเล่าเรื่องราวทั้งหมดเจ้าก็รู้เองว่านางเป็นใคร…ส่วนเจ้าน้องสาว ไม่ต้องห่วงไป เจ้าหนูนี่หลังได้ยินเรื่องทั้งหมด ต้องช่วยเจ้าเล่ารายละเอียดทั้งหมดกับเจ้าหนูหลิงเจวี๋ยอวิ๋นแน่นอน”
เสียงปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินดังขึ้นอีกครั้ง และยังทำให้ต้วนหลิงเทียนคลายกังวลลงได้หลายส่วน
และเสียงสตรีลึกลับที่ดังขึ้นมาจากทะเลวิญญาณของเขาก็เงียบหายไป คล้ายจะเชื่อฟังคำพูดของปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินมาก
“เอาล่ะเจ้าหนู ข้าจะเริ่มเล่าตั้งแต่แรกนะ ฟังให้ดีๆล่ะ รอบเดียวไม่มีซ้ำเข้าใจ? ความทรงจำของเจ้าสมควรมีถึงตอนที่ได้พบกับคนที่เรียกว่าสุมาฉุนใช่หรือไม่ และหลังจากเจ้าฆ่ามันตาย เจ้าก็ได้รับแต้มของมันมา จนในป้ายหยกสะสมคะแนนของเจ้ามี 11 แต้ม…”
ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินเริ่มเล่าเรื่องราว “และหากข้าเดาไม่ผิด ความทรงจำของเจ้าสมควรหยุดลงแค่นี้…เพราะว่าหลังจากเจ้าพบว่าตัวเองมีคะแนนสะสม 11 แต้มได้ไม่ทันไร ก็มีเสียงที่สมควรเป็นจอมราชันอมตะสวรรค์ใต้ดังขึ้นจากป้ายหยกสะสมคะแนน หลังจากนั้นก็มีพลังลึกลับหนึ่งผสานเข้ากับสำนึกเทวะเจ้าบางส่วน และชี้นำให้เจ้ามุ่งหน้าไปวังจอมราชันอมตะ…”
“ในระหว่างที่เจ้ากำลังเร่งุรดเดินทางไปวังจอมราชันอมตะ เจ้าก็บังเอิญเจอเจ้าหนูนามว่าหวงเจียเชากลางทาง และมันก็กำลังจะถูกผู้อื่นทุบตีจนตายพอดี เจ้าเลยช่วยมันไว้”
“หลังจากนั้น เจ้าก็กระเตงขวดน้ำมันเช่นมันไปด้วย…”
(ขวดน้ำมัน = ภาระ)
……
หลังจากนิ่งฟังปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินเล่าเรื่องราวอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดต้วนหลิเทียนก็รับทราบว่าความทรงจำที่หายไปของเขาคืออะไร ขณะเดียวกันก็รับทราบเหตุผลว่าไฉนเขาถึงได้มีคะแนนสะสมมากมายหลายแต้มนัก
‘ที่แท้หลังจากที่ข้าฆ่าสุมาฉุนไปแล้ว ข้ายังได้ฆ่าตงฟางจิ่นหลุนกับหลี่หยวนอีก…อีกทั้งสองคนหลังนั่นก็เหมือนกับบสุมาฉุน ล้วนเข้าใจความลึกซึ้งของกฏ 2 ประการแล้วทั้งสิ้น’
‘ไม่คิดเลยจริงๆว่าหลิงเจวี๋ยอวิ๋นจะมาจากดินแดนการล่มสลายแห่งทวยเทพ อันเป็นระนาบทวยเทพเดียวกับระนาบทวยเทพบ้านเกิดเค่อเอ๋อในชาติก่อน…แถมหวงเอ้อก็คือจิตวิญญาณกระบี่เทพระดับสูงที่ถือกำเนิดไล่เลี่ยกับจิตวิญญาณกระบี่หลิงหลง 7 เปลี่ยนที่สลายไป…สุดท้ายจึงตัดสินใจรับข้าเป็นนายและคิดจะผสานตัวเองเข้ากับกระบี่หลิงหลง 7 เปลี่ยน กลายเป็นจิตวิญญาณกระบี่ให้ข้า…’
‘นอกจากนี้ข้ายังได้สัญญากับนาง…ว่าวันหน้าหากข้ามีกำลังมากพอจะช่วยนางฆ่าคนล้างแค้น’
‘และทั้งนี้ทั้งนั้น คนที่นางคิดให้ข้าฆ่า ต้องเป็นพวกสารเลวสมควรตาย…’
…
หลังได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดิน ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะได้รับรู้ถึงความทรงจำที่หายไป แต่เขาก็ไม่รู้สึกว่ามันจะคุ้นเคยแม้แต่น้อย
นั่นเพราะแม้ความทรงจำที่หายไปทั้งหมดจะเป็นเรื่องที่เขาได้ทำไว้ แต่เมื่อมันสูญหายไปโดยสมบูรณ์ ก็เสมือนเขาได้ฟังเรื่องราวของคนอื่นเท่านั้น ทำให้มันรู้สึกแปลกๆอยู่บ้าง ถึงคนอื่นที่ว่าจะเป็นตัวเขาเองก็ตามที
อย่างไรก็ตามถึงเขาจะรู้สึกแปลกๆ และเหมือนฟังวีรกรรมคนอื่น แต่ในเมื่อปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินเล่าให้ฟัง เขาจึงไม่คิดสงสัยในข้อเท็จจริงของเรื่องราว และยังพบอีกว่าสมบัติในแหวนพื้นที่ของเขาตอนนี้ มันสอดคล้องกับเรื่องที่อีกฝ่ายเล่าไว้ไม่ผิดเพี้ยน
ยิ่งไปกว่านั้นหลังได้ฟังเรื่องราวความทรงจำที่หายไปจากปฐพีเทพแรกกำเนิด และลองตรวจสอบสิ่งของในแหวนพื้นที่ดู เขาก็อดไม่ได้ที่จะอึ้งไปพักหนึ่ง ด้วยไม่คิดไม่ฝันจริงๆว่าเขาจะเก็บเกี่ยวสมบัติได้มามากมายขนาดนี้ เรียกว่าร่ำรวยไม่รู้เรื่องกันเลยทีเดียว!
‘ที่สำคัญ ข้ายังได้รับตำแหน่งที่ดีที่สุดในการสัมผัสถึงความหมายแห่งเวลา จากค่ายกลที่จอมราชันอมตะสวรรค์ใต้เหลือทิ้งไว้เช่นนั้นรึ’
‘เหตุผลที่พี่เจียเชาถูกส่งตัวออกมาด้วย ก็เพราะข้าเป็นคนช่วยเก็บแต้มให้จนได้ไปวังจอมราชันอมตะ…และการกระทำดังกล่าววังจอมราชันอมตะก็ถือว่าเป็นการโกง สุดท้ายบททดสอบแรกที่ข้าเจอก็เลยยากกว่าผู้อื่นเขา’
พอคิดถึงจุดนี้ต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองหวงเจียเชา และพบว่าอีกฝ่ายก็กำลังเหินร่างเข้ามาหาเขาพอดี
“น้องต้วน ข้าจำได้ว่าท่านเป็นคนช่วยชีวิตข้าเอาไว้…แต่หลังจากที่ท่านช่วยข้าแล้ว ข้ากลับจดจำเรื่องราวหลังจากนั้นไม่ได้เลย ความทรงจำของข้าเหมือนจะหายไปตั้งแต่ที่ท่านเริ่มพูดอะไรบางอย่างกับข้า”
หวงเจียเชาเอ่ยถึงจุดนี้ ก็ถามต้วนหลิงเทียนด้วยสีหน้าเหรอหรา “มิทราบว่าน้องต้วนจำได้หรือไม่ว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง?”
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา
ถึงแม้เขาจะรู้แล้วว่าหลังจากนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง แต่เขาก็ไม่คิดจะบอกหวงเจียเชา
เพราะมีคนรู้เรื่องพวกนี้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี
“หลิงเจวี๋ยอวิ๋น”
ครู่ต่อมาต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองหลิงเจวี๋ยอวิ๋นที่หน้าเสียจนแทบจะร่ำไห้ไกลๆ อีกฝ่ายดูไม่เหมือนคนที่กำลังมีความสุขเพราะได้อันดับ 1 แม้แต่น้อย ยังเผยความร้อนรนกังวลใจอย่างเห็นได้ชัด
‘ดูจากสีหน้าปานจะร่ำไห้ของมัน ท่าทางจะพบว่าหวงเอ้อหายไปแล้ว และไม่รู้ว่านางหายไปที่ไหน…แต่คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าเจ้านี่จะเป็นคนของดินแดนการล่มสลายแห่งทวยเทพ แถมยังมีอุปกรณ์อมตะระดับจักรพรรดิ กระทั่งมีอุปกรณ์เทพติดด้วย’
หลังได้ฟังเรื่องราวที่ปฐพีเทพแรกกำเนิดเล่า ต้วนหลิงเทียนก็ได้รับทราบถึงเรื่องราวบบางอย่างของหลิงเจวี๋ยอวิ๋น ทำให้เขาจำต้องมองอีกฝ่ายใหม่