War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 3164
คำพูดของอวิ๋นเหยียน นับว่าสร้างความตกตะลึงให้คนของคฤหาสน์โหมอวิ๋นแล้วจริงๆ
“หว่านชิงชิง…ร่วมมือกับต้วนหลิงเทียน?!”
“ต้วนหลิงเทียนที่ว่า…คือต้วนหลิงเทียนของคฤหาสน์เฉวียนโยวผู้นั้นน่ะนะ!?”
“อวิ๋นเหยียน…แซ่ต้วนที่เจ้าพึ่งกล่าว เป็นต้วนหลิงเทียนของคฤหาสน์เฉวียนโยวผู้นั้นจริงๆหรือ?”
…
โดนทุกคนรุมถามแบบนี้ อวิ๋นเหยียนก็ได้แต่กล่าวตอบเสียงอ่อนด้วยรอยยิ้มขื่นขม “ในแดนสวรรค์ใต้โบราณ คนที่ร่วมมือกับหว่านชิงชิงจนจัดการข้าได้ นอกจากต้วนหลิงเทียนของคฤหาสน์เฉวียนโยวผู้นั้น…ยังจะมีต้วนหลิงเทียนคนไหนได้อีก”
หลังได้รับคำยืนยันจากอวิ๋นเหยียน คนของคฤหาสน์โหมอวิ๋นก็อดสูดลมหายใจเข้าลึกๆไม่ได้ รูม่านตายังหดแคบลง คล้ายพบเจอเรื่องราวอันน่าสยดสยอง
“ให้ตายเถอะ…หว่านชิงชิงร่วมมือกับต้วนหลิงเทียนผู้นั้นงั้นหรือ? หว่านชิงชิงมีดีเรื่องความเร็ว…ส่วนต้วนหลิงเทียนนั่นมีพลังโจมตีอันน่าพรั่นพรึงสุดต้านทาน ถึงขั้นทลายปราการป้องกันของเหิงเฟิงแห่งคฤหาสน์อู่จ้านนั่นได้!”
“ในอดีตพลังป้องกันของเหิงเฟิงก็จัดว่าอยู่ในระดับ 2 ของแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางแล้ว…หลังเข้าใจความลึกซึ้งเกราะถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้น หากในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางมันพูดว่าพลังป้องกันของมันเป็นที่ 2 ก็คงไม่มีใครกล้าพูดว่าเป็นที่หนึ่ง! กระทั่งถึงขั้นยืนหนึ่งอย่างที่ไม่มีผู้ใดเทียบเคียงด้วยซ้ำ!!”
“แต่กระนั้น การป้องกันนรกนั่นของมันก็ถูกต้วนหลิงเทียนทำลาย!”
“ทั้งคู่ร่วมมือกันแบบนี้…หว่างชิงชิงก็เสมือนลบจุดอ่อนเรื่องความเร็วของต้วนหลิงเทียน และต้วนหลิงเทียนก็ลบจุดอ่อนด้านอื่นๆของหว่านชิงชิงได้สมบูรณ์!”
“เมื่อทั้งคู่ร่วมมือกัน…ถึงขั้นเป็นภัยคุกคาม 6 คนนั่นได้ด้วยซ้ำ!!”
…
หลังเหล่าศิษย์และผู้อาวุโสของคฤหาสน์โหมอวิ๋นกลับมารู้สึกตัว สายตาของพวกมันก็จับจ้องไปยัง 6 อันดับแรกบนตารางทันที
ทั้ง 6 คนนั่นยึดครอง 6 อันดับแรกมานานหลายปีแล้ว ไม่มีเดือนไหนที่เป็นข้อยกเว้นเลยสักเดือน
เคยมีหลายคนที่ร่วมมือกัน หมายฉุดดึงทั้ง 6 ให้หลุดจากบัลลังก์มาแล้วหลายครั้งหลายครา แต่ก็ไม่มีใครสามารถทำได้สำเร็จ!
แล้วการร่วมมือกันระหว่างต้วนหลิงเทียนกับหว่านชิงชิงคราวนี้ จะทำลายตำนานดังกล่าวของทั้ง 6 ได้หรือไม่?
ถึงแม้พวกมันจะรู้สึกตั้งหน้าตั้งตารอดูอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก
นั่นเพราะทั้ง 6 คนไม่ใช่แค่ทรงพลังอย่างร้ายกาจเท่านั้น แต่ยังลึกลับอีกด้วย!
“ตอนนี้ที่ข้าอยากรู้ก็คือ…ไม่ใช่ว่าหว่านชิงชิงเป็นคนของคฤหาสน์อู่จ้านและต้วนหลิงเทียนเป็นคนคฤหาสน์เฉวียนโยวหรือไร ไฉนพวกมันถึงไปลงเอยกันได้เล่า?”
“ลงเอยกับตูดเจ้า เค้าเรียกว่าร่วมมือกันเพื่อผลประโยชน์!!”
“แต่ไม่ใช่ว่าเหิงเฟิงที่ร่วมมือกับหว่านชิงชิงถูกต้วนหลิงเทียนจัดการไปหรือไร…หรือครั้งนั้นหลังหว่านชิงชิงหลบหนีไปได้แล้วกลับเลือกย้อนกลับมาหารือเรื่องร่วมมือกัน? และคงไม่ใช่เริ่มร่วมมือกันตั้งแต่แรกหรอกนะ?”
“พวกมันไม่น่าจะร่วมมือกันแต่แรกหรอก…เพราะตอนที่ต้วนหลิงเทียนไปดักหน้าค่ายคฤหาสน์หั่วหลี หว่านชิงชิงก็ไม่ได้ไปปรากฏตัวที่นั่น…ข้าว่าทั้งคู่บังเอิญพบเจอกันภายหลัง แล้วก็บรรลุข้อตกลงร่วมกันมากกว่า”
“ข้าก็ว่างั้น”
…
ไม่นานข่าวที่ต้วนหลิงเทียนร่วมมือกกับหว่านชิงชิง ก็ถูกแพร่กระจายออกไปทั่วคฤหาสน์โหมอวิ๋น จากนั้นหลายๆคนก็อดไม่ได้ที่จะแบ่งปันเรื่องราว เร่งบดขยี้ยันต์อมตะสื่อสารทางวิญญาณ เพื่อแจ้งสหายที่คฤหาสน์อมตะระดับ 6 อื่นๆกันจ้าละหวั่น
กระทั่ง 6 อันดับแรกในตารางจัดอันดับที่อยู่ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง ยังได้รับข้อความจากอาวุโสของคฤหาสน์ตัวเองในเวลาอันสั้น
ภายในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง
บนยอดเขาสูงชันลูกหนึ่ง ร่างหนึ่งยืนตระหง่านปานหอคอยเหล็ก อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้น
“ต้วนหลิงเทียนที่ว่า…ร่วมมือกับหว่านชิงชิงงั้นรึ?”
ร่างเดียวดายที่ยืนตระหง่านบนยอดเขานั่น เป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาผู้หนึ่ง ชุดคลุมสีแดงเพลิงของมันโบกสะบัดไปตามแรงลม แลคล้ายเพลิงโลหิตลุกโชนอยู่บ้าง
“น่าสนใจดีนี่…”
มุมปากชายหนุ่มยกยิ้มแสยะ สองตาฉายประกายลี้ลับ
…
ซว่า!! ซ่า!
ทะเลสาบแห่งหนึ่งที่เดิมสงบ ปรากฏบางสิ่งพุ่งทะยานโผล่พ้นลำน้ำขึ้นฟ้าไปฉับไว หยาดน้ำซ่านกระเซ็นไปทุกแห่งหน ท่ามกลางละอองเย็น เผยให้เห็นเป็นร่างผอมหนึ่งเหินค้างเหนือทะเลสาบ
เป็นชายหนุ่มที่แต่งตัวคล้ายอาลักษณ์ ใบหน้าแลดูหล่อเหลา หากแต่แววตาทั้งทั่วร่างให้กลิ่นอายชั่วร้ายขุ่นคลั่ก!
“ต้วนหลิงเทียน? หว่านชิงชิง? หวังว่าพวกมันจักทำให้ข้ารู้สึกตื่นเต้นได้บ้าง…”
ชายหนุ่มคลี่ยิ้มแสยะพลางแลบเลียริมฝีปาก จากนั้นคนคล้ายกลับกลายเป็นเงาเลือน พุ่งทะยานตัดฟ้าไปดั่งลำแสงสายหนึ่ง…
และหลังจากมันไปได้ไม่นาน ก็ปรากฏร่างสตรีเปล่าเปลือยตามตัวเต็มไปด้วยบาดแผลฟกช้ำลำคอปรากฏรอยคล้ำ ไร้ซึ่งกลิ่นอายชีวิตนางหนึ่งลอยขึ้นมาให้เห็น
…
“หวังไท่! ข้ายอมแพ้แล้ว!!”
เหนือผืนป่ารกชัดปรากฏร่างลอยค้างกลางหาว ด้วยเพลิงพลังที่ลุกโชนท่วมร่าง หนุนเสริมให้สภาวะมันกล้าแข็งปานทวยเทพ มันกำลังมองจ้องไปยังชายชราที่หน้าตาซีดเซียวเบื้องล่าง ผู้เร่งร้อนกล่าวคำยอมแพ้ด้วยสีหน้าแววตาเฉยชา
แคร่ก!
จากนั้นชายชราที่กล่าวยอมแพ้ ก็เร่งบดขยี้ป้ายหยกสะสมคะแนน เลือกถอนตัวออกจากแดนสวรรค์ใต้โบราณด้วยแววตาเลื่อมไสระคนหวาดกลัว
“หืม?”
ร่างที่เปี่ยมล้นไปด้วยเพลิงพลังกล้าแข็งปานทวยเทพเหนือป่า อยู่ๆก็เลิกคิ้วขึ้น ดวงตาเผยความประหลาดใจให้เห็น
“ศิษย์น้องหญิงชิงชิง…บังเอิญเจอต้วนหลิงเทียนของคฤหาสน์เฉวียนโยวอีกครั้ง และสมควรบรรลุข้อตกลงร่วมมือกันงั้นรึ?
ฟังจากคำพูดของมัน ดูเหมือนร่างชายหนุ่มที่บีบให้ชายชราเร่งรุดบดขยี้ป้ายหยกเป็นการยอมแพ้ไปเมื่อครู่ ที่แท้ก็คือหวังไท่ ของคฤหาสน์อู่จ้าน!
…
ภายในหุบเขาแห่งหนึ่ง ปรากฏร่างนั่งหลับตาขัดสมาธิอย่างเงียบงัน คล้ายกำลังเฝ้ารออะไรบางอย่าง
ร่างที่ว่าเป็นชายหนุ่มในชุดสีเทา แม้ใบหน้าแลดูอ่อนวัย หากแต่เส้นผมขนคิ้วของมันล้วนขาวโพลนปานหิมะ
ขาวจนไม่รู้จะขาวไปกว่านี้ได้อย่างไรแล้ว
หมับ!
เสียงคว้าจับวัตถุดังขึ้นเบาๆ ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อไหร่หากแต่บัดนี้ชายหนุ่มผมขาวในชุดเทาดังกล่าวได้ลืมตาขึ้นแล้ว และในมือก็ถือไว้ด้วยป้ายหยกป้ายหนึ่ง
ป้ายหยกที่ว่าเป็นป้ายหยกสะสมคะแนน…
“ดูเหมือนเดือนนี้ข้าจะไม่มีโอกาสพบเจอต้วนหลิงเทียนอะไรนั่นแล้ว…”
ร่างในชุดคลุมสีเทากล่าวพึมพำออกมาอย่างทอดถอนใจ คล้ายเสียดายไม่น้อย จากนั้นมันก็เก็บป้ายหยกสะสมคะแนนไป แล้วหลับตาลงต่อ ทำราวกับกำลังรออะไรบางอย่าง…
…
“ศิษย์ฝ่ายนอกคฤหาสน์เฉวียนโยวที่ฆ่ากงซุนจิ้งนั่นมันร่วมมือกับหว่านชิงชิงของคฤหาสน์อู่จ้านงั้นรึ?”
เหนือทุ่งน้ำแข็ง ท่ามกลางสายลมยะเยือก ร่างหนึ่งที่กำลังเหินฝ่าความหนาวเหน็บพลันชะงักร่างลงอย่างกะทันหัน
สาเหตุที่มันชะงักร่างค้างกลางหาว เนื่องเพราะมันได้รับการติดต่อจากภายนอก
“หึ! ต่อให้เจ้าจักร่วมมือกับนังตัวดีของคฤหาสน์อู่จ้าน แต่ภาวนาอย่าให้เจอข้าแล้วกัน…หาไม่แล้วพวกเจ้าได้ตายแน่!”
ร่างกลางลมหนาวเป็นชายหนุ่มมาในชุดคลุมดำสนิท ลูกตาดั่งอสรพิษของมันหดหยีลงส่องประกายเย็นชา “ได้ยินมาว่าคฤหาสน์เฉวียโยวเห็นเจ้าต้วนหลิงเทียนอะไรนั่นเป็นดั่งความหวังคฤหาสน์…”
“คราวนี้ข้าจักให้ความหวังของพวกมันต้องพังทลาย!”
พอเสียงอำมหิตดังจบคำ ร่างในชุดดำก็วูบตัดฟ้าหนาวไปอีกครั้งเร็วไว แววตาเย็นชาของมัน ยิ่งมายิ่งฉายชัดถึงความอำมหิต ปานรอกลืนกินเลือดเนื้อผู้คนไม่ไหวแล้ว!
…
“หากได้เจอต้วนหลิงเทียนกับหว่านชิงชิงนั่นก็คงดี อย่างน้อยๆก็คงแก้เบื่อให้ข้าได้บ้าง…”
กลางฟ้าเหนือพื้นที่แนวภูเขาแห่งหนึ่ง ร่างที่กำลังเหินไปเรื่อยอย่างไม่รีบไม่ร้อน พลันหยุดลงกลางหาวเมื่อพบว่ามีข้อความหนึ่งส่งมาถึง หลังได้รับทราบข้อความแล้ว สองตาที่แลดูเบื่อหน่ายของมันพลันฉายแววจ้าขึ้นมาทันที
“5 คนนั่นถึงเจอพวกมันก็ไร้ความหมาย…พวกมันทำอะไรข้าไม่ได้ แต่ข้าก็ทำอะไรพวกมันไม่ได้”
“แถมถึงจะท้าพวกมันต่อยตีไป พวกมันก็คร้านจะเสียเวลาเล่นนกับข้าทุกที…หวังว่าเดือนนี้จะทันได้เจอต้วนหลิงเทียนกับว่านชิงชิงนั่น จะได้สู้ให้หนำใจสักครา!”
“ช่างทำให้ผู้คนตั้งหน้าตั้งตารอเสียจริง…หวังว่าจะได้เจอพวกมันก่อนหมดเวลา!”
…
ด้านคฤหาสน์เฉวียนโยว เหล่าศิษย์และอาวุโสตามตำหนักเคลื่อนย้ายต่างๆ ทุกคนก็ได้แต่หันมามองหน้ากันด้วยความอื้ออึงหลังได้ยินข่าวเรื่องความร่วมมือระหว่างต้วนหลิงเทียนนกับหว่านชิงชิง
“ต้วนหลิงเทียน…ร่วมมือกับหว่านชิงชิงจากคฤหาสน์อู่จ้านงั้นเหรอ!?”
“ยิ่งไปกว่านั้น ยังร่วมมือกันกำจัดอวิ๋นเหยียนของคฤหาสน์โหมอวิ๋นด้วยกัน…ทว่าต้วนหลิงเทียนกลับเลือกจะมอบคะแนนสะสมให้หว่านชิงชิง? ไฉนถึงต้องให้นางด้วยเล่า?”
“ข้าก็ว่าอยู่แล้วเชียวว่าไฉนสองวันที่ผ่านมาคะแนนสะสมของต้วนหลิงเทียนไม่ค่อยกระเตื้องเลย…ที่แท้อยู่กับหว่านชิงชิงนี่เอง อีกทั้งดูจากแต้มของนางที่ขึ้นเอาๆ ไม่พ้นต้วนหลิงเทียนต้องใจป๋ามอบให้นางหมดแน่!!”
“บัดซบ! หรือวีรบุรุษยากฝ่าด่านหญิงงามแล้วจริงๆ? กระทั่งอัจฉริยะอย่างต้วนหลิงเทียนยังไม่อาจทำลายคำสาปนรกนี่ได้อีกรึ?!”
…
เหล่าศิษย์และอาวุโสของคฤหาสน์เฉวียนโยวในตำหนักเคลื่อนย้ายทั้ง 3 อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างสะทกสะท้อน…ด้วยไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวีรบุรุษที่มากอบกู้คฤหาสน์เฉวียนโยวของพวกมันอย่างต้วนหลิงเทียน ยังไม่อาจฝ่าด่านหญิงงามเช่นหว่านชิงชิงได้ และมอบแต้มเพื่อปรนเปรอเอาใจนางเสียอย่างนั้น!
สำหรับเรื่องนี้ พวกมันไม่เพียงจะพูดไม่ออก แต่ยังไม่รู้จะพูดยังไงด้วยซ้ำ
เพราะนี่เป็นเรื่องส่วนตัวของต้วนหลิงเทียน
นอกจากนั้นด้วยความสำเร็จของต้วนหลิงเทียนในปัจจุบัน ต่อให้หลังจากนี้จะมอบคะแนนสะสมให้นางทั้งหมด แต่ตามสถิติแล้ว ก็สมควรจบเดือนด้วยการติด 10 อันดับแรกได้อยู่ ซึ่งสิ่งนี้ก็เรียกว่าเป็นดั่งเป้าหมายที่ทำให้พวกมันพึงพอใจมากๆแล้ว
“เจ้าหนูนั่น…ไปหลงเสน่ห์หว่านชิงชิงของคฤหาสน์อู่จ้านงั้นเรอะ!?”
หลังจากที่ 1 ใน 10 ผู้ตรวจการคฤหาสน์เฉวียนโยว ฉีเทียนหมิง ได้รับทราบข่าวนี้ มันก็รู้สึกจุกแน่นในอก ยังบังเกิดอาการอยากทุบตีทำร้ายผู้คนขึ้นมาตงิดๆ เร่งสะบัดมือควักยันต์อมตะสื่อสารทางวิญญาณออกมากองหนึ่ง ก่อนจะบดขยี้ทิ้งระรัว
“เจ้าหนู! เจ้าได้ลืมเลือนไปเชียว! ว่าท่านจ้าววังงผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยมอบบททดสอบอันใดให้เจ้า!!”
“นอกจากนั้นหว่านชิงงชิงแห่งคฤหาสน์อู่จ้านนั่น นางมิใช่ผู้คนด้วยซ้ำ! นางเป็นดอกไม้! ดอกไม้ที่มิรู้ก่อเกิดสำนึกสติมากี่แสนกี่ล้านปีกว่าจักจำแลงกายเป็นผู้คน! อีกทั้งเจ้าสมควรรู้ดี ว่าต่างเผ่าพันธุ์ ต่างจิตใจ! ใช่รสนิยมนางจักเหมือนผู้คนเสียเมื่อไหร่? เจ้าสมควรรักษาระยะห่างกับนางให้มากเข้าไว้ ต่อไปจักได้ไม่โดนนางขาย!!”
“หลังจากนี้เจอผู้ใด ก็เก็บแต้มไปเองเสีย อย่าได้ปรนเปรอให้นางอย่างโง่งม!!”
ฯลฯ
…
ฉีเทียนหมิงเร่งบดขยี้ยันต์อมตะสื่อสารทาวิญญาณและส่งข้อความไประรัว และทุกข้อความล้วนพยายามปลุกสติต้วนหลิงเทียน ไม่ให้หลงมัวเมาไปกับรูปโฉมของหว่านชิงชิง
ภายในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง
“ผู้เฒ่าฉี…”
ต้วนหลิงเทียนทีอยู่ๆก็ได้รับข้อความที่ประดังเข้ามานับสิบข้อความ ก็อึ้งไปอยู่บ้าง หลังจากหายอึนเขาก็ได้แต่ส่ายหัวไปมาพลางคลี่ยิ้มแหยๆ
ผู้เฒ่าฉีไม่รู้ว่าเขาตกลงร่วมมือกับหว่านชิงชิงตั้งแต่แรก…
อีกทั้งไม่รู้ว่าเขาติดค้างนางที่บอกข้อมูลสำคัญเรื่องการระดมพลของศิษย์คฤหาสน์หั่วหลี จนนำไปสู่การกำจัดถานหยวน และโม่ผิงจื่อ
หากเขาไม่เจอถานหยวนห่างออกไป 20 ลี้ และดันเจอพวกมันระดมกำลังมาหาเขาที่หน้าค่ายคฤหาสน์หั่วหลีแทน แม้ถานหยานอาจจะประมาท แต่ไม่แน่ว่าเขาจะจัดการมันได้ทัน
เหตุผลเดียวที่ทำให้เขาไปจัดการมันกลางทางได้แบบนี้ ต้องขอบคุณหว่านชิงชิงที่พบเจอเบาะแสความเคลื่อนไหวของงพวกมัน…
แม้เขาจะเปิดโอกาสให้นางได้รับคะแนนของงอวิ๋นเหยียนของคฤหาสน์โหมอวิ๋น แต่นั่นก็เป็นการชำระหนี้ที่เขารู้สึกติดค้าง เพราะนางไม่ยอมให้เขาชำระหนี้อย่างที่ลั่นวาจาไว้ดีๆเท่านั้น! ตอนนี้เขาจึงไม่ต้องรู้สึกติดค้างนางอีกต่อไป
และคะแนนของคนที่ต้องร่วมมือกันสู้คนต่อไป แน่นอนว่าต้องเป็นของเขาตามข้อตกลงเรื่องผลัดกันแต่แรก
“เรื่องราวความร่วมมือของพวกเรา ด้านนอกล่วงรู้กันแล้ว…”
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนลอยยเหม่อคิดอยู่นั้น เสียงผ่านพลังของหว่านชิงชิงก็ดังขึ้นในหูเขา
โดยปกติเขากับหว่านชิงชิงจะไม่เดินทางร่วมกัน แต่จะเว้นระยะห่างกันพอสมควร ให้อยู่ในระยะที่สัมผัสกันได้ด้วยสำนึกเทวะ…
ทำให้ตราบใดที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพบศัตรูอีกคนก็สามารถมาช่วยได้ทันท่วงที และยังทำให้ศัตรูไม่รู้ตัวแต่แรกด้วย ว่าพวกเขามีกันสองคน
“ก็อย่างที่คาดไว้”
ต้วนหลิงเทียนตอบกลับอย่างไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร
และแทบจะพร้อมๆกันกับที่ต้วนหลิงเทียนตอบหว่านชิงชิงจบคำ เขาก็คล้ายจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ร่างหันขวับไปจับจ้องมองฟ้าทิศทางหนึ่ง ลูกตาหดเล็กลง มองเพ่งไปเบื้องหน้า!
ซู่มมม!!
เบื้องงหน้าไกลๆ ปรากฏร่างที่ปกคลุมไปด้วยพลังสีครามของสายลม และหลังจากที่อีกฝ่ายพบเจอเขา มันก็ห้อตะบึงเข้ามาเร็วไว!
“ต้วนหลิงเทียน!!”
ขณะที่อีกฝ่ายบึ่งมาด้วยความเร็วสูง เสียงเย็นชาหนึ่งก็ดังขึ้น ยังเย็นเสียจนปานจะแช่แข็งได้กระทั่งอากาศ!
ความเร็วในการห้อเหยียดเข้ามาของอีกฝ่าย ถึงแม้จะไม่รวดเร็วเท่าหว่านชิงชิง แต่ก็เร็วกว่าต้วนหลิงเทียน
และวัดจากความเร็วของมัน สมควรอยู่ในระดับที่ 2 ของแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง พอๆกับถานหยวนของคฤหาสน์หั่วหลี และอวิ๋นเหยียนของคฤหาสน์โหมอวิ๋น
ไม่ทันไร คนก็มาลอยร่างขวางไว้เบื้องหน้าต้วนหลิงเทียน มองจ้องมาด้วยสายตาเปี่ยมเจตนาฆ่าฟัน!
“ต้วนหลิงเทียน เดือนก่อนเป็นเจ้าลงมือตอนข้าไม่ทันตั้งตัวจนกำจัดข้าได้…เดือนนี้ข้า หลิวจี๋ จักฆ่าเจ้าเพื่อชะล้างความอัปยศครั้งนั้น!!”
คนที่รีบบึ่งมาขวางต้วนหลิงเทียน ไม่เพียงมองจ้องเขาด้วยเจตนาฆ่าฟันเท่านั้น ยังประกาศคำออกมาด้วยน้ำเสียงเยียบเย็นชัดเจน…ว่าจะฆ่าเขาให้ตาย!