War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 3226
พลังฝีมือของอวิ๋นเซียวอาจจะดี
แต่ยังดีไม่พอ หากจะเทียบกับต้วนหลิงเทียนหรือฮ่วนเอ๋อ
ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงว่าสิ่งที่ฮ่วนเอ๋อใช้เมื่อครู่ก็คือ…พรสวรรค์แต่กำเนิดที่มีแต่เผ่าจิ้งจอกมายาสายเลือดบริสุทธิ์ถึงจะใช้ได้ออกมา! สะกดประสาทสัมผัส!!
เช่นนั้นกว่าที่อวิ๋นเซียวจะทันได้ล่วงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฮ่วนเอ๋อก็สะบัดมือซัดพลังฆ่ามันตายไปแล้ว
กระทั่งจวบจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต อวิ๋นเซียวยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันโดนอะไรตาย
“สองคนนี้จักไม่ขวัญกล้าไปหน่อยหรือไร ฆ่าอวิ๋นเซียวไปแล้วแท้ๆแต่ยังแลดูเฉยๆ คล้ายไม่ได้สนใจอะไรเลย…”
ไม่นานเหล่าผู้ที่แลเห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็อดรู้สึกมึนงงไม่ได้ เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อที่พึ่งก่อเรื่องนั้น ยังคงก้าวอาดๆไปทางพื้นที่ฟ้าดินแห่งกฏ ราวกับจะไปทดสอบเหมือนคนอื่นๆหน้าตาเฉย
“ฮ่วนเอ๋อ เจ้าเข้าไปลองดูสิ”
ต้วนหลิงเทียนยิ้มกล่าวกับฮ่วนเอ๋อ “ข้าได้ยินมาว่าหากเอาชนะจิตวิญญาณค่ายกลได้ สถานที่ทดสอบฟ้าดินแห่งกฏก็จะมอบของรางวัลให้ด้วย แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นของรางวัลอะไร”
“อื้อ”
ฮ่วนเอ๋อพยักหน้าและเดินตรงไปยังพื้นที่ฟ้าดินแห่งกฏ ส่วนที่เต็มไปด้วยกฏแห่งมิติทันที และบริเวณพื้นที่ฟ้าดินแห่งกฏส่วนของกฏมิตินั้น…ไม่มีคนเลย !
และก่อนหน้าก็ดูเหมือนจะไม่มีคนเคยใช้มาก่อนด้วย
อย่างไรก็ตามฟ้าดินแห่งกฏพื้นที่อื่น โดยเฉพาะส่วนของกฏแห่งธาตุทั้ง 5 นับว่าคึกคักมีชีวิตชีวามากที่สุด…รองลงมาก็จะเป็นกฏแห่งลม กฏสายฟ้า และกฏน้ำแข็ง
สำหรับพื้นที่ของกฏสูงสุดทั้ง 4 นั้น นอกจากพื้นที่กฏแห่งมิติที่มีเขากับฮ่วนเอ๋อแล้ว พื้นที่ฟ้าดินแห่งกฏของอีก 3 กฏสูงสุดที่เหลือ รวมไปถึงกฏแห่งแสง กฏทำลายล้างกลับไม่มีคนเลย
ส่วนกฏแห่งความมืดนั้น ในพื้นที่ฟ้าดินแห่งกฏตรงนั้น ปรากฏร่างคนกำลังประมือกับจิตวิญญาณค่ายกลอยู่ การปะทะเป็นไปอย่างดุเดือด คู่คี่สูสีจนยากจะออกว่าผู้ใดจะชนะ
แต่ที่ไฉนคนผู้นั้นสามารถประมือกับจิตวิญญาณค่ายกลได้อย่าสูสีนั้น ไม่ใช่ประสบการณ์การต่อสู้ของมันเทียบกับจิตวิญญาณค่ายกลได้ แต่เป็นเพราะมันมีฝีมือย่อยอย่างอื่น
จิตวิญญาณค่ายกลมีแค่ระดับพลังบ่มเพาะกับระดับความเข้าใจในกฏที่ทัดเทียมกับมันเท่านั้น แต้ด้านประสบการณ์ต่อสู้แลดูยังเหนือกว่าด้วยซ้ำ
แต่หากมันใช้ฝีมือย่อยอื่น จิตวิญญาณค่ายกลก็ไม่อาจเลียนแบบได้
ดุจเดียวกับฮ่วนเอ๋อ
จิตวิญญาณค่ายกลสามารถลอกเลียนระดับพลังบ่มเพะของนาง กับความเข้าใจในกฏได้ แต่ไม่อาจลอกเลียนฝีมือย่อยอื่นๆของฮ่วนเอ๋อได้เลย ไม่ว่าจะเป็นทักษะจากสายเลือดเผ่าจิ้งจอกมายา หรือกระทั่งทักษะจากสายเลือดจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายา…
‘ดูเหมือนฮ่วนเอ๋อคิดจะอาศัยประสบการณ์ของตัวเองสู้อย่างเดียวก่อน’
ต้วนหลิงเทียนมองไปก็พบว่าฮ่วนเอ๋อไม้ได้ใช้ทักษะใดๆของเผ่าจิ้งจอกมายา หรือทักษะอันน่ากลัวของจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายาเลย แต่เลือกที่จะใช้พลังฝึกปรือกับความเข้าใจในกฏมิติต่อสู้
เมื่อปะทะกันไปนานเข้า ฮ่วนเอ๋อก็เริ่มตกเป็นรอง
‘จิตวิญญาณค่ายกลร้ายกาจจริงๆ’
ฮ่วนเอ๋ออดบ่นในใจไม่ได้ และในขณะที่นางเข้าสู่พื้นที่ฟ้าดินแห่งกฏของกฏมิตินั้น พอคู่ต่อสู้ของนางที่เป็นจิตวิญญาณค่ายกลปรากฏตัวขึ้น ก็มีม่านพลังขุมหนึ่งปกคลุมฟื้นที่ฟ้าดินแห่งกฏส่วนนี้เอาไว้ดั่งจะกั้นเป็นโลกส่วนตัวทันที
เรียกว่าในขณะที่ฮ่วนเอ๋อสู้อยู่กับจิตวิญญาณค่ายกล ฮ่วนเอ๋อก็จะได้รับความคุ้มครองโดยพื้นที่ฟ้าดินแห่งกฏ ไม่มีใครสามารถเข้ามาทำอันตรายนางได้
แน่นอนว่าคนอื่นๆก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน
ไม่ว่าใครก็ตามที่เข้าสู่พื้นที่ฟ้าดินแห่งกฏเพื่อทำการทดสอบ จะถูกม่านพลังจากค่ายกลปกป้อง
ในเวลาเดียวกัน
เหล่าผู้ที่เห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ก็เริ่มบอกเล่าปากต่อปากให้กับสหายฟัง ไม่นานเรื่องที่อวิ๋นเซียวลูกชายคนเดียวของประมุขนิกายปีศาจพันกรถูกฮ่วนเอ๋อฆ่าก็แพร่กระจายออกไป
“อวิ๋นเซียวตายแล้ว…คนที่ฆ่ามันเรียกว่าฮ่วนเอ๋อ เป็นสตรีนางหนึ่ง!”
“ฮ่วนเอ๋อ? อัจฉริยะรากหญ้ารึ ไฉนถึงได้หาญกล้าฆ่าอวิ๋นเซียวได้เล่า หรือนางคิดว่าจะหนีรอดเงื้อมมือนิกายยปีศาจพันกรได้?”
“นั่นสิ เพราะอาศัยพลังที่นางเผยออกก่อนหน้านี้ ยังไม่พอให้ตระกูลไป๋หลี่ เผ่าหงส์ฟ้า หรือแม้แต่นิกายกระบี่หมื่นหายนะออกหน้าปกป้อง”
…
ถึงแม้แดนลับอัจฉริยะจะกว้างใหญ่ไพศาล แต่ข่าวสารเรื่องราวก็แพร่ไปไวไม่ใช่เล่นๆ
เอี้ยอวี่เฉินที่ก่อนหน้าได้เข้าไปทักทายและมอบคำเชิญให้ต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อเข้าร่วมนิกายปีศาจพันกร อดไม่ได้ที่จะยิ้มเฝื่อนๆ เมื่อรับทราบเรื่องที่อวิ๋นเซียวถูกฮ่วนเอ๋อฆ่า “ดูเหมือนฟ้าจักลิขิตไว้แล้วว่านิกายปีศาจพันกรเราไร้วาสนากับทั้งคู่…”
เอี้ยอวี่เฉินเสียดายไม่น้อยที่ไม่มีทางได้ตัวอัจฉริยะสองคนมาเข้าร่วมนิกาย สำหรับการตายของอวิ๋นเซียวนั้น มันไม่ได้แยแสอะไรเลย
เห็นได้ชัดว่ามันกับเอี้ยอวี่เฉินไม่ได้สนิทสนมกันสักเท่าไหร่ แม้อีกฝ่ายจะเป็นลูกชายคนเดียวของอาจารย์มันก็ตามที…
“อวิ๋นเซียวตายแล้วรึ?”
ขณะเดียวกันเหล่าอัจฉริยะจากขุมกำลังระดับ 1 ทั้งหลาย ก็ได้รับทราบเรื่องการการตายของอวิ๋นเซียวเช่นกัน “แล้วอัจฉริยะรากหญ้านั่นเป็นนผู้ใดกันแน่ ไฉนนางถึงกล้าฆ่าอวิ๋นเซียวได้ นางไม่กลัวถูกตามฆ่าล้างแค้นรึ?”
“อวิ๋นเซียวแม้จะไม่ได้ร้ายกาจอะไรมากมาย แต่อย่างน้อยๆมันก็เป็นนายน้อยนิกายปีศาจพันกร…กระทั่งพวกเรายังไม่อยากจะมีปัญหากับมัน ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายมันจะตายเพราะอัจฉริยะรากหญ้าคนหนึ่ง”
“เห็นว่าเจ้าอวิ๋นเซียวนั่นเข้าไปหาเรื่องผู้อื่นเขาก่อนด้วย…แต่สุดท้ายมันเตะโดนตอเหล็กไม่ว่า ยังถูกฆ่าตายไปอีก…”
…
หลังจากนั้นสักพักคนส่วนใหญ่ในแดนลับอัจฉริยะก็เริ่มพูดถึงการตายของอวิ๋นเซียว
ขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันเรื่องความตายของอวิ๋นเซียวอย่างสนุกสนาน ด้านฮ่วนเอ๋อที่ประมือกับจิตวิญญาณค่ายกลในที่สุดก็กำลังจะพ่ายแพ้แล้ว
“ข้าหลงคิดว่านางจะเอาชนะจิตวิญญาณค่ายกลได้เสียอีก…แต่ตอนนี้ดูเหมือนข้าจะคิดมากไปเอง”
“หากกระทั่งจิตวิญญาณค่ายกลยังเอาชนะไม่ได้ เช่นนั้นนางจะทำให้เผาหงส์ฟ้าโบราณ ตระกูลไป๋หลี่และนิกายกระบี่หมื่นหายนะคิดออกหน้าเพื่อนางได้อย่างไร…”
“อีกไม่เกิน 30 ลมหายใจนางต้องแพ้แน่”
…
หลายคนเฝ้าจับตาดูการปะทะระหว่างฮ่วนเอ๋อกับจิตวิญญาณค่ายกลไม่วางตา และทั้งหมดก็เป็นคนที่เห็นฮ่วนเอ๋อฆ่าอวิ๋นเซียวก่อนหน้า
มาตอนนี้เมื่อเห็นว่าฮ่วนเอ๋อกำลังจะพลาดท่าเสียทีให้กับจิตวิญญาณค่ายกล หลายคนก็อดส่ายหน้าออกมาไม่ได้
อย่างไรก็ตามในขณะที่ทุกๆคนกำลังคิดว่าฮ่วนเอ๋อต้องพ้ายแพ้แน่นอนแล้วนั้นเอง พลังวิญญาณขุมหนึ่งของฮ่วนเอ๋อก็กำจายออกมาฉับไว และมันเป็นพลังที่ต่างจากพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดและพลังแห่งกฏชัดเจน!
ชั่วพริบตาที่ถูกพลังวิญญาณของฮ่วนเอ๋อปกคลุม จิตวิญญาณค่ายกลก็ชะงักค้าง จากนั้นฮ่วนเอ๋อก็ระเบิดพลังจู่โจม ทำลายจิตวิญญาณค่ายกลทิ้งในกระบวนเดียว!
ก่อนหน้านี้จิตวิญญาณค่ายกลกำลังจะเอาชนะฮ่วนเอ๋อได้อยู่แล้ว…
แต่พริบตาต่อมากลับถูกฮ่วนเอ๋อทำลายทิ้งหน้าตาเฉย!
“เฮ่ย…!”
“นาง….เอาชนะจิตวิญญาณค่ายกลได้?!”
“ให้ตายเถอะ! ผู้ใดบอกข้าได้บ้างว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!? ไฉนนางที่กำลังจะแพ้ดันพลิกกลับมาเอาชนะได้ในพริบตาเล่า?!”
…
หลายคนที่ชมดูอยู่อดตะลึงไม่ได้
แน่นอนว่ามีบางคนที่สายตาแหลมคม หยีตามองฮ่วนเอ๋อด้วยความประหลาดใจ “ที่แท้นางมีวิชาลับด้วย…คิดไม่ถึงเลยจริงๆ”
“ดูเหมือนทั้งหมดที่ผ่านมา นางแค่ขัดเกลาประสบการณ์ต่อสู้ขอตัวเองเท่านั้น หลังอาศัยด่านพลังฝึกปรือกับความเข้าใจในกฏสู้ไม่ได้ นางจึงใช้วิชาก้นหีบจัดการในคราเดียว?”
“ข้ารู้สึกว่าฉากเมื่อครู่มันเหมือนๆตอนนางฆ่าอวิ๋นเซียนอย่างไรก็ไม่รู้”
…
มีหลายคนที่ประหลาดใจกับผลลัพธ์ดังกล่าว
และทันใดนั้นเอง สุรเสียงอันน่าเกรงขามหนึ่งก็ดังกึกก้องไปทั่วแดนลับทันที “ขอแสดงความยินดีกับ ฮ่วนเอ๋อ ในบททดสอบฟ้าดินแห่งกฏ สามารถเอาชนะจิตวิญญาณค่ายกลของกฏมิติได้สำเร็จ”
การเอาชนะจิตวิญญาณค่ายกลในบททดสอบฟ้าดินแห่งกฏนั้น จะมีประกาศไปทั่วแดนลับอัจฉริยะ
และบัดนี้ ในแดนลับอัจฉริยะก็ไม่มีใครที่ไม่เคยได้ยินชื่อฮ่วนเอ๋อ
หลายคนเพียงรับทราบชื่อฮ่วนเอ๋อจากสหายกับอันดับในยอดเขาแรงโน้มถ่วงเท่านั้น จึงไม่รู้ว่านางร้ายกาจอย่างไร บัดนี้จึงรับทราบพลังฝีมือของนางมากขึ้น
คนที่ไม่รู้จักฮ่วนเอ๋อมาก่อน มาตอนนี้ก็ถามไถ่กันจนทราบว่า นางคืออัจฉริยะรากหญ้าที่พึ่งปรากฏตัวสู่สาธารณะชนครั้งแรกในแดนลับอัจฉริยะ
“ขอแสดงความยินดีกับ ต้วนหลิงเทียน ในบททดสอบฟ้าดินแห่งกฏ สามารถเอาชนะจิตวิญญาณค่ายกลของกฏมิติได้สำเร็จ”
เสียงประกาศความสำเร็จของฮ่วนเอ๋อดังก้องไปทั่วแดนลับอัจฉริยะได้ไม่ทันไร อยู่ๆก็มีเสียงประกาศอีกเสียงดังขึ้นไปทั่วแดนลับอัจฉริยะทำนองเดียวกัน!
“ต้วนหลิงเทียน!?”
ในพื้นที่ทดสอบฟ้าดินแห่งกฏ ทุกคนที่เคยให้ความสนใจฮ่วนเอ๋อก่อนหน้า เห็นชัดว่ากำลังมองชมต้วนหลิงเทียนด้วยความตกตะลึง
เพราะพวกมันพึ่งเห็นฉากต้วนหลิงเทียนเอาชนะจิตวิญญาณค่ายกลมาได้ง่ายๆ!
ถึงแม้จิตวิญญาณค่ายกลจะสามารถลอกด่านพลังฝึกปรือและความเข้าใจในกฏ แต่ไม่อาจลอกเลียนพลังของทองเทพสุดลี้ลั้บ เพลิงเทพโกลาหล และปฐฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินได้
พอลองใช้พลังที่ได้จากเทพเบญจธาตุดู ต้วนหลิงเทียนจึงเอาชนะจิตวิญญาณค่ายกลได้อย่างง่ายดาย
เป็นธรรมดาว่าในพื้นที่ฟ้าดินแห่งกฏนั้น ไม่อาจใช้พลังภายนอกใดๆได้เลย เรียกว่าเป็นกฏเกณฑ์และข้อจำกัดเดียวกันกับแดนสวรรค์ใต้โบราณที่เขาเคยเข้าไปในใอดีต
วู้ม! วู้ม!
และเมื่อฮ่วนเอ๋อกับต้วนหลิงเทียนเอาชนะจิตวิญญาณค่ายกลของฟ้าดินแห่งกฏได้แล้ว หลังเสียงประกาศดังจบคำไปสักพัก ก็อุบัติสิ่งของ 2 อย่างปรากฏขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่าเองหน้าทั้งคู่ตามลำดับ
ช่างน่าประหลาดใจนัก เป็นผลไม้อมตะผลหนึ่ง กับอุปกรณ์อมตะ
อุปกรณ์อมตะที่ต้วนหลิงเทียนได้เป็นแค่ชุดเกราะอมตะระดับจอมราชัน ซึ่งไม่ได้ทำให้ต้วนหลิงเทียนสนใจมันเลย
กลับกัน ผลไม้อมตะนั่น กลับเป็นผลไม้อมตะที่ตัวตนขอบเขตจอมราชันอมตะสามารถใช้ได้ และยังเพิ่มพูนพลังฝึกปรือให้สูงขึ้นไม่น้อย นับว่าเป็นกำไรที่ฮ่วนเอ๋อได้มาอย่างไม่คาดฝัน
“ฮ่วนเอ๋อ ต้วนหลิงเทียน…อัจฉริยะรากหญ้า 2 คนนั่น ถึงกับสามารถเอาชนะจิตวิตญญาณของบททดสอบฟ้าดินแห่งกฏได้จริงๆ!?”
เหล่าอัจฉริยะรากหญ้าที่อยู่กระจัดกระจายไปทั่วแดนลับอัจฉริยะ อดไม่ได้ที่จะอึ้งกับความสำเร็จขอต้วนหลิงเทียนฮ่วนเอ๋อ
“จนถึงบัดนี้ มีแค่อัจฉริยะรากหญ้า 2 คนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะจิตวิญญาณค่ายกลได้ แต่กลับไม่มีอัจฉริยะจากขุมกำลังระดับ 1 คนใดสามารถเอาชนะจิตวิญญาณค่ายกลได้เลย!”
อย่างไรก็ตามในขณะที่เหล่าอัจฉริยะรากหญ้าทั่วแดนลับอัจฉริยะกำลังกล่าวอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องด้วยความฮึกเหิม ด้วยวาจาทำนองดังกล่าว รอยยิ้มย่ามใจของพวกมันก็มีอันต้องค้างเติ่ง
“ขอแสดงความยินดีกับ อวี่เทียนสิง ในบททดสอบฟ้าดินแห่งกฏ สามารถเอาชนะจิตวิญญาณค่ายกลของกฏมิติได้สำเร็จ”
อวี่เทียนสิง!
หนึ่งในอัจฉริยะที่ร้ายกาจที่สุดในบรรดาอัจฉริยะรุ่นเยาว์อายุไม่ถึงพันปีของนิกายกระบี่หมื่นหายนะ และยังเป็นหลานชายของ อวี่เจี้ยนเฉิน ประมุขนิกายกระบี่หมื่นหายนะคนปัจจุบัน!
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ชีวิตนี้อวี่เจี้ยนเฉินเอาแต่ฝึกฝนบ่มเพาะพลัง และมุ่งมั่นในมรรคากระบี่มันจึงไม่ได้แต่งงานมีลูกอะไร ด้วยเหตุนี้มันก็เลยดีกับหลานชายคนนี้ไม่ต่างอะไรกับลูกแท้ๆ
“นั่นไง! อวี่เทียนสิงลงมือแล้ว! ในที่สุดก็มีอัจฉริยะของขุมกำลังระดับ 1 อย่างพวกเรา สามารถเอาชนะจิตวิญญาณค่ายกลของพื้นที่ฟ้าดินแห่งกฏได้สำเร็จ!”
“ให้มันได้ยังงี้สิ! พี่อวี่ยังยอดเยี่ยมเช่นเคย!!”
…
หลังอวี่เทียนสิงเอาชนะจิตวิญญาณค่ายกลได้สำเร็จ เสมือนจุดชนวนอะไรบางอย่าง ต่อมาก็ปรากฏเสียงประกาศรายชื่ออัจฉริยะจากขุมกำลังระดับ 1 ที่เอาชนะจิตวิญญาณค่ายกลของพื้นที่ฟ้าดินแห่งกฏได้ ก็ดังขึ้นเรื่อยๆ
เรียกว่าในเวลาไม่ถึงวันก็มีผู้ที่สามารถเอาชนะจิตวิญญาณค่ายกลของบททดสอบฟ้าดินแห่งกฏได้หลายสิบคน
อย่างไรก็ตาม ในบรรดาอัจฉริยะที่ถูกประกาศชื่อ อัจฉริยะรากหญ้าก็ยังมีแค่ต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อเท่านั้น
“หากเป็นเมื่อก่อน ลองต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อทำผลงานได้แบบนี้…ถึงแม้นิกายกระบี่หมื่นหายนะอาจจะยังนิ่งอยู่ แต่ด้านคนของเผ่าหงส์ฟ้าโบราณกับตระกูลไป๋หลี่ ป่านนี้ไม่พ้นพวกมันต้องพยายามเข้าหาทั้งคู่ เพื่อกล่าวชวนให้เข้าร่วมขุมกำลังแล้วแน่นอน…ทว่าพวกมันดันฆ่าอวิ๋นเซียนลูกชายของประมุขนิกายปีศาจพันกรไป หากผลงานยังมีเพียงแค่นี้ ตระกูลไป๋หลี่กับเผ่าหงส์ฟ้าโบราณเองก็คงไม่คิดออกหน้าให้…”
“มิผิด เพราะการออกหน้าตอนนี้ ก็หมายความว่าเลือกที่จะต่อต้านการลงมือเข่นฆ่าล้างแค้นของนิกายปีศาจพันกร…ถึงแม้เผ่าหงส์ฟ้าโบราณกับตระกูลไป๋หลี่ จะไม่ได้กลัวนิกายปีศาจพันกร แต่สุดท้ายก็ล้วนเป็นขุมกำลังระดับ 1 เหมือนกัน ไม่ว่าจะอย่างไรพวกมันก็ต้องไว้หน้านิกายปีศาจพันกรอยู่บ้าง…”
“จริง เว้นเสียแต่ทั้งคู่จักสร้างผลงานอันใดเผยให้เห็นคุณค่าอีก…หาไม่แล้วคงยากที่จะหาร่มโพธิ์ร่มไทรพักพิง”
…
ในขณะที่เหล่าอัจฉริยะทั้งหลายในแนดลับัจฉริยะกำลังคิดไปในทำนองดังกล่าว ต้วนหลิงเทียนก็ชวนฮ่วนเอ๋อไปหาสถานที่ปิดด่านบ่มเพาะพลัง
กล่าวให้ชัดคือเขาคิดใช้ผลึกสำนึกเทวะผู้แข็งแกร่งที่สุดเพื่อเข้าใจกฏมิติ!
สำหรับฮ่วนเอ๋อนั้น นางก็ดูดซับผลไม้อมตะที่นางได้รับเป็นของรางวัลก่อนหน้า เพื่อเพิ่มพูนพลังฝึกปรือ
หลังจากค้นพบสถานที่เหมาะๆแล้ว ก่อนจะเข้านอน ต้วนหลิงเทียนก็เหลือบมองฮ่วนเอ๋อที่พึ่งกินผลไม้อมตะและกำลังนั่งหลับตาดูดซับมันพลางกล่าวในใจ ‘ด้วยระดับพลังของฮ่วนเอ๋อตอนนี้ หลังดูดซับพลังของผไม้อมตะลูกนั้นได้หมด ด่านพลังของนางสมควรทะลวงถึงจอมราชันอมตะ 4 รูปได้ในเวลาอันสั้น’