War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 3253
WSSTH ตอนที่ 3,253 : จูเก่อฟงลงมือ!
หยวนหมิงซุน ผู้นำตระกูลหยวนแห่งงเผ่าจิ้งจอกมายานั้น พอเห็นเงาร่างจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายาด้านหลังฮ่วนเอ๋อ สองตาของมันก็ฉายให้เห็นเจตนาฆ่าฟันชัดเจน!
กระทั่งพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดยังพุ่งพล่านจนลุกโชนขึ้นมาทั่วร่างอย่างอดไม่ไหว!
“จิ้งจอกน้ำแข็งพันมายา!!”
หากจะกล่าวถามหยวนหมิงซุนว่า ชั่วชีวิตนี้มันอยากเข่นฆ่าผู้ใดที่ไร้ซึ่งความเกลียดชังกันมาก่อนมากที่สุด ก็คงไม่พ้นจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายาแน่แท้!
เพราะจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายารุ่นนี้กลับมาปรากฏตัวในตระกูลตู้ และตระกูลหยวนของมันก็ช่วงชิงอำนาจกับตระกูลตู้มานานแล้ว หากตระกูลตู้ได้รับพลังอำนาจมาล่ะก็ เกรงว่าตระกูลหยวนของมันคงไม่ได้ตายดี!
มันจึงไม่คิดปล่อยให้จิ้งจอกน้ำแข็งพันมายาปรากฏตัวขึ้น และทำลายสมดุลดังกล่าว!
“อะไร? คิดฆ่าฮ่วนเอ๋อรึ?!”
ต้วนหลิงเทียนมองจ้องหยวนหมิงซุนตาขวาง น้ำเสียงยังเยียบเย็นนัก เพราะคนที่คิดฆ่าฮ่วนเอ๋อก็คือศัตรูของเขา!
“หยวนหมิงซุน อย่าได้ลืมจักรพรรดิอมตะทั้งสองนั่น!”
จางฮั่นเทียน ผู้นำตระกูลจางเร่งส่งเสียงผ่านพลังไปกล่าวเตือนหยวนหมิงซุนทันที เมื่อสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าฟันของอีกฝ่ายที่มีต่อฮ่วนเอ๋อ “หากนางไม่มีที่พึ่ง เจ้าคิดว่านางจะสำแดงเงาร่างจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายาต่อหน้าต่อตาพวกเราหรือ?”
บัดนี้หยวนหมิงซุนได้ถูกตัวตนที่แท้จริงของฮ่วนเอ๋อครอบงำจิตใจโดยสมบูรณ์ ทำให้มันลืมตัวและคิดจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายถ่ายเดียว
จนได้จางฮั่นเทียนกล่าวเตือน มันจึงรู้สึกประหนึ่งมีน้ำเย็นราดรดลงหัว ฟื้นสติสัมปชัญญะกลับมาโดยสมบูรณ์
“หืม? นี่เจ้าคิดฆ่าฮ่วนเอ๋องั้นรึ?!”
จูเก่ออวิ๋นก้าวออกมาอีกก้าว สองตานางฉายแววเยียบเย็นนัก และเมื่อนางมองจ้องไปยังหยวนหมิงซุนด้วยสายตาดังกล่าว ก็สร้างแรงกดดันให้มันใหญ่หลวง
บัดนี้หยวนหมิงซุนพึ่งจะตระหนักได้ ว่าสตรีเบื้องหน้าที่แท้ร้ายกาจปานใด!
มันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสตรีเบื้องหน้าเลย
“ใต้เท้าท่านนี้ มิทราบท่านเป็นผู้ใดกันแน่”
หยวนหมิงซุนมองจ้องไปยังสตรีเบื้องหน้าอย่างหวั่นใจ เอ่ยถามออกไปเสียงเครียด
“นิกายกระบี่หมื่นหายนะ สายม่อเหยีย จูเก่ออวิ๋น”
จูเก่ออวิ๋นกล่าวบอกตัวตนออกไปเสียงเฉย
อย่างไรก็ตามทันทีที่เสียงพูดของจูเก่ออวิ๋นดังจบคำ ไม่ว่าจะเป็นจางฮั่นเทียนก็ดี หยวนหมิงซุนก็ดี สีหน้าท่าทีของพวกมันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง!
ถึงแม้ว่านิกายกระบี่หมื่นหายนะจะเป็นขุมกำลังที่อยู่ในอวี้หวงเทียน แต่สำหรับพวกมันแล้ว ช่างโด่งดังปานฟ้าร้องในหู!
นิกายกระบี่หมื่นหายนะ…กาลครั้งหนึ่งเคยเป็นถึงขุมกำลังระดับสวรรค์!
และถึงแม้ในปัจจุบัน นิกายกระบี่หมื่นหายนะจะถดถอยลงมาจนกลายเป็นขุมกำลังระดับ 1 ในอวี้หวงเทียนแล้ว แต่ความแข็งแกร่งก็ยังน่ากลัวอย่างมาก ห่างไกลเกินกว่าที่ขุมกำลังอย่างเผ่าจิ้งจอกมายาจะต่อกรด้วยได้!
ลือกันว่าในนิกายกระบี่หมื่นหายนะ มีตัวตนที่ไม่ด้อยไปกว่าจักรพรรดิอมตะสมญานามดำรงอยู่มากมาย
และมียอดฝีมือ 2 คนที่ยามร่วมมือกัน ก็ร้ายกาจถึงขั้นเข่นฆ่าจักรพรรดิอมตะสมญานามได้อย่างง่ายดาย
ทำให้สำหรับนิกายกระบี่หมื่นหายนะแล้ว แม้พวกมันจะไม่รู้จักคนอื่น แต่กับยอดฝีมือ 2 คนที่ว่าพวกมันไม่อาจไม่รู้จัก! นามของอีกฝ่ายยังสนั่นในหูด้วยซ้ำ!!
จูเก่อฟง แห่งสายก้านเจี้ยง
จูเก่ออวิ๋น แห่งสายม่อเหยีย
ทั้ง 2 คนนี้ ยามลงมือเพียงลำพัง อย่างดีพลังฝีมือก็ทัดเทียมกับจักรพรรดิอมตะสมญานาม แต่หากผนึกกำลังร่วมมือกันแล้วล่ะก็ สามารถเข่นฆ่าจักรพรรดิอมตะสมญานามได้ง่ายๆ!
“ท่าน…ท่านคือใต้เท้าจูเก่ออวิ๋นงั้นหรือ!?”
จางฮั่นเทียนมองไปยังจูเก่ออวิ๋นด้วยสายตาตื่นตกใจ หลังจากนั้น ก็หันไปมองร่างชายหนุ่มท่าทางจริงจังที่อยู่ด้านหลัง “เช่นนั้นใต้เท้าท่านนี้…หรือท่านก็คือใต้เท้าจูเก่อฟง?!”
“แล้วเจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า?”
จูเก่ออวิ๋นเอ่ยถามออกไปเสียงเรียบ
“จางฮั่นเทียนผู้นำตระกูลจางแห่งเผ่าจิ้งจอกมายา ขอคารวะใต้เท้าทั้ง 2…เพราะข้าไม่รู้ว่าใต้เท้าทั้ง 2 จักมาเยือนจึงมิได้เตรียมการต้อนรับใต้เท้าให้ดี ขอใต้เท้าทั้ง 2 โปรดอภัยให้ด้วย”
จางฮั่นเทียนเรียกว่าแทบจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ! มองกล่าวกับจูเก่ออวิ๋และจูเก่อฟงอีกครั้ง สีหน้าท่าทีกลับกลายเป็นนอบน้อมแลดูเชื่อฟังเป็นที่สุด
ตอนนี้มันหวาดกลัวจนแผ่นหลังง่ามก้นชุ่มแฉะไปด้วยเหงื่อเย็นแล้ว…
มันไม่คิดไม่ฝันจริงๆว่าผู้มาเยือนจะเป็นตัวตนเยี่ยงทั้ง 2! หากรู้แต่แรกมันคงจัดขบวนต้อนรับอย่างดี!!
“หึ!”
ทันใดนั้นเอง หยวนหมิงซุนที่คิดทำความเคารพตามจางฮั่นเทียน ทว่าด้านจูเก่ออวิ๋นพลันพ่นลมเสียงเย็นออกมาเสียก่อน!
พริบตาต่อมา จูเก่ออวิ๋นก็ยกมือขั้นสะบัด จากนั้นกระบี่เล่มหนึ่งก็พุ่งทะยานออกไปเป็นลำแสงเข่นฆ่าไปทางหยวนหมิงซุน!
กระบี่ที่พุ่งไปดั่งลำแสงเล่มนี้ ก็คือ 1 ใน 10 ยอดกระบี่แห่งนิกายกระบี่หมื่นหายนะ กระบี่อมตะม่อเหยีย อาวุธคู่กายของจูเก่ออวิ๋น!
แน่นอนว่ากระบี่ม่อเหยียเล่มนี้ ไม่ใช่กระบี่ม่อเหยียที่อยู่บนดาวเหยียนหวงในระนาบเหยียนหวง แต่เป็นกระบี่อมตะระดับจักรพรรดิที่ได้สืบทอดต่อๆกันมาจากบรรพชนผู้ก่อตั้งนิกายกระบี่หมื่นหายนะ
แรกเริ่มนั้น บรรพชนของนิกายกระบี่หมื่นหายนะ ได้ร้องขอให้ปรมาจารย์หลอมอุปกรณ์อมตะมือดีแห่งยุค ให้ช่วยหลอมสุดยอดกระบี่ทั้ง 10 เล่มขึ้นมา จากนั้นมันก็ตระเวนไปทั่วระนาบโลกียะทั้งมวลเพื่อเก็บรวบรวมวัตถุดิบฟ้าดินชั้นเลิศมาหลอมสร้างกระบี่
ด้วยเหตุนี้พลังอานุภาพของกระบี่อมตะทั้ง 10 เล่ม จึงเหนือกว่าอุปกรณ์อมตะระดับจักรพรรดิทั่วไปมาก พลังอานุภาพมันไล่ๆกับอุปกรณ์เทพไปแล้วด้วยซ้ำ
กระทั่งอุปกรณ์เทพขั้นต่ำที่ไร้จิตวิญญาณ ก็ยังด้อยกว่ามันในแง่พลังอานุภาพ
ฟั่ฟฟ!!
กระบี่อมตะม่อเหยีย ตัวกระบี่เป็นสีแดงฉาน มองไปคล้ายมีโลหิตไหลเวียน แลดูแปลกตานัก
เมื่อรู้ว่าจักรพรรดิอมตะทั้ง 2 ก็คือจูเก่ออวิ๋นและจูเก่อฟง หยวนหมิงซุนก็เร่งเร้าพลังเตรียมพร้อมเอาไว้แต่แรก เพราะมันรู้ดีว่ามันทำให้อีกฝ่ายมีโทสะไปแล้ว
เช่นนั้นพอจูเก่ออวิ๋นลงมือ พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดที่หยวนหมิงซุนโคจรเตรียมพร้อมไว้แต่แรก ก็ระเบิดปะทุออกมาทันที
“ใต้เท้าจูเก่ออวิ๋น ข้ามีคำคิดกล่าว!!”
เมื่อจูเก่ออวิ๋นลงมือ หยวนหมิงซุนย่อมไม่กล้าออมรั้งยั้งมือใดๆ และพยายามลงมือต้านรับกระบี่อมตะม่อเหยียของจูเก่ออวิ๋นด้วยพลังทั้งหมด ขณะเดียวกันก็เร่งกล่าวกับจูเก่ออวิ๋นด้วยสีหน้าแตกตื่นหมายให้อีกฝ่ายหยุดมือ!
ปงงง!!
เปรี๊ยงงงง!!
…
เมื่อกระบี่อมตะม่อเหยียของจูเก่ออวิ๋นปะทะเข้ากับการลงมือต้านทานสุดกำลังขอหยวนหมิงซุน เสียงสนั่นปานฟ้าถล่มพลันระเบิดดังไปทั่วเผ่าจิ้งจอกมายา
ความว่างเปล่า ณ จุดปะทะยังสะเทือนจนแทบปริแตก บรรยากาศท่วมท้นไปด้วยคลื่นพลังสะท้อน ฟ้าสะเทือนปฐพีเลือนลั่น!
และผลของการปะทะ ก็เป็นกระบี่ม่อเหยียที่ทำลายกระบวนท่าต้านรับเต็มกำลังของหยวนหมิงซุนได้สำเร็จ และสภาววะกระบี่ยังไม่สิ้นสูญ พุ่งทะยานเข่นฆ่าสังหารจี้เข้าใส่หยวนหมิงซุนสืบต่อ!
เห็นฉากดังกล่าวสองตาของหยวนหมิงซุนที่แดงฉานไปด้วยเส้นเลือดก็หดเล็กลง มันรีบรีดเค้นพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดอีกห้วง จากนั้นเร่งสะบัดมือบดขยี้ยันต์อมตะชิ้นหนึ่งทันที
วู้มมม!!
ทันใดนั้นเองเบื้องหน้าหยวนหมิงซุน พลันบังเกิดกำแพงมหึมาปานจะกั้นฟ้าดินขึ้น และกำแพงมหึมาดังกล่าว แทบทุกตารานิ้วยังเต็มไปด้วยลวดลายอักขระอันซับซ้อน
กำแพงดังกล่าวพอปรากฏขึ้น มิคาดมันสามารถปิดกั้นกระบี่อมตะม่อเหยียไม่ให้รุกคืบสืบต่อ! และถึงจะหยุดกระบี่อมตะม่อเหยียได้แล้ว แต่ตัวกำแพงยังส่องแสงสว่างไม่เบา บอกให้รู้ว่ายังใช้พลังไปไม่หมด!
“สมแล้วที่เป็นผู้นำตระกูลหยวนแห่งเผ่าจิ้งจอกมายา…ไม่คิดเลยว่าจะมียันต์อมตะป้องกันทรงอานุภาพขนาดนี้…”
จูเก่ออวิ๋นโบกมือเบาๆ กระบี่อมตะม่อเหยียก็พุ่งเป็นลำแสงวกกลับมาอยู่ในมือทันที จากนั้นก็มองไปยังหยวนหมิงซุนพลางยิ้มกล่าวออกไป น้ำเสียงฟังคล้ายหยอกล้ออยู่บ้าง
“ใต้เท้าจูเก่ออวิ๋นข้า…ดูเหมือนจักมิได้ไปล่วงเกินท่านตรงที่ใด ไฉนท่านต้องคิดฆ่าข้าด้วย?”
เมื่อเห็นว่าเจตนาฆ่าฟันในแววตาจูเก่ออวิ๋นไม่ได้ลดลงเลย แม้เบื้องหน้ามันจะมีปราการป้องกันสุดแกร่ง แต่หยวนหมิงซุนก็ไม่รู้สึกถึงความปลอดภัยแม้แต่นิดเดียว…
ต้องทราบด้วยว่า ข้างกายจูเก่ออวิ๋นยังมีจูเก่อฟงอยู่อีก!
หากทั้งคู่ร่วมมือกัน ไม่ว่ามันจะมียันต์อมตะป้องกันแบบนี้อีกกี่ชิ้น ก็ไม่อาจช่วยให้มันรอดพ้นความตายไปได้
ยันต์อมตะป้องกันของมันอย่างดีก็ป้องกันการโจมตีของจักรพรรดิอมตะสมญานามทั่วๆไปได้เท่านั้น และจำนวนครั้งที่ป้องกันได้ยังมีจำกัด
“เจ้าคิดฆ่าศิษย์ของสายม่อเหยียข้า เช่นนั้นข้าจะเก็บเจ้าไว้ทำอะไร?”
จูเก่ออวิ๋นกล่าวเย้ย
และวาจานี้ของจูเก่ออวิ๋นก็ทำให้หยวนหมิงซุนอึ้งไปทันที จากนั้นพอได้สติกลับมาสีหน้ามันก็เปลี่ยนไปใหญ่หลวง
มันแทบรอฆ่าจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายาไม่ไหวแล้ว แต่ไฉนอยู่ๆอีกฝ่ายกลับกลายเป็นศิษย์สายม่อเหยียของนิกายกระบี่หมื่นหายนะไปได้?
เนื่องจากจูเก่อฟงกับจูเก่ออวิ๋นนั้นมีชื่อเสียงเลื่องลือ ทำให้สายของทั้งคู่ในนิกายากระบี่หมื่นหายนะก็โด่งดังตามไปด้วย
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะสายของจูเก่อฟงก็ดี จูเก่ออวิ๋นก็ดี ล้วนมีเจ้าตัวดำรงอยู่แค่คนเดียวเท่านั้น…
ทั้งสายมีตัวเองเพียงคนเดียว ดั่งแม่ทัพไร้ไพร่พล!
ทว่าตอนนี้มันกลับได้ยินจูเก่ออวิ๋นพูดว่า จิ้งจอกน้ำแข็งพันมายาที่มันอยากฆ่าให้ตายนักหนา ไม่เพียงแต่จะเข้าร่วมนิกายกระบี่หมื่นหายนะไปแล้ว แต่ยังเข้าสู่สายม่อเหยียอีกด้วย?!
มันจึงตระหนักได้ทันที ว่าวันนี้มันไม่อาจฆ่าจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายาได้แน่นอน…
กระทั่งวันหน้าหากมันคิดจะฆ่าอีกฝ่าย ก็ทำได้แค่ลอบสังหารเท่านั้น กระทั่งยามลงมือต้องมือสะอาด ไม่สามารถทิ้งร่องรอยใดๆให้อีกฝ่ายสืบสาวมาถึงตัวได้เด็ดขาด หาไม่แล้วจูเก่ออวิ๋นผู้นำสายม่อเหยียแห่งนิกายกระบี่หมื่นหายนะนางนี้ ต้องบุกมาฆ่าล้างเพื่อชำระแค้นแน่!
จริงอยู่ที่อาศัยจูเก่ออวิ๋นคนเดียวอาจจะไม่มีพลังมากพอจะกวาดล้างตระกูลของมัน
อย่างไรก็ตาม หากจูเก่อฟงลงมือด้วย ตระกูลของมันก็ไม่อาจต้านทานได้แน่นอน!
และเท่าที่มันรู้จูเก่อฟงก็เป็นพี่ชายฝาแฝดของจูเก่ออวิ๋น ความสัมพันธ์เช่นนี้ หากอีกฝ่ายเกิดเรื่องไหนเลยจะนิ่งดูดายอยู่ได้?
ฟุ่บ!!
ในขณะที่สีหน้าหวนหมิงซุนเปลี่ยนไป อยู่ๆจูเก่อฟงก็คล้ายอันตรธานสาบสูญไปในความว่างเปล่า ปรากฏตัวอีกครั้งก็ไปผุดโผล่ด้านหลังหยวนหมิงซุนแล้ว!
ฟั่ฟฟฟ!!
เสียงกระบี่แหวกฟ้าดังขึ้นฉับไว เป็นจูเก่อฟงงที่ไม่ทราบชักกระบี่ออกมาเมื่อไหร่ ได้ตวัดฟันออกไปยังลำคอหยวนหมิงซุนด้วยความเร็วสูงจนคล้ายทั้งมือและกระบี่กลายเป็นประกายแสงวาบหนึ่ง!
หยวนหมิงซุนที่กำลังเคร่งเครียดไม่ได้รู้ตัวด้วยซ้ำว่าจูเก่อฟงวูบร่างมาผุดโผล่ด้านหลังมัน ทั้งตวัดกระบี่ฟันออกมาแล้ว…
ผลลัพธ์เป็นเช่นไร ย่อมจินตนนาการได้ออก…
หนึ่งกระบี่ที่ตวัดฟันออกไป ก็จบชีวิตหยวนหมิงซุนลงได้อย่างง่ายดาย จวบจนศีษะร่วงตกพื้นแตกดังโผละ มันสมองลูกตากระจาย มันก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองตายแล้ว…
‘เร็วจริง!’
ในสายตาของต้วนหลิงเทียน การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของจูเก่อฟงไม่ได้ต่างอะไรไปจากเขาใช้ความลึกซึ้งเคลื่อนมิติเลย ไม่อาจแลเห็นร่องรอยความเคลื่อนไหวใดๆของอีกฝ่ายแม้แต่นิดเดียว!
อย่างไรก็ตามเขารู้ดีว่านี่ไม่ใช่เคลื่อนมิติ แต่เป็นการเคลื่อนที่ด้วยความเร็งสูงล้ำของจูเก่อฟงที่อาศัยกฏแห่งลม!
‘จะเร็วเกินไปแล้ว…ด้วยความเร็วระดับนี้ ต่อให้ข้าใช้เคลื่อนมิติหลบหนีเต็มกำลัง ก็ยังไล่ตามข้าทันได้ง่ายๆ…’
ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวในใจ
หยวนหมิงซุน ผู้นำตระกูลหยวนของเผ่าจิ้งจอกมายา ผู้มากล้นไปด้วยอำนาจและความน่าเกรงขามสำหรับคนในเผ่า บัดนี้กลับตกตายลงในชั่วพริบตา ยังตกตายลงต่อหน้าต่อตาอาวุโสตระกูลหยวนทั้ง 4…
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะหยวนเยว่หรืออาวุโสอีก 3 คนของตระกูลหยวน ตอนนี้ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงด้วยซ้ำ ทั้งที่เห็นผู้นำถูกฆ่าลงตรงหน้า
ในเมื่อชายหนุ่มหญิงสาวเบื้องหน้า มีพลังเข่นฆ่าผู้นำของมันได้ เป็นธรรมดาว่าหากคิดจะฆ่าพวกมันก็ลำบากแค่พลิกฝ่ามือ…
เป็นจางฮั่นเทียนที่อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าดังฟืด ด้วยไม่คิดไม่ฝันเลยว่าคู่แข่งที่ลอบแข่งขันชิงอำนาจกับมันมาหลายปีดีดัก สุดท้ายจะมาตกตายต่อหน้าต่อตามัน
มันรู้สึกเสมือนชีวิตมีบางอย่างขาดหายไป กระทั่งแรงจูงใจให้ก้าวหน้าขึ้นยังสลาย ทั่วร่างรู้สึกโหวงเหวงชอบกล
ตอนนี้จางฮั่นเทียนรู้ศึกเศร้าใจแปลกๆ…
“ใต้เท้าทั้ง 2 วันหน้าหากตระกูลจางของเราพบเจอแม่นางฮ่วนเอ๋อ พวกเราจักปฏิบัติต่อนางด้วยวความเคารพ และไม่กล้าไม่จริงใจกับนาง!”
แต่จางฮั่นเทียนก็ระงับอารมณ์ได้ในเวลาอันสั้น มันเร่งหันไปมองกล่าวกับจูเก่อฟงและจูเก่ออวิ๋นเร็วไว ด้วยไม่อยากเจริญรอยตามคู่แข่งชั่วชีวิตไปในลักษณะนี้…
กระทั่งในใจมันยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขอบคุณอยู่บ้าง ที่มันไม่ได้คิดร้ายหรือต้องการจะเข่นฆ่าจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายามากเท่าไหร่ ถึงแม้จิ้งจอกน้ำแข็งพันมายาจะเป็นภัยกับตระกูลหยวนและจางในเรื่องแย่งชิงอำนาจก็ตาม
เพราะกับตระกูลจางของมันแล้ว จิ้งจอกมายาก็ไม่ถือว่ามีความบาดหมางมากมายอะไร เพราะความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลจางกับตระกูลตู้ มันดีกว่าความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลตู้กับตระกูลหยวนมาก
หากมันต้องการฆ่าจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายาจริง เมื่อครู่ตอนที่อีกฝ่ายเผยอัตลักษณ์พลัง จนเห็นเป็นเงาร่างจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายาเก้าหางตัวเขื่องนั่น มันย่อมเผยจิตสังหารออกมาโดยไม่รู้ตัวไปแล้ว
“ใต้เท้าทั้ง 2 ตระกูลหยวนของพวกเราก็ขอสาบานไว้ตรงนี้ว่าจักไม่แตะต้องจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายาอีก”
ตอนนี้เอง หยวนเยว่ในฐานะผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลหยวน ก็เร่งกล่าวคำสาบานออกมากับจูเก่อฟงและจูเก่ออวิ๋น